เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1360

ตอนที่ 1360

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1360 สถานการณ์สิ้นหวังของฟางหยวน
“โฮก…”

จ้าวเย่ฮุ้ยคำราม คราวนี้มันบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและต้องการโจมตีกลางอากาศ

ราชันมังกรเย้ยหยันและกระตุ้นใช้พลังอำนาจของหอคอยดวงตาสวรรค์

เปลี่ยนเป็นภูตผี!

การโจมตีของจ้าวเย่ฮุ้ยพลาดเป้า

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในหอคอยดวงตาสวรรค์รวมถึงผู้อมตะกลายเป็นภาพมายา นี่ทำให้การโจมตีทางกายภาพกลายเป็นไร้ประโยชน์

“นี่เป็นการหลอกล่อให้ข้าโจมตี?” ดวงตาของราชันภูเขาม่วงส่องประกายขึ้น

นิกายเงามีวิธีตอบโต้กับรูปแบบภูตผี

แต่ราชันภูเขาม่วงยังไม่เคลื่อนไหว

เพราะเขาไม่ใช่เทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาไม่มีวิญญาณอมตะที่จำเป็น แม้เขาจะสามารถใช้มันกับหอคอยดวงตาสวรรค์ แต่มันอาจไร้ประสิทธิภาพ

‘เขาไม่ลงมืองั้นหรือ?’ ราชันมังกรคิดกับตนเอง

ในอดีต ระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เทพปีศาจจิตวิญญาณผนึกหอคอยดวงตาสวรรค์และป้องกันไม่ให้มันกลับสู่ร่างกายภาพ

ราชันมังกรเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเพื่อรับมือกับท่าไม้ตายนี้ แต่ราชันภูเขาม่วงกลับอดทนและไม่ทำสิ่งใดเลย

ราชันมังกรควบคุมหอคอยดวงตาสวรรค์มายาและพยายามเข้าใกล้อาณาจักรแห่งความฝัน

แต่เมื่อมันเข้าไปใกล้ วิญญาณจำนวนมากของหอคอยดวงตาสวรรค์ก็ถูกกลืนกินโดยอาณาจักรแห่งความฝัน ร่างมายากลับสู่ร่างกายภาพ

‘วิธีบนเส้นทางแห่งภูตผีไร้ประโยชน์เช่นกัน’ หัวใจของราชันมังกรสั่นสะท้านขึ้น เขารีบนำหอคอยดวงตาสวรรค์ออกห่างจากอาณาจักรแห่งความฝัน

ในความเป็นจริงนี่เป็นครั้งแรกที่ราชันมังกรได้เห็นอาณาจักรแห่งความฝันที่แท้จริง

มันทำให้ราชันมังกรที่ยิ่งใหญ่ค่อนข้างประหลาดใจ

แม้หอคอยดวงตาสวรรค์จะอยู่ในร่างมายา แต่อาณาจักรแห่งความฝันยังกลืนกินส่วนหนึ่งของมัน

ผู้อมตะภาคกลางในหอคอยดวงตาสวรรค์รีบซ่อมแซมมันอย่างเร่งด่วน

“โดยปราศจากวิธีบนเส้นทางแห่งความฝัน กระทั่งหอคอยดวงตาสวรรค์ก็ยังติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน” ราชันมังกรกล่าว

หนึ่งทักษะปกครองโลก!

ย้อนกลับไปอิงอู๋เซี่ยสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันและทำให้เจ้าวังสวรรค์เข้าสู่ห้วงนิทราได้โดยตรง

เห็นได้ชัดว่ากระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าที่ทรงพลังก็ยังไม่สามารถต่อต้านพลังอำนาจของเส้นทางแห่งความฝัน

เว้นเพียงมันจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน

‘หมายความว่าสนามรบแห่งนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อหอคอยดวงตาสวรรค์ หอคอยดวงตาสวรรค์ใหญ่โตเกินไป มันมีความคล่องตัวน้อยกว่าผู้อมตะ’ ดวงตาของราชันมังกรที่มองจ้าวเย่ฮุ้ยส่องประกายขึ้น

ตอนนี้จ้าวเย่ฮุ้ยกำลังบินเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์ด้วยคยวามเร็วสูง

“โอ้ ไม่!” ราชันภูเขาม่วงเห็นสิ่งนี้และเร่งหยุดมัน เขาส่งลำแสงลึกลับพุ่งไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์และทำให้เกิดระลอกคลื่นราวกับมันเป็นผิวน้ำ

“ภาพลวงตา?” จ้าวเย่ฮุ้ยหยุดเคลื่อนไหวทันที มันเกือบพุ่งเข้าไปในอาณาจักรแห่งความฝัน

ด้านหลังจ้าวเย่ฮุ้ย หอคอยดวงตาสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

“หึหึหึ” ราชันมังกรยืนอยู่บนชั้นสูงสุดของหอคอยดวงตาสวรรค์และมองไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง

ราชันภูเขาม่วงถอนหายใจ เขารู้ว่านี่คือกับดัก

ภายนอก มันดูเหมือนราชันมังกรพยายามวางกับดักจ้าวเย่ฮุ้ย แต่ความจริงก็คือเขาต้องการค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของราชันภูเขาม่วง

แต่กระทั่งราชันภูเขาม่วงจะรู้แผนการของราชันมังกร เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยื่นมือเข้าช่วย

จ้าวเย่ฮุ้ยมีค่ามากเกินไป นิกายเงาต้องการใช้มันต่อสู้กับหอคอยดวงตาสวรรค์

“ร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ฮืม ข้าจะฆ่าเขา เทพธิดาจื่อเว่ย ไปจัดการค่ายกลวิญญาณและฆ่าฟางหยวนซะ ให้คนอื่นควบคุมหอคอยดวงตาสวรรค์และนำจ้าวเย่ฮุ้ยออกจากสถานที่แห่งนี้ ข้าไม่ต้องการความสำเร็จ ข้าเพียงไม่ต้องการเห็นความล้มเหลว” ราชันมังกรออกคำสั่ง

ด้วยเสียงคำรามของมังกร ราชันมังกรกลายเป็นลำแสงพุ่งไปทางราชันภูเขาม่วง

ในเวลาเดียวกันเทพธิดาจื่อเว่ยก็พุ่งไปยังค่ายกลวิญญาณ

หอคอยดวงตาสวรรค์บินขึ้นสู่ท้องฟ้าและออกจากสนามรบ

จ้าวเย่ฮุ้ยกวาดตามองราชันมังกร เทพธิดาจื่อเว่ย และหอคอยดวงตาสวรรค์

มันรู้ว่าตนเองถูกจำกัดการเคลื่อนที่ในสนามรบแห่งนี้เพราะร่างกายที่ใหญ่โตของมัน ดังนั้นมันจึงตัดสินใจไล่ล่าหอคอยดวงตาสวรรค์

ราชันมังกรบินข้ามท้องฟ้าราวกับเงาภูตผีก่อนจะปรากฏตัวต่อหน้าราชันภูเขาม่วงอย่างรวดเร็ว

“บึม บึม บึม…”

การต่อสู้ระหว่างราชันภูเขาม่วงกับราชันมังกรปะทุขึ้นทันที

แต่หลังจากไม่กี่ลมหายใจราชันภูเขาม่วงก็ต้องวิ่งหนี

“วันนี้เจ้าต้องตาย!” ราชันมังกรคำรามและไล่ล่าอย่างไม่ลดละ

ในค่ายกลวิญญาณ ฟางหยวนหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ

เขาตระหนักว่าตนเองตกลงสู่หลุมพราง

‘เจตจำนงสวรรค์! แท้จริงแล้วมันซ่อนอยู่ใน…ไม่ ยิ่งไปกว่านั้น…’ รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง

เทพธิดาจื่อเว่ยมาถึงด้านหน้าค่ายกลวิญญาณแล้ว

ฟางหยวนสงบจิตใจลงและกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณเพื่อป้องกันศัตรู

“ค่ายกลวิญญาณนี้ไม่เลว” ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องแสงสีม่วงออกมา นางสังเกตค่ายกลวิญญาณและพยักหน้า “น่าเสียดายที่มันมีข้อบกพร่อง วิญญาณเหล่านี้มาจากหลายแหล่ง พวกมันถูกยืมมาจากผู้อมตะคนอื่นๆ ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้”

นางยกมือขวาขึ้นและนำคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมา

กระดานหมากรุกกลุ่มดาว!

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะกลุ่มดาว มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก

เมื่อกระดานหมากรุกกลุ่มดาวถูกกระตุ้นใช้งาน มันกลายเป็นกลุ่มดาวที่ส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

แสงดาวเคลื่อนที่ราวกับหิ่งห้อยอยู่รอบตัวเทพธิดาจื่อเว่ย

ร่างมนุษย์ของเทพธิดาจื่อเว่ยหลอมรวมกับแสงดาวเหล่านี้ก่อนที่มันจะพุ่งไปยังค่ายกลวิญญาณ

ฟางหยวนกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณเพื่อป้องกันการโจมตีจากแสงดาว

แต่แสงดาวไม่ได้โจมตีค่ายกลวิญญาณแต่มันแทรกซึมเข้าไปภายใน

เดิมทีค่ายกลวิญญาณนี้ส่องแสงสี่สีได้แก่ แดง เขียว ฟ้า และดำ แต่หลังจากแสงดาวแทรกซึมเข้าไป แสงทั้งสี่สีก็เริ่มอ่อนแรงลงและผสานเข้ากับแสงดาว

ปฏิกิริยาตอบสนองของค่ายกลวิญญาณเริ่มลดลง

“ฟางหยวน เจ้าเป็นปีศาจต่างโลกที่ได้รับการคัดเลือกจากเจตจำนงสวรรค์ให้เป็นผู้กอบกู้โลกใบนี้ แม้เจ้าจะทำลายแผนการท้าทายสวรรค์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่เจ้าทรยศต่อฝ่ายธรรมะและก้าวเข้าสู่ฝ่ายปีศาจ เจ้ากลายเป็นศัตรูกับโลกใบนี้ หากยอมรับความผิดและยอมจำนน ข้าจะทิ้งศพของเจ้าเอาไว้ ข้าจะสร้างอัตชีวประวัติให้เจ้า ชื่อของเจ้าจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์และกลายเป็นบทเรียนสำหรับชนรุ่นหลัง”

เสียงของเทพธิดาจื่อเว่ยดังขึ้นในค่ายกลวิญญาณ

ฟางหยวนหัวเราะ “นี่เป็นแผนการที่น่าเหลือเชื่อของเจตจำนงสวรรค์!”

เขาพยายามกระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณแม้วิญญาณบางส่วนจะเริ่มไม่สามารถควบคุม

เห็นได้ชัดว่าเทพธิดาจื่อเว่ยกำลังต่อสู้กับเขาเพื่อชิงอำนาจการควบคุมค่ายกลวิญญาณ

“ดื้อรั้น!” เทพธิดาจื่อเว่ยก่นเสียงเย็นเมื่อเห็นฟางหยวนพยายามต่อสู้

แสงดาวส่องประกายสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆ

‘วังสวรรค์รู้ตัวจริงของข้า นี่เป็นการพิสูจน์การคาดเดาของข้า’

‘ข้าไม่สามารถนำวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดออกมาได้อีกต่อไป เมื่อเวลาผ่านไปค่ายกลวิญญาณจะถูกควบคุมโดยวังสวรรค์’

‘ข้าควรทำอย่างไร? ข้าควรละทิ้งค่ายกลวิญญาณนี้และกระตุ้นใช้เกราะหวนคืนเพื่อหลบหนีหรือไม่?’

‘ไม่!’

‘วังสวรรค์เคยต่อสู้กับข้า พวกเขาเข้าใจเกราะหวนคืนของข้า’

‘เมื่อพวกเขาต้องการกำจัดข้าและนิกายเงา พวกเขาย่อมต้องคิดวิธีตอบโต้เกราะหวนคืนไว้แล้ว’

‘วังสวรรค์อยากเห็นข้าใช้เกราะหวนคืน เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะพบกับความสูญเสียและอาจตายทันที’

‘ข้าควรทำอย่างไร?’

ความคิดมากมายปะทุขึ้นในใจของฟางหยวน

มันเป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวัง

ฟางหยวนพยายามคิดหาทางหลบหนี

แต่ไม่มีทาง

เขาไม่สามารถหลบหนี ความหวังเดียวของเขาคือเกราะหวนคืน

‘ข้าควรพนันกับเกราะหวนคืนหรือไม่?’

ฟางหยวนรู้สึกขมขื่น

เขารู้ว่ามีโอกาสน้อยมาก

สำหรับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด?

ฟางหยวนไม่มีคริสตัลสวรรค์และไม่สามารถเร่งการเติบโตของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

หรือกระทั่งเขาจะมีคริสตัลสวรรค์มากมาย แต่เมื่ออินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลายเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิด มันอาจไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา มีโอกาสสูงที่เขาจะถูกหักหลัง

‘มีสองวิธีในการถ่วงเวลา’ ฟางหยวนคิด

หนึ่ง นำแม่น้ำหวนคืนออกมาและใช้มันเป็นปราการป้องกัน

สอง วางมิติช่องว่างลงและซ่อนตัวอยู่ภายใน

แต่ทั้งสองวิธีไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์

หากฟางหยวนใช้สองวิธีนี้ มันจะอันตรายมาก

ความหวังเดียวที่จะทำให้ฟางหยวนรอดคือการสนับสนุนจากกองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้

หากผู้อมตะภาคใต้สามารถขับไล่วังสวรรค์ ฟางหยวนจะมีโอกาสหลบหนี

แต่วังสวรรค์ไม่โง่และไม่อ่อนแอ

กองกำลังผู้อมตะของภาคใต้อาจเหนือกว่ากลุ่มผู้อมตะภาคกลางที่อยู่ที่นี่ แต่ด้วยการคงอยู่ของหอคอยดวงตาสวรรค์ ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน

แม้พวกเขาจะชนะขณะที่วังสวรรค์ถูกไล่ล่า ฟางหยวนก็ไม่สามารถเป็นวูอี้ไห่ได้อีก

เขาจะเป็นได้อย่างไร!?

เมื่อวังสวรรค์รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา เพียงพวกเขากล่าวสองสามคำ ผู้อมตะภาคใต้ก็จะหันมาเล่นงานฟางหยวนทันที

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท