เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1411

ตอนที่ 1411

นี่คือห้องโถงสีทองแดง

กลางห้องโถงมีโคมไฟโลหะตั้งอยู่

เปลวไฟที่อ่อนโยนส่องสว่างอยู่ในความมืด

ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มร่างผอมยืนอยู่บนกระเบื้องที่มีเสาสีแดงขนาดใหญ่อยู่รอบๆ

ร่างของผู้ใช้วิญญาณหนุ่มถูกซ่อนอยู่ในความมืดครึ่งหนึ่ง

เขาก็คือฮันหลี่

หน้าผากของฮันหลี่ปกคลุมไปด้วยเหงื่อ เขาเต็มไปด้วยความกังวล

‘ข้ามั่นใจเกินไป!’

‘ผู้อาวุโสเจิ้งหยวนซืออาจเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะ แต่คนเช่นข้ายังไม่มีคุณสมบัติรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเขา’

‘ข้ามาถึงจุดนี้โดยใช้พลังทั้งหมดแล้ว บางขั้นตอนข้าก็ผ่านมาด้วยโชค!’

ฮันหลี่ผ่านสิ่งต่างๆมามากมาย เขาเข้าใจถึงอันตรายของห้องโถงแห่งนี้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกหวาดกลัว

แท้จริงแล้วการสืบทอดมรดกของฝ่ายธรรมะมักไม่มีอันตราย มีเพียงมรดกของฝ่ายปีศาจที่เต็มไปด้วยกลอุบายที่ชั่วร้าย

แม้การทดสอบของผู้อมตะเจิ้งหยวนซือจะอันตราย แต่ไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วงสำหรับผู้อมตะ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์เช่นฮันหลี่ มันอันตรายมาก

ฮันหลี่เป็นคนโชคดีและด้วยการเชื่อมโยงโชคกับฟางหยวน การบ่มเพาะของเขาจึงพุ่งทะยานขึ้นถึงระดับสี่อย่างรวดเร็ว

ความเร็วในการบ่มเพาะดังกล่าวโดยปราศจากความช่วยเหลือจากผู้อมตะหาได้ยากมาก

ฮันหลี่ยืนอยู่ตรงจุดนั้นและไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า เขาหันหลังกลับไปมองเส้นทางที่เขาเข้ามาและต้องการล่าถอย

มรดกที่แท้จริงของผู้อมตะเจิ้งหยวนซือเกินความสามารถเขาเข้า แม้มันจะดึงดูดใจ แต่ฮันหลี่ตระหนักถึงความจริงแล้ว

เขาคิดก่อนจะเริ่มก้าวถอยหลัง

วินาทีต่อมาวิสัยทัศน์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไป

‘ข้าไปข้างหน้างั้นหรือ?’

ฮันหลี่มองไปรอบๆด้วยใบหน้าซีดเผือด

เขาพบว่าตนเองก้าวไปข้างหน้ามากกว่าสิบก้าว

เขาเข้าใกล้โคมไฟโลหะมากขึ้น

ตราบเท่าที่เขาไปถึงที่นั่น ฮันหลี่จะสามารถรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเจิ้งหยวนซือ

แต่ฮันหลี่ตัดสินใจล่าถอยแล้ว

ความก้าวหน้าของเขาเป็นเรื่องบังเอิญ เขาไม่ได้ตั้งใจทำมัน ความตั้งใจแท้จริงของเขาคือการหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้แต่มันกลับกลายเป็นการก้าวไปข้างหน้า

เห็นได้ชัดว่าหากเขาเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าหรือทิศทางอื่น ผลลัพธ์จะเป็นหายนะ

ฮันหลี่ในฐานะผู้บ่มเพาะสันโดษไม่มีรากฐานบนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาไม่รู้สิ่งใดเลย

เขามาที่นี่ได้เพียงเพราะความเฉลียวฉลาด การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว และโชคเท่านั้น

จากองค์ประกอบเหล่านี้ โชคมีส่วนสำคัญที่สุด

สิ่งนี้ทำให้ฮันหลี่รู้สึกไม่มั่นใจ

เพราะโชคไม่สามารถเชื่อถือ

‘เห้อ…ตอนนี้ข้ากำลังเดิมพันชีวิต…ดูเหมือนการไปทางขวาจะปลอดภัยกว่า’ ตอนนี้ฮันหลี่ทำได้เพียงพึ่งพาความรู้สึกเท่านั้น

แต่เมื่อเขาก้าวออกไป วิสัยทัศน์ของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ผลลัพธ์น่าตกใจมากเพราะเขายังก้าวไปข้างหน้าอีกหลายสิบก้าว

ตอนนี้โคมไฟโลหะอยู่ใกล้มาก ฮันหลี่แทบสามารถสัมผัสมันด้วยการยื่นมือออกไป

แน่นอนว่ายังมีระยะห่างอีกเล็กน้อย

ฮันหลี่ลังเล

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้ เขารู้สึกหวั่นไหวอย่างไม่ต้องสงสัย ท้ายที่สุดความสำเร็จก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

‘นี่ถูกต้องหรือไม่?’ ฮันหลี่ครุ่นคิดด้วยความยากลำบาก

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ในการรับรู้ของเขา เขารู้สึกว่ามันผ่านไปเพียงชั่วครู่

การตัดสินใจที่ยากลำบากทำให้เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเขา แต่สุดท้ายเหตุผลก็เอาชนะความโลภ

‘คนผู้หนึ่งจะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าไปบนถนนแห่งการบ่มเพาะได้อย่างไร?’ ฮันหลี่สูดหายใจลึกและสงบจิตใจลง

เขาเริ่มหาทางหลบหนีอีกครั้ง

ห้องโถงแห่งนี้คือค่ายกลวิญญาณ ปัจจุบันฮันหลี่อยู่ที่จุดศูนย์กลางของมัน

อย่างไรก็ตามเส้นทางล่าถอยเห็นได้ชัดเจนมากในเวลานี้

กระทั่งฮันหลี่ก็ยังสามารถบอกได้

ฮันหลี่ตัดสินใจก้าวไปยังทิศทางนั้น

‘ข้าหวังว่ามันจะเป็นการเดินทางที่ราบรื่น’ ฮันหลี่คิดขณะที่วิสัยทัศน์ของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง

เขาตกใจมากเมื่อพบว่าเขาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าโคมไฟโลหะ!

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฮันหลี่ไม่เข้าใจ

เสียงแก่ชราดังขึ้นในใจของฮันหลี่ “ไม่เลว ไม่เลว เจ้าโชคดีมาก เจ้าสามารถผ่านอุปสรรคมาถึงที่นี่ นี่แสดงว่าเจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงนี้”

ฮันหลี่ตกตะลึง “ข้า…ข้าจะได้รับมันจริงๆงั้นหรือ!?”

เสียงสายเดิมดังขึ้นอีกครั้ง “ฮ่าฮ่า นี่คือความตั้งใจของเจิ้งหยวนซือ เมื่อเขาสร้างค่ายกลวิญญาณนี้ ทุกการตัดสินใจที่จะเข้าใกล้โคมไฟโลหะจะเป็นเส้นทางที่ผิด มีเพียงผู้อมตะที่มีสติปัญญาและมีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลอันลึกซึ้งเท่านั้นที่จะเข้าใจสิ่งนี้ ทางเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้าคือการถอยหลัง แต่บางคนที่รู้ว่าเมื่อใดควรถอย พวกเขาก็มีโอกาสรับมรดกที่แท้จริงเนื่องจากความฉลาดของพวกเขาเช่นกัน”

ฮันหลี่เข้าใจในที่สุด “นี่หมายความว่าข้าเป็นประเภทที่สอง แล้วท่านไม่ใช่เจตจำนงของผู้อาวุโสเจิ้งหยวนซือเช่นนั้นหรือ?”

“ไม่อย่างแน่นอน ข้าคือจิตวิญญาณค่ายกล ข้าถูกสร้างขึ้นโดยท่านเจิ้งหยวนซื่อ ไม่มีผู้ใดรู้จักข้า” เสียงสายเดิมยังกล่าวต่อ

ฮันหลี่ไม่เข้าใจ “จิตวิญญาณค่ายกล?”

“เจ้าไม่เข้าใจงั้นหรือ? แดนศักดิ์สิทธิ์มีจิตวิญญาณแผ่นดิน ถ้ำสวรรค์มีจิตวิญญาณสวรรค์ ค่ายกลวิญญาณอมตะก็สามารถมีจิตวิญญาณค่ายกล หือ? เหตุใดเจ้าถึงเป็นผู้ใช้วิญญาณ? เจ้าไม่ใช่ผู้อมตะงั้นหรือ!?” จิตวิญญาณค่ายกลอุทานออกมาอย่างกะทันหัน

“ขอโทษด้วย ข้ามาที่นี่โดยบังเอิญ หากข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะรับสืบทอดมรดกนี้ ข้าจะออกไปได้หรือไม่?” ฮันหลี่ยิ้มเจื่อน

จิตวิญญาณค่ายกลกล่าวเสียงดัง “นี่มันแย่มาก! ท่านเจิ้งหยวนซือวางแผนที่จะมอบมรดกให้ผู้อมตะ แต่เจ้าไม่มีพลังงานอมตะ เจ้าไม่สามารถกดขี่สัตว์อสูรแรกกำเนิดภูตราชสีห์ เมื่อเจ้าได้รับมรดกที่แท้จริง ค่ายกลวิญญาณนี้จะพังทลายลง แต่เจ้าไม่สามารถกำหราบภูตราชสีห์ตัวนี้ หนี? ไม่ เจ้าไม่สามารถหลบหนี เจ้าจบแล้ว ผู้ใดจะคิดว่าเจ้านายคนใหม่ของข้าที่พึ่งได้รับมรดกที่แท้จริงกำลังจะตายเช่นนี้!”

“ไม่ ต้องมีทาง!” ฮันหลี่ไม่ต้องการยอมแพ้

“ไม่มีความหวัง ความแข็งแกร่งแตกต่างกันมากเกินไป เห้อ…” จิตวิญญาณค่ายกลมองโลกในแง่ร้ายมาก

เช่นเดียวกับที่มันกล่าว ค่ายกลวิญญาณเริ่มแยกออกจากกัน ห้องโถงเริ่มสูญสลายไป

สภาพแวดล้อมที่แท้จริงของมันเผยตัวออกมา

ที่นี่คือหลุมขนาดใหญ่ใต้ทะเลทราย

ทรายจำนวนมากเริ่มตกลงมา โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากค่ายกลวิญญาณอมตะ ถ้ำแห่งนี้เริ่มพังทลายลง

ไม่มีเส้นทางหลบหนีสำหรับฮันหลี่

ด้านหน้าเขามีภูตราชสีห์ตัวใหญ่โตนอนอยู่บนพื้น

ตอนนี้มันกำลังหลับ หากเขาเป็นผู้อมตะ เขาจะสามารถกำหราบมันได้ด้วยแผนการที่จัดเตรียมไว้โดยเจิ้งหยวนซือ แม้เขาจะไม่สามารถกำหราบมัน แต่เขาก็ยังสามารถทำให้มันนอนหลับต่อไป

กล่าวได้ว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในบททดสอบของเจิ้งหยวนซือ

ภูตราชสีห์เป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิด หากผู้สืบทอดมีความแข็งแกร่งเพียงพอ พวกเขาจะสามารถควบคุมภูตราชสีห์ตัวนี้

แต่ฮันหลี่ไม่ใช่

ไม่เพียงเท่านั้น เขากระทั่งอาจจะถูกมันกินเป็นอาหาร

ทรายยังร่วงหล่นลงมาตลอดเวลา ทรายที่ตกลงบนร่างกายของภูตราชสีห์ปลุกมันให้ตื่นขึ้น

ฮันหลี่โจมตีอย่างดุเดือด แต่ท่าไม้ตายของเขาราวกับสายลมอ่อนที่พัดไปยังภูตราชสีห์และไม่มีอันตรายต่อมัน

ภูตราชสีห์กระโจนร่างออกมาข้างหน้าและอ้าปากกลืนร่างของฮันหลี่เข้าไปในครั้งเดียว

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท