เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1446

ตอนที่ 1446

ในไม่ช้าดวงวิญญาณของเย่หลิวชุนซิงก็ถูกดึงเข้าสู่แสงสีขาว

ดวงวิญญาณของเย่หลิวชุนซิงนิ่งเงียบและหยุดเคลื่อนไหวราวกับมันสูญเสียความสามารถในการคิดไปอย่างกะทันหัน

จากนั้นจุดแสงสีขาวก็เริ่มปะทุออกมาจากดวงวิญญาณของเขา

จุดแสงเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆและพุ่งเข้าหาร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวน

แสงส่องประกายขึ้นบนร่างของผีดิบอมตะและเริ่มทำลายร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

เมื่อเวลาผ่านไป ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณก็เริ่มลดลงทีละเล็กทีละน้อยขณะที่ดวงวิญญาณของเย่หลิวชุนซิงอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง

จิตใจของฟางหยวนสงบนิ่งราวกับทะเลสาบที่เงียบสงบ เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะด้วยความมั่นใจและมั่นคง

เขาต้องกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้เป็นเวลาสามวันสามคืนก่อนที่กับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณในร่างผีดิบอมตะจะถูกกำจัดออกไปอย่างสมบูรณ์

จากการคาดการณ์กระบวนการทั้งหมดต้องใช้ลูกพลัมแดงอมตะมากกว่าหนึ่งพันสองร้อยผล

นี่เป็นวิธีการใช้วิญญาณอมตะล้างใจและวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณที่ถูกบันทึกไว้ในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ หากฟางหยวนต้องคิดค้นท่าไม้ตายนี้ด้วยตนเอง เขาต้องใช้เวลา ความพยายาม และทรัพยากรมากมายเพื่อลองผิดลองถูก

ฟางหยวนไม่ขาดแคลนพลังงานอมตะ เขาเตรียมตัวมาอย่างเพียงพอแล้ว

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

หลังจากสามวันสามคืน ฟางหยวนก็หยุดเคลื่อนไหว

เขาคำนวณและพบว่าเขาสูญเสียลูกพลัมแดงอมตะไปถึงหนึ่งพันสามร้อยผล

ค่าใช้จ่ายนี้ทำให้คลังเก็บพลังงานอมตะของเขากลายเป็นว่างเปล่าในครั้งเดียว

แต่ฟางหยวนกลับเต็มไปด้วยความสุข

วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋า!

เขาตรวจสอบร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่อยู่บนร่างผีดิบอมตะก่อนจะเผยรอยยิ้มพึงพอใจ

“ในที่สุดกับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณก็ถูกลบออกไปอย่างสมบูรณ์!”

มันไม่ง่ายเลย

มันไม่ง่ายเลยจริงๆ

กับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่สร้างปัญหาให้กับฟางหยวนมาอย่างยาวนานถูกแก้ไขในที่สุด

ความสุขโอบกอดหัวใจของฟางหยวนเอาไว้

แต่…

หลังจากที่เขาสงบจิตใจลง เขายังไม่ทดสอบมันด้วยตนเองแต่เลือกใช้ดวงวิญญาณของผู้อมตะคนอื่นเพื่อตรวจสอบร่างผีดิบอมตะ

หลังจากทดสอบหลายครั้ง เขาสามารถยืนยันความปลอดภัย

จากนั้นฟางหยวนก็ย้ายดวงวิญญาณของเขาเข้าไปในร่างผีดิบอมตะ

ในเวลาต่อมาร่างผีดิบอมตะก็เปิดเปลือกตาขึ้น

ฟางหยวนค่อยๆลุกขึ้นยืนและเริ่มขยับร่างกาย

“ในที่สุดข้าก็สามารถใช้ร่างกายของข้าได้อีกครั้ง!” นี่เป็นความรู้สึกที่ชวนคิดถึง เขารู้สึกราวกับได้กลับบ้านหลังจากการเดินทางอันยาวนาน

ฟางหยวนลูบหน้าท้องของเขาเบาๆ

มีเพียงทะเลวิญญาณระดับห้าเท่านั้นที่ยังอยู่ มิติช่องว่างระดับหกบนเส้นทางความแข็งแกร่งพังทลายไปแล้วขณะที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งเคลื่อนเข้าสู่ร่างกายของเขาเรียบร้อยแล้ว

จากมุมมองนี้ ร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนถือเป็นทรัพยากรอมตะระดับหกบนเส้นทางความแข็งแกร่ง

มิติช่องว่างระดับหกบนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวนได้มาจากการใช้วิญญาณทะเลวิญญาณที่สอง

ทะเลวิญญาณระดับห้าขั้นสุดยอดคือทะเลวิญญาณดั่งเดิมของเขา

วิญญาณกาลเวลาถูกปิดผนึกอยู่ในทะเลวิญญาณนี้

กำแพงคริสตัลของทะเลวิญญาณเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวเนื่องจากแรงกดดันของวิญญาณกาลวิญญาณระดับหก

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่กังวล ก่อนหน้านี้เขาสามารถจัดการมัน ตอนนี้เขาได้รับมรดกของนิกายเงา มันยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับเขา

ฟางหยวนจะไม่ละทิ้งวิญญาณกาลเวลาอย่างแน่นอน

แต่วิญญาณกาลเวลาเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ ฟางหยวนต้องกำจัดเจตจำนงสวรรค์ทิ้งไปหากเขาต้องการใช้งานมันอีกครั้ง

นั่นเป็นแผนการระยะยาว

แน่นอนว่าในอนาคตเขาจะใช้รากฐานนี้เพื่อหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาระดับเจ็ด

“แต่ก่อนหน้านั้นข้าควรยกระดับร่างกายนี้เป็นอันดับแรก”

ผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเป็นแผนการเดิมของฟางหยวน

เขาจะไม่ทิ้งความตั้งใจนี้

เมื่อการทดลองประสบความสำเร็จ ฟางหยวนก็ย้ายดวงวิญญาณของตนเองกลับสู่ร่างทารกอมตะ สำหรับร่างผีดิบอมตะ มันยังถูกผนึกอยู่ในค่ายกลวิญญญาณ

“ต่อไปทดสอบวิญญาณสติปัญญา” ฟางหยวนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

เขาออกจากห้องลับและบินไปหาวิญญาณสติปัญญา

เมื่อแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูถูกโจมตี วิญญาณสติปัญญาถูกย้ายมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารับผิดชอบในการเลี้ยงดูและให้อาหารมัน

ในไม่ช้าฟางหยวนก็มายืนอยู่ต่อหน้าวิญญาณสติปัญญา การเคลื่อนไหวนี้ดึงดูดความสนใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

อย่างไรก็ตามการแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินค่อนข้างประหลาด “ฟางหยวน มีคนใส่ร้ายเจ้า”

“ท่านหมายถึงสิ่งใด?”

“ฮ่าฮ่า หยุนเหลียงตายแล้ว มีเบาะแสสำคัญทิ้งไว้ในสนามรบและบ่งชี้ว่าเจ้าเป็นฆาตกร นอกจากนี้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของหลิวกวนซื่อของเจ้าก็ถูกเปิดเผย ตอนนี้โลกผู้อมตะของภาคเหนือ ไม่ โลกผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคกำลังสั่นสะเทือนเพราะข่าวนี้” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะ

แม้ฟางหยวนจะต้องใช้ดวงวิญญาณของผู้อมตะระดับเจ็ดเพื่อกำจัดกับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แต่เขาก็มีดวงวิญญาณดังกล่าวอยู่แล้ว ไม่เพียงเย่หลิวชุนซิง เขายังมีดวงวิญญาณของเทพธิดาซุ้ยป๋อ หลิวหยง และหม่าหงหยุน ตลอดไปถึงร่างกายทั้งหมดของไห่เจิ้ง

ก่อนหน้านี้ผมที่หกกังวลว่าฟางหยวนจะออกไปสังหารผู้อมตะของภาคเหนือ

แต่ฟางหยวนตอบว่าเขาสามารถควบคุมสถานการณ์

เขามีดวงวิญญาณของผู้อมตะอยู่แล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เสี่ยง

สิ่งที่ฟางหยวนต้องการคือการพักผ่อนและบ่มเพาะ เขาไม่ต้องการออกไปต่อสู้ข้างนอก

หลังจากสอบถามรายละเอียด ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่า “นี่อาจเป็นฝีมือของวังสวรรค์ หยุนเหลียงเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่ถ้ำสวรรค์นิรันดรอนุญาตให้เขาแต่งงานกับมู่หลานชิงซื่อ พวกเขากระทั่งมีความสุขกับงานแต่งงานครั้งนี้ นี่คือการเตรียมความพร้อมของถ้ำสวรรค์นิรันดรสำหรับการเผชิญหน้ากับยุคที่ยิ่งใหญ่ แต่วังสวรรค์จะอนุญาตให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? พวกเขาต้องทำลายแผนการนี้อย่างแน่นอน”

“ฟางหยวน การวิเคราะห์ของเจ้าสมเหตุสมผล” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยักหน้าและเผยรอยยิ้มแปลกประหลาด “ตอนนี้ถ้ำสวรรค์นิรันดรกำลังโกรธมาก เหยากวงที่ได้รับตำแหน่งใหม่ประกาศว่าเขาจะจับเจ้าและนำเจ้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปัจจุบันเจ้าไม่เพียงเป็นศัตรูตัวฉกาจของฝ่ายธรรมะ แต่ยังรวมถึงปีศาจอมตะ และผู้บ่มเพาะสันโดษทั้งหมดของภาคเหนือ”

ฟางหยวนก่นเสียงเย็นรับทราย นี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน ฟางหยวนต่อต้านผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคเหนือรวมถึงปีศาจอมตะเซี่ยหูซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายปีศาจ

หยุนเหลียงเป็นสัญลักษณ์ของผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่ฟางหยวนที่ถูกประกาศว่าเป็นฆาตกรก็ต้องแบกรับความเกลียดชังจากฝ่ายนี้ไปโดยธรรมชาติ

“เอาล่ะ ลืมมันไปซะ เร็วเข้า ให้ข้าดูว่าเจ้าจะเรียกแสงแห่งปัญญาออกมาได้หรือไม่?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเร่งเร้า

“ตกลง ข้าก็กำลังตั้งตารอเรื่องนี้เช่นกัน” ฟางหยวนสูดหายใจลึก

โอกาสประสบความสำเร็จมีค่อนข้างสูง หากมันสำเร็จ เขาจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท