เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1397

ตอนที่ 1397

ผมสีดำหยักศกไหลลงมาที่ไหล่ของเขา

ด้วยริมฝีปากที่คมเหมือนใบมีด เขาแสดงออกอย่างเย็นชา

มันคือดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ย

ตอนนี้ดวงวิญญาณของเขาออกจากร่างกายาแห่งความฝันแล้วและกำลังลอยอยู่ในอากาศ

“ร่างนี้?” อิงอู๋เซี่ยขมวดคิ้วมองโลงศพน้ำแข็งที่อยู่ข้างหน้า

โลงศพน้ำแข็งปลดปล่อยพลังงานความเย็นออกมาตลอดเวลา มันโปร่งแสงเหมือนคริสตัลและกำลังผนึกร่างของผู้อมตะเอาไว้ภายใน

ร่างกายของนางมีขนาดเล็ก นางเหมือนเด็กหญิงตัวน้อยที่สวมชุดคลุมสีเขียวลายดอกไม้พร้อมกับตุ้มหูไข่มุกที่มีระลอกคลื่นอยู่ภายใน

ไป่หนิงปิงผนึกนางไว้ในโลงศพน้ำแข็ง กระทั่งความคิดของนางก็ถูกแช่แข็ง กล่าวได้ว่าชีวิตของนางอยู่ในกำมือของพวกเขา

ผู้อมตะหญิงผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใดนอกจากผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกที่ขาดความรู้และไม่สามารถหลบหนีจากฟางหยวน สุดท้ายจึงถูกจับโดยไป่หนิงปิง เทพธิดาซุ้ยป๋อ

เมื่อเห็นความลังเลของอิงอู๋เซี่ย ฟางหยวนเร่งกระตุ้น “ในสถานการณ์นี้เราจะหาร่างอื่นที่เหมาะสมกับเจ้าได้อย่างไร? ใช้ร่างนี้ไปก่อน”

อิงอู๋เซี่ยพยักหน้า “เห้อ…นี่เป็นวิธีเดียว มาเริ่มกันเถอะ”

ฟางหยวนโบกมือขวาและส่งวิญญาณอมตะระดับเจ็ดออกไป

วิญญาณอมตะดวงนี้เหมือนไข่หงส์ที่โปร่งแสง มันปลดปล่อยกลิ่นอายที่เย็นเยียบออกมา

แต่ความหนาวเย็นนี้แตกต่างจากโลงศพน้ำแข็งเพราะมันส่งผลกระทบต่อจิตวิญญาณโดยตรง

ดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ยสั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมเมื่อวิญญาณอมตะดวงนี้ปรากฏขึ้น

อีกด้านหนึ่งไป่หนิงปิงเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆด้วยความสนใจ

‘นี่คือวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณงั้นหรือ?’ ไป่หนิงปิงคิดกับตนเอง

มันคือวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณจริงๆ

วิญญาณอมตะดวงนี้มีประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างซับซ้อน

แรกเริ่มมันถูกหลอมรวมขึ้นมาโดยร่างแยกรุ่นแรกของเทพปีศาจจิตวิญาณ สีเขียว

จากนั้นมันถูกส่งต่อไปยังเทพธิดาโม่เหยาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

เพื่อช่วยคนรักของนาง เทพธิดาโม่เหยาใช้มันเพื่อสลับดวงวิญญาณของนางกับโป้ชิง

ดวงวิญญาณที่เหลืออยู่ของโป้ชิงซ่อนตัวอยู่ในถ้ำนรกใต้พิภพของภาคกลาง นิกายเงาพยายามรักษาเขา แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไป สุดท้ายเขาถูกจับโดยวังสวรรค์

ในเวลาเดียวกันดวงวิญญาณที่เหลืออยู่ของเทพธิดาโม่เหยาถูกทิ้งไว้ในร่างของผีดิบอมตะโป้ชิงพร้อมกับวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณและวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบทั้งหมดของโป้ชิง

หลังจากฟางหยวนไปที่น้ำตกสวรรค์ เขาได้รับวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณดวงนี้

แม้ฟางหยวนจะใช้แสงแห่งปัญญาช่วยปรับแต่งมันแต่เขาก็ไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับมัน

เพียงเมื่อเจตจำนงของเทพอมตะกลุ่มดาวชี้นำ ฟางหยวนจึงสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนวิญญาณ

ฟางหยวนสลับร่างกับอิงอู๋เซี่ยและประสบความสำเร็จในการยึดครองร่างทารกอมตะ

อาจกล่าวได้ว่าฟางหยวนสามารถพลิกสถานการณ์บนภูเขาอี้เทียนได้เพราะวิญญาณอมตะดวงนี้

ตอนนี้มันถูกใช้งานอีกครั้ง แต่คราวนี้ฟางหยวนไม่ได้ใช้มันจัดการนิกายเงา ตรงข้ามเขาใช้มันเพื่อช่วยนิกายเงา

เหตุการณ์ในชีวิตของผู้คนมักคาดไม่ถึงเสมอ

ก่อนหน้านี้ไม่ว่าฟางหยวนหรือนิกายเงา พวกเขาไม่เคยคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้

ภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณ ดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ยจึงถูกสลับกับดวงวิญญาณของเทพธิดาซุ้ยป๋อ

“พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด? พวกเจ้าทำสิ่งใดกับข้า?” ดวงวิญญาณของเทพธิดาซุ้ยป๋อออกจากร่างในโลงศพน้ำแข็งและกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

แม้จะไม่มีร่างกายแต่ดวงวิญญาณของนางยังสามารถกรีดร้อง แต่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถได้ยิน

แน่นอนว่าฟางหยวนเข้าใจ

เขามีวิญญาณที่สามารถฟังเสียงของดวงวิญญาณ

ฟางหยวนหัวเราะและโบกมือเบาๆไปที่ดวงวิญญาณของเทพธิดาซุ้ยป๋อ

ดวงวิญญาณของนางไม่สามารถต่อต้านและถูกดึงเข้าไปในมือของฟางหยวน

“ไม่!” นางกรีดร้องเสียงแหลม

ในเวลาต่อมานางก็ถูกนำเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ไป่หนิงปิงค้นวิญญาณของนางมาแล้วและไม่มีความลับเหลืออยู่ แต่ดวงวิญญาณของนางยังสามารถใช้งาน

นางมีประโยชน์ต่อภูเขาตงฮัน

ยิ่งเป็นผู้อมตะระดับสูงเท่าใด มันก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อภูเขาตงฮันมากเท่านั้น

ต้องขอบคุณมรดกของราชันภูเขาม่วงที่ทำให้ฟางหยวนมีวิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณมากมาย หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนดวงวิญญาณของผู้อมตะให้เป็นอสูรวิญญาณร่างมนุษย์

ดวงวิญญาณของผู้อมตะหญิงระดับเจ็ดซุ้ยป๋อจะกลายเป็นอสูรวิญญาณระดับสัตว์อสูรบรรพกาล

ด้วยการเปลี่ยนนางให้เป็นอสูรวิญญาณ นางจะเชื่อฟังและภักดีต่อฟางหยวนโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งทาสใดๆ

หลังจากกลายเป็นผู้นำนิกายเงา ฟางหยวนได้เรียนรู้ท่าไม้ตายมากมายที่มีประโยชน์

แต่ตอนนี้ฟางหยวนกำลังเผชิญหน้ากับการไล่ล่าของศัตรู เขาไม่มีเวลาเรียนรู้พวกมัน

หลังจากนั้นไป่หนิงปิงก็ปลดผนึกโลงศพน้ำแข็งและปล่อยร่างของเทพธิดาซุ้ยป๋อออกมา

หรือกล่าวให้ถูกต้องก็คืออิงอู๋เซี่ยในร่างของเทพธิดาซุ้ยป๋อ

“หนาวมาก” อิงอู๋เซี่ยพึมพำ ร่างของเขายังถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง

ไป่หนิงปิงโบกมือเบาๆและทำให้ชั้นน้ำแข็งบนร่างของอิงอู๋เซี่ยหายไป

อิงอู๋เซี่ยแสดงความขอบคุณก่อนจะรับวิญญาณจำนวนมากจากฟางหยวน

“ท่านยังต้องการให้ข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันอีกงั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยเห็นวิญญาณเหล่านี้และรู้สึกประหลาดใจ

“เก็บพวกมันไว้ ข้าเข้าใจท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันแล้ว ท่าไม้ตายนี้ซับซ้อนเกินไป ข้าไม่สามารถควบคุมมันได้ในเวลาอันสั้น เราถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบของวังสวรรค์ เราต้องการความแข็งแกร่งของเจ้า!” ฟางหยวนกล่าวอย่างช้าๆ

อิงอู๋เซี่ยพยักหน้า ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้นขณะที่เขากำหมัดแน่น “ท่านผู้นำกล่าวได้ถูกต้อง ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”

ไป่หนิงปิงมองด้วยความสงสัย

แม้อิงอู๋เซี่ยจะสามารถเรียกขวัญกำลังใจของตนกลับคืน แต่บุคลิกของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไป

ฟางหยวนพยักหน้า เขาเข้าใจเรื่องนี้

ท่าไม้ตายอมตะจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้พุ่งทะยานเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งปัญญาเกี่ยวข้องกับความคิด เจตจำนง และอารมณ์ความรู้สึก สิ่งนี้ทำให้บุคลิกของอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย นี่เป็นเรื่องปกติ

“ท่านผู้นำ เราจะทำอย่างไรต่อไป? โปรดออกคำสั่ง!”

“แม้เราจะโจมตีวังสวรรค์ ข้าก็จะตามท่านไป!”

“บัดซบ! พวกวายร้ายฝ่ายธรรมะ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!”

อิงอู๋เซี่ยกล่าวด้วยความตื่นเต้นและทำให้หน้าอกที่ใหญ่โตของนางเด้งขึ้นลงอย่างดุเดือด

ฟางหยวนไต่รตรอง ‘วังสวรรค์เป็นปัญหาใหญ่ พวกเขารู้ข้อมูลของเราและจะส่งผู้อมตะที่แข็งแกร่งออกมาไล่ล่าพวกเราอย่างแน่นอน’

ฟางหยวนคิดเรื่องนี้และขมวดคิ้ว

เขานึกถึงฟงจิวเก้อ

ฟงจิวเก้อกล่าวว่าเขากำลังไล่ล่าวิญญาณอมตะที่เกี่ยวข้องกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์

แต่การพบกันของพวกเขาบังเอิญเกินไป

ฟงจิวเก้อเป็นแผนสำรองของวังสวรรค์หรือไม่?

เหมือนใช่และไม่ใช่

ฟางหยวนคิดต่อ ‘หากข้าเป็นวังสวรรค์ ข้าจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อกำจัดกองกำลังที่เหลืออยู่ของนิกายเงา การส่งฟงจิวเก้อมาไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีที่สุด’

ฟางหยวนไม่เข้าใจสิ่งนี้

มีโอกาสน้อยที่วังสวรรค์จะทำเรื่องผิดพลาด

วังสวรรค์ต้องการกวาดล้างนิกายเงาและใช้วิธีที่รุนแรงที่สุดเสมอ ครั้งแรกคือบนภูเขาอี้เทียนและครั้งที่สองคือการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน

การต่อสู้ทั้งสองครั้งทำให้นิกายเงาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

‘วังสวรรค์ทำพลาดงั้นหรือ? ไม่ บางทีอาจมีบางสิ่งที่ข้าไม่รู้’ ฟางหยวนคิด

ในเวลาเดียวกัน มีบางคนพุ่งออกมาจากกำแพงภูมิภาคและมาถึงทะเลทรายตะวันตก

เขาก็คือฟงจิวเก้อ!

‘ผู้อมตะระดับแปดสามารถข้ามผ่านกำแพงภูมิภาคได้ง่ายขึ้นในเวลานี้’ ฟงจิวเก้อมองกลับไปด้านหลัง

วังสวรรค์ส่งผู้อมตะระดับแปดสองคนไปยังภาคใต้เพื่อหยุดการต่อสู้ระหว่างฟงจิวเก้อและวูหยง

วังสวรรค์ส่งคืนวิญญาณอมตะของฝ่ายธรรมะภาคใต้ขณะที่วูหยงได้รับบาดเจ็บ นั่นทำให้เขายอมรับผลลัพธ์นี้และจากไป

“ฟงจิวเก้อ เจ้าสาบานตนแล้ว จากนี้ไปจงไล่ล่าฟางหยวนและนิกายเงา”

“วังสวรรค์ให้เจ้ายืมวิญญาณอมตะระดับแปดเหล่านี้ ในอนาคตเจ้าจะสามารถเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปดได้ง่ายขึ้น”

“แต่สำหรับฟางหยวน เจ้าต้องระวังสิ่งหนึ่ง” ผู้อมตะระดับแปดเตือนฟงจิวเก้อ

ฟงจิวเก้อถาม “หมายความว่าอย่างไร?”

ผู้อมตะระดับแปดกล่าวด้วยดวงตามืดครึ้ม “ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ เขาต้องถูกกำจัด แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย”

“ฟางหยวนมีวิญญาณกาลเวลาและตอนนี้เขากลายเป็นผู้นำนิกายเงา เขาจะมุ่งหน้าไปยังสายธารแห่งกาลเวลาและรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงอย่างแน่นอน”

“มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงถูกซ่อนไว้ที่นั่น”

“ไล่ล่าฟางหยวนและบังคับให้เขาค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงก่อนจะกำจัดเขาและนำมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงกลับมา”

ดวงตาของฟงจิวเก้อส่องประกายขึ้น เขาเข้าใจเป้าหมายที่แท้จริงของวังสวรรค์ในที่สุด

“ฟางหยวน มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง…”

ฟงจิวเก้อพึมพำขณะที่บินข้ามผ่านท้องฟ้าและมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท