เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1383

ตอนที่ 1383

วูหยงคิดว่าวังสวรรค์อาจส่งข้อมูลเท็จ

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่มีหลักฐาน ยิ่งไปกว่านั้นฟางหยวนยังเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาไปแล้วขณะหลบหนีออกจากสนามรบ

อย่างไรก็ตามการหายตัวไปของวูอี้ไห่เป็นเรื่องฉับพลันและแปลกประหลาดเกินไป หากวูอี้ไห่เป็นฟางหยวน ทุกอย่างจะสามารถอธิบายได้

“ส่งป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของวูอี้ไห่ผ่านสวรรค์สีเหลืองมาให้ข้า นอกจากนี้นำวิญญาณอมตะบางดวงออกจากคลังสมบัติมาให้ข้าด้วย” วูหยงลอบออกคำสั่ง

ในเวลาเดียวกันเขากล่าวกับจื่อชิวหยูที่อยู่ไกลออกไป “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อ โปรดสร้างค่ายกลวิญญาณป้องกันการหลบหนีด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งห้วงมิติไว้ที่นี่ด้วย”

“โอ้ ศัตรูมีวิธีการเช่นนั้นงั้นหรือ?” จื่อชิวหยูประหลาดใจก่อนจะพยักหน้าตอบรับ “ข้าสามารถจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเพื่อรบกวนการเดินทางผ่านห้วงมิติแต่ข้าไม่มีวิญญาณอมตะที่จำเป็น”

“อย่ากังวล” วูหยงหัวเราะ “ตอนนี้เรามีพันธมิตรมากมาย ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะมีวิญญาณอมตะไม่เพียงพอ”

ไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธ ทุกคนปฏิบัติตามคำขอของจื่อชิวหยูและวิญญาณอมตะที่พวกเขามีอยู่สามารถใช้จัดตั้งค่ายกลวิญญาณดังกล่าว

หากพวกเขาไม่มีวิญญาณที่จำเป็น พวกเขายังสามารถส่งพวกมันผ่านสวรรค์สีเหลืองแม้จะต้องใช้เงินมหาศาลก็ตาม

แต่หลังจากฟางหยวนเริ่มใช้วิธีนี้ ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ก็เริ่มเลียนแบบ

ในไม่ช้าฟางหยวนก็รู้เรื่องที่ตระกูลวูส่งวิญญาณอมตะมาให้วูหยง สวรรค์สีเหลืองเป็นตลาดเปิด ทุกธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณอมตะจะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่

“วิญญาณอมตะเหล่านี้มาจากคลังสมบัติของตระกูลวู พวกเขาส่งพวกมันผ่านสวรรค์สีเหลือง”

“ยังมีกระทั่งป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของข้า! ฮืม!”

ฟางหยวนรู้สึกสังหรณ์ร้าย

น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหยุดมัน

การทำธุรกรรมในสวรรค์สีเหลืองปลอดภัยมาก ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน

ในไม่ช้าฟางหยวนก็ได้รับวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลจากวูหยง

“วูอี้ไห่หรือข้าควรเรียกเจ้าว่าฟางหยวน? เราสามารถพูดคุยและทำธุรกรรม ใช้วิญญาณอมตะเพื่อซื้อชีวิตของเจ้า เป็นอย่างไร?”

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง ‘ดูเหมือนวังสวรรค์จะเปิดเผยความลับนี้แล้ว วิญญาณเหล่านั้นต้องถูกส่งมาให้วูหยง เขาข่มขู่ข้าโดยตรง ดูเหมือนเขาจะมีวิธีการบางอย่าง…’

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฟางหยวนก็หยุดการฝึกซ้อม

“พวกเจ้าฝึกซ้อมต่อไป ข้าต้องจัดการกับเรื่องน่ารำคาญเล็กน้อย” หลังกล่าวจบคำ เขาก็ก้าวออกไปและกระตุ้นใช้เกราะหวนคืนทันที

ในมิติช่องว่างของวูหยง วิญญาณจำนวนมากบินอยู่บนท้องฟ้า

‘นี่คือท่าไม้ตายเฉพาะตัวของตระกูลวู มันเคยสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้อมตะของภาคใต้มาแล้ว หลังจากตระกูลวูของข้าได้รับมันมา เราเก็บมันเป็นความลับเพราะกังวลว่าจะถูกต่อต้านโดยกองกำลังอื่นๆ ตอนนี้ฟางหยวนจะได้ลิ้มรสมัน’

ดวงตาของวูหยงส่องประกายเย็นเยียบ

ท่าไม้ตายอมตะถูกกระตุ้นใช้งาน

อย่างไรก็ตามเขาสามารถปกปิดกลิ่นอายของวิญญาณเหล่านั้น กระทั่งเฉียวจื่อไคที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ยังไม่ตระหนักถึง

แต่ในเวลาต่อมาวูหยงกลับกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก

“ท่านวูหยง เกิดสิ่งใดขึ้น?” เฉียวจื่อไคตกใจและรีบวิ่งเข้าไปสนับสนุนวูหยง

‘เป็นไปได้อย่างไร? โชคดีที่ข้าเพียงต้องการเตือนและสอบสวนเท่านั้น ข้ายังไม่ได้ใช้งานมันอย่างเต็มที่’ วูหยงตกใจมาก เห็นได้ชัดว่าเขาโจมตีฟางหยวนแต่สุดท้ายเขากลับถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายของตนเอง

วูหยงสะบัดมือของเฉียวจื่อไคออกเบาๆ

เขาเร่งแก้ไขสถานการณ์ “ไม่จำเป็นต้องกังวล มันเป็นอาการบาดเจ็บจากการเผชิญหน้ากับค่ายกลวิญญาณแม่น้ำโลหิตสีม่วงจากก่อนหน้านี้”

เฉียวจื่อไคเปลี่ยนท่าที “ท่านวูหยงรีบมาช่วยน้องชายโดยไม่คำนึงถึงอาการบาดเจ็บของตน ท่านเป็นแบบอย่างของฝ่ายธรรมะอย่างแท้จริง!”

วูหยง “…”

เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าวอีกครั้ง “ท่านน่าทึ่งมาก”

เฉียวจื่อไครู้ว่ามันเป็นถ้อยคำประชดประชันของวูหยง แต่เขายังรู้สึกมีความสุขอยู่ภายใน

สำหรับอาการบาดเจ็บของวูหยง มันเกิดจากเกราะหวนคืนของฟางหยวน

‘แม่น้ำหวนคืนลดลงเล็กน้อย วูหยงมีวิธีการที่น่ากลัวบางอย่างที่สามารถโจมตีร่างกายของข้าโดยผ่านป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณ น่าเสียดายที่เขาต้องเผชิญหน้ากับเกราะหวนคืน ดังนั้นท่าไม้ตายของเขาจึงถูกสะท้อนกลับไปอย่างหมดจด’

ฟางหยวนสูดหายใจและคิดต่อ ‘นี่ค่อนข้างแปลก เมื่อวูหยงรู้ว่าข้าคือฟางหยวน เหตุใดเขาไม่พิจารณาถึงเกราะหวนคืนของข้า?’

‘เป็นไปได้หรือไม่ว่า…เขาไม่รู้จักตัวตนอื่นข้า เขาไม่รู้ว่าข้าคือหลิวกวนซื่อ? วังสวรรค์ไม่ได้บอกเขางั้นหรือ? หรือบางทีกระทั่งวังสวรรค์ก็อาจไม่รู้?’

ฟางหยวนคิดถึงอาณาจักรแห่งความฝัน

ครั้งนี้ตัวตนของเขาถูกเปิดเผยเพราะอาณาจักรแห่งความฝันถูกแทรกแซงโดยเจตจำนงสวรรค์

เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันหลายครั้ง เมื่อดวงวิญญาณของเขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน มันจะปราศจากการอำพรางโดยท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด ด้วยวิธีนี้เจตจำนงสวรรค์จึงเห็นร่างจริงของเขา

หากเป็นเช่นนี้ นั่นหมายความว่าตัวตนของหลิวกวนซื่อยังไม่ถูกเปิดเผย

‘ไม่ดีแล้ว’ หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง ‘ข้าเปิดเผยเกราะหวนคืนออกไป นี่ไม่ได้หมายความว่าข้ากำลังบอกเขาว่าตนเองคือหลิวกวนซื่องั้นหรือ? ไม่ว่าวังสวรรค์จะค้นพบตัวตนนี้มาก่อนหรือไม่ ตอนนี้ข้าก็เปิดเผยเกราะหวนคืนไปแล้ว พวกเขาต้องรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน’

นี่เป็นการเผชิญหน้าอย่างลับๆ

มันเป็นการต่อสู้ของสามฝ่ายคือฟางหยวน วูหยง และวังสวรรค์

วูหยงพบกับความทุกข์ทรมานด้วยวิธีการของตนเองแต่อาการบาดเจ็บของเขาไม่ร้ายแรงขณะที่ฟางหยวนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ อย่างไรก็ตามเขาได้เปิดเผยข้อมูลมากมาย ด้านวังสวรรค์ พวกเขาจัดการอยู่เบื้องหลังและทำให้วูหยงกับฟางหยวนต่อสู้กันโดยที่ตนเองไม่ต้องทำสิ่งใด

นี่เป็นแผนการของเทพธิดาจื่อเว่ย

วูหยงส่งจดหมายอีกฉบับถึงฟางหยวนแต่ฟางหยวนไม่สนใจมันอีกต่อไป

ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศพร้อมใช้งานแล้วแต่ตอนนี้ฟางหยวนกลับกลายเป็นภาระ

เขาต้องรักษาเกราะหวนคืนเอาไว้เพื่อป้องกันการโจมตีที่ไม่คาดคิดของวูหยง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะแบ่งความสนใจให้กับค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศ

อย่างไรก็ตามในที่สุดพวกเขาก็สามารถกระตุ้นใช้งานมันได้สำเร็จ

รัศมีแสงส่องสว่างขึ้นรอบๆก่อนที่มันนำกลุ่มของฟางหยวนหายไปจากจุดนั้น

ความปั่นป่วนอย่างรุนแรงของห้วงมิติถูกค้นพบโดยผู้อมตะภาคใต้

“พวกเขาจากไปแล้ว บางทีหนึ่งหรือสองคนอาจถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง” วูหยงไม่แปลกใจ

“ค่ายกลวิญญาณของเรายังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่พวกเขามีวิธีการเช่นนี้จริงๆ แล้วเหตุใดพวกเขาไม่ใช้มันก่อนหน้านี้? มันต้องมีข้อบกพร่องร้ายแรงอย่างแน่นอน” เฉียวจื่อไคคาดเดา

จื่อชิวหยูลูบเคราของเขา “อย่าห่วง แม้ค่ายกลวิญญาณของข้าจะไม่สมบูรณ์ แต่มันยังส่งผลกระทบบางอย่าง ข้าเชื่อว่าตอนนี้พวกเขาควรจะแยกย้ายกันไปแล้ว”

ผู้อมตะภาคใต้หลายคนไม่มีความรู้ความเข้าใจแต่ไม่ใช่กับวูหยง เขากล่าวชมเชย “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อ ท่านช่างน่าเกรงขามอย่างแท้จริง”

วูหยงรู้ว่านิกายเงามีค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศ เขาคาดเดาไว้แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้วิธีนี้เพื่อหลบหนี ดังนั้นเขาจึงสามารถตอบโต้

วูหยงลอบส่งข้อมูลให้กับจื่อชิวหยูและให้เขาเตรียมรับมือ

จื่อชิวหยูเป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นกันและยังเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกล เมื่อมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เขาจึงสามารถคิดวิธีตอบโต้ที่เหมาะสม

“พรวด!”

ไป่หนิงปิงก้าวลงบนพื้นและกระอักเลือดออกมาขณะที่ใบหน้ากลายเป็นซีดขาว

“นี่ไม่ใช่จุดหมายที่เราตั้งใจไป!” รูม่านตาของนางหดเล็กลง

นางรีบติดต่อคนอื่นๆ

ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศหยุดชะงักอย่างกะทันหัน สมาชิกนิกายเงาถูกแยกออกจากกัน

นอกจากฟางหยวน แต่ละคนได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่ง

“เราควรทำอย่างไร?” เทพธิดาเมี่ยวหยินรีบถามฟางหยวน

ฟางหยวนลังเลเล็กน้อย

เขาควรหลบหนีไปเพียงผู้เดียวโดยใช้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดหรือไม่? หรือเขาควรช่วยสมาชิกนิกายเงา?

กายาแห่งความฝันที่อยู่ในรอยแยกปล้นเงาระเบิดตัวเองไปแล้ว

ตอนนี้เหลือกายาแห่งความฝันไม่มากที่อยู่ในมิติช่องว่างของไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆ รวมถึงอิงอู๋เซี่ยที่อยู่ในมิติช่องว่างของเทพธิดากระต่ายขาว

อาณาจักรแห่งความฝันถูกแทรกซึมโดยเจตจำนงสวรรค์ ดังนั้นกายาแห่งความฝันจึงถูกจับตามองตลอดเวลา การอนุญาตให้พวกมันอยู่ใกล้ๆก็เหมือนกับการบอกตำแหน่งที่อยู่ของตนเอง

นอกจากนั้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่บนร่างของเขาก็ยังไม่ถูกทำลาย ป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของฟางหยวนยังอยู่ในมือของวูหยง สิ่งสำคัญที่สุดคือตระกูลวูมีวิธีโจมตีฟางหยวนผ่านวิญญาณทั้งสองดวง

สถานการณ์เรียกได้ว่าเลวร้ายและอันตรายมาก!

เป็นเรื่องยากสำหรับฟางหยวนที่จะต่อสู้กับคฤหาสน์วิญญาณอมตะ อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดไม่น่าเชื่อถือ แม้มันจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่มันจะไม่เสี่ยงชีวิตเพื่อฟางหยวน

วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดถูกฉกชิงไป ตอนนี้เจตจำนงสวรรค์สามารถตรวจสอบและจัดการฟางหยวนได้ตลอดเวลา

‘ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาอาจถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบเช่นกัน’ ดวงตาของฟางหยวนกลายเป็นมืดมน

จุดหมายปลายทางต่อไปของเขาคือทะเลทรายตะวันตก

ในบรรดาห้าภูมิภาค ทะเลทรายตะวันตกมีทรัพยากรของนิกายเงาเหลืออยู่มากที่สุด เนื่องจากอิงอู๋เซี่ย ราชันภูเขาม่วง และคนอื่นๆยังไม่เคยไปที่นั่น

‘ข้าควรไปที่ทะเลทรายตะวันตกเพียงผู้เดียวหรือไม่?’

‘น่าเสียดายหากข้าต้องทิ้งพวกเขา นอกจากนี้ตราบใดที่ข้ายังไม่สามารถทำลายร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลเหล่านี้ คนอื่นๆก็จะตามหาข้าได้เสมอ’

‘นิกายหลางหยา…’

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท