เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1413

ตอนที่ 1413

ภูตราชสีห์!

สิงโตตัวนี้กินดวงวิญญาณเป็นอาหาร

ในยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันถือเป็นสัตว์อสูรที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ในยุคปัจจุบันมันเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่หาได้ยาก

แท้จริงแล้วภูตราชสีห์เป็นคู่ต่อสู้ที่ยากลำบากของเทพปีศาจจิตวิญญาณในวัยหนุ่ม

เพราะมันสามารถต่อต้านวิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ก่อนที่เทพปีศาจจิตวิญญาณจะกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้า เขาใช้เพียงวิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเท่านั้น

อย่างไรก็ตามหลังจากเทพปีศาจจิตวิญญาณสามารถสังหารมัน เขาได้ทำวิจัยและได้รับผลประโยชน์มหาศาล

ในช่วงเวลาที่เทพปีศาจจิตวิญญาณบรรลุระดับแปด เขามักจะจับภูตราชสีห์มาทดลอง สุดท้ายจึงสามารถสร้างวิธีกลืนกินดวงวิญญาณได้สำเร็จ

ภูตราชสีห์มีชื่อเสียงมาก เมื่อมันปรากฏตัว ช่วยไม่ได้ที่นางรำหงหยุนจะตกใจ

แต่ในช่วงเวลาสำคัญ เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกลับบอกนาง “อย่ากังวล ภูตราชสีห์ตัวนี้ไม่โดดเด่น มันอ่อนแอมาก มันไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดี เราสามารถสู้กับมันได้”

นางรำหงหยุนสงบลงเมื่อได้ยินเรื่องนี้

นางรำหงหยุนพิจารณาและพบว่ามันอ่อนแอจริง นางคิด ‘เจตจำนงของสามีมีเพียงวิญญาณอมตะระดับแปดและพลังงานอมตะจำนวนหนึ่ง เขาไม่มีวิธีการตรวจสอบที่ดีในเวลานี้ แต่เขายังสามารถเปิดเผยจุดอ่อนของภูตราชสีห์ได้ทันที ในทางตรงข้าม ข้ามีวิธีการต่างๆมากมาย แต่ข้ากลับตกตะลึงและไม่สามารถตอบสนอง ช่างน่าละอายนัก’

หลังจากสงบจิตใจ เมฆสีแดงพานางบินเป็นเส้นโค้งเพื่อหลบเลี่ยงภูตราชสีห์

ในไม่ช้านางก็ออกห่างจากมัน

“ฮ่าฮ่าฮ่า ภูตราชสีห์ตัวนี้อยู่ในสภาพที่ไม่ดี หากมันยังเหลือพลังสามสิบส่วน เจ้าคงหนีไม่พ้น”

เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงหัวเราะและลอยออกมาปรากฏตัวข้างๆนางรำหงหยุน

เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงส่งพลังงานอมตะให้วิญญาณอมตะระดับแปด

กลิ่นอายของมันปะทุขึ้น

ทันใดนั้นคลื่นพลังลึกลับก็พุ่งเข้าโจมตีภูตราชสีห์

ในเวลาต่อมาภูตราชสีห์ก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่หางของมันกลายเป็นอสรพิษ

อสรพิษเลื้อยพันรอบตัวภูตราชสีห์และกัดมันด้วยเขี้ยวพิษ

ภูตราชสีห์กวักแกว่งกรงเล็บของมันไปที่ศีรษะอสรพิษ แต่อสูรพิษตัวนี้กลับแข็งแกร่งมาก มันสามารถต่อต้านกรงเล็บราชสีห์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ภูตราชสีห์กระพือปีกบินขึ้นสู่ท้องฟ้าขณะต่อสู้กับอสรพิษตัวนี้

นางรำหงหยุนเฝ้ามองการต่อสู้อย่างระมัดระวัง

เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงใช้วิญญาณระดับแปดโจมตีภูตราชสีห์อย่างต่อเนื่อง

ในไม่ช้าต้นไม้ก็เริ่มเติบโตขึ้นบนร่างของมัน

นี่คือต้นภูตผีร่ำไห้

รากของมันดูดกลืนสารอาหารจากร่างกายของภูตราชสีห์

นั่นทำให้มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันโจมตีต้นภูตผีร่ำไห้และทำลายศีรษะอสรพิษ

ภูตราชสีห์อยู่ในสภาพที่เลวร้ายมากและตอนนี้มันยังได้รับบาดเจ็บสาหัส

‘นี่คือวิญญาณอมตะกลายพันธุ์! มันจะทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดกลายพันธุ์!’

‘ภูตราชสีห์ทำลายอสรพิษและต้นภูตผีร่ำไห้ แต่แท้จริงแล้วมันกลับสร้างความเสียหายให้กับตัวมันเอง’

นางรำหงหยุนเฝ้ามองการต่อสู้ด้วยหัวใจที่สั่นไหว แม้นางจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับวิญญาณอมตะกลายพันธุ์อยู่บ้าง แต่หลังจากได้เห็นด้วยตาของตนเอง นางยังรู้สึกอัศจรรย์ใจ

เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ดังคาด ภูตราชสีห์ตัวนี้ไม่ปกติ มันมีอาการบาดเจ็บภายใน มันมีพลังการต่อสู้อยู่ในระดับสัตว์อสูรบรรพกาลเท่านั้น ปีกของมันไร้ประโยชน์ แปลก…มันไม่ควรขาดอาหารในทะเลทรายผีเขียว”

แม้เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจะสงสัยแต่เขาก็ยังไม่หยุดโจมตี

วิญญาณอมตะกลายพันธุ์ระดับแปดถูกกระตุ้นใช้งานอีกครั้ง

คราวนี้ดวงตาข้างขวาของภูตราชสีห์กลายเป็นผึ้งพิษ

ผึ้งไม่ได้บินหนีไป มันยกเหล็กในพิษของมันขึ้นและแทงไปที่เบ้าตาของภูตราชสีห์ สุดท้ายจึงเจาะทะลวงเข้าไปในสมอง

“โฮก…”

ภูตราชสีห์กรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง แต่ความทุกข์ทรมานของมันยังไม่สิ้นสุด

ในไม่ช้าภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณอมตะกลายพันธุ์ระดับแปด กรงเล็บและฟันของมันก็เติบโตขึ้นจนกลายเป็นพืชอสูรบรรพกาล

ภูตราชสีห์กระพือปีกและพยายามหลบหนี

แต่นางรำหงหยุนไม่ยอมปล่อยมันไป สุดท้ายภูตราชสีห์ก็ร่วงลงสู่พื้นทราย

เมื่อฝุ่นควันจางหาย ภูตราชสีห์ก็นอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยู่บนพื้น มันตายแล้ว

“ไปเก็บกวาดสนามรบ” เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกลับเข้าสู่ร่างของนางรำหงหยุนพร้อมกับวิญญาณอมตะ

ดวงตาของนางรำหงหยุนส่องประกายขึ้น นางแทบกระโดดเข้าไปหาซากศพของภูตราชสีห์ทันที

“ข้ารวยแล้ว!”

“นี่คือซากศพของสัตว์อสูรแรกกำเนิด มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดที่หายากกระทั่งในสวรรค์สีเหลือง มันสามารถนำไปหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปด!”

นางรำหงหยุนเริ่มดำเนินการเก็บศพอย่างรวดเร็ว

แม้นางจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เผชิญหน้ากับศพของสัตว์อสูรแรกกำเนิด นางยังไม่สามารถชำแหละร่างมันได้อย่างง่ายดาย

หลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก นางรำหงหยุนจึงสามารถผ่าครึ่งร่างของมัน

“น่าเสียดายที่ส่วนที่กลายพันธุ์ไม่สามารถใช้งานได้ พวกมันไร้ค่า หือ?”

เป็นเพียงเวลานี้ที่นางรำหงหยุนพบฮันหลี่โดยไม่คาดคิด

ฮันหลี่หมดสติไปแล้วและอยู่ในสภาพใกล้ตาย

“เหตุใดถึงมีผู้ใช้วิญญาณมนุษย์อยู่ที่นี่?” นางรำหงหยุนพบว่ามันแปลก นางหัวเราะ “ข้าควรเรียกเจ้าว่าคนโชคดีหรือคนโชคร้าย? เจ้าถูกกินโดยสัตว์อสูรแรกกำเนิดแต่เพราะมันคือภูตราชสีห์ที่กินเพียงดวงวิญญาณ ด้วยร่างกายที่มีชีวิต เจ้าจึงรอดมาได้จนถึงตอนนี้ หากนี่เป็นสัตว์อสูรทั่วไป เจ้าคงกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว”

นางรำหงหยุนคว้าร่างของฮันหลี่ออกมาและค้นวิญญาณ

“หือ? สหายน้อยผู้นี้ชื่อฮันหลี่? แม้เขาจะไม่มีพื้นฐาน แต่โชคของเขายอดเยี่ยมจริงๆ”

“นี่คือ…มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเจิ้งหยวนซืองั้นหรือ!?”

ดวงตาของนางรำหงหยุนเบิกกว้างขึ้นขณะที่นางรู้สึกหายใจลำบาก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท