เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1386

ตอนที่ 1386

สายลมกรรโชกแรง

ด้านล่าง ภูเขาที่อุดมสมบูรณ์เคลื่อนตัวไปข้างหลังอย่างต่อเนื่อง

ฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงานั่งอยู่บนแผ่นหลังของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด แต่พวกเขาไม่มีอารมณ์ที่จะเพลิดเพลินไปกับฉากอันยิ่งใหญ่เหล่านี้

พวกเขาอยู่ในสถานการณ์อันตราย

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้กำลังไล่ล่าพวกเขา อาจมีผู้อมตะ ปีศาจอมตะ หรือผู้บ่มเพาะสันโดษซุ่มโจมตีพวกเขาเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

พวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับฝ่ายธรรมะของภาคใต้ คฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเขา

อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือวังสวรรค์

วังสวรรค์จากไปพร้อมกับค่ายกลวิญญาณของภาคใต้

แม้ฟางหยวนและคนอื่นๆจะไม่รู้เหตุผลที่ราชันมังกรรีบร้อนจากไป แต่วังสวรรค์ยังต้องการกำจัดฟางหยวนและนิกายเงา

การคาดเดาของฟางหยวนได้รับการยอมรับโดยไห่ลั่วหลัน ไป่หนิงปิง และคนอื่นๆ

หากวังสวรรค์ตระหนักถึงตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขา วังสวรรค์จะไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ นอกจากผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ วังสวรรค์ยังซ่อนไพ่ตายเอาไว้เพื่อป้องกันความผิดพลาด

อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดรู้ว่าไพ่ที่ซ่อนอยู่คือสิ่งใด

สิ่งที่ไม่รู้จักสามารถสร้างแรงกดดันให้กับหัวใจของผู้คนเสมอ

ไพ่ที่ซ่อนอยู่ของวังสวรรค์เปรียบเสมือนดาบของเพชฌฆาตที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามันจะฟาดลงมาเมื่อใด

แม้ฟางหยวนและคนอื่นๆจะสามารถหลบหนีไปยังทะเลทรายตะวันตก ไพ่ใบนี้ก็ยังสามารถติดตามพวกเขา

‘เจตจำนงสวรรค์แทรกซึมอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน’

‘การสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันเป็นการเปิดเผยความลับของข้า ข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดโดยคิดว่ามันสามารถหลอกเจตจำนงสวรรค์’

‘นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของข้าในการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝัน’

ฟางหยวนยืนอยู่บนแผ่นหลังอินทรีย์และใช้วิธีตรวจสอบทุกชนิดรวมถึงท่าไม้ตายอมตะภาพอนาคตสามลมหายใจ

ขณะเดียวกันเขาก็ไตร่ตรองถึงความผิดพลาดที่ผ่านมา

ความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ กระทั่งผู้อมตะระดับเก้ายังเคยทำเรื่องผิดพลาดมากมายในชีวิต ขอบเขตการมองเห็นของผู้คนมีขีดจำกัด ด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถคาดเดาหรือเหตุผลอื่นๆ ไม่มีผู้ใดสามารถตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดได้ตลอดชีวิต

ทำผิด สำนึกผิด และแก้ไข นี่คือพฤติกรรมของคนเก่ง

หากฟางหยวนรู้ข้อมูลนี้ก่อนหน้า เขาจะไม่สำรวจอาณาจักรแห่งความฝันโดยประมาท

เมื่อคิดย้อนกลับไป อาณาจักรแห่งความฝันที่ฟางหยวนพบล้วนถูกจัดการโดยเจตจำนงสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งวารี เส้นทางแห่งค่ายกล และเส้นทางแห่งความมืด

ในความเป็นจริงฟางหยวนต้องการยกระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและเส้นทางแห่งข้อมูลมากที่สุด หากความสำเร็จบนเส้นทางแห่งข้อมูลของเขาเพิ่มสูงขึ้น แม้เขาจะไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล แต่เขายังสามารถแก้ปัญหาของตนได้ทีละน้อย ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนอยู่ในระดับสามัญ หากมันเพิ่มสูงขึ้นรวมกับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน พลังการต่อสู้ของเขาจะพุ่งสูงขึ้นอีกมาก

แม้จะไม่ใช่เส้นทางแห่งกาลเวลาหรือเส้นทางแห่งข้อมูล กระทั่งเส้นทางแห่งดาบ เส้นทางแห่งโชค หรือเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ พวกมันล้วนเป็นประโยชน์ต่อฟางหยวนทั้งสิ้น

โดยเฉพาะเส้นทางแห่งดาบ

ปัจจุบันฟางหยวนมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบหลายดวงและยังมีมรดกที่แท้จริงของโป้ชิง หากเขากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งดาบ พลังการต่อสู้ของเขาจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

น่าเสียดายที่พวกมันไม่ปรากฏขึ้น

‘ในช่วงสุดท้ายข้าพบเพียงอาณาจักรแห่งความฝันที่ไร้สาระ’

‘นี่เป็นเพราะเจตจำนงสวรรค์แทรกซึมเข้าไปในอาณาจักรแห่งความฝันและควบคุมการเคลื่อนที่ของพวกมัน เจตจำนงสวรรค์ไม่ต้องการให้ข้ามีความก้าวหน้าอีกต่อไป’

บางทีนี่อาจเป็นความลับที่ยังไม่เคยมีผู้ใดค้นพบในชีวิตแรกของฟางหยวน

‘ข้าสูญเสียวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด’

‘ตอนนี้ข้ากับคนอื่นๆกำลังเผชิญหน้ากับเจตจำนงสวรรค์ โชคดีที่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเร็วมาก เจตจำนงสวรรค์ไม่มีเวลาพอที่จะเตรียมการบางอย่าง’

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ วังสวรรค์ และเจตจำนงสวรรค์ ทั้งสามกำลังไล่ล่าฟางหยวน

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ตื่นตระหนก

เขาวางแผนอย่างรอบคอบและเตรียมตัวมาแล้ว

เขาเตรียมใจมาอย่างเพียงพอ

การถูกเปิดเผยตัวตนในครั้งนี้ยังดีกว่าในอดีตเพราะฟางหยวนมีไพ่หลายใบที่สามารถใช้รับมือสถานการณ์

ปัจจุบันเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อคิดวิเคราะห์และวางแผนอย่างต่อเนื่อง

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะกำลังบินมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ไป่หนิงปิงแจ้งเตือน

นางได้รับมรดกที่แท้จริงไป่เซียงและมีวิธีการตรวจสอบระยะไกล มันเหมาะสมกับสถานการณ์นี้มากกว่าท่าไม้ตายอมตะภาพลวงตาสามลมหายใจของฟางหยวน

หลังจากนั้นการแสดงออกของเทพธิาเมี่ยวหยินก็เปลี่ยนไปเช่นกัน “มันคือศาลาทรายเหินของตระกูลลั่ว!”

นางมีความรู้เกี่ยวกับภาคใต้เป็นอย่างดีและสามารถจดจำคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้ทันที

เทพธิดาเมี่ยวหยินกล่าวต่อด้วยความตกใจ “มันเร็วมาก!”

ศาลาทรายเหินเป็นหนึ่งในคฤหาสน์วิญญาณอมตะของภาคใต้ที่รวดเร็วที่สุด มันกระทั่งเร็วกว่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

หากฟางหยวนและคนอื่นๆพึ่งพาเพียงอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด ศาลาทรายเหินจะตามพวกเขาทันในไม่ช้า

อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้อยู่ในความคาดหมายของฟางหยวน ด้วยเหตุนี้เขาจึงใช้เวลาฝึกฝนค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศมาก่อนหน้านี้ แม้มันจะถูกรบกวนโดยค่ายกลวิญญาณของจื่อชิวหยู แต่มันก็ส่งผลกระทบไม่มาก ตอนนี้พวกเขากำลังจะใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศอีกครั้ง

ศาลาทรายเหินบินอยู่ใกล้กับทิวเขา มันสามารถใช้พลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานอมตะและเพิ่มความเร็ว

ภาคใต้เต็มไปด้วยภูเขา ดังนั้นศาลาทรายเหินจึงเหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำ

ขณะที่มันเคลื่อนที่ ทรายสีน้ำตาลจะลอยอยู่รอบตัวมันตลอดเวลา ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ นอกจากผู้อมตะตระกูลฮั่วยังมีผู้อมตะระดับแปดเฉิงอู๋เจีย

ตระกูลเฉิงเป็นหนึ่งในกองกำลังใหญ่ของภาคใต้ แน่นอนว่าพวกเขามีผู้อมตะระดับแปด

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิง เฉิงอู๋เจีย วางตัวเป็นกลางมาโดยตลอด พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกกองกำลังของภาคใต้

หากเป็นตระกูลอื่น ตระกูลฮั่วจะไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าสู่ศาลาทรายเหิน

“หือ?” การแสดงออกของเฉิงอู๋เจียเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อฟางหยวนและคนอื่นๆหายตัวไปจากการรับรู้ของเขา

“พวกเขาใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศงั้นหรือ?” หัวใจของเฉิงอู๋เจียสั่นสะท้านขึ้น จากนั้นแผนที่ของภาคใต้ก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

หลังจากรวมข้อมูลต่างๆเข้าด้วยกัน ในไม่ช้าเฉิงอู๋เจียก็สามารถอนุมานจุดหมายหลายแห่งที่ฟางหยวนอาจปรากฏตัวขึ้น

และพื้นที่เหล่านั้นล้วนมีผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้รออยู่ทั้งสิ้น

“แผนการของวูหยงไม่เลว” เฉิงอู๋เจียกล่าวเบาๆแต่หลังจากนั้นเขากลับขมวดคิ้ว

เขาตระหนักว่าด้วยวิธีนี้ฟางหยวนและคนอื่นๆจะถูกไล่ต้อนไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภาคใต้

และที่นั่นวูหยงกำลังรออยู่

บ้านไม้ไผ่สายลมอาจเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะอันดับหนึ่งของภาคใต้

อย่างไรก็ตามวูหยงกลับใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยไฟของตระกูลไท่เพื่อเดินทางไปที่นั่น

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้มีความสามารถในการตรวจสอบ ดังนั้นผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงได้รับข้อมูลเกี่ยวกับฟางหยวนอย่างรวดเร็ว

กล่าวได้ว่าฟางหยวนและคนอื่นๆเหมือนปลาที่ติดอยู่ในตาข่าย

ท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใส ผู้อมตะสี่คนปรากฏตัวขึ้น

พวกเขาก็คือกลุ่มของฟางหยวน

“นี่เป็นครั้งที่ห้าแล้ว”

“ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของข้าถูกใช้ไปมากมาก”

“สถานการณ์ค่อนข้างเลวร้าย ศัตรูรู้ตำแหน่งของเรา พวกเขาสามารถไล่ล่าและซุ่มโจมตีพวกเรา เราควรเปลี่ยนทิศทางและหลบหนีจากการตรวจสอบของพวกเขาหรือไม่?”

ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆพูดคุย

ฟางหยวนส่ายศีรษะ “ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่บนร่างของพวกเราคือสาเหตุที่แท้จริง พวกเขาจะตามพวกเราทันในไม่ช้าตราบเท่าที่พวกเรายังไม่ลบมันทิ้งไป แผนปัจจุบันของเราคือพยายามหลบหนีอกจากภาคใต้และไปยังทะเลทรายตะวันตกอย่างรวดเร็วที่สุด”

หากพวกเขาไปยังทะเลทรายตะวันตก วังสวรรค์จะไม่สามารถระดมกำลังรบและไล่ล่พวกเขาที่ทะเลทรายตะวันตกได้อย่างง่ายดาย

“ไป!” ฟางหยวนปล่อยอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดออกมาและออกคำสั่งมัน

ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศสามารถข้ามผ่านทางอันยาวไกล แต่มันเป็นค่ายกลวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นระยะการขนส่งของมันจึงไม่มากและสิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือมันใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของผู้อมตะ

“เศษซากของนิกายเงา พวกเจ้าจะไปที่ใด?” หลังจากบินมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง ฟางหยวนก็ได้ยินเสียงของวูหยง

“อา…” ใบหน้าของเทพธิดาเมี่ยวหยินกลายเป็นซีดเผือด

“ไม่ต้องกลัว นี่เป็นเพียงวิญญาณอมตะลมกระซิบ” ฟางหยวนตระหนักถึงสิ่งนี้

วิญญาณอมตะลมกระซิบสามารถส่งเสียงในวงกว้าง ในทางทฤษฎีมันสามารถส่งเสียงไปทั่วทั้งภาคใต้

อย่างไรก็ตามในไม่ช้าบ้านไม้ไผ่สายลมก็ปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้า

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้มีความเร็วที่น่าตกใจ

นั่นทำให้ระยะทางระหว่างฟางหยวนและวูหยงลดลงเรื่อยๆ

“ใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศ!” ฟางหยวนตระหนักถึงอันตราย

การเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปดไม่ปลอดภัยแม้จะอยู่ห่างไกลก็ตาม

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดถูกเก็บขณะที่ผู้อมตะทั้งสี่ใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศและหายตัวไปทันที

อย่างไรก็ตามเมื่อกลุ่มของฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง การแสดงออกของพวกเขากลับไม่น่ามอง

“เกิดสิ่งใดขึ้น? ระยะทางของการเคลื่อนย้ายสถานที่สั้นมาก มันยังไม่ถึงสิบส่วนของก่อนหน้า!”

เสียงของวูหยงดังขึ้นอีกครั้ง “พวกเจ้าติดอยู่ในกรงอากาศของข้า ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศของพวกเขาไม่สามารถใช้งานอีกต่อไป”

เมื่อเสียงสายนี้จบลง บ้านไม้ไผ่สายลมก็ปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้าอีกครั้ง

สมาชิกนิกายเงารู้สึกราวกับถูกกดทับโดยภูเขาหิน

สถานการณ์อันตราย

ผู้อมตะระดับแปดวูหยงปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบ้านไม้ไผ่สายลม!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท