เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1452

ตอนที่ 1452

ทะเลตะวันออก

ทะเลกระจ่างใส

ศาลาหยกตั้งตระหง่านอยู่ในส่วนลึกของทะเลแห่งนี้ มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหก

ภายในศาลาหยกผู้อมตะเซี่ยเปาซูกำลังต้อนรับสหายของเขา โหยว่เซียนซือ

โหยว่เซียนซือมองต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่นอกศาลาหยกและกล่าว “ถึงเวลาเก็บเกี่ยววิญญาณปีอีกครั้ง การเติบโตของต้นไม้เหล่านี้ดีกว่าปีก่อนหน้า ดูเหมือนวิธีการของเจ้าจะพัฒนาขึ้นอีกแล้ว”

เซี่ยเปาซูลูบจมูกและยิ้ม “เจ้าไม่จำเป็นต้องยกยอข้า”

โหยว่เซี่ยนซือหัวเราะ “เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนขายวิญญาณปีในสวรรค์สีเหลือง?”

เซี่ยเปาซูเงียบ เขาส่งวิญญาณปีระดับมนุษย์ให้โหยว่เซี่ยนซือ

โหยว่เซียนซือมองมัน “อืม ดี วิญญาณปีระดับห้าดวงนี้คุณภาพค่อนข้างดี มันน่าสนใจทีเดียว”

เซี่ยเปาซูส่ายศีรษะเล็กน้อย “วิญญาณปีดวงนี้ไม่ใช่ของข้า มันมาจากผู้ขายรายนั้น”

“เป็นเช่นนี้” โหยว่าเซี่ยนซือประหลาดใจเล็กน้อย

พวกเขารู้จักกันดี

เซี่ยเปาซูเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก

เขามีความเชี่ยวชาญในการปลูกต้นแปรผัน มันเป็นทรัพยากรอมตะที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่หลายหลาก

มีคนที่ไม่มากที่สนใจมัน

แต่เซี่ยเปาซูพบวิธีใช้งานรูปแบบใหม่ เขาปลูกต้นไม้ต้นนี้เพื่อดึงดูดวิญญาณปีป่า

มันทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในสามผู้ขายวิญญาณปีรายใหญ่

เขาขายวิญญาณปีบางส่วนในสวรรค์สีเหลือง ส่วนใหญ่จะถูกขายให้กับกองกำลังต่างๆของทะเลตะวันออก

อย่างไรก็ตามเซี่ยเปาซูจะไม่ยอมแพ้ในตลาดสวรรค์สีเหลือง เนื่องจากที่นี่คือตลอดโลก ในบางแง่มุมสวรรค์สีเหลืองยังสำคัญกว่ากองกำลังของทะเลตะวันออก

ตอนนี้มีคนใหม่เข้ามา แล้วเซี่ยเปาซูจะเฝ้ามองอยู่ข้างสนามอย่างเฉยเมยได้อย่างไร?

แม้จะยังไม่ถึงเวลาขาย แต่เขายังให้ความสนใจกับสถานการณ์ในท้องตลาด

“ข้าตรวจสอบมาแล้ว คุณภาพวิญญาณปีของเขาอยู่ในระดับสูง นี่เป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา” เซี่ยเปาซูถอนหายใจ

โหยว่เซียนซือพยักหน้า “ด้วยจำนวนมหาศาล กองกำลังของบางภูมิภาคอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มันยากมากที่คนเพียงผู้เดียวจะสามารถนำพวกมันออกมาได้มากมายถึงเพียงนี้ ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องใช้เวลานานและค่อยๆก้าวขึ้นมาทีละขั้นงั้นหรือ?”

เซี่ยเปาซูยิ้ม “เจ้าให้กำลังใจข้าทางอ้อมงั้นหรือ? ท่ามกลางผู้ขายทั้งสามราย มีเพียงข้าเท่านั้นที่เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงทำได้เพียงก้าวไปทีละขั้นและเผชิญหน้ากับความยากลำบากมาตลอดทางเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง ข้าไม่เคยยอมแพ้ ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น นอกจากนี้…”

โหยว่เซียนซือกล่าวต่อ “นอกจากนี้พวกเจ้าทั้งสามยังบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจกันแล้ว ผู้ขายรายใหม่ทำผิดกฎ เขาจะถูกกำหราบโดยพวกเจ้าทั้งสามใช่หรือไม่?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่สามารถซ่อนสิ่งใดจากเจ้าได้จริงๆ” เซี่ยเปาซูหัวเราะและชี้นิ้วไปที่โหยว่เซี่ยนซือ

…..

ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

เมืองเมฆา ในห้องลับฟางหยวนนั่งไขว้ขาปิดเปลือกตาอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับเขยื้อนมาหลายวันแล้ว

ไม่กี่วันมานี้เขากระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาปีไหลผ่านราวกับสายน้ำเพื่อผลิตวิญญาณปีระดับมนุษย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง

วิญญาณปีเหล่านี้ถูกนำเข้าสู่สวรรค์สีเหลือง

เขาปล่อยให้เจตจำนงของเขาขายวิญญาณปีเหล่านั้น

ในความเป็นจริงเขาก็คือผู้ขายรายใหม่ที่เข้าสู่ธุรกิจวิญญาณปีและสร้างความโกลาหลให้ในสวรรค์สีเหลือง เขายังทำให้เซี่ยเปาซูและคนอื่นๆรู้สึกหวาดกลัว

ฟางหยวนเปลี่ยนหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเป็นพลังงานอมตะและใช้มันเพื่อเข้าสู่ธุรกิจวิญญาณปี

วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำระดับแปดยอดเยี่ยมมาก ไม่เพียงมันจะสามารถผลิตวิญญาณปีระดับมนุษย์ได้เป็นจำนวนมาก แต่คุณภาพของพวกมันยังดีอีกด้วย

การตอบสนองของตลาดในช่วงสองสามวันนี้ถือว่าดีมาก ผู้ซื้อตระหนักถึงคุณภาพของสินค้าและต้องการซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“หือ?” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนหยุดใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำชั่วคราว

เขาติดตามความเคลื่อนไหวของสวรรค์สีเหลืองตลอดเวลาและพึ่งได้รับข้อความจากเจตจำนงของเขาที่อยู่ในสวรรค์สีเหลือง ตอนนี้มีบางคนต้องการซื้อสินค้าจำนวนมากของฟางหยวนแต่พวกเขาเกรงว่าฟางหยวนจะไม่สามารถจัดหาพวกมันได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการหารือกับร่างหลักของเขา หากเป็นไปได้พวกเขาสามารถสร้างความร่วมมือระยะยาว

ข่าวนี้อาจเป็นได้ทั้งเรื่องจริงหรือคำลวง

‘มีโอกาสสูงที่ข้อความนี้จะถูกส่งมาโดยผู้ขายรายเดิมโดยใช้อัตลักษณ์ปลอม’ ฟางหยวนเย้ยหยันและเพิกเฉยต่อข้อความนี้อย่างสิ้นเชิง

ความร่วมมือระยะยาว? ฟางหยวนไม่สนใจ เขาต้องการทำสงครามเท่านั้น!

…..

ภาคกลาง

หรงซินเงียบ

“ผู้ขายรายใหม่ไม่สนใจข้อเสนอของข้าจริงๆงั้นหรือ?” หรงซินประหลาดใจ

เขาปลอมตัวเป็นผู้ซื้อรายใหญ่และพยายามติดต่อฟางหยวนเพื่อรวบรวมข้อมูล แต่ฟางหยวนกลับไม่สนใจเขา

“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? แม้เขาจะเป็นตัวแทนของกองกำลังใหญ่ พวกเขาก็ต้องหวังว่าวิญญาณปีของพวกเขาจะขายได้มากขึ้น เว้นเพียง…เขาจะเหลือวิญญาณปีอยู่ไม่มาก?”

หรงซินเป็นสมาชิกของสิบนิกายโบราณ ในฐานะสมาชิกกองกำลังฝ่ายธรรมะ เขาเข้าใจความคิดของผู้อมตะฝ่ายธรรมะเป็นอย่างดี

เขาไตร่ตรองและรู้สึกว่าการคาดเดานี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมาก

“คงเป็นเพราะเหตุนี้ผู้ขายรายนี้จึงขายพวกมันออกมาตั้งแต่ตอนนี้และหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับสามผู้ขายรายใหญ่?”

“เขาปฏิเสธแม้แต่ข้อเสนอของข้า เขาคงมีสินค้าไม่มาก แท้จริงแล้วเขามีสินค้าเพียงหนึ่งในสิบส่วนของข้าเท่านั้น’’

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

หรงซินหัวเราะเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

“นี่เป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดความสนใจ” เขาแสดงความคิดเห็นกับการกระทำของฟางหยวน “น่าเสียดาย หากเจ้าไม่มีกำลังเพียงพอ มันก็ไร้ประโยชน์”

…..

ภาคใต้

หุบเขามังกรหวน

เสียงน้ำตกดังก้องอยู่ในหุบเขา

หมอกบางๆที่กระจายออกมาทำให้พืชพรรณเจริญงอกงาม

หวังหมิงเยว่ ผู้อาวุโสสูงสุดนอกของตระกูลเหยายืนอยู่บนหินก้อนใหญ่และมองไปที่น้ำตก

นี่ไม่ใช่น้ำตกธรรมดา มันเป็นสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา

‘เซี่ยเปาซูแห่งทะเลตะวันออกใช้ต้นแปรผันหล่อเลี้ยงวิญญาณปี หรงซินแห่งภาคกลางใช้วิธีการหลอมรวมวิญญาณเพื่อหลอมรวมวิญญาณปีจำนวนนับไม่ถ้วน มีเพียงข้าเท่านั้นที่ครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา ข้าสามารถจับวิญญาณปีป่าตามธรรมชาติ’

หวังหมิงเยว่คิดกับตนเอง

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาแห่งนี้ค่อนข้างพิเศษ มันเป็นสาขาที่แยกมาจากพื้นที่พิเศษของสายธารแห่งกาลเวลา

ในสายธารแห่งกาลเวลามีพื้นที่พิเศษมากมาย ตัวอย่างเช่นพื้นที่ปราณดาบ มันเป็นส่วนที่เต็มไปด้วยปราณดาบของซื่อหยวนและเต๋าจิ่วหลาง เทพปีศาจบัวแดงใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อปกป้องหนึ่งในเกาะบัวหินของเขา

มีพื้นที่ส่วนหนึ่งของสายธารแห่งกาลเวลาที่เต็มไปด้วยวิญญาณปีจำนวนนับไม่ถ้วน

น้ำตกของหวังหมิงเยว่เชื่อมต่อกับพื้นที่ดังกล่าว นั่นทำให้นางสามารถรวบรวมวิญญาณปีป่าได้มากมาย เดิมทีนางเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ เพียงเมื่อกองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ค้นพบเรื่องนี้ ตระกูลเหยาจึงใช้วิธีสร้างสายสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานของเหยาเทียนซื่อกับหวังหมิงเยว่ ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงสามารถครอบครองหุบเขามังกรหวนได้อย่างเปิดเผย

‘การเก็บเกี่ยวในปีนี้ค่อนข้างดี ข้าสามารถจับวิญญาณปีป่าได้มากกว่าปีก่อนถึงสามสิบส่วน’

‘อีกสองคนยังไม่เคลื่อนไหว เช่นนั้นข้าจะเริ่มก่อน หากข้าปล่อยให้เด็กใหม่ขายวิญญาณปีต่อไป มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการขายวิญญาณปีในปีนี้ของข้า’

หวังหมิงเยว่ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่สวรรค์สีเหลืองและเริ่มขายวิญญาณปีของนาง

การเคลื่อนไหวนี้สร้างความโกลาหลขึ้นในสวรรค์สีเหลืองทันที

“หวังหมิงเยว่ หนึ่งในสามผู้ขายวิญญาณปีรายใหญ่เคลื่อนไหวแล้ว”

“หากผู้ขายรายใหม่ได้รับอนุญาตให้ขายต่อไป หลังจากนี้จะมีคนอื่นๆเข้ามาเรื่อยๆ”

“นี่คือการตอบโต้”

“ถูกต้อง ตอนนี้หวังหมิงเยว่เคลื่อนไหวแล้ว อีกสองคนย่อมไม่นิ่งเฉย”

ผู้อมตะหลายคนลอบพูดคุย

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท