เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1358

ตอนที่ 1358

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1358 การปรากฏตัวอีกครั้งของกายาแห่งความฝัน
“ข้ามีข่าวดีมาบอก คฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลวูกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่เพื่อรับข้ากลับไปภูเขาวูอี้ ตอนนี้มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ มันเป็นกำลังเสริมที่ใกล้ที่สุดของพวกเรา”

“ตราบเท่าที่เราร่วมมือกัน พวกเราจะสามารถจากไปได้อย่างปลอดภัย พวกเราอาจได้รับการยกย่องจากทุกคนและกลายเป็นวีรบุรุษของภูมิภาคนี้”

ฟางหยวนกล่าวอย่างรวดเร็ว

การแสดงออกของปาเต๋อกลายเป็นยิ่งน่าเกลียด

ดวงตาของเฉียวซื่อหลิวส่องประกายขึ้น เมื่อมองไปที่ฟางหยวน สายตาของนางเต็มไปด้วยความชื่นชม

จื่อกุ้ยมอบข้อมูลทั้งหมดของค่ายกลวิญญาณให้กับฟางหยวน นั่นทำให้ฟางหยวนตระหนักว่าเขาสามารถควบคุมค่ายกลนี้ได้ด้วยตนเองและตัดสินใจก้าวขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะทั้งหมด

ผู้อมตะตระกูลเซี่ยผู้โชคร้ายที่ถูกขับไล่ออกไปเป็นสิ่งยืนยันพลังอำนาจของฟางหยวน

ด้วยไม้และแครอท ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการปกครองพวกเขา

ความได้เปรียบของฟางหยวนมีมากเกินไป ในสถานการณ์นี้ทุกคนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเชื่อฟังเขา

การกระทำของฟางหยวนทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป ตอนนี้กระทั่งปาเต๋อยังต้องฟังคำสั่งของเขา

หลังจากประสบความสำเร็จในการควบคุมผู้อมตะฝ่ายธรรมะ ฟางหยวนก็หันไปให้ความสนใจกับโลกภายนอก

รังไหมแสงจำนวนมากก่อตัวขึ้นและลอยนิ่งอยู่บนท้องฟ้าอย่างเงียบๆ

ราคาสำหรับรังไหมแสงเหล่านี้ก็คืออาณาจักรแห่งความฝัน

อาณาจักรแห่งความฝันหายไปเกือบทั้งหมด

เมื่อเห็นรังไหมแสง ฟางหยวนลอบถอนหายใจ ‘วิธีการของนิกายเงาไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแท้จริง มันคู่ควรกับการเป็นกองกำลังที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณมานานนับแสนปีจริงๆ’

“แค๊ก!”

เสียงแตกร้าวดังขึ้นจากรังไหมแสง

“แค๊ก!”

รังไหมแสงแตกออกขณะที่มนุษย์ร่างเปลือกเปล่าปรากฏขึ้น

ราชันภูเขาม่วงลงมืออย่างรวดเร็ว

วิญญาณจำนวนมากบินเข้าโอบล้อมกายาแห่งความฝันก่อนที่พวกมันจะบินเข้าสู่มิติช่องว่างของพวกเขา

ในไม่ช้ากายาแห่งความฝันก็เปิดเปลือกตาขึ้น ร่างกานของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยเสื้อผ้าขณะที่พวกเขาบินไปยังอาณาจักรแห่งความฝันที่เหลืออยู่

“นี่!?”

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะตกตะลึง

แต่ดวงตาของฟางหยวนเบิกกว้าง ‘นี่คือกายาแห่งความฝัน!’

ฟางหยวนเคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน เมื่อเขาเห็นมันอีกครั้งเขาก็ยังรู้สึกตกตะลึงดังเช่นในอดีต

ร่างของอิงอู๋เซี่ยก็ถูกสร้างขึ้นจากกายาแห่งความฝันเช่นกัน

นิกายเงาเป็นผู้คิดค้นสิ่งนี้ แล้วราชันภูเขาม่วงจะไม่รู้จักวิธีนี้ได้อย่างไร?

ก่อนหน้านี้ราชันภูเขาม่วงได้ไปพบเจตนำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลาและได้เรียนรู้หลายสิ่ง

ราชันภูเขาม่วงต้องการร่วมมือกับฟางหยวนแต่เขาปฏิเสธ

ดังนั้นราชันภูเขาม่วงจึงไม่สามารถใช้วิธีของฟางหยวนเพื่อจัดการอาณาจักรแห่งความฝัน

ราชันภูเขาม่วงต้องการช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคืออาณาจักรแห่งความฝันขนาดยักษ์

ฟางหยวนไม่ช่วย ดังนั้นราชันภูเขาม่วงจึงต้องใช้กายาแห่งความฝัน

ด้วยวิธีนี้มันทำให้อาณาจักรแห่งความฝันจำนวนมากสูญหายไปขณะที่พวกเขาจะสามารถเข้าไปยังจุดศูนย์กลางของอาณาจักรแห่งความฝันเพื่อช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

‘ดังนั้นกายาแห่งคยวามฝันก็ถูกสร้างขึ้นเช่นนี้?’

‘วิธีการของนิกายเงานช่างน่ากลัวนัก!’

แม้ฟางหยวนจะต่อสู้กับอิงอู๋เซี่ยในเวลานั้น แต่เขาก็ไม่รู้ที่มาของฝ่ายตรงข้าม

ฟางหยวนตะโกนออกคำสั่งผู้อมตะฝ่ายธรรมะ “เร็ว ทำลายรังไหม เราต้องฆ่าคนเหล่านั้น!”

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“วูอี้ไห่ เจ้ารู้สิ่งใด บอกเรา!”

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะถาม

แต่ในเวลาต่อมาพวกเขากลับถูกฟางหยวนเคลื่อนย้ายออกจากค่ายกลวิญญาณ

“บัดซบ!”

“ไม่แม้แต่จะกล่าวสิ่งใด คิดว่าพวกเราคือผู้ใด?”

“วูอี้ไห่ เจ้ากำลังใช้วิญญาณอมตะของพวกเรา อย่าให้มันมากนัก!”

แม้แต่เฉียวซื่อหลิวก็ถูกส่งออกไป เทพธิดาผู้นี้มึนงงเล็กน้อย นางไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้

สองผู้อมตะตระกูลเซี่ยเห็นผู้อมตะคนอื่นๆพบชะตากรรมเดียวกัน นั่นทำให้พวกเขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาตะโกนเสียงดังและต้องการกำจัดวูอี้ไห่

แต่ไม่มีผู้ใดสนใจพวกเขา ในสถานการณ์นี้ผู้ใดจะกล้าทำร้ายฟางหยวนที่ควบคุมค่ายกลวิญญาณ?

ฟางหยวนกล่าว “หากพวกเจ้าไม่ต้องการตายอยู่ที่นี่ ฟังข้า ศัตรูเหล่านี้จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะกำจัดพวกมัน!”

ขณะที่คนอื่นๆกำลังลังเล วูเหลียวฟังคำสั่งของฟางหยวนและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ต่อมาผู้อมตะที่ใกล้ชิดกับตระกูลวูรวมถึงเฉียวซื่อหลิวก็เริ่มเคลื่อนไหว แต่เพราะฟางหยวนส่งนางออกมา ใบหน้าของนางจึงดูค่อนข้างน่าเกลียด

คนเหล่านี้ลงมืออย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าผู้อมตะฝ่ายธรรมะคนอื่นๆก็เริ่มต่อสู้

ด้านหนึ่ง ฟางหยวนควบคุมค่ายกลวิญญาณและคอยช่วยเหลือกลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะ อีกด้านหนึ่ง พวกเขาก็รู้สึกสนใจกายาแห่งความฝัน หากพวกเขาสามารถจับพวกมันและค้นคว้า ตระกูลของพวกเขาอาจมีความคืบหน้าบนเส้นทางแห่งความฝัน

มีเพียงสองผู้อมตะตระกูลเซี่ยที่ยังลังเล

แต่ฟางหยวนไม่ลืมพวกเขา “ตราบเท่าที่พวกเจ้าทำลายรังไหม ข้าจะไว้ชีวิตของพวกเจ้าและปล่อยให้พวกเข้ากลับเข้ามาในค่ายกลวิญญาณ”

ผู้อมตะตระกูลเซี่ยโกรธจัด พวกเขากัดฟันแน่นแต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะทำตามคำกล่าวของฟางหยวน

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะทั้งหมดพยายามทำลายรังไหมแสง

มีเพียงฟางหยวนเท่านั้นที่อยู่ในค่ายกลวิญญาณและมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย

กายาแห่งความฝันปรากฏขึ้นจากรังไหมอย่างต่อเนื่อง

ในเวลาเดียวกันเมื่อรังไหมแสงถูกทำลาย อาณาจักรแห่งความฝันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

‘ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน นิกายเงาวางแผนมาเป็นอย่างดี พวกเขาใช้กายาแห่งความฝันเพื่อบดบังวิสัยทัศน์ของพวกเราและหนึ่งในกายาแห่งความฝันเหล่านั้นอาจเป็นเทพปีศาจจิตวิญญาณ!’

ฟางหยวนเฝ้ามองสนามรบอย่างตั้งใจ

ค่ายกลวิญญาณนี้ถูกสร้างขึ้นรอบๆอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่ แม้ค่ายกลวิญญาณจะถูกทำลายไปบางส่วน แต่มันยังครอบคลุมครึ่งหนึ่งของสนามรบ

นอกจากกลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะ ฟางหยวนยังใช้ค่ายกลวิญญาณทำลายรังไหมแสงโดยตรง

น่าเสียดายที่ค่ายกลวิญญาณนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นปราการป้องกัน พลังโจมตีของมันอ่อนแออย่างน่าสมเพช มันยังด้อยกว่าการโจมตีของฟางหยวนอยู่มาก

“ฆ่า!” เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงตะโกนดังขึ้น

เทพธิดาเมี่ยวหยิน ไห่ลั่วหลัน และไป่หนิงปิงนำผู้อมตะของนิกายเงามาถึงแล้ว

รังไหมแสงบางส่วนถูกทำลายโดยผู้อมตะฝ่ายธรรมะและกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝันที่มีขนาดแตกต่างกัน

กายาแห่งความฝันที่ถูกสังหารกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน ณ จุดเกิดเหตุ นี่ทำให้อาณาจักรแห่งความกระจัดกระจายไปทั่ว

อย่าลืมว่าอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่มีการเคลื่อนไหว

ดังนั้นบางอาณาจักรแห่งความฝันจึงหลอมรวมเข้าด้วยกัน กล่าวได้ว่าภูมิประเทศกลายเป็นซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

กลุ่มผู้อมตะต้องระวังตัวมากขึ้น ด้านหนึ่งพวกเขาต้องปกป้องอาณาจักรแห่งความฝัน อีกด้านหนึ่งพวกเขาต้องระวังตัวและไม่สามารถปล่อยให้ตนเองตกลงสู่กับดักของอาณาจักรแห่งความฝัน

‘สามารถสร้างกายาแห่งความฝันจำนวนมหาศาล นี่ต้องเป็นฝีมือของราชันภูเขาม่วง แต่เขาอยู่ที่ใด?’

ฟางหยวนมองไปรอบๆแต่เขายังไม่พบราชันภูเขาม่วง

“บึม!”

ค่ายกลวิญญาณระเบิดพลังออกมาและส่งกายาแห่งความฝันที่พึ่งออกจากรังไหมพุ่งชนภูเขา

หากปราศจากวิญญาณที่ให้ความช่วยเหลือ กายาแห่งความฝันจะถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามกายาแห่งความฝันยังถูกมัดด้วยโซ่สีดำและไม่สามารถเคลื่อนไหว

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเจิดจ้า

‘น่าสนใจ หากข้าสามารถจับมันได้สักสองสามตัว ข้าอาจสามารถอนุมานวิธีการของนิกายเงาและสร้างกายาแห่งความฝันของข้าเอง’

‘นี่เป็นเส้นทางแห่งความฝัน แม้อายุขัยของมันจะสั้น แต่มันอาจช่วยข้าแก้ปัญหาในช่วงเวลาวิกฤต!’

เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนจึงเริ่มใช้ค่ายกลวิญญาณเพื่อจับกายาแห่งความฝันมากขึ้น

รังไหมแสงยังก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่ฟางหยวนสามารถจับกุมกายาแห่งความฝันได้เกือบสิบร่าง

ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบสิ่งที่น่าตกใจ ระดับการบ่มเพาะของกายาแห่งความฝันเหล่านี้ไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ท่ามกลางพวกมันมีกายาแห่งความฝันระดับหกอยู่บ้าง ส่วนใหญ่เป็นกายาแห่งความฝันระดับมนุษย์ และมีกายาแห่งความฝันระดับเจ็ดอยู่ไม่มาก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท