ฟงจิวเก้ออยู่ในชุดคลุมสีแดงขาวและกำลังเผยรอยยิ้มที่อบอุ่น เขาดูสง่างามมาก
เขาไม่ได้แสดงเจตนาสังหารใดๆออกมา แต่สมาชิกนิกายเงายังรู้สึกกดดันมาก
“ฟงจิวเก้อ…” ฟางหยวนเดินออกไปและพึมพำ
ฟางหยวนอยู่ในชุดคลุมขาว ใบหน้าของเขาบริสุทธิ์ราวกับหยก ดวงตามืดและลึกเกินหยั่งถึง เขาดูหล่อเหลามาก
เห็นเช่นนี้หัวใจของเทพธิดากระต่ายขาวเต้นแรงขึ้น นางคิด ‘คนที่แข็งแกร่งที่สุดสองคนภายใต้ระดับแปดต้องต่อสู้กันในที่สุด!’
แม้ฟางหยวนและฟงจิวเก้อจะไม่ได้พบกันบ่อยครั้ง แต่พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ลึกล้ำและยาวนาน
หลายปีก่อนฟางหยวนคว้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูมาจากฟงจินฮวง เขาจึงถูกสังเกตเห็นโดยฟงจิวเก้อ
แต่เวลานั้นฟางยวนยังเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ที่ไม่มีสิ่งใดน่าประทับใจในสายตาของฟงจิวเก้อ
อย่างไรก็ตามผู้ใดจะคิดว่าเพียงไม่กี่ปี ฟางหยวนจะกลายเป็นผู้อมตะ เจ้าของวิญญาณกาลเวลา ผู้ทำลายวังแแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เขายังเข้าร่วมในการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่แม่น้ำหวนคืน และแฝงตัวอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้ ตอนนี้ชื่อเสียงของเขาทัดเทียมกับฟงจิวเก้อเรียบร้อยแล้ว
ฟางหยวนช่วยชีวิตฟงจิวเก้อ ฟงจิวเก้อช่วยเขาเป็นการตอบแทน หนี้ชีวิตถูกชำระคืน
ปัจจุบันทั้งสองกำลังจะต่อสู้กันด้วยพลังที่แท้จริงของแต่ละคน
“ฟงจิวเก้อ เจ้าไล่ล่าพวกเรามาจนถึงที่นี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้านำชีวิตของตนเองมามอบให้ข้า!?” ฟางหยวนหัวเราะคิกคักและพุ่งเข้าโจมตีฟงจิวเก้ออย่างกะทันหัน
ท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน!
ฟงจิวเก้อมองฟางหยวน เขาเคยเห็นพลังอำนาจของท่าไม้ตายที่มีชื่อเสียงระดับโลกนี้มาแล้ว
เขาเดาว่าเกราะหวนคืนต้องเป็นท่าไม้ตายที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลานานมากในการกระตุ้นใช้งาน หากเขาลอบโจมตี ฟางหยวนจะไม่มีเวลาใช้ท่าไม้ตายนี้ขณะที่ฟงจิวเก้อจะกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ
แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่เปิดโอกาสนั้นให้กับฟงจิวเก้อ
เมื่อเห็นการโจมตีของฟางหยวน ฟงจิวเก้อเผยรอยยิ้มกว้าง
เขากล่าว “ข้าสามารถมาที่นี่เพราะท่าไม้ตายอมตะที่ข้าสร้างขึ้นเองและสิ่งสำคัญที่สุดก็คือเพลงทางผ่านแสงของข้ายังไม่จบ”
หลังกล่าวจบคำ เขาก็ปลดปล่อยแสงสีทองออกมา
แสงสีทองไม่มีพลังโจมตีแต่มันนำฟงจิวเก้อหายไปจากจุดนั้น
“อันใด!?” ในเวลาเดียวกันฟางหยวนก็ได้ยินเสียงพิณโบราณดังขึ้น
เสียงดังและเบาสลับกัน มันให้ความรู้สึกว่าคนที่กำลังดีดพิณเคลื่อนไหวอยู่รอบๆตัวเขา
หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น เขาจดจำท่าไม้ตายที่ฟงจิวเก้อใช้ในสงครามห้าภูมิภาคได้ทันที
มันทำให้ฟงจิวเก้อกลายเป็นคลื่นเสียงและสามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆ วิธีการปกติไม่สามารถต่อต้านท่าไม้ตายนี้
“ระวัง!” ไห่ลั่วหลันแจ้งเตือน
ตั้งแต่ได้ยินเสียงพิณ กลุ่มของไห่ลั่วหลันก็เริ่มล่าถอยออกไปโดยไม่รู้ตัว
แต่ความเร็วของพวกนางยังช้ากว่าเพลงทางผ่านแสง พวกนางไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของฟงจิวเก้อ
ทันใดนั้นฟงจิวเก้อพลันปรากฏตัวขึ้นด้านขวาของเทพธิดากระต่ายขาว
ฟงจิวเก้อชี้นิ้วไปที่นางและปลดปล่อยเสียงลึกลับออกมา
เทพธิดากระต่ายขาวกรีดร้องเมื่อตระหนักถึงอันตรายร้ายแรง
นางเร่งล่าถอยแต่คลื่นเสียงยังพุ่งตรงมาที่นาง
เป็นเพียงเวลานี้ที่หมอกดำปะทุออกมาจากร่างของนาง
ภายในหมอกสีดำนางเสือดำปรากฏตัวขึ้น บางบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
เทพธิดากระต่ายขาวเป็นผู้อมตะระดับหก นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟงจิวเก้อ ในช่วงเวลาสำคัญ นางเสือดำช่วยชีวิตของพวกนางทั้งสองเอาไว้
อย่างไรก็ตามนางเสือดำยังได้รับบาดเจ็บสาหัส นางรีบรักษาตัวเองทันที
ฟงจิวเก้อไม่ได้ไล่ล่านาง
เขารู้ว่าการลอบโจมตีครั้งนี้ไม่สำเร็จ เมื่อทุกคนตื่นตัว วิธีนี้จะไม่ได้ผลอีกต่อไป
และที่สำคัญ…
ฟงจิวเก้อขมวดคิ้วและมองดูทะเลทรายด้านล่าง “นี่คือ?”
“ทะเลทรายไร้เสียง ที่ตายของเจ้า!” ฟางหยวนตะโกนและพุ่งเข้าโจมตีฟงจิวเก้ออีกครั้ง
“เป็นเช่นนี้” ฟงจิวเก้อเข้าใจในที่สุด เขาใช้คลื่นเสียงของเพลงทางผ่านแสงหลบออกไป
อย่างไรก็ตามฟงจิวเก้อที่ปรากฏตัวขึ้นที่อื่นกลับแสดงออกด้วยใบหน้าที่น่าเกลียด
รอยยิ้มของเขาจางหายไปและแสดงออกอย่างเคร่งขรึม
ทะเลทรายไร้เสียงของทะเลทรายตะวันตกไม่เอื้อประโยชน์ต่อผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเสียง
ในสถานที่แห่งนี้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเสียงจะถูกระงับ พลังอำนาจของท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเสียงจะลดน้อยลงอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ฟงจิวเก้อต้องการเคลื่อนย้ายสถานที่ไปด้านหลังเทพธิดากระต่ายขาวเพื่อฆ่านาง
แต่สุดท้ายเขากลับถูกเปิดเผยก่อนจะเข้าถึงตัวเป้าหมาย
สิ่งนี้ทำให้เทพธิดากระต่ายขาวรอดพ้นจากความตาย
‘ทะเลทรายไร้เสียงถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ฟางหยวนรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? โอ้ ข้าเกือบลืมว่าเขาเป็นผู้นำคนใหม่ของนิกายเงา เป็นเรื่องปกติที่เขาจะรู้ความลับบางอย่าง’ ฟงจิวเก้อคาดเดา
แต่เขาเดาผิด นิกายเงาไม่รู้ความลับของสถานที่แห่งนี้
ฟางหยวนรู้เพราะประสบการณ์จากชีวิตแรกของเขา ในสงครามห้าภูมิภาค สถานที่แห่งนี้ถูกเปิดเผยและใช้ประโยชน์
“หือ?” การแสดงออกของฟงจิวเก้อเปลี่ยนไปเมื่อเขามองไปที่แขนของเขา
เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด แต่ตอนนี้มีชั้นน้ำแข็งปกคลุมอยู่บนแขนและแผ่นหลังของเขา
“เทพธิดามังกรไป่หนิงปิง?” ฟงจิวเก้อมองไป่หนิงปิงด้วยสายตาชื่นชม
ท่าไม้ตายอมตะเนตรแช่แข็ง!
นี่เป็นทักษะของไป่หนิงปิง
แม้ฟงจิวเก้อจะเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วแต่ท่าไม้ตายอมตะเนตรแช่แข็งยังเร็วกว่า
ฟงจิวเก้อหัวเราะเสียงดัง
เสียงระฆังดังขึ้นขณะที่ชั้นน้ำแข็งเริ่มหลอมละลาย
ไป่หนิงปิงสูดหายใจและยังจ้องมองอย่างดุเดือด
‘นี่ค่อนข้างลำบาก’ ฟงจิวเก้อขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาใช้เพลงทางผ่านเสียงเคลื่อนย้ายสถานที่
แต่ในเวลาต่อมาเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ไม่เพียงเขาจะถูกโจมตีด้วยเนตรแช่แข็งของไป่หนิงปิงแต่เขายังถูกโจมตีด้วยเนตรจันทร์เสี้ยวของเทพธิดาเมี่ยวหยินอีกด้วย
ท่าไม้ตายอมตะเนตรจันทร์เสี้ยว!
คล้ายกับเนตรแช่แข็ง นี่เป็นการโจมตีด้วยการจ้องมอง มันเป็นการโจมตีที่รวดเร็วมาก
ร่างของฟงจิวเก้อสั่นสะท้านขึ้น
เทพธิดาเมี่ยวหยินตกใจ นางมั่นใจในพลังอำนาจของท่าไม้ตายนี้แต่มันกลับทำให้ร่างกายของฟงจิวเก้อสั่นสะท้านขึ้นเท่านั้น
รากฐานด้านการป้องกันของฟงจิวเก้อถือว่าไม่ธรรมดา
ย้อนกลับไปวูหยงยังต้องใช้เวลานานเพื่อต่อต้านท่าไม้ตายนี้
“จิ๊บ จิ๊บ”
เสียงนกร้องดังขึ้น
ฝูกวิหคเพลิงบินเข้าไปหาฟงจิวเก้อ
“บึม บึม บึม บึม…”
ในเวลาต่อมาวิหคเพลิงก็ระเบิดตัวเองอย่างต่อเนื่องแต่เสียงระเบิดกลับเงียบลงอย่างรวดเร็ว
เพราะที่นี่คือทะเลทรายไร้เสียง
คลื่นความร้อนระเบิดออกไปรอบๆ
แสงสีแดงส่องสะท้อนอยู่บนใบหน้าของฟางหยวนและคนอื่นๆ
อุณหภูมิของสถานที่แห่งนี้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไห่ลั่วหลันยืนห่างออกไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้ที่พุ่งทะยานขึ้น นี่คือท่าไม้ตายอมตะวิหคเพลิงพิโรธ
ฟงจิวเก้อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในระยะไกล
เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ วิหคเพลิงพิโรธไม่ส่งผลกระทบต่อเขา
ฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงาพุ่งเข้าโจมตีฟงจิวเก้อจากทุกทิศทาง
ฟงจิวเก้อหัวเราะโดยไร้เสียง “รับนี่”
ท่าไม้ตายอมตะเพลงสวรรค์พิภพ!
ราวกับโลกกำลังร้องเพลง
เสียงเพลงดังเข้าหูของผู้อมตะทั้งหมด ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านขึ้น พวกเขารู้สึกถึงฟ้าสูงและโลกกว้าง ตัวตนของพวกเขาดูไร้นัยสำคัญราวกับฝุ่นผง
ความรู้สึกต่ำต้อยปรากกฏขึ้นในใจของพวกเขา
เมื่อเปรียบเทียบกับสวรรค์พิภพ พวกเขาก็ไม่ต่างจากมดปลวกเท่านั้น
นี่คือพลังอำนาจของเพลงสวรรค์พิภพ
นอกจากมันจะสร้างแรงกดดันให้กับพวกเขา ท่าไม้ตายของพวกเขายังจะอ่อนกำลังลงหรือสูญเสียพลังอำนาจหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง
นี่เป็นท่าไม้ตายที่เป็นเอกลักษณ์ของฟงจิวเก้อ ย้อนกลับไปในการต่อสู้ที่หุบเขาเหล่าโป ฉินไป่เฉิงก็พบกับความทุกข์ทรมานจากท่าไม้ตายนี้เช่นกัน
ตอนนี้เป็นเวลาที่กลุ่มของฟางหยวนต้องเผชิญหน้ากับมัน
ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆรู้สึกไม่ดีแต่ฟางหยวนก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ
เกราะหวนคืนไม่เปลี่ยนแปลง มีเพียงระลอกคลื่นบางๆที่ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของมันเท่านั้น สิ่งสำคัญก็คือมันยังสะท้อนพลังส่วนหนึ่งของเพลงสวรรค์พิภพกลับไปที่ฟงจิวเก้ออีกด้วย
ฟงจิวเก้อได้ลิ้มรสพลังอำนาจท่าไม้ตายของตนเองเป็นครั้งแรก
เมื่อเห็นฟางหยวนใกล้เข้ามา เขาขมวดคิ้วและใช้เพลงทางผ่านแสงเคลื่อนย้ายสถานที่อีกครั้ง
เกราะหวนคืนทำให้ผู้อมตะวังสวรรค์ สมาชิกถ้ำสวรรค์นิรันดร และราชันภูเขาม่วงไม่มีทางเลือก วูหยงไม่สามารถผ่านมันไปได้โดยไม่ต้องกล่าวถึงฟงจิวเก้อ
ฟงจิวเก้อรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นฟางหยวน
ในที่สุดเขาก็เข้าใจความรู้สึกของวูหยง
‘ลืมฟางหยวนไปก่อน ข้าควรกำจัดลูกน้องของเขาเป็นอันดับแรก!’ ฟงจิวเก้อไม่ต้องการต่อสู้กับฟางหยวนตอนนี้แต่เล็งเป้าไปที่คนอื่นๆ