เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1461

ตอนที่ 1461

มิติช่องว่างจักรพรรดิสงบมาก มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ไม่มีเวลากลางวันหรือกลางคืน มันเป็นสถานที่ที่เงียบสนิท

ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด มิติช่องว่างของเขายังอยู่ในระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เพียงเมื่อมันกลายเป็นถ้ำสวรรค์ ปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงจะเกิดขึ้น

แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่มันก็ไม่ใช่มิติช่องว่างที่ตายแล้ว มันเต็มไปด้วยชีวิต

ภาคเหนือน้อยอากาศเย็นกว่าภูมิภาคอื่นโดยเฉพาะทางเหนือสุด หลังจากผนวกแดนศักดิ์สิทธิ์ของฮันตงเข้ามา แหล่งทรัพยากรนี้ได้รับการดูแลโดยจิตวิญญาณแผ่นดินอสรพิษแดงชมพู นอกจากนั้นยังมีสุสานกระดูก ฟางหยวนพยายามปลูกหญ้าเคียวโลหิตและดอกขวานแดงเพื่อเป็นรากฐานให้กับฝูงกระต่ายสีชมพู หมาป่า และสุนัขจิ้งจอก

ภาคกลางน้อยมีป่าเห็ดหลินจือโลหิตและต้นหลิวกระจก นอกจากนี้ยังมีถ้ำแสงมรดกที่สร้างวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งแสง

ทะเลทรายตะวันตกน้อยเป็นที่อยู่ของอสรพิษเพลิง หาดทรายนางนวล บึงเน่าเปื่อย เนินสุนัขทมิฬที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวหยง นอกจากนี้ยังมีคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์เมืองศพที่ฟางหยวนได้รับมาจากกองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตก

ทะเลตะวันออกน้อย ตอนนี้มันไม่ใช่แอ่งน้ำอีกต่อไปแต่เริ่มเห็นร่องรอยของมหาสมุทรโดยเฉพาะทะเลเกล็ดมังกรและทะเลของวูอี้ไห่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของจิตวิญญาณแผ่นดินเต่าทะเล

นอกจากทะเลทั้งสองยังมีทะเลสาบโลหิต มันไม่ใหญ่โตนักแต่มันยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์อสูรและวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด

ถัดลงมายังมีทะเลน้ำตื้นอีกมากมาย ฟางหยวนเลี้ยงปลาฟองอากาศ ปลาคราฟศิลปิน รวมถึงหอยนางรมห้องลับเอาไว้ที่นี่

แม่น้ำหวนคืนถูกวางไว้ในพื้นที่ของทะเลตะวันออกน้อยเช่นกัน

สำหรับภาคใต้น้อย มันเป็นภูมิภาคที่พัฒนาไปมากที่สุด

มีภูเขาแสงห้าสี ภูเขามรดกอมตะ เนินมังกรผงาด ภูเขาผนึกสวรรค์ และภูเขานิรนามอื่นๆอีกมากมาย เช่นเดียวกับป่าไม้และถ้ำใต้พิภพ มีมนุษย์หินจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ ในป่ามีต้นดนตรี แม่น้ำชา วิหคมรณะ และอื่นๆ ระบบนิเวศของที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก

สำหรับสวรรค์น้อยทั้งเก้า สวรรค์สีแดงน้อยมีอสูรปีจำนวนมากรวมถึงอสูรปีวอกแรกกำเนิด

ฟางหยวนให้ความสำคัญกับการจัดการสวรรค์สีส้มน้อยเมื่อเร็วๆนี้โดยการวางราเรืองแสงสีขาวไว้ที่นี่เพื่อขยายธารแสงและสร้างผลไม้แสง

สวรรค์สีเหลืองน้อยค่อนข้างว่างเปล่า มีธารทองคำขนาดเล็กอยู่ที่นี่เท่านั้น

สวรรค์สีเขียวว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์ ฟางหยวนเคยวางกายาแห่งความฝันไว้ที่นี่ แต่ตอนนี้พวกมันถูกนำออกไปแล้ว

สวรรค์สีฟ้าน้อยมีธูปสีฟ้า นี่เป็นอาหารของวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณ นอกจากนี้ยังมีสระเก็บคริสตัลสวรรค์

สวรรค์สีน้ำเงินมีแหล่งทรัพยากรมากที่สุดท่ามกลางสวรรค์ทั้งเก้า ตัวอย่างเช่นป่าไผ่ลูกศร ทุ่งหญ้าสะเก็ดดาว หลุมอุกกาบาต และเกาะลอยฟ้าที่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของเย่หลิวชุนซิง

มีสุนัขดาวตกเพลิงวัยเยาว์อาศัยอยู่ที่นี่อย่างเงียบเหงา มันมักต่อสู้กับสัตว์อสูรอื่นๆในยามว่าง

สวรรค์สีม่วงน้อยมีฝูงอินทรีย์ที่ฟางหยวนซื้อมาด้วยวิญญาณอมตะระหว่างการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้ เนื่องจากเขามีรังอินทรีย์มากกว่าแปดสิบรังที่ได้รับมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กของเผ่าไห่ เขาจึงใช้พวกมันเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงอินทรีย์เหล่านี้

สวรรค์สีขาวน้อยมีฝูงสุนัขอินทรีย์ สุนัขสวรรค์ และทุ่งดอกไม้แสงหลากสี

สวรรค์สีดำน้อยอันมืดมิดมีต้นกินเนื้ออาศัยอยู่

ด้วยทรัพยากรทั้งหมด มันสามารถแข่งขันกับผู้อมตะระดับแปด

แต่สำหรับมิติช่องว่างจักรพรรดิ ทรัพยากรเหล่านี้ยังน้อยเกินไป

เหตุผล?

เพราะมิติช่องว่างจักรพรรดิใหญ่โตเกินไป

ในปัจจุบันฟางหยวนสามารถจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิได้เพียงสามสิบส่วนเท่านั้น

มิติช่องว่างจักรพรรดิเป็นโอกาสที่ไม่มีสิ่งใดสามารถเปรียบเทียบ แต่ฟางหยวนยังไม่แน่ใจว่าเมื่อใดที่เขาจะสามารถดูแลพื้นที่ทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ มันอาจต้องใช้เวลานานมาก

พื้นฐานของการพัฒนามิติช่องว่างของผู้อมตะมีเจ็ดขั้นตอน

ขั้นตอนแรกคือการสร้างแหล่งทรัพยากรเพื่อผลิตวิญญาณระดับมนุษย์ ทรัพยากรระดับมนุษย์ สัตว์และพืช

ทรัพยากรระดับมนุษย์จะมีค่าด้วยปริมาณ ผู้อมตะสามารถผลิตวิญญาณระดับมนุษย์ได้นับล้านดวงในครั้งเดียว ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงสามารถขายวิญญาณปีระดับมนุษย์ได้นับล้านดวง

ขั้นตอนที่สองคือการสร้างทรัพยากรอมตะ เมื่อถึงขั้นตอนนี้ ผู้อมตะจะสามารถผลิตอาหารให้กับวิญญาณอมตะของตนเอง

ขั้นตอนที่สามคือการสร้างระบบนิเวศเพื่อเพาะเลี้ยงสัตว์อสูรเดียวดายหรือพืชอสูรเดียวดาย

ขั้นตอนที่สี่คือการทำธุรกรรมทรัพยากรอมตะ สัตว์อสูรเดียวดายหรือพืชอสูรเดียวดายเพื่อสร้างกำไร

…..

พิจารณาจากสิ่งนี้ ฟางหยวนอยู่ในขั้นตอนที่สี่เพราะเขามีธุรกิจมากมายที่สามารถทำกำไร ตอนนี้ธุรกิจวิญญาณปีของฟางหยวนยึดครองสวรรค์สีเหลืองอย่างสมบูรณ์แล้ว สามผู้ขายรายเดิมไม่สามารถขายสินค้าของพวกเขา

‘แต่จากมุมมองอื่น ข้ายังอยู่ในขั้นตอนที่สอง เพราะข้ายังไม่สามารถเลี้ยงดูวิญญาณอมตะ’

ฟางหยวนเข้าใจเหตุผล

นั่นเป็นเพราะเขามีวิญญาณอมตะมากเกินไป

วิญญาณอมตะระดับแปด วิญญาณทัศนคติ วิญญาณดาบแห่งปัญญา วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ

วิญญาณอมตะระดับเจ็ด วิญญาณคิ้วดาบ วิญญาณคลื่นดาบ วิญญาณดาบบิน วิญญาณดาบทะลวงมิติ วิญญาณปี วิญญาณราชินีมด วิญญาณเต่าพยากรณ์ วิญญาณลมหายใจมังกร วิญญาณเกล็ดมังกร วิญญาณความระมัดระวัง วิญญาณใหญ่ วิญญาณจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ วิญญาณความใคร่ วิญญาณรักตัวเอง วิญญาณความพยายาม วิญญาณขีดจำกัดชื่อเสียง วิญญาณเปลี่ยนวิญญาณ วิญญาณสายโลหิต วิญญาณความแข็งแกร่งของมังกร วิญญาณธงค่ายกล และอื่นๆ

วิญญาณอมตะระดับหก วิญญาณความแข็งแกร่งของตนเอง วิญญาณยกภูเขา วิญญาณดึงแม่น้ำ วิญญาณความแข็งแกร่งของพลังปราณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณพื้นที่ก่อนหน้า วิญญาณบุรุษคนก่อนหน้า วิญญาณวัน วิญญาณคลี่คลายปริศนา วิญญาณความคิดวัชระ วิญญาณโชคอึสุนัข วิญญาณหัวใจหญิงงาม วิญญาณสมบัติเลือด วิญญาณเปลี่ยนรูปลักษณ์ วิญญาณเนตรดารา วิญญาณสัมผัสแห่งเต๋า วิญญาณตรวจสอบโชค วิญญาณเชื่อมโยงโชค วิญญาณช่วงเวลาแห่งโชค วิญญาณความคิดดารา และอื่นๆ

วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคและวิญญาณอมตะดวงอื่นๆที่เคยอยู่กับอิงอู๋เซี่ยถูกส่งคืนให้กับฟางหยวนเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาบางดวงของราชันภูเขาม่วงก็ถูกส่งต่อมาถึงเขาและยังรวมถึงวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาบางส่วนที่มาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล

รวมทั้งหมดฟางหยวนมีวิญญาณอมตะมากกว่าห้าสิบดวง!

มากว่าห้าสิบดวง!

ต้องไม่ลืมว่าผู้อมตะส่วนใหญ่ไม่มีวิญญาณอมตะในการครอบครอง

มีเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดและระดับแปดบางคนเท่านั้นที่สามารถครอบครองวิญญาณอมตะห้าหรือหกดวง

โดยทั่วไปผู้อมตะระดับหกจะตามหาวิญญาณอมตะระดับหก ผู้อมตะระดับเจ็ดต้องการวิญญาณอมตะระดับเจ็ด ผู้อมตะระดับแปดไขว่คว้าวิญญาณอมตะระดับแปด และผู้อมตะระดับเก้าปรารถนาที่จะครอบครองวิญญาณอมตะระดับเก้า

แต่ฟางหยวน?

นอกจากเขาจะมีวิญญาณอมตะมากกว่าห้าสิบดวง พวกมันยังมีทั้งวิญญาณอมตะระดับหก ระดับเจ็ด และระดับแปด

นี่ยังไม่รวมวิญญาณเรียกภัยพิบัติที่เขาให้ชูตู๋ยืม วิญญาณสติปัญญาที่อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา และวิญญาณขีดจำกัดความมืดที่ถูกยึดครองโดยวังสวรรค์ สุดท้ายยังมีจิตวิญญาณค่ายกลที่ถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณอมตะ

สถานการณ์ของฟางหยวนพิเศษเกินไป

ปีศาจต่างโลกที่กำเนิดใหม่ ความหวังของเทพปีศาจบัวแดง อดีตเครื่องมือของเจตจำนงสวรรค์ และผู้นำนิกายเงาคนปัจจุบันที่ได้รับมรดกที่แท้จริงจำนวนนับไม่ถ้วน

แม้การเดินทางของเขาจะเต็มไปด้วยอันตรายและความสิ้นหวัง แต่ความเสี่ยงมหาศาลก็ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่

ตอนนี้ฟางหยวนมั่นคั่งมาก

อย่างไรก็ตามการให้อาหารวิญญาณอมตะก็เป็นภาระและปัญหาใหญ่สำหรับเขา

‘หลังจากทำงานหนัก ในที่สุดข้าก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้บ้าง’

‘วิญญาณสติปัญญาได้รับการดูแลโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลาหยาขณะที่ข้าสามารถแก้ปัญหาเรื่องอาหารของวิญญาณอมตะระดับแปดทั้งสามดวง’

‘ต่อไปข้าจะแก้ปัญหาเรื่องอาหารของวิญญาณอมตะระดับหกและระดับเจ็ด’

พิจารณาถึงหินวิญญาณอมตะ ตอนนี้ฟางหยวนมีมันอย่างเพียงพอ

‘การแต่งงานกับมนุษย์หิมะ?’

ฟางหยวนครุ่นคิด

เซี่ยเอ๋อนำแก่นแท้บัวหิมะมามอบให้เขา นางแสดงเจตนาที่จะสร้างความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงาน

เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

‘หากข้าทำงานด้วยตนเองเพื่อแก้ปัญหาเรื่องอาหารของวิญญาณอมตะ มันอาจใช้เวลาอีกนาน แต่หากข้าใช้ประโยชน์จากเผ่ามนุษย์หิมะ ข้าจะมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว’

‘สิ่งที่ข้าขาดมากที่สุดตอนนี้คือเวลา’

‘ข้าไม่ขัดข้องเรื่องการแต่งงานกับมนุษย์หิมะ’

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท