“โฮก…”
ฟางหยวนเปิดปากและยิงลมหายใจมังกรดาบออกไป
ลมหายใจมังกรดาบเหมือนคลื่นแสงสีเงินที่พุ่งเข้าหาฟงจิวเก้อด้วยความเร็วสูง
ฟงจิวเก้อต้องหลบด้วยเพลงทางผ่านแสง
โดยปกติเมื่อฟงจิวเก้อใช้เพลงทางผ่านแสง นั่นก็หมายความว่าท่าไม้ตายต่อไปที่เขาจะใช้ก็คือนักรบเพลง
ท่าไม้ตายอมตะนักรบหยกเขียว!
ฟงจิวเก้อเรียกร่างแยกออกมา
ร่างแยกหยกเขียวพุ่งเข้าไปหามังกรดาบบรรพกาล
ฟงจิวเก้อพึ่งพาเพลงทางผ่านแสงเพื่อสร้างความได้เปรียบในการเคลื่อนไหวและด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้อันยาวนานรวมกับจิตใจที่สามารถวิเคราะห์สิ่งต่างๆได้อย่างสงบ เขาจึงไม่ล้มเหลวในกระบวนการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตาย
แม้ลมหายใจมังกรดาบจะพุ่งเข้ามา ฟงจิวเก้อก็ยังไม่ตื่นตระหนก
ฟงจิวเก้อรู้ว่านักรบหยกเขียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน มันไม่สามารถทำลายเกราะหวนคืน
ฟงจิวเก้อใช้นักรบเพลงหยกเขียวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของฟางหยวนเท่านั้น
นักรบเพลงหยกเขียวราวกับแมลงวันที่บินไปรอบๆฟางหยวนและขัดขวางเส้นทางการเคลื่อนไหวของเขา
หลังจากไม่นานฟางหยวนก็ต้องหันไปจัดการนักรบเพลงหยกเขียวอย่างจริงจัง
รูม่านตาของฟงจิวเก้อหดเล็กลง ฟางหยวนเปลี่ยนเป้าหมายเร็วเกินไป แต่ฟงจิวเก้อสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ฟางหยวนเข้าประชิดตัวนักรบเพลงหยกเขียว
เขาใช้กรงเล็บมังกรดาบฟาดไปที่เป้าหมาย
รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนร่างของนักรบเพลงหยกเขียวขณะที่มันบินกลับหลังราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่
แต่นักรบเพลงหยกเขียวยังไม่พังทลาย มันยังสามารถต่อสู้
“ช่างทนทานนัก” ฟางหยวนก่นเสียงเย็นชา
ในการต่อสู้ครั้งก่อน นักรบเพลงหยกเขียวไม่ได้โจมตี ดังนั้นเกราะหวนคืนจึงไม่สะท้อนสิ่งใดกลับไป เพียงกรงเล็บมังกรดาบยังไม่เพียงพอที่จะทำลายนักรบเพลงหยกเขียว
ท้ายที่สุดฟงจิวเก้อก็มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดขณะที่การป้องกันของนักรบเพลงหยกเขียวแข็งแกร่งกว่านักรบเพลงอื่นๆของเขา
หลังจากส่งนักรบเพลงหยกเขียวบินห่างออกไป ฟางหยวนก็หันกลับมาหาฟงจิวเก้อ
แต่ในเวลานี้ฟงจิวเก้อได้ปล่อยนักรบเพลงร่างที่สองออกมาแล้ว
นักรบเพลงสวรรค์พิภพ!
หลังจากผ่านไปหลายสิบรอบ ฟงจิวเก้อยังคงหลบการโจมตีของฟางหยวนด้วยเพลงทางผ่านแสงขณะที่เขาเรียกนักรบเพลงออกมาต่อสู้กับฟางหยวน
ฟางหยวนต่อสู้กับศัตรูห้าคนพร้อมกันแต่พลังการต่อสู้ของเขายังเต็มเปี่ยม ฟงจิวเก้อไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’
‘ฟางหยวนมีขีดจำกัดเมื่อเขาใช้งานเกราะหวนคืนครั้งก่อน’
‘แต่ตอนนี้เขาสามารถรักษาเกราะหวนคืนเอาไว้ขณะแปลงร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาลและยังสามารถต่อสู้ได้อย่างยาวนานถึงเพียงนี้ เขาไม่มีขีดจำกัดเลยงั้นหรือ?’
ฟงจิวเก้อขมวดคิ้ว เขาจงใจใช้นักรบเพลงสร้างสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนเพื่อให้ฟางหยวนคิดวิธีการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง
มันเป็นไปได้ยากที่ฟางหยวนจะคิดและตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่เขาใช้ท่าไม้ตายที่ทรงพลังเช่นนี้
‘นี่หมายความว่าเขามีพัฒนาการที่น่าทึ่งในแง่ของการใช้ท่าไม้ตายต่อเนื่อง?’ ฟงจิวเก้อคาดเดา
เป็นเพียงเวลานี้ที่ร่างกายของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น
ฟงจิวเก้อเห็นสิ่งนี้และรู้สึกมีความสุข ‘อย่าบอกว่าเขาถึงขีดจำกัดแล้ว’
แต่ในเวลาต่อมาฟงจิวเก้อกลับต้องโยนความคิดนี้ลงถังขยะ
เพราะฟางหยวนไม่ได้ถึงขีดจำกัดแต่เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!
มังกรดาบบรรพกาลจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับมหาสมุทรสีเงินปรากฏขึ้นและสร้างเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่
นักรบเพลงทั้งสี่ถูกปิดล้อมและโจมตีจากทุกทิศทางก่อนจะถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว
ฟงจิวเก้อไม่สนใจพวกมัน เขายังใช้เพลงทางผ่านแสงเพื่อหลบหนีจากระยะโจมตีของฝูงมังกรดาบบรรพกาล
เวลาของเพลงทางผ่านแสงยังไม่หมด ฟงจิวเก้อยังมีเวลาสำหรับการต่อสู้
“เช่นนั้นลองรับท่านี้” ฟงจิวเก้อมองไปที่ฝูงมังกรดาบบรรพกาล
เขาวางฝ่ามือข้างขวาไว้บนหน้าอกข้างซ้าย จากนั้นนิ้วของเขาก็กดลงบนหน้าอกทำให้เกิดเสียงกลองอันแผ่วเบา
“ตุบ ตุบ ตุบ…”
เสียงกลองยังดำเนินต่อไปและกระจายไปทั่วสนามรบ
ฟงจิวเก้อไม่พบร่างจริงของฟางหยวนแต่เขาไม่จำเป็นต้องค้นหาเนื่องจากนี่เป็นท่าไม้ตายที่สามารถโจมตีเป็นวงกว้าง
ฟางหยวนอยู่ในระยะโจมตี เขาได้รับผลกระทบทันที หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุม
ฟางหยวนตกตะลึง
แม้จะมีเกราะหวนคืนแต่มันกลับไม่สามารถป้องกันท่าไม้ตายนี้
‘ไม่ ผลกระทบส่วนใหญ่สะท้อนกลับไปแล้ว มีเพียงบางส่วนที่สามารถเจาะเกราะหวนคืนเข้ามาหาข้า ดูเหมือนวังสวรรค์จะสามารถถอดรหัสเกราะหวนคืนของข้าได้บางส่วน’
ฟางหยวนลอบถอนหายใจ
นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาใช้เกราะหวนคืนไปหลายครั้งแล้ว วังสวรรค์มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาชั้นยอดเช่นเทพธิดาจื่อเว่ย รวมกับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว ไม่แปลกที่นางจะมีความก้าวหน้าเช่นนี้
“บึม บึม บึม…”
มังกรดาบบรรพกาลเริ่มระเบิดตัวเองทีละตัว
‘ท่าไม้ตายเสียงกลองหัวใจถูกมอบให้ข้าโดยวังสวรรค์ มันเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา เมื่อถูกโจมตี ความคิดของผู้อมตะจะถูกก่อกวน ท่าไม้ตายของฟางหยวนค่อนข้างซับซ้อน แล้วเขาจะทนได้นานเท่าใด?’ ฟงจิวเก้อรอคอยอย่างมีความหวัง
‘เป็นท่าไม้ตายที่น่าประทับใจ มันถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีข้าโดยเฉพาะ’ ฟางหยวนพิจารณาถึงผลกระทบของท่าไม้ตายที่น่าเหลือเชื่อนี้
ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ร่างแยกหมื่นตัวตนที่เกิดจากเจตจำนงของฟางหยวนถูกทำลายไปอย่างต่อเนื่อง
ร่างแยกเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของมังกรดาบบรรพกาลที่เขาใช้อยู่
‘ร่างแยกหมื่นตัวตนเหล่านี้เกิดจากวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาแต่นั่นก็ทำให้พวกมันอ่อนไหวต่อการโจมตีของฟงจิวเก้อ’
ฟางหยวนเฝ้ามองการสูญเสียของเขา
เกือบทุกลมหายใจ ร่างแยกของเขาจะแตกสลายไปหลายสิบร่าง
‘อย่างไรก็ตามร่างแยกส่วนใหญ่แตกสลายไปเพราะการรักษาเกราะหวนคืนและภูตมังกรดาบบรรพกาลของข้า ตั้งแต่ข้ากระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร ร่างแยกเหล่านี้ก็เริ่มตายไปแล้ว’
ถูกต้อง
เหตุผลที่ฟางหยวนสามารถใช้เกราะหวนคืนและท่าไม้ตายอื่นๆพร้อมกันเป็นเพราะร่างแยกหมื่นตัวตนที่อยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาฟางหยวนประสบปัญหานี้ แม้เขาจะมีเกราะหวนคืนที่ทรงพลังแต่เขาไม่สามารถแบ่งจิตเป็นหลายทางมากเกินไป
ในการต่อสู้กับฟงจิวเก้อครั้งก่อน เขาได้รับแรงบันดาลในมาจากนักรบเพลง ดังนั้นเขาจึงสามารถคิดวิธีนี้
‘ด้วยการคงอยู่ของร่างแยกหมื่นตัวตน พลังการต่อสู้ของข้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก’
มีปัญหาสองประการในการบรรลุเป้าหมายนี้
ปัญหาแรกคือร่างแยกหมื่นตัวตนไม่สามารถคิดได้เอง เขาต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาแก้ไข
ปัญหาที่สองคือแม้ร่างแยกจะสามารถคิด มันก็ยังไม่สามารถรวมเป็นความคิดเดียวกันกับเขา
ดังนั้นฟางหยวนจึงแก้ปัญหาโดยใช้วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่เพื่อใช้ท่าไม้ตายอมตะที่สามารถสร้างเจตจำนงของตนเองจำนวนมหาศาล
ทั้งสองปัญหาได้รับการแก้ไขโดยวิธีการบางอย่างจากมรดกของราชันภูเขาม่วง มันเรียกว่าท่าไม้ตายอมตะรวบรวมความคิด!
แน่นอนว่าแม้ทั้งสองปัญญาจะได้รับการแก้ไขแต่ฟางหยวนยังต้องพึ่งพาความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนขึ้นสู่ระดับใหม่ทั้งหมด
‘ฟงจิวเก้อ ท่าไม้ตายของเจ้ายังไม่เพียงพอ’ ฟางหยวนหัวเราะเย้ยหยันอยู่ภายในใจ
เพราะเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
เขาเตรียมร่างแยกนับล้านร่างเอาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
การตายของร่างแยกเพียงไม่กี่ร่างไร้นัยสำคัญอย่างสิ้นเชิง
ท่าไม้ตายอมตะภาพอนาคตสามลมหายใจ!
ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!
ท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิต!
กลิ่นอายของวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนปะทุออกมาจากร่างของฟางหยวน
มันเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่
“เป็นไปได้อย่างไร?” ฟงจิวเก้อตกใจมาก “ฟางหยวนสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะมากมายในเวลาเดียวกันได้อย่างไร!?”
เขาตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์
มันเป็นไปไม่ได้!
เขาเคยคิดว่าฟางหยวนไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะได้เกินสองหรือสามท่า แต่สิ่งที่ฟงจิวเก้อเห็นทำให้เขาตระหนักได้ในที่สุดว่าฟางหยวนมีพัฒนาการที่เกินกว่าจินตนาการของเขาไปไกลมาก
จุดอ่อนที่ฟางหยวนเคยมีไม่มีอยู่อีกต่อไป ตอนนี้เขามีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้น
คลื่นมังกรดาบบรรพกาลยังอยู่
ภาพอนาคตสามลมหายใจทำให้ฟางหยวนมีความรู้สึกที่เฉียบแหลม ขณะเดียวกันดาบประหารชีวิตที่ได้รับการสนับสนุนจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบก็เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ต่อฟงจิวเก้อ
ฟงจิวเก้อกัดฟันแน่น เขาไม่ได้ถอยกลับแต่ก้าวไปข้างหน้าและพุ่งเข้าไปหาฝูงมังกรดาบบรรพกาล
“บึม บึม บึม…”
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ฟงจิวเก้ออาละวาดอยู่ในฝูงมังกรดาบบรรพกาลจำนวนนับไม่ถ้วน
แต่เขากลับตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ
‘นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ฟางหยวนควบคุมพวกมันได้อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เขายังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมด ข้าอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ ข้าต้องไปเดี๋ยวนี้!’ ขณะที่เพลงทางผ่านแสงยังทำงานอยู่ ฟงจิวเก้อตัดสินใจล่าถอย
เขาถูกบังคับให้ถอยโดยฟางหยวนเพียงผู้เดียว!