เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1378

ตอนที่ 1378

กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าหอคอยดวงตาสวรรค์ยังพ่ายแพ้ต่ออาณาจักรแห่งความฝัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดศาลาริมทะเล

ทันทีที่มันถูกขังไว้ในอาณาจักรแห่งความฝัน ศาลาริมทะเลก็เริ่มพังทลายลง ผู้อมตะตระกูลอี้สูญเสียการควบคุมวิญญาณจำนวนมาก

สถานการณ์นี้ทำให้ผู้อมตะตระกูลอี้ตกใจมาก พวกเขาไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

พวกเขาเริ่มใช้วิธีการที่ทรงพลังที่สุดของศาลาริมทะเลโดยไม่ลังเล

ท่าไม้ตายอมตะท้องฟ้ามหาสมุทรไร้ขอบเขต!

ศาลาริมทะเลปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมาแต่มันยังไม่สามารถทะลุผ่านอาณาจักรแห่งความฝัน

อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายอมตะนี้ยังประสบความสำเร็จ ในวินาทีต่อมาศาลาริมทะเลก็หายไป

มันข้ามห้วงมิตินับหมื่นลี้และออกจากสนามรบได้อย่างฉิวเฉียด

ศาลาริมทะเลพังทลายลงและอยู่ในสภาพที่น่าสมเพช

ผู้อมตะตระกูลอี้สูดหายใจลึกขณะที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเหงื่อ

“พวกเรารอดแล้ว! อันตรายมาก! หากช้ากว่านี้เพียงเล็กน้อย เราจะติดอยู่ในกับดัก!”

“อาณาจักรแห่งความฝันน่ากลัวเกินไป กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ไม่สามารถต่อต้าน”

“ไม่แปลกใจเลยที่นักพยากรณ์กล่าวว่าเทพอมตะแห่งความฝันเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด”

“บัดซบ! เราไม่สามารถจับกุมนิกายเงา!”

ผู้อมตะตระกูลอี้กัดฟันแน่น ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว แม้พวกเขาจะกลับไป แต่สมาชิกนิกายเงาก็ยังสามารถใช้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเพื่อหลบหนี

พิจารณาถึงความแข็งแกร่ง ตระกูลอี้มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ด แม้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้ในเวลาอันสั้น ตระกูลอี้สามารถโจมตี ป้องกัน หรือล่าถอยได้อย่างอิสระ ในทางกลับกันฝ่ายของฟางหยวนไม่สามารถรวมพลังเหมือนคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

สิ่งที่ทำให้ตระกูลอี้มั่นใจคือตราบเท่าที่พวกเขาสามารถซื้อเวลา กำลังเสริมจะมาถึงในที่สุด

พวกเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะสร้างช้างน้ำขึ้นมาเพื่อการต่อสู้ที่ยาวนาน

แต่ฟางหยวนโต้กลับด้วยการใช้กายาแห่งความฝันสร้างอาณาจักรแห่งความฝันขึ้นมาและบังคับให้ผู้อมตะตระกูลอี้ต้องหลบหนี

พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าฟางหยวนจะเสียสละพันธมิตรของตนเองและกระทำเรื่องที่โหดร้ายถึงเพียงนี้

อีกประการก็คือฟางหยวนเปลี่ยนร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาลที่มีความเร็วสูงมาก

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบขณะที่เขาใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติเพิ่มความเร็วของมังกรดาบบรรพกาลขึ้นไปอีก

นี่ทำให้ผู้อมตะตะกูลอี้ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา

สุดท้ายพวกเขาจึงพบกับความพ่ายแพ้และความสูญเสียครั้งใหญ่

สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเขาสูญเสียใบหน้า พวกเขาจะเผชิญหน้ากับกำลังเสริมจากกองกำลังอื่นได้อย่างไร

ศาลาริมทะเลตกสู่ความเงียบงัน

หลังจากไม่นานผู้นำกลุ่มผู้อมตะตระกูลอี้จึงเปิดปากกล่าว “เราต้องซ่อมแซมศาลาริมทะเลอย่างรวดเร็ว แม้เราจะติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันมาก่อนหน้านี แต่วิญญาณอมตะไม่ได้รับความเสียหาย เราสามารถกู้คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้ในเวลาไม่นาน”

“ศัตรูทรงพลังมาก เขาสามารถควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือเขาไม่ลังเลที่จะเสียสละพันธมิตรของตนเอง นี้เป็นธรรมชาติที่โหดเหี้ยมเกินไป”

“เราพยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่เราไม่สามารถต่อต้านอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าต้องการต่อสู้กับปีศาจเหล่านั้น แต่หากมองในภาพรวม เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล่าถอยและส่งข้อมูลไปยังกองกำลังอื่นๆ”

ผู้นำกลุ่มผู้อมตะตระกูลอี้กล่าวอย่างช้าๆขณะที่คนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วย

ข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แต่คำพูดเหล่านี้ยังทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกที่แตกต่างออกไป

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มติดต่อวูหยงและกองกำลังฝ่ายธรรมะอื่นๆ

“กระไรนะ!? พวกเขาแพ้งั้นหรือ?”

“ไม่ใช่ว่าพวกเขามีศาลาริมทะเลงั้นหรือ? แล้วพวกเขาจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?”

“ฮ่าฮ่า ดูข้อแก้ตัวของพวกเขา ตระกูลอี้ช่างไร้ยางอายนัก”

“แต่เรามีข้อมูลแล้ว ตัวอย่างเช่นอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดและท่าไม้ตายเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาล…”

เมื่อท่าไม้ตายเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาลถูกกล่าวถึง กลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ต่างมองหน้ากัน

พวกเขาคิดถึงบางคนอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

หลิวกวนซื่อ!

“หลิวกวนซื่อเป็นปีศาจอมตะที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เจ้าคิดว่าสมาชิกนิกายเงาผู้นี้คือเขาหรือไม่?”

“ไม่ ท่าไม้ตายปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาลเป็นท่าไม้ตายทั่วไป นอกจากนี้ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน ชัดเจนว่าหลิวกวนซื่อเป็นศัตรูกับนิกายเงา”

“หลิวกวนซื่อเป็นคนเหนือขณะที่คนผู้นี้ปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะภาคใต้ออกมา แต่พวกเขาอาจมีวิธีการปกปิดกลิ่นอาย ตัวอย่างเช่นตระกูลวูที่มีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถเปลี่ยนกลิ่นอายของผู้อมตะ”

บางคนมองไปทางวูหยง

“ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือไม่ เราก็ต้องตามหาน้องชายของข้า วูอี้ไห่! ผู้ใดต้องการออกไปไล่ล่านิกายเงาพร้อมกับข้า?” วูหยงกล่าวอย่างจริงจัง

“ท่านวูหยงยังคงเป็นห่วงน้องชายเสมอ ข้ารู้สึกซาบซึ้งนัก”

“เราจะไป!”

“ข้ายินดีให้ความร่วมมือกับท่านวูหยง!”

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ตอบรับทีละคน

การต่อสู้ของวูหยงในค่ายกลวิญญาณแม่น้ำโลหิตสีม่วงถูกเผยแพร่ออกไปโดยไท่เมี่ยนเฉิน

ข้อมูลนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

ทุกการเคลื่อนไหวของผู้อมตะระดับแปดจะได้รับความสนใจจากทุกคนเสมอเพราะมันจะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อพวกเขา

วูหยงเป็นผู้อมตะระดับแปดและเป็นผู้นำตระกูลวู เขาเปิดเผยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังที่สี่ของตระกูลวูออกมา นี่ทำให้ผู้อมตะภาคใต้ตระหนักถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของเขา

นอกจากนี้ตระกูลวูยังครองตำแหน่งอันดับหนึ่งของภาคใต้มาตลอด ดังนั้นคำเรียกร้องของวูหยงจึงได้รับการตอบสนองจากผู้คนจำนวนมากในทันที

‘คนเหล่านี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก พวกเขาต้องการซ่อนอยู่ข้างหลังข้าและบังคับให้ตระกูลวูออกหน้า’ วูหยงลอบเย้ยหยัน

ในความเป็นจริงวูหยงต้องการแสวงหาผลประโยชน์แต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้

เขาต้องแสดงตัวเป็นวีรบุรุษของฝ่ายธรรมะ

น้องชายของเขาหายตัวไป ในฐานะพี่ชาย เขาต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยน้องชายผู้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของฟางหยวนที่อยู่ในห้องโถงบรรพชนของตระกูลวูยังไม่แตกสลาย

ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะผู้นำของฝ่ายธรรมะ เขาต้องควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด มิฉะนั้นศักดิ์ศรีของเขาและตระกูลวูจะตกต่ำลง

โดยธรรมชาติแล้วเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือฟาหงยวนยืมวิญญาณอมตะหกดวงไปจากตระกูลวู

วิญญาณอมตะหกดวง!

นอกจากนั้นยังมีหินวิญญาณอมตะอีกหนึ่งแสนก้อน!

วูหยงเป็นคนอนุญาตให้ฟางหยวนยืมวิญญาณอมตะทั้งหมดด้วยตนเอง ตอนนี้เมื่อวูอี้ไห่หายตัวไป ความรับผิดชอบจึงตกอยู่ที่วูหยง

หากวูหยงไม่ออกไล่ล่า เขาจะไม่มีคำอธิบายมอบให้กับกองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ นอกจากนั้นเขายังไม่สามารถอธิบายต่อตระกูลวู

ดั้งนั้นบ้านไม่ไผ่สายลมจึงนำผู้อมตะภาคใต้ออกเดินทางไล่ล่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

แม้ตระกูลอี้จะสูญเสียเบาะแสของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด แต่วูหยงยังมีวิธีอื่น

เขาส่งข้อความถึงตระกูลวู “ผู้อาวุโสวูฝานำวิญญาณอมตะออกมาจากคลังสมบัติและค้นหาตำแหน่งของวูอี้ไห่!”

วูฝาเป็นผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของวูหยง ดังนั้นเขาจึงรีบดำเนินการทันที

วูหยงรวบรวมข้อมูลของวังสวรรค์เช่นกัน แม้วังสวรรค์จะไม่โจมตีผู้อมตะภาคใต้ แต่พวกเขาก็ปล้นสะดมทรัพยากรก่อนจากไป

ผู้อมตะภาคใต้จะชำระบัญชีแค้นกับภาคกลางในอนาคต

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับวูหยงก็คือการช่วยวูอี้ไห่

วังสวรรค์ทรงพลังมาก มันเป็นเรื่องยากที่จะทวงคืนวิญญาณอมตะจากพวกเขา มันจะฉลาดกว่าที่พวกเขาจะไล่ล่านิกายเงาที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก นอกจากนี้ป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของวูอี้ไห่ก็ยังไม่ถูกทำลาย มีความเป็นไปได้ที่เขาจะถูกจับตัวไป

‘นิกายเงามีวิธีทำลายป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของข้าเพื่อสร้างข่าวลวงเรื่องการเสียชีวิตของข้า หากพวกเขาฆ่าวูอี้ไห่โดยทิ้งป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณเอาไว้ เป้าหมายของพวกเขาก็คือการหลอกล่อให้พวกเราไล่ล่าพวกเขา’

วูหยงคิดถึงความน่าจะเป็นนี้

อย่างไรก็ตามเขายังเลือกที่จะไล่ล่า

เพราะครั้งนี้เขาไม่ได้มาเพียงผู้เดียว ยังมีผู้อมตะระดับแปดจื่อชิวหยูและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกหลายหลัง นี่ทำให้วูหยงมีความมั่นใจแม้พวกเขาจะถูกซุ่มโจมตีโดยกองกำลังนิกายเงาก็ตาม

ต่อหน้าความแข็งแกร่งอันเป็นที่สุด แผนการทั้งหมดจะกลายเป็นไร้ประโยชน์

ในเวลาเดียวกัน อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกำลังโบยบินไปอย่างสุดกำลัง

บนแผ่นหลังของมัน ฟางหยวนนั่งไขว้ขาปิดเปลือกตาและลอบใช้วิญญาณอมตะอย่างลับๆ

วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋า!

ไม่นานหลังจากนั้นฟางหยวนก็หยุดใช้งานมัน การแสดงออกของเขากลายเป็นเคร่งขรึม ‘มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลจำนวนมากบนร่างของข้า ข้าอาจถูกโจมตีด้วยวิธีการบนเส้นทางแห่งข้อมูล ความน่าจะเป็นที่พวกมันจะมาจากผู้อมตะภาคใต้มีต่ำมาก มันต้องเป็นเทพธิดาจื่อเว่ยของวังสวรรค์’

‘ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าก็ต้องไปยังรอยแยกปล้นเงาอย่างรวดเร็วที่สุดและใช้วิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลเหล่านี้ทิ้งไป!’

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท