เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1392

ตอนที่ 1392

วูหยงล่าถอย แต่ฟางหยวนและฟงจิวเก้อกลับไม่มีความสุข

ฟางหยวนและฟงจิวเก้อต่างหวังว่าวูหยงจะต่อสู้กับพวกเขาจนตายกันไปข้างหนึ่ง

แต่วูหยงไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาเลือกที่จะล่ถอยอย่างมีเหตุผลและชาญฉลาด

เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะ แต่ต่อสู้กับผู้อมตะระดับเจ็ดสองคน เขากลับต้องล่าถอย

หากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป วูหยงจะสูญเสียชื่อเสียงบางส่วน

เหตุผลที่มันเป็นเพียงบางส่วนเพราะเขาต่อสู้กับฟงจิวเก้อและหลิวกวนซื่อที่มีชื่อเสียง

วูหยงต้องใช้ความกล้าหาญเป็นอย่างมากในการทำเรื่องนี้

แน่นอนว่าเขามีสติปัญญาที่ยอดเยี่ยม

ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสายลมทั้งสี่ถูกทำลาย วูหยงพบฟันเฟือนของความล้มเหลวและได้รับบาดเจ็บสาหัส

แต่ด้วยการคงอยู่ของบ้านไม้ไผ่สายลม เขายังสามารถต่อสู้

อย่างไรก็ตามฟงจิวเก้อสามารถเคลื่อนไหวขณะใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา นอกจากนั้นฟางหยวนยังเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสม

นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม

วูหยงสามารถล่าถอยได้ตามต้องการ เขาไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับฟางหยวนและฟงจิวเก้ออย่างสิ้นหวัง เขาสามารถรอโอกาสที่ดีกว่าในภายหลัง

แม้ฟางหยวนจะมีเกราะหวนคืนขณะที่ฟงจิวเก้ออาจมีท่าไม้ตายเขตแดนอมตะแต่เขาก็ไม่สามารถกักตัววูหยงเพราะฝ่ายหลังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบ้านไม้ไผ่สายลม

แม้ฟางหยวนกับฟงจิวเก้อจะร่วมมือกันแต่มันยังมีช่องว่างขนาดใหญระหว่างพวกเขากับวูหยง

หากมีเพียงวูหยง พวกเขาอาจมีความหวังที่จะได้รับชัยชนะ

แต่วูหยงมีบ้านไม้ไผ่สายลม พลังการต่อสู้ของพวกเขาแตกต่างกันมาก

“ฟางหยวน ไปซะ” ฟงจิวเก้อกล่าวกับฟางหยวน

เขากล่าวอย่างชัดเจน

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง

ฟงจิวเก้อมองฟางหยวนอย่างลึกซึ้ง เขาไม่แสดงอารมณ์แต่ในไม่ช้าเขาก็หันหน้าไปทางจุดสีดำที่เส้นขอบฟ้า

มันคือบ้านไม้ไผ่สายลม!

“ครั้งก่อนเจ้าช่วยชีวิตข้า วันนี้ข้าจะช่วยชีวิตเจ้า จากนี้ไปบุญคุณถูกชดใช้อย่างสมบูรณ์แล้ว” ฟงจิวเก้อกล่าว

ฟางหยวนขมวดคิ้ว “นั่นไม่ถูกต้อง หากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของข้า วูหยงคงฆ่าเจ้าไปแล้ว เจ้าช่วยข้า ข้าก็ช่วยเจ้า เจ้ายังติดหนี้บุญคุณข้า”

แต่ฟงจิวเก้อกลับกล่าวต่ออย่างแผ่วเบา “หากข้าบอกว่าไม่ติดหนี้ มันก็หมายความว่าหัวใจของข้าสงบสุข ข้าไม่มีภาระผูกพันเหลืออยู สิ่งที่เจ้าคิดเป็นเรื่องของเจ้าไม่เกี่ยวกับข้า จำไว้ว่าหากข้ารอดไปได้ ข้าจะไล่ล่าเจ้า แม้เจ้าจะหนีไปสุดขอบโลก ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป ระวังตัวด้วย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะ

เขาเข้าใจเจตนาของฟงจิวเก้อ

ฟงจิวเก้อช่วยเขาเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่วิธีนี้ขัดต่อสถานะผู้อมตะฝ่ายธรรมะของเขา มันยังจะทำให้ภรรยาและบุตรสาวของเขาตกอยู่ในสภาวะที่น่าอึดอัดใจ

ดังนั้นหลังจากฟงจิวเก้อช่วยฟางหยวน เขาจึงต้องไล่ล่าและฆ่าฝ่ายหลังเพื่อพิสูจน์ความภักดีของตนรวมถึงปกป้องภรรยาและบุตรสาว

“เอาล่ะ คราวหน้าที่เราพบกัน เราจะเป็นศัตรู” ฟางหยวนกล่าวขณะเปิดทางเข้าออกมิติช่องว่างและนำกลุ่มของไห่ลั่วหลันออกมา

ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศ!

ฟงจิวเก้อไม่ตอบสนอง เขาไม่แม้แต่จะหันหลังกลับแต่บินเข้าไปหาวูหยงโดยตรง

หากฟางหยวนใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเพื่อหลบหนี วูหยงอาจไล่ล่า ดังนั้นเพื่ตอบแทนบุญคุณ ฟงจิวเก้อจึงต้องอยู่ที่นี่เพื่อกีดขวางบ้านไม้ไผ่สายลม

วูหยงรู้สึกขมขื่นเมื่อเห็นฟางหยวนจากไป

เขาเสียใจเล็กน้อย หากเขาไม่ได้มาที่นี่เพียงลำพัง เขาจะสามารถจัดการทั้งฟางหยวนและฟงจิวเก้อ

แต่เขาไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของตระกูลวูเสียหาย ดังนั้นเขาตัดสินใจมาที่นี่เพียงผู้เดียว

สถานที่แห่งนี้ไม่ไกลจากทะเลทรายตะวันตก

อาจกล่าวได้ว่าการหลบหนีของฟางหยวนจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

“ข้าประมาทเกินไป!”

“ข้าไม่คิดว่าวังสวรรค์จะช่วยปีศาจฟางหยวน!”

วูหยงมองฟงจิวเก้อที่บินเข้ามาและแสดงออกอย่างเย็นชา

นี่คือคนที่ทำลายแผนการของวูหยง เขาสมควรตาย!

แต่…

ฝ่ายตรงข้ามมีพรสวรรค์และสถานะสูงส่ง วูหยงลังเลเล็กน้อย

การจับตัวฟงจิวเก้อมีประโยชน์มากกว่าการสังหาร

หากเขาสังหารฟงจิวเก้อ วูหยงจะกลายเป็นศัตรูของวังสวรรค์และภาคกลาง ขณะที่วังสวรรค์เก็บความลับเรื่องวูอี้ไห่เอาไว้

หากฟงจิวเก้อถูกจับ วูหยงจะสามารถเจรจากับภาคกลางโดยใช้คนผู้นี้เป็นเครื่องมือต่อรอง

ในความเป็นจริงวูหยงคิดเรื่องนี้มาตลอด หากเขาต้องการฆ่าฟงจิวเก้อตั้งแต่แรก เขาจะไม่โจมตีในลักษณะนั้น

วูหยงไม่ใช่มือสังหาร เขาเป็นผู้นำกองกำลังใหญ่ เขาต้องพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่าง มันไม่ใช่เพียงการต่อสู้แต่เขาต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา

ท่าไม้ตายอมตะเพลงแยก!

ฟงจิวเก้อใช้ท่าไม้ตายอมตะนี้อีกครั้ง

วูหยงก่นเสียงเย็น ตอนนี้วูหยงเพิ่มวิญญาณหลายดวงเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม้ไผ่สายลม ดังนั้นมันจึงทนทานกว่าก่อนหน้า

การต่อสู้ที่ดุเดือดยังดำเนินต่อไป

วูหยงเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่เขายังได้รับบาดเจ็บสาหัส

เผชิญหน้ากับบ้านไม้ไผ่สายลม ฟงจิวเก้อทำได้เพียงต่อสู้จากระยะไกลโดยใช้พลังอำนาจของเพลงแยกเท่านั้น

วูหยงเป็นนักวางแผน เพียงเมื่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะถูกแยกชิ้นส่วนออกไปถึงระดับหนึ่ง เขาก็จะล่าถอยออกไปเพื่อซ่อมแซมมันก่อนจะหวนกลับมาอีกครั้ง

เพลงแยกของฟงจิวเก้อไม่มีพลังโจมตีแต่มันทำให้วิญญาณกระจัดกระจายออกไป วูหยงสามารถรวบรวมพวกมันได้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว

ปัญหาเดียวของวูหยงก็คือการประกอบร่างคฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่การต่อสู้ครั้งนี้ถูกกำหนดแล้ว

ฟงจิวเก้อไม่สามารถเอาชนะ

หากพวกเขาต่อสู้กันจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง ฟงจิวเก้อยังมีโอกาสได้รับชัยชนะ

แต่วูหยงไม่ใช่คนโง่หรือบ้าบิ่น เขาสามารถล่าถอยและกลับมาได้ตามปรารถนา

กระทั่งอัจฉริยะเช่นฟงจิวเก้อก็ยังไม่มีความหวังที่จะได้รับชัยชนะ

ในเวลาเดียวกัน เทพธิดาจื่อเว่ยกำลังเฝ้ามองการต่อสู้ของฟงจิวเก้อและวูหยงผ่านกระดานหมากรุกกลุ่มดาว

“ถึงเวลาแล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยพึมพำ

ปรากฏว่าการเผชิญหน้าของฟงจิวเก้อกับวูหยงเป็นแผนการของเจตจำนงของเทพอมตะกลุ่มดาว ด้วยความช่วยเหลือจากวังสวรรค์ ฟงจิวเก้อที่กำลังไล่ล่าปีศาจอมตะกลับพบฟางยวนโดยบังเอิญ

กระทั่งฟงจิวเก้อยังถูกขังไว้ในที่มืด

ในความเป็นจริงแม้แต่วังสวรรค์ยังรู้สึกสับสนและไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเจตจำนงของเทพอมตะกลุ่มดาวถึงวางแผนเช่นนี้

กลิ่นอายที่ทรงพลังของฟงจิวเก้อลดลงอย่างมาก เขาได้รับบาดเจ็บ เขาสามารถโจมตีได้อีกครั้งเดียว

ในทางตรงข้ามวูหยงที่อยู่ในบ้านไม้ไผ่สายลมยังอยู่ในสภาพที่ดี

สู้และถอย

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุด กลยุทธ์ที่เหมาะสมของวูหยงทำให้เขาสามารถเอาชนะฟงจิวเก้อ

“ฟงจิวเก้อ หากเจ้ายอมจำนน ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าและส่งเจ้ากลับภาคกลางเพื่อรอการพิพากษาจากวังสวรรค์” วูหยงกล่าวเสียงดัง

ฟงจิวเก้อยิ้ม “โอ้ วูหยง หากเจ้าสามารถรับการโจมตีต่อไปของข้า ข้าจะยอมแพ้เจ้า”

การแสดงออกของวูหยงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ถึงจุดนี้ฟงจิวเก้อยังมีไพ่ตายเหลืออยู่!

“ย้อนกลับไปในวันนั้น เหตุผลที่ข้ามีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับว่าข้ามีพลังการต่อสู้ระดับแปดเป็นเพราะท่าไม้ตายนี้ ฟังให้ดี บทเพลงที่เจ็ดของข้า…”

“หยุดก่อน ฟงจิวเก้อ!” เป็นเพียงเวลานี้ที่สองร่างปรากฏขึ้นในสนามรบ

ทั้งสองต่างเป็นผู้อมตะระดับแปด

พวกเขาคือผู้อมตะจากสิบนิกายโบราณของภาคกลาง!

“หือ?” วูหยงประหลาดใจ แท้จริงแล้ววังสวรรค์ยังมีไพ่ที่ซ่อนอยู่ สิ่งนี้อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายของเขา

ในความคิดเห็นของวูหยง หากพวกเขามีกำลังเสริม เหตุใดพวกเขาไม่ใช้มันก่อนหน้านี้?

“เป็นเพราะพวกเขามาไม่ทันงั้นหรือ?” วูหยงคาดเดา

วูหยงเย้ยหยัน “คนภาคกลาง พวกเจ้ามาในจังหวะที่ดี พวกเจ้าไม่เพียงฉกชิงวิญญาณอมตะของภาคใต้ แต่สมาชิกของพวกเจ้ายังปกป้องปีศาจ!”

วูหยงไม่กลัว

เขาได้รับการปกป้องจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะและมีผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้เป็นกำลังเสริม

แต่ผู้อมตะภาคกลางทั้งสองเตรียมตัวมาแล้ว

หนึ่งในนั้นกล่าว “แม้เราจะอยู่ต่างภูมิภาค แต่เราทุกคนล้วนเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะ เราต้องทำงานร่วมกัน เรานำวิญญาณอมตะออกไปก่อนหน้านี้เพราะเกรงว่าปีศาจจะทำลายพวกมัน เราพร้อมที่จะส่งคืนวิญญาณอมตะเหล่านั้นกลับไปยังเจ้าของเดิม”

“โอ้?” วูหยงรู้สึกประหลาดใจ

อีกคนกล่าวต่อ “สำหรับการปกป้องปีศาจ เราจะจัดการเรื่องนี้ ฟงจิวเก้อ เจ้าเต็มใจที่จะรับคำสั่งจากวังสวรรค์และไล่ล่าฟางหยวนจนกว่าเจ้าจะสามารถเอาชีวิตของเขาหรือไม่?”

ฟงจิวเก้อคิดก่อนตอบ

“ข้าเต็มใจ”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท