เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1458

ตอนที่ 1458

ทะเลตะวันออก

มันเป็นยามค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดมิด

คลื่นทะเลพัดไปยังเกาะนิรนามแห่งหนึ่ง

เทพธิดาตงฮัวบินอยู่กลางอากาศและเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อเห็นก้อนเมฆสีดำ นางตระหนักว่าพายุกำลังก่อตัวขึ้น

นางรู้สึกขุ่นเคืองแต่การแสดงออกของนางยังสงบ นางบินลงไปที่เกาะไร้นามและเห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเกาะ

“ขออภัยที่ให้ท่านต้องรอ” เทพธิดาตงฮัวโค้งคำนับ

ผู้อมตะลึกลับหันกลับมาและเปิดเผยรูปร่างหน้าตาของเขา

คนผู้นี้เป็นชายสูงอายุจมูกโด่งพร้อมกับดวงตาที่เรียวเล็ก เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เทพธิดาตงฮัว ข้าต้องแสดงความยินดีด้วยที่เจ้าสามารถขายราเรืองแสงในสวรรค์สีเหลือง”

ผู้อมตะชราเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดของทะเลตะวันออก เหรินซิ่วปิง

เทพธิดาตงฮันพยักหน้าและมอบหินวิญญาณอมตะจำนวนมากให้แก่เหรินซิ่วปิง

เหรินซิ่วปิงตรวจสอบก่อนจะถามด้วยความลังเล “เทพธิดา หากข้านับถูกต้อง มันขาดอยู่เล็กน้อย”

เทพธิดาตงฮันพยักหน้าด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม “ข้าสามารถคืนได้เท่านี้ แล้วข้าจะชดเชยส่วนที่เหลือในภายหลัง”

เหรินซิ่วปิงพยักหน้า “ฉลาดมาก ตามข้อตกลงของเรา ยิ่งหนี้ลดลง ดอกเบี้ยก็ยิ่งน้อย ดูเหมือนเจ้าจะสามารถชำระหนี้ได้ในไม่ช้า”

เทพธิดาตงฮันถอนหายใจ “แน่นอน”

นางพึ่งก้าวข้ามภัยพิบัติมาไม่นาน การซ่อมแซมมิติช่องว่างของนางต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล นางต้องยืมเงินจากเหรินซิ่วปิงผู้นี้

แต่ข้อตกลงของนางกับเหรินซิ่วปิงเข้มงวดมากโดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ย

เดิมทีเทพธิดาตงฮัวอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก แต่เมื่อฟางหยวนซื้อราเรืองแสงทั้งหมดของนาง นางจึงได้รับเงินคืนบางส่วน

การคืนหนี้ครั้งนี้ทำให้วิกฤตของนางบรรเทาลง

แต่เทพธิดาตงฮัวยังมีแรงกดดันเกี่ยวกับดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย

หลังจากชำระหนี้ เทพธิดาตงฮัวก็ไม่ต้องการอยู่อีกต่อไป นางกำลังจะจากไปแต่เหรินซิ่วปิงกลับเปิดปากกล่าว “เทพธิดาโปรดรอก่อน”

“ท่านมีสิ่งใด? หากท่านต้องการหินวิญญาณอมตะมากกว่านี้ ข้าต้องขอโทษด้วยที่ข้าไม่สามารถจ่าย” เทพธิดาตงฮัวขมวดคิ้วและกล่าวอย่างเย็นชา

เหรินซิ่วปิงยิ้ม “อย่ากังวล ไม่ใช่เรื่องนั้น ข้ามีมรดกที่แท้จริงที่ไม่สมบูรณ์อยู่ในมือ มันมาจากผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งไม้ที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการดัดแปลงราเรืองแสงงั้นหรือ? ข้าเชื่อว่ามรดกที่แท้จริงนี้จะช่วยเจ้าได้มาก”

เทพธิดาตงฮัวเริ่มสงสัย “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้ากำลังดัดแปลงราเรืองแสง?”

เหรินซิ่วปิงหัวเราะเบาๆ “เจ้าไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้ เพียงตรวจสอบ ข้าก็รู้เรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย”

การแสดงออกของเทพธิดาตงฮัวกลายเป็นเคร่งขรึม

บรรยากาศเริ่มมืดครึ้ม

“ครืน….”

คลื่นทะเลขนาดใหญ่ซัดสาดเข้าสู่เกาะไร้นามและส่งเสียงดัง

เหรินซิ่วปิงกล่าวถูกต้อง เทพธิดาตงฮัวลงทุนมากเกินไปในการดัดแปลงราเรืองแสงและทำให้นางล้มละลาย นางถูกบังคับให้ยืมเงินเพื่อรักษาสถานะทางการเงินของตนเอง

หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ด้วยรากฐานของนาง นางสามารถฟื้นฟูมิติช่องว่างของนางได้อย่างไม่มีปัญหา

หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เทพธิดาตงฮัวจึงเปิดปากถาม “ท่านหมายถึงผู้อมตะคนใด?”

เหรินซิ่วปิงยิ้ม “ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไม้กุ้ยอู๋ซื่อ เจ้าเคยได้ยินชื่อของเขาหรือไม่?”

เทพธิดาตงฮันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งไม้ที่ยอดเยี่ยมด้วยการบ่มเพาะระดับแปด แต่จากบันทึกในประวัติศาสตร์เขามีชื่อเสียงด้านการต่อสู้ ในแง่ของการจัดการมิติช่องว่าง ชื่อเสียงของเขาไม่ดีนัก”

เหรินซิ่วปิงส่ายศีรษะและกล่าวด้วยความมั่นใจ “เทพธิดา นั่นไม่ใช่เรื่องจริง ความประทับใจในพลังการต่อสู้ของกุ้ยอู๋ซื่อในใจเจ้าแข็งแกร่งเกินไป มันทำให้เจ้ามองไม่เห็นพรสวรรค์ในการจัดการมิติช่องว่างของเขา ความจริงก็คือเขาค่อนข้างน่าประทับใจในเรื่องนี้ หากปราศจากมิติช่องว่างที่ยอดเยี่ยม พลังการต่อสู้ก็ไร้ความหมาย นอกจากนี้กระทั่งเขาจะจัดการมิติช่องว่างได้ไม่ดี แต่เขายังเป็นผู้อมตะระดับแปดและบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งไม้ มรดกของเขาจะมีประโยชน์ต่อเจ้าอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่สามารถปฏิเสธ”

เทพธิดาตงฮัวถูกล่อลวง “มรดกที่แท้จริงของกุ้ยอู๋ซื่อราคาเท่าใด?”

เหรินซิ่วปิงตระหนักว่าปลากินเหยื่อแล้วแต่เขายังกล่าวว่า “ไม่แพง ไม่แพง”

ทั้งสองฝ่ายเจรจากันแต่ในที่สุดเทพธิดาตงฮัวก็ซื้อมรดกที่แท้จริงของกุ้ยอู๋ซื่อจากเหรินซิ่วปิงและออกจากเกาะไร้นาม

ทันทีที่นางออกมา พายุก็เริ่มขึ้น

ทั้งท้องฟ้าและท้องทะเลต่างมืดครึ้ม

“เปรี้ยง!”

เสียงฟ้าร้องดังขึ้น ประกายสายฟ้าส่องสะท้อนใบหน้าของเหรินซิ่วปิง

เขายิ้มราวกับแผนการของเขาสำเร็จแล้ว

“ข้าทำสำเร็จ”

“ตงฮัวถูกหลอกโดยชื่อเสียงของกุ้ยอู๋ซื่อ มรดกที่แท้จริงของเขาช่วยนางได้ไม่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ข้านำข้อมูลสำคัญบางส่วนออกมา”

“ราเรืองแสงเป็นพืชอสูรเดียวดาย มันจะดัดแปลงได้โดยง่ายงั้นหรือ? โดยเฉพาะเมื่อตงฮัวบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งแสง นางจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรโดยไม่ต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการค้นคว้า”

…..

ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

ฟางหยวนเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ท่าไม้ตายอมตะรัศมีราเรืองแสง!

ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาทำให้แสงสีส้มเหลืองระเบิดออกมา

แสงสีส้มเหลืองอาบย้อมแสงสีเขียวของราเรืองแสงและเปลี่ยนมันให้เป็นแสงสีขาว

ท่าไม้ตายของฟางหยวนประสบความสำเร็จและทำให้เขาได้รับราเรืองแสงสีขาว

ราเรืองแสงที่เหี่ยวเฉาและอ่อนแรงกลายเป็นราเรืองแสงที่ส่องประกายสว่างไสวและมีชีวิตชีวา

ฟางหยวนตรวจสอบก่อนจะพยักหน้าพึงพอใจ

“ยอดเยี่ยม การดัดแปลงราเรืองแสงประสบความสำเร็จ ตอนนี้ข้าสามารถเพาะพันธุ์มันได้แล้ว”

ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งไม้ของฟางหยวนต่ำกว่าเทพธิดาตงฮัวแต่เขามีแสงแห่งปัญญาและมรดกของนิกายเงารวมถึงมรดกของนิกายหลางหยา

ด้วยเหตุผลหลายประการ เขาจึงสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะที่ทำให้ราเรืองแสงส่องประกายขึ้นอีกครั้ง

ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณอมตะความพยายาม วิญญาณอมตะรักตัวเอง และวิญญาณอมตะราไม้เป็นแกนกลาง นอกจากนั้นยังมีวิญญาณอมตะอาหารว่างเป็นส่วนสนับสนุน นี่ทำให้ราเรืองแสงสามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นท้องฟ้า

ท่ามกลางวิญญาณอมตะเหล่านี้ วิญญาณอมตะราไม้ถูกยืมมาจากนิกายหลางหยา สำหรับวิญญาณอมตะดวงอื่นๆ พวกมันอยู่ในการครอบครองของฟางหยวน โดยเฉพาะวิญญาณอมตะอาหารว่างที่ฟางหยวนพึ่งได้รับมา มันสามารถสร้างประโยชน์ให้เขาได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นฟางหยวนได้วางราเรืองแสงสีขาวไว้ในสวรรค์สีส้มน้อยและสวรรค์สีขาวน้อย

มีธารแสงอยู่ในสวรรค์สีส้ม ภายในธารแสงมีผลไม้แสงเติบโตขึ้น

สำหรับสวรรค์สีขาว ที่นี่มีทุ่งดอกไม้แสงหลากสี

อิทธิพลของมันยังทำให้ธารแสงในสวรรค์สีส้มน้อยขยายตัวขึ้นอีกเล็กน้อย ทุ่งดอกแสงหลากสีก็เช่นกัน

หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนพอใจมาก

“ตราบเท่าที่ทั้งสองพื้นที่นี้พัฒนาขึ้น ข้าจะสามารถตอบสนองความอยากอาหารของวิญญาณทัศนคติและวิญญาณดาบแห่งปัญญา”

ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะระดับแปดอยู่สามดวง วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร สำหรับวิญญาณทัศนคติและวิญญาณดาบแห่งปัญญา พวกมันค่อนข้างรับมือได้ยาก

ฟางหยวนกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอดแต่ตอนนี้เขาเริ่มเห็นความหวังในการแก้ปัญหานี้

“นอกจากนี้ราเรืองแสงยังสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยตัวมันเอง เมื่อขนาดของมันเพิ่มขึ้นในอนาคต มันจะกลายเป็นอีกธุรกิจหนึ่งของข้า”

สิ่งนี้มีความเป็นไปได้สูง

ราเรืองแสงสีขาวที่ถูกดัดแปลงโดยฟางหยวนดีกว่าราเรืองแสงดั้งเดิม หากเขาวางขายมันในสวรรค์สีเหลือง มันจะได้รับความสนใจอย่างมาก

ฟางหยวนวางแผนไว้แล้ว เขาเลี้ยงดูราเรืองแสงทั้งสองชนิด ราเรืองแรงสีเขียวรูปแบบดั้งเดิมถูกวางไว้ในทะลตะวันออกน้อย เมื่อมันเติบโตขึ้น เขาจะสามารถสร้างราเรืองแสงสีขาวได้มากขึ้น

“จากการคำนวณ เพื่อสร้างแหล่งทรัพยากรให้ได้เท่าที่ข้าต้องการ ข้าต้องลงทุนด้วยหินวิญญาณอมตะจำนวนสองล้านก้อน”

“ในการทำธุรกิจ ข้าต้องใช้หินวิญญาณอมตะอีกหนึ่งล้านแปดแสนก้อน”

การให้อาหารวิญญาณอมตะระดับแปดไม่ใช่เรื่องง่าย

โดยรวมแล้วเขาต้องการหินวิญญาณอมตะสี่ล้านก้อน แต่หากมันประสบความสำเร็จ เขาจะสามารถผูกขาดธุรกิจนี้ มันจะทำกำไรมหาศาลให้แก่เขา

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ในธุรกิจวิญญาณปี แต่ความต้องการมันจะลดลงในอนาคต

ดังนั้นเขาจึงต้องสร้างธุรกิจใหม่และราเรืองแสงก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

แน่นอนว่ามันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว หลังจากขายราเรืองแสงออกไปได้ระยะหนึ่ง ผู้คนจะสามารถเรียนรู้และสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง แต่ภูเขาตงฮันมีเพียงหนึ่งเดียวและไม่สามารถลอกเลียนแบบ

“ต่อไปข้าจะปลดเปลื้องพันธนาการของตนเองและทำให้ความเร็วในมิติช่องว่างของข้ากลับสู่สภาพปกติ”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท