Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1349 ฆ่าเทพธิดากระต่ายขาว
ฟางหยวนจัดการปัญหาต่างๆ ระหว่างการปิดประตูฝึกตน
“เทพธิดากระต่ายขาวต้องการพบข้าเพื่อสิ่งใด?” ฟางหยวนถามวูอันโดยใช้วิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล
ในไม่ช้าฟางหยวนก็เข้าใจเจตนาของเทพธิดากระต่ายขาว
“ไม่พบ ปล่อยนางไป” ฟางหยวนปฏิเสธอย่างไร้ปรานี
คฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลวูจะมาถึงภายในหนึ่งวัน
ฟางหยวนจะไม่พาเทพธิดากระต่ายขาวไปด้วย เขาต้องวางหมากบางตัวไว้ที่นี่ แม้นางจะไม่ได้อยู่ในค่ายกลวิญญาณ แต่นางก็ยังมีประโยชน์
แน่นอนว่าเรื่องนี้มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเทพธิดากระต่ายขาวกับวูอี้ไห่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี
แต่ตัวหมากจำเป็นต้องแสดงคุณค่าของมัน ฟางหยวนยอมรับเทพธิดากระต่ายขาวไม่ใช่เพราะความงามหรือความรัก เขาเพียงต้องการดึงคุณค่าทั้งหมดของนางออกมาเท่านั้น
“แม้จะเหลือเวลาเพียงหนึ่งวัน ข้าก็จะไม่ทิ้งโอกาสไป ข้าอาจได้รับบางสิ่งจากอาณาจักรแห่งความฝัน”
แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนยังพบกับอาณาจักรแห่งความฝันที่ไร้สาระ
โชคของเขาค่อนข้างแย่ หากมันเป็นอาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดจากประสบการณ์จริง อย่างน้อยเขาก็จะได้รับบางสิ่ง
“ข้าได้ยินว่าตระกูลเฉียวมีอาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดจากประสบการณ์จริงมากมาย น่าเสียดาย…ปีศาจอมตะเหล่านั้นไม่มีวิธีคลี่คลายความฝันแต่พวกเขากลับพบอาณาจักรแห่งความฝันที่ดี”
ฟางหยวนไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ของตระกูลเฉียว หากเขาเปิดเผยวิธีสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน เขาจะพบปัญหาร้ายแรง
พื้นที่ตระกูลเฉียว
“มีเวลาอีกหนึ่งวันก่อนที่เราจะออกเดินทาง ใช้เวลาของท่านให้คุ้มค่า นอกจากนี้ตระกูลเฉียวของเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะซื้อทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝันที่ท่านพบ” เฉียวป๋อมาส่งเทพธิดาเมี่ยวหยินและปีศาจอมตะอีกสองคน
“ไม่จำเป็นต้องสำรวจเพิ่มเติม ข้าจะจบมันในตอนนี้” เทพธิดาเมี่ยวหยินเผยรอยยิ้มให้เฉียวป๋อ
เฉียวป๋องุนงง
เขานำเทพธิดาเมี่ยวหยินมาที่นี่หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเทพธิดาเมี่ยวหยินเผยรอยยิ้มที่มีความหมาย
หัวใจของเขาพองโตขึ้นขณะที่การแสดงออกกลายเป็นมึนงง
ในไม่ช้าร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน
เสียงที่แผ่วเบาดังขึ้น
รูม่านตาของเฉียวป๋อหดเล็กลง เขาก้มหน้ามองที่หน้าอกของตนและพบกรงเล็บอันแหลมคมแทงทะลุหัวใจของเขาโดยตรง
“กล้าดีอย่างไร…” เฉียวป๋อยังกล่าวไม่จบแต่ชีวิตของเขาจบสิ้นไปแล้วพร้อมกับร่างกายที่กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
เฉียวป๋อตาย!
จากด้านหลัง ไป่หนิงปิงดึงมือของนางออกมาอย่างไร้ความรู้สึก
“ได้เวลาแล้ว มาเริ่มกันเถอะ” ผู้อมตะคนที่สามเดินออกมา รูปลักษณ์ของนางเปลี่ยนแปลงไป
ไห่ลั่วหลัน!?
…..
“ท่านวูอี้ไห่ไม่ต้องการพบข้าจริงๆงั้นหรือ?” เทพธิดากระต่ายขาวน้ำตาซึมขณะมองวูอัน
วูอันถอนหายใจและส่ายศีรษะ “ไปเถอะ เจ้ายังมีโอกาสในอนาคต ตราบเท่าที่เจ้าจัดการธุรกิจซื้อขายโอกาสได้ดี บางทีท่านวูอี้ไห่อาจตอบแทนเจ้าในอนาคต”
“จัดการได้ดีงั้นหรือ? ฮ่าฮ่า” ดวงตาของเทพธิดากระต่ายขาวเปลี่ยนเป็นสีดำและส่องประกายเย็นชา
เห็นการเปลี่ยนแปลงดังนั้น วูอันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “เทพธิดากระต่ายขาว เจ้ากำลังทำสิ่งใด? อย่าใช้ความรุนแรง”
เสียงของเทพธิดากระต่ายขาวเปลี่ยนไปเช่นกัน “อย่าพูดถึงกระต่ายขาว! ข้าไม่ใช่หญิงอ่อนแอและโง่เขลาที่หลงรักชายไร้หัวใจผู้นี้ จำไว้ ข้าคือเสือดำ!”
“หือ เสือดำอันใด? ถึงเวลาต้องมอบบทเรียนให้เจ้าบ้างแล้ว แม้ตระกูลวูของข้าจะอยู่ในจุดที่ยากลำบาก แต่ตัวละครเล็กๆเช่นเจ้าก็อย่าลืม…อา…” ก่อนที่วูอันจะกล่าวจบ ใบหน้าของเขาก็แสดงออกด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด
เขาพบว่าตนเองไม่สามารถเคลื่อนไหว ไม่เพียงร่างกายกระทั่งจิตวิญญาณของเขาก็กำลังหลอมละลาย
“นี่…ท่าไม้ตายอมตะ…ข้าถูกโจตีเมื่อใด…”
เสียงอันเย็นเยียบของนางเสือดำดังเข้าหูวูอัน “น่าสนุก เดิมทีมันมีไว้สำหรับวูอี้ไห่ น่าเสียดายที่ข้าไม่พบเขา”
หลังกล่าวจบคำ ร่างของวูอันก็ละลายกลายเป็นแอ่งน้ำสีดำ
วูอันตาย!
…..
“บึม บึม บึม”
ค่ายกลวิญญาณถูกโจมตี
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะตอบสนองทันที
“มีบางคนโจมตีค่ายกลวิญญาณ!” ในไม่ช้าจื้อกุ้ยของตระกูลจื่อก็พบปัญหาและแจ้งกลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะ
หัวใจของกลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะจมดิ่งลง
ค่ายกลวิญญาณนี้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งมาก แต่การถูกโจมตีจากภายในและภายนอกเป็นสองสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการโจมตีจากภายในอันตรายมากกว่า
“ปัญหาอยู่ที่อาณาเขตของตระกูลเฉียว” ผู้อมตะที่อยู่ใกล้กับตระกูลเฉียวกระจายข่าวออกไปอย่างรวดเร็ว
“บัดซบ! ข้าบอกแล้วว่าธุรกิจซื้อขายโอกาสจะสร้างปัญหา ตระกูลเฉียวกำลังเล่นกับไฟ! ดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น!” ปาฉวนฟงตะโกนต่อว่าเพราะตระกูลปาไม่มีส่วนร่วมในธุรกิจนี้
ได้ยินคำกล่าวนี้ ผู้อมตะคนอื่นๆก็เงียบเสียงลง
“อย่ากังวล ผู้อาวุโสตระกูลจื่อของข้าเตรียมพร้อมรับกับสิ่งนี้ไว้แล้ว ค่ายกลวิญญาณนี้มีแนวป้องกันสี่ชั้น ปีศาจอมตะไม่สามารถทำลายแม้แต่ชั้นนอกสุดของเรา” จื่อกุ้ยพยายามยกขวัญกำลังใจและบรรเทาสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเพราะตระกูลจื่อเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งธุรกิจซื้อขายโอกาส
“ถูกต้อง พวกมันเป็นเพียงหนูสกปรกตัวเล็กตัวน้อยเท่านั้น” ผู้อมตะคนอื่นๆสงบจิตใจลง
แต่ในเวลานี้
“บึม บึม บึม!”
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง ค่ายกลวิญญาณเกิดการสั่นสะเทือน วิญญาณจำนวนมากถูกทำลาย
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
จื่อกุ้ยตกใจมาก “พวกเขาพบแกนกลางของค่ายกลวิญญาณงั้นหรือ? โอ้ ไม่ ฝ่ายตรงข้ามเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พวกเขาไม่ได้โจมตีพวกเราอย่างกะทันหัน”
“พวกเขาโจมตีจากทั้งภายในและภายนอก มันกระทั่งรุนแรงกว่าก่อนหน้า”
“หยุดพวกเขา!”
“กระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณเร็วเข้า!”
“ส่งคนไปยังจุดเกิดเหตุและกำจัดปีศาจเหล่านั้น!”
“ผู้อมตะตระกูลวูและตระกูลเฉียวตายไปหมดแล้วงั้นหรือ? ยังมีผู้ใดอยู่ที่นั่นหรือไม่?”
กลุ่มผู้อมตะถ่ายทอดเสียงท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ในห้องโถงของตระกูลวู คิ้วของฟางหยวนขมวดแน่น
เขากำลังฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะขณะที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป เขาไม่มีเวลาเตรียมตัว
ข้อมูลถูกส่งมายังฟางหยวนและทำให้เขาตระหนักว่าเทพธิดากระต่ายขาวสังหารวูอันไปแล้ว
“เทพธิดากระต่ายขาวทรยศ ดูเหมือนนางจะกลายเป็นอีกคน แท้จริงแล้วเป้าหมายของนางคือข้า!” ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก
เขาตัดสินใจฆ่าเทพธิดากระตายขาวเพื่อแก้แค้นให้วูอัน
มันไม่ใช่เพียงเพราะตัวตนของวูอี้ไห่แต่ฟางหยวนจำเป็นต้องรักษาเสถียรภาพของค่ายกลวิญญาณ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องกำจัดเทพธิดากระต่ายขาว
“ผู้ใดจะคิดว่าจะเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่เช่นนี้ อี้ไห่ ค่ายกลวิญญาณส่วนของข้าอยู่นอกเหนือการควบคุมไปแล้ว ช่วยข้าด้วย”
เฉียวซื่อหลิวถ่ายทอดเสียงมาขอความช่วยเหลือจากฟางหยวนและส่งฉากที่ไป่หนิงปิงสังหารเฉียวป๋อมาด้วย
เมื่อได้รับข้อมูลนี้ ความคิดของฟางหยวนกลายเป็นว้าวุ่น
‘ไป่หนิงปิง? ไห่ลั่วหลัน! เหตุใดพวกนางถึงมาที่นี่? โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว นี่คือการกระทำของนิกายเงา!’ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น
เขายืนอยู่ที่เดิมด้วยดวงตาส่องประกาย
เมื่อค้นพบว่าปัญหาเกิดจากนิกายเงา เจตนาสังหารของเขาก็หายไป
มันเป็นเรื่องน่าขัน!
นิกายเงามีผู้อมตะระดับแปด
ฟางหยวนเห็นสิ่งนี้มากับตาของตนเองที่แม่น้ำหวนคืน
ผู้ใดจะรู้ว่าราชันภูเขาม่วงซ่อนตัวอยู่ที่ใด เขาอาจอยู่ใกล้ๆและรอโอกาสโจมตีวูอี้ไห่ทันทีที่ฟางหยวนออกไป
‘แม้ข้าจะมีเกราะหวนคืนที่สามารถป้องกันการโจมตีของผู้อมตะระดับแปด แต่หากข้าใช้มัน ตัวตนของข้าจะถูกเปิดเผย เนื่องจากนิกายเงาส่งเทพธิดากระต่ายขาวมาสังหารข้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขายังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของข้า มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่ส่งเพียงเทพธิดากระต่ายขาวมาที่นี่’
‘ข้าควรทำอย่างไร?’
ฟางหยวนเร่งใช้ความคิด
ความคิดเคลื่อนไหวราวกับพายุอยู่ในจิตใจของเขา
‘เห็นได้ชัดว่าเจตนาของนิกายเงาคือช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ’
‘นิกายเงามีไพ่ตายของพวกเขา ข้าต้องเฝ้าสังเกตอยู่อย่างเงียบๆ ค่ายกลวิญญาณนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มันสามารถป้องกันการโจมตีของผู้อมตะระดับแปด ตอนนี้ข้าไม่ควรเปิดเผยตัว’
ฟางหยวนวางแผนอย่างรวดเร็ว
สำหรับเฉียวซื่อหลิว?
เจ้าต้องตายเพื่อข้า!
“วูอี้ไห่ มาเร็ว!” เฉียวซื่อหลิวกระตุ้นอีกครั้ง
ฟางหยวนปฏิเสธทันที “รอก่อน ข้ามีปัญหาบางอย่างที่นี่ วูอันถูกเทพธิดากระต่ายขาวสังหาร ข้าไม่สามารถไว้ชีวิตฆาตกรผู้นี้!”
“อา…ระวังตัวด้วย!” เฉียวซื่อหลิวตกใจมากแต่นางยังแสดงความห่วงใยต่อฟางหยวนโดยไม่รู้ตัวเลยว่านางถูกเขี่ยทิ้งแล้ว
เฉียวซื่อหลิวกำลังเผชิญหน้ากับเทพธิดาเมี่ยวหยิน ไห่ลั่วหลัน และไป่หนิงปิง
นางเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่เทียบเท่าเทพธิดาเมี่ยวหยินขณะที่ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงเป็นผู้อมตะระดับหก
ดังนั้นในสายตาของเฉียวซื่อหลิว สถานการณ์จึงค่อนข้างยากลำบาก นางมองเทพธิดาเมี่ยวหยินและกล่าว “พวกเจ้าจบแล้ว ค่ายกลวิญญาณถูกกระตุ้นใช้งานแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดถูกขังอยู่ที่นี่ มอบตัวและเป็นทาสของตระกูลเฉียว ด้วยวิธีนี้พวกเจ้าจะรอดชีวิต”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” เทพธิดาเมี่ยวหยินหัวเราะ “จะเป็นเช่นนั้นแน่หรือ?”