เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1435

ตอนที่ 1435

ครู่ต่อมาไป่หนิงปิงและคนอื่นๆก็นำศพของหงซื่อไปให้ฟางหยวน

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณมองศพและถอนหายใจ “คนผู้นี้เป็นตัวละครที่น่าทึ่ง เขาเป็นอัจฉริยะตั้งแต่เด็กและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงเมื่อเติบโตขึ้น ชื่อของเขาแพร่กระจายไปทั่วทั้งห้าภูมิภาค แต่เขากลับมาเสียชีวิตอยู่ที่นี่”

ฟางหยวนและคนอื่นๆเงียบ

เทพปีศาจจิตวิญญาณควบคุมเกาะบัวหินอยู่ที่นี่และเฝ้ามองอดีตจนถึงปัจจุบัน เขารู้ความลับมากมาย มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงทำให้เข้าได้รับข้อมูลผ่านสายธารแห่งกาลเวลา

เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับมรดกนี้ เขาต้องยอมรับว่าทักษะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเทพปีศาจบัวแดงน่าอัศจรรย์มากและเหนือกว่าเขา

วิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเทพปีศาจจิตวิญญาณเทียบเคียงกับผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่เขายังห่างไกลจากเทพปีศาจบัวแดงในแง่มุมนี้

หลังจากทั้งหมดผู้อมตะระดับเก้าล้วนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พวกเขาต่างมีจุดแข็งเป็นของตนเอง

หากเทพปีศาจบัวแดงเปรียบเทียบความสำเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาจะตกตะลึงกับความสามารถของเทพปีศาจจิตวิญญาณเช่นกัน

“ครืน…ครืน…”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เกาะบัวหินเริ่มพังทลาย

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณถอนหายใจ “อีกไม่นานเกาะบัวหินจะถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว”

เทพปีศาจบัวแดงทิ้งมรดกที่แท้จริงของเขาไว้บนเกาะบัวหินเจ็ดเกาะซึ่งอยู่ในพื้นที่ต่างๆของสายธารแห่งกาลเวลา

หลังจากเทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับเกาะบัวหินเกาะนี้ เขาเปลี่ยนมันเป็นฐานที่มั่นของนิกายเงาและใช้ประโยชน์จากมันมาหลายครั้ง ก่อนหน้านี้พวกเขายังใช้มันช่วยเหลือวิญญาณกาลเวลารวมถึงอิงอู๋เซี่ยและราชันภูเขาม่วง

รากฐานของเกาะบัวหินแห่งนี้ใกล้หมดสิ้นแล้ว หลังจากใช้มันสังหารหงซื่อ สุดท้ายมันจะพังทลายลงในที่สุด

“มีได้ย่อมมีเสีย” ฟางหยวนถอนหายใจ

“แม้เราจะสูญเสียเกาะบัวหินแห่งนี้ แต่สามารถสังหารหงซื่อถือเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ คนผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป เขาเหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา หากปล่อยไว้ พวกเราจะถูกซุ่มโจมตีอย่างต่อเนื่องและเราจะไม่มีโอกาสสังหารเขาได้อีก”

สมาชิกนิกายเงาพยักหน้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของฟางหยวน

แท้จริงแล้วเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เขามองฟางหยวนและพยักหน้า “ในการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน ตัวเลือกในนาทีสุดท้ายของสีม่วงถูกต้อง ฟางหยวน ข้าต้องยอมรับว่าเจ้ากลายเป็นโอกาสสุดท้ายของนิกายเงาไปแล้ว ภาระที่ยิ่งใหญ่ในการช่วยร่างหลักของเราขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า แม้เจ้าจะกำจัดร่างหลักของเรา เราก็จะไม่โทษเจ้า”

ผู้อมตะทั้งหมดรู้สึกประทับใจกับคำกล่าวเหล่านี้

การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนไป เขาอ้าปากหลายครั้งแต่ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมา

ผู้ใดจะคิดว่าสถานการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้

ตอนนี้นิกายเงาและฟางหยวนได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาเป็นความหวังสุดท้ายของนิกายเงา ไม่ว่าเขาจะบุกวังสวรรค์ในอนาคตหรือเขาจะช่วยร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาทั้งหมด

คำกล่าวเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความหมดสิ้นหนทางของนิกายเงา

นี่เป็นเพราะเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณมีข้อมูลมากที่สุดและเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน

เมื่อฟางหยวนเดินทางมายังเกาะบัวหินเพื่อรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง เจตจำนงของเทพปีศาจิตวิญญาณไม่ได้ขัดขวางหรือสร้างปัญหาใดๆให้ฟางหยวน นอกจากนั้นเขายังให้ความร่วมมือกับฟางหยวนในการสังหารหงซื่ออีกด้วย

ฟางหยวนมองเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณและตอบ “วางใจได้ วังสวรรค์เป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ท่านและข้าเป็นพันธมิตรโดยธรรมชาติ ข้าจะช่วยหากข้าสามารถ”

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณพยักหน้า “ข้าเชื่อเจ้า”

แต่หลังจากนั้นเขากลับเผยรอยยิ้มและกล่าว “เราไม่ได้เป็นพันธมิตรแต่เป็นกองกำลังเดียวกัน ตอนนี้เจ้าเป็นผู้นำนิกายเงาที่ได้รับการแต่งตั้งโดยสีม่วงและได้รับการอนุมัติจากร่างแยกหลายร่าง กระทั่งเจ้าจะพบกับร่างหลักของข้าในอนาคต เขาก็จะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะพวกเราก็คือเขา การตัดสินใจของพวกเราก็คือการตัดสินใจของเขา”

“เอาล่ะ ข้าจะส่งต่อมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งจิตวิญาณของร่างหลักรวมถึงทุกสิ่งให้กับเจ้า”

ฟางหยวนพยักหน้าและใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อส่งเจตจำนงของตนเองออกมา

เจตจำนงของฟางหยวนพุ่งเข้าไปหาเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณและหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง

การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเจตจำนงรวดเร็วมาก หลังจากไม่นาน เจตจำนงของฟางหยวนก็กลับมาหาเขา

ข้อมูลปริมาณมหาศาลพุ่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน

ฟางหยวนปิดเปลือกตาลงและจัดระเบียบข้อมูลเหล่านั้น เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา เขาสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา

ท่ามกลางข้อมูลทั้งหมด สิ่งที่มีค่าที่สุดคือมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

มันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการบ่มเพาะที่สมบูรณ์ที่สุดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

ฟางหยวนต้องสรรเสริญเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในใจแม้จะมองดูเนื้อหาเพียงเล็กน้อยก็ตาม

นี่ถือเป็นหนึ่งในมรดกที่ล้ำค่าที่สุดของโลกใบนี้และตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของมวลมนุษย์

หลังจากทั้งหมดมีผู้อมตะระดับเก้าปรากฏขึ้นบนโลกใบนี้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

วิญญาณกาลเวลาที่เป็นกุญแจสำคัญในการรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงอยู่ในมือของฟางหยวน แต่จนถึงตอนนี้ฟางหยวนพึ่งได้รับหนึ่งในเจ็ดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง นอกจากนั้นความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงก็ถูกดูดซับไปหมดแล้วโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

เทพอมตะตะวันเดือดมีสามมรดกที่แท้จริง ฟางหยวนได้รับแก่นแท้ของมรดกโชคของตนเองจากนิกายหลางหยาและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมรดกโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากหม่าหงหยุน แต่มันยังไม่ล้ำค่าเหมือนข่าวลือ

สำหรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ฟางหยวนได้รับเพียงผนึกภูตผีขณะที่จ้าวเหลียนหยุนได้รับผนึกศักดิ์สิทธิ์

‘ผู้ใดจะคิดว่ามรดกที่แท้จริงที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ข้าได้รับจะเป็นมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้ข้าย้อนกลับมาในอดีต’

‘น่าเสียดายที่ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าไม่เพียงพอและการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณก็ต้องใช้เวลา พลังงาน และทรัพยากรจำนวนมาก’

‘ท่ามกลางเส้นทางการบ่มเพาะ เส้นทางแห่งจิตวิญญาณต้องการทรัพยากรมากที่สุด เทพปีศาจจิตวิญญาณเคยกลืนกินชีวิตของสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อการบ่มเพาะของเขา หากข้าต้องการเจริญรอยตาม ข้าต้องสังหารรูปแบบชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนเช่นกัน มิฉะนั้นข้าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ’

มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณล้ำค่าที่สุด รองลงมาคือมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

แม้ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงบนเกาะบัวหินแห่งนี้จะถูกดูดซับไปแล้วแต่เนื้อหาเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงยังถูกส่งต่อ

เนื้อหาสำคัญที่สุดในมรดกนี้คือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลา

สิ่งสำคัญคือมันไม่ใช่เพียงเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาระดักหกแต่ยังมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาระดับเจ็ด ระดับแปด และกระทั่งระดับเก้า!

เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาระดับหกมีสิบแปดเคล็ดลับ เคล็ดลับที่ฟางหยวนใช้หลอมรวมวิญญาณกาลเวลาในชีวิตแรกของเขาเป็นหนึ่งในนั้น

เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาระดับเจ็ดกระทั่งมีมากกว่า มันมีถึงแปดสิบหกเคล็ดลับ

เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาระดับแปดมีสี่สิบสามเคล็ดลับ

และมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาระดับเก้าอยู่สามเคล็ดลับ

สิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยชั้นยอดสำหรับฟางหยวนอย่างแน่นอน ไม่เพียงเขาจะมีทางเลือกมากมาย แต่มันยังยืดหยุ่นอีกด้วย

‘เทพปีศาจบัวแดงค้นคว้าเกี่ยวกับวิญญาณกาลเวลาได้ลึกซึ้งนัก’

‘ไม่แปลกใจเลยที่วิญญาณกาลเวลาเป็นวิญญาณหลักของเขา’

เป็นธรรมดาที่ฟางหยวนจะต้องการยกระดับวิญญาณกาลเวลา นี่เป็นเพราะเขาตระหนักดีถึงพลังอำนาจของมัน เขาไม่สามารถทิ้งไพ่ตายที่สามารถพลิกสถานการณ์ใบนี้

นอกจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณและมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ยังมีมรดกที่แท้จริงอื่นๆอีกมากมาย

มรดกเหล่านี้บางส่วนสมบูรณ์แบบขณะที่บางส่วนไม่สมบูรณ์

นี่คือสมบัติที่เทพปีศาจจิตวิญญาณสะสมเอาไว้ตั้งแต่เขายังมีชีวิตและยังรวบรวมมาต่อเนื่องผ่านนิกายเงาตลอดช่วงเวลาหนึ่งแสนปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตอนนี้ทั้งหมดตกเป็นของฟางหยวนแล้ว!

แม้มรดกของราชันภูเขาม่วงจะมีมากมาย แต่มันยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกเก็บรักษาไว้โดยหนึ่งในร่างแยกของเขาเท่านั้น มันยังไม่ถึงหนึ่งในร้อยส่วนของทั้งหมด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งกฎของเทพปีศาจไร้ขอบเขตและมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเทพอมตะสวรรค์พิภพซึ่งไม่ได้อยู่ในมรดกที่ฟางหยวนได้รับมาจากราชันภูเขาม่วง

คุณค่าของมรดกเหล่านี้สูงมากจนไม่สามารถประเมินค่าได้

ตราบเท่าที่ฟางหยวนมีเวลาและทรัพยากรเพียงพอ เขามั่นใจว่าเขาสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างองค์กรที่ไม่ด้อยกว่าวังสวรรค์

กำไรของฟางหยวนในครั้งนี้ถึงระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้ กระทั่งตัวเขาเองยังรู้สึกสั่นไหว

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวอีกครั้ง “ผู้นำนิกายฟางหยวน ตอนนี้เจ้าได้รับมรดกของนิกายเงาที่สมบูรณ์แล้ว แต่เจ้ายังต้องใช้เวลา พลังงาน และทรัพยากรที่เหนือจินตนาการในการบ่มเพาะ สิ่งสำคัญที่สุดคือเราไม่มีเวลาและยังขาดทรัพยากรอีกมาก!”

“ร่างหลักของเราเคยประสบความสำเร็จในการท้าทายสวรรค์ ซ่อนตัวจากวังสวรรค์ และเลื่อนยุคที่ยิ่งใหญ่ออกไปเกือบห้าร้อยปี แต่ตอนนี้ร่างหลักของเราล้มเหลว ทุกอย่างกลับสู่เส้นทางเดิมของมัน อีกประมาณสิบปียุคที่ยิ่งใหญ่จะมาถึง ห้าภูมิภาคจะรวมเป็นหนึ่ง นั่นจะส่งผลให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”

“ท่ามกลางภูมิภาคทั้งห้า รากฐานของภาคกลางลึกที่สุดและมีผู้อมตะมากที่สุด นอกจากนี้พวกเขายังมีผู้นำเพียงหนึ่งเดียวคือวังสวรรค์ นี่คือสิ่งที่ภูมิภาคอื่นไม่สามารถเปรียบเทียบ พวกเขาจะแยกตัวเป็นกองกำลังย่อย มีเพียงสถานการณ์ของภาคเหนือที่มีถ้ำสวรรค์นิรันดรเท่านั้นที่ดีกว่าเล็กน้อย แต่เปรียบเทียบกับวังสวรรค์ของภาคกลาง อิทธิพลของพวกเขายังด้อยกว่ามาก”

“สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดเกี่ยวกับวังสวรรค์ก็คือวิญญาณชะตากรรมระดับเก้า มันมีพลังที่ยิ่งใหญ่ เหตุผลที่เทพอมตะกลุ่มดาวสามารถวางแผนต่อต้านสามเทพปีศาจหลังจากนางเสียชีวิตไปแล้วส่วนใหญ่เป็นเพราะพลังอำนาจของวิญญาณอมตะดวงนี้”

“เทพปีศาจทั้งสามล้วนอยู่ภายใต้ขอบเขตของโชคชะตา สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่กำเนิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลง มีเพียงปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์เท่านั้นที่ไม่ถูกผูกมัดด้วยโซ่ตรวนแห่งโชคชะตา ฟางหยวน เจ้าเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์และเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการทำลายวิญญาณชะตากรรม แท้จริงแล้วเจ้ายังเป็นทายาทผู้สืบทอดที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

“สิบปี เจ้ามีเวลาเพียงสิบปี ฟางหยวน อย่าปล่อยให้วังสวรรค์ประสบความสำเร็จในการกู้คืนวิญญาณชะตากรรม มิฉะนั้นวังสวรรค์จะไร้พ่าย แม้สี่ภูมิภาคจะร่วมมือกัน พวกเขาก็ยังไม่สามารถโค่นล้มมันได้ เมื่อเวลานั้นมาถึงเราจะไม่เหลือโอกาสในการบุกวังสวรรค์และช่วยร่างหลักของเรา”

“เจ้ามีเวลาไม่มาก ฟางหยวน”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท