เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1436

ตอนที่ 1436

เกาะบัวหิน

ร่างกายและเสียงของเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณเริ่มเลือนหาย

ฟางหยวนต้องการช่วยเติมเต็มและเขาถูกหยุดเอาไว้

“ปล่อยให้ข้าหายไป ข้าคือเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ร่างหลักของข้าถูกจับกุมโดยวังสวรรค์ พวกเขาจะค้นพบข้าในไม่ช้า”

“สำหรับร่างแยก ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขา”

“เกาะบัวหินไม่อยู่แล้ว ภารกิจของข้าเสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน”

“ขณะที่ข้ายังเหลือพลังอยู่บ้าง ให้ข้าเร่งเวลาให้พวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”

ฟางหยวนพยักหน้าอย่างช้าๆ “ตกลง”

หลังจากนั้นเขาก็นำค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองออกมา

ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะและเริ่มใช้งานมัน

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณเผยรอยยิ้มบางขณะที่เกาะบัวหินส่องประกายระยิบระยับเป็นครั้งสุดท้าย

…..

“ท่านหงซื่อตายแล้ว!”

ฟงจิวเก้อและผู้อมตะระดับแปดจากวังสวรรค์ทั้งสองรู้สึกตกใจมากเมื่อได้รับข่าวนี้

หลังจากนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยก็ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับพวกเขา

“ฟางหยวนสูญเสียอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดแต่เขากลับได้รับอสูรปีวอกแรกกำเนิดมาแทนงั้นหรือ?”

“มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงน่าเหลือเชื่อนัก มันสามารถควบคุมส่วนหนึ่งของสายธารแห่งกาลเวลา!”

“หากไม่ใช่เพราะเกาะบัวหิน แม้ฟางหยวนจะมีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดพร้อมกับการคุ้มครองจากอสูรปีวอกแรกกำเนิด เขาก็ยังไม่สามารถสังหารท่านหงซื่อ! เห้อ…”

ตอนนี้สามผู้อมตะสามารถผ่านแนวป้องกันของอาณาจักรแห่งความฝันมาแล้ว พวกเขากำลังยืนอยู่ด้านหน้าสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา

อาณาจักรแห่งความฝันเคลื่อนที่ตลอดเวลา สุดท้ายมันจึงเปิดช่องว่างและปล่อยให้ผู้อมตะทั้งสามเดินทางผ่านมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน

อาณาจักรแห่งความฝันสามารถกีดขวางศัตรูแต่มันพึ่งพาได้ไม่นาน

โดยเฉพาะอาณาจักรแห่งความฝันที่ถูกแทรกซึมโดยเจตจำนงสวรรค์ การเคลื่อนที่ของมันสนับสนุนผู้อมตะจากวังสวรรค์อย่างชัดเจน

นี่เป็นเหตุผลที่ฟางหยวนไม่ได้ใช้อาณาจักรแห่งความฝันเพื่อหลบหนีในการต่อสู้ครั้งก่อนหน้า

การแสดงออกของสามผู้อมตะดูไม่น่ามองเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวการเสียชีวิตของหงซื่อ

ตามแผนเดิมของพวกเขา หงซื่อที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลาจะทำลายมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงและบังคับให้กลุ่มของฟางหยวนออกมาเผชิญหน้ากับสามผู้อมตะด้านนอก

แต่ตอนนี้หงซื่อที่แข็งแกร่งที่สุดกลับถูกล้มล้างเป็นคนแรก สถานการณ์นี้ทำให้ฟงจิวเก้อและอีกสองคนรู้สึกอึดอัดใจ

พวกเขาควรรอต่อไปหรือไม่?

หากพวกเขารอต่อไป ฟางหยวนและคนอื่นๆจะปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาหรือไม่?

ผู้อมตะทั้งสามรู้สึกลังเล พวกเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแต่ผู้ใดจะคิดว่าขวัญกำลังใจของพวกเขาจะถูกทำลายตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ต่อสู้

“รอต่อไป” เทพธิดาจื่อเว่ยแนะนำ

“ข้าอนุมานแล้วว่าฟางหยวนเหลือสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเพียงแห่งเดียว”

“หงซื่อเสียสละตนเองแต่มันก็ทำให้เราได้ข้อมูลที่มีค่ามากมายเกี่ยวกับฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงาโดยเฉพาะมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ตอนนี้วังสวรรค์ได้รับเบาะแสบางอย่างของมันแล้ว”

“ฟางหยวนและคนอื่นๆไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ที่นั่น พวกเขาต้องออกมาในที่สุด”

น้ำเสียงของเทพธิดาจื่อเว่ยเต็มไปด้วยความแน่วแน่ นั่นทำให้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของฟงจิวเก้อและอีกสองคนพุ่งทะยานขึ้น

เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาเพียงไม่กี่คนในห้าภูมิภาค การอนุมานของนางจะไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน

“เช่นนั้นเราจะรอต่อไป”

“ปีศาจต่างโลกเป็นภัยต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ข้าจะปลิดชีพเจ้าในครั้งนี้อย่างแน่นอน!”

สองผู้อมตะจากวังสวรรค์โกรธมากขณะที่การแสดงออกของฟงจิวเก้อสงบลง

อย่างไรก็ตามหนึ่งวันผ่านไป สองวันผ่านไป และหกวันผ่านไป สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาก็ยังไม่เกิดความโกลาหลใดๆ

สิบวันผ่านไป หนึ่งเดือนผ่านไป แต่ผู้อมตะที่รออยู่ยังไม่พบร่องรอยใดๆเกี่ยวกับฟางหยวน

แต่พวกเขาไม่หวั่นไหว

พวกเขาเป็นผู้อมตะของวังสวรรค์ ตัวตนเหล่านี้จะขาดความอดทนได้อย่างไร?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟงจิวเก้อที่ต่อสู้กับฟางหยวนมาแล้วรู้ดีเกี่ยวกับความเร็วในการเติบโตของฟางหยวน เขาตัดสินว่าฟางหยวนเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ต่อโลกใบนี้และต้องถูกกำจัดโดยเร็วที่สุด

“ฟางหยวนอยู่ที่ใด?”

“พวกเขายังอยู่บนเกาะบัวหินงั้นหรือ?”

“เหตุใดข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจ?”

ในวังสวรรค์ เทพธิดาจื่อเว่ยเริ่มรู้สึกสับสน

ไม่นานหลังจากความตายของหงซื่อ นางสูญเสียการเชื่อมต่อกับฟางหยวนและคนอื่นๆไปอย่างสมบูรณ์ สมาชิกนิกายเงาใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่พึงประสงค์ออกจากร่างกาย

แม้จะไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าฟางหยวนและคนอื่นๆหลบหนีออกจากสายธารแห่งกาลเวลาไปแล้วแต่เทพธิดาจื่อเว่ยยังรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ

เส้นทางแห่งปัญญาแบ่งเป็นสามสิ่ง ความคิด เจตจำนง และอารมณ์ความรู้สึก

ท่ามกลางพวกมัน อารมณ์และความรู้สึกยังเป็นวิธีการที่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญามักพึ่งพา

ดังนั้นความไม่สบายใจของเทพธิดาจื่อเว่ยจึงถือเป็นสังหรณ์ร้าย

“ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดฟางหยวนได้หลบหนีออกจากสายธารแห่งกาลเวลาไปแล้ว”

“แต่กลุ่มของฟงจิวเก้อรออยู่ที่ทางออก แล้วพวกเขาจะหลบหนีไปได้อย่างไร?”

“พวกเขาได้รับวิธีซ่อนตัวที่ทรงพลังจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงงั้นหรือ? หรือบางที…พวกเขาสามารถใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาสายอื่น?”

เทพธิดาจื่อเว่ยเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาสองแห่งที่ฟางหยวนสามารถเข้าถึงถูกเปิดเผยแล้ว

ข้อมูลนี้เชื่อถือได้เพราะแหล่งที่มาของมันคือร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกกำหราบโดยราชันมังกร วังสวรรค์ย่อมไม่ปล่อยเขาไปและพยายามค้นวิญญาณของเขา อย่างไรก็ตามเทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นตัวตนอันดับหนึ่งบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แม้เขาจะเหลือเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณ แต่มันยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะถูกค้นวิญญาณ

วังสวรรค์ใช้วิธีการทั้งหมดของพวกเขาในการดึงข้อมูลแต่ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณยังดิ้นรนขัดขืน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ได้รับข้อมูลมากนัก

“หากฟางหยวนไม่ได้ใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาแล้วเขาจะออกมาอย่างไร?”

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่เป็นทางออกของฟางหยวนถูกปิดกั้นโดยกลุ่มของฟงจิวเก้อ แม้ฟางหยวนจะไม่ตรวจสอบเรื่องนี้แต่เขาก็สามารถคาดเดา ดังนั้นเขาอาจมีวิธีที่ดีกว่าการต่อสู้และหลบหนีออกไปโดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ตัว

“ในทะเลทรายตะวันตกมีสามกองกำลังที่ครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเอาไว้”

“กองกำลังแรกคือตระกูลเทียน ตระกูลนี้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้และเส้นทางแห่งปฐพีเป็นหลัก พวกเขามีชื่อเสียงในการจัดการมิติช่องว่างและเป็นหนึ่งในกองกำลังใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดของทะเลทรายตะวันตก”

“กองกำลังที่สองคือตระกูลกง ตระกูลกงเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะไกล โดยเฉพาะท่าไม้ตายที่เกี่ยวข้องกับคำสาปที่สามารถคร่าชีวิตศัตรูได้อย่างเงียบเชียบ ท่าไม้ตายอมตะที่มีชื่อเสียงของพวกเขาคือ เงาแปรผัน พวกเขาต้องการเพียงเงาของเป้าหมาย เมื่อมันถูกกระตุ้นใช้งาน เป้าหมายจะถูกสังหารไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลเพียงใดก็ตาม”

“กองกำลังที่สามคือตระกูลถัง ตอนนี้ตระกูลถังตกต่ำลงมาก ความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ในระดับกลางถึงล่าง แต่พวกเขายังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะและครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเอาไว้ที่ฐานทัพใหญ่ของพวกเขา ด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่ง กองกำลังอื่นจึงไม่สามารถคว้ามันไปได้โดยง่าย”

“หากฟางหยวนต้องการใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเหล่านั้น เขาจะเลือกตระกูลใด?”

“แต่ทั้งสามตระกูลยังไม่มีการเคลื่อนไหว บางทีฟางหยวนอาจยังอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา”

เทพธิดาจื่อเว่ยครุ่นคิดอย่างหนัก

นางตระหนักถึงสถานการณ์ในโลกผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกเป็นอย่างดี วังสวรรค์สามารถรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย

ตระกูลถัง

แสงสว่างส่องประกายขึ้นบนร่างของฟางหยวนและคนอื่นๆ

“การเคลื่อนไหวครั้งนี้ต้องใช้เวลาเตรียมตัวนับเดือน นอกจากเราจะสามารถป้องกันการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เรายังสามารถหลีกเลี่ยงเจตจำนงสวรรค์” ฟางหยวนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นและกล่าวด้วยความยินดี

นอกจากฟางหยวนยังมีไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน อิงอู๋เซี่ย นางเสือดำ และเทพธิดาเมี่ยวหยิน ไม่มีผู้ใดขาดหายไป

การคาดเดาของเทพธิดาจื่อเว่ยถูกเพียงครึ่งเดียว

ฟางหยวนไม่มีแผนที่จะเข้าสู่การต่อสู้ที่สิ้นหวังกับกองกำลังจากวังสวรรค์ พวกเขาออกมาตั้งแต่สิบวันก่อนหน้า

“ไปกันเถอะ ถึงเวลาออกจากทะเลทรายตะวันตกแล้ว” ฟางหยวนก้าวไปข้างหน้าขณะที่คนอื่นๆตามมาอย่างใกล้ชิด

พวกเขาอยู่ลึกลงไปใต้พื้นพิภพและกำลังเคลื่อนที่ขึ้นสู่พื้นผิว

ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกสองคนกำลังรอพวกเขาอยู่ที่ทางออก

“ถังฟางหมิง (ถังหลานเค่อ) คารวะผู้นำนิกายเงา” ผู้อมตะทั้งสองยังดูเยาว์วัย หลังจากเห็นฟางหยวน พวกเขาเร่งโค้งคำนับ

ฟางหยวนหัวเราะ “ข้าทำให้พวกท่านลำบากแล้ว นี่คือวิญญาณอมตะที่ข้ายืมมาจากตระกูลของพวกท่าน”

ฟางหยวนส่งวิญญาณอมตะหลายดวงให้กับถังฟางหมิง

ถังฟางหมิงตรวจสอบอย่างรอบคอบ หลังจากไม่พบปัญหา เขาก็เก็บพวกมันเอาไว้ในมิติช่องว่างอย่างระมัดระวัง

เขากล่าวด้วยความละอายใจ “โปรดยกโทษให้กับการกระทำของข้าด้วย ข้ายืมวิญญาณเหล่านี้มาจากตระกูลเป็นการส่วนตัว นี่เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ของข้า ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระมัดระวัง”

ฟางหยวนยิ้ม คำกล่าวของถังฟางหมิงมีความหมายลึกซึ้ง ท้ายที่สุดแล้วตระกูลถังก็เป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะ หากข่าวเรื่องการร่วมมือกับกองกำลังฝ่ายปีศาจเช่นนิกายเงาถูกเผยแพร่ออกไป พวกเขาจะพบปัญหาใหญ่

แต่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ผลประโยชน์เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทุกคนไล่ล่า

ตระกูลถังอ่อนแอลง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากภายนอก สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้ผู้อมตะตระกูลถังต้องอดทนอดกลั้นและยินดีรับความเสี่ยงเพื่อพัฒนาตนเอง

กลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลถังคืออาณาจักรแห่งความฝัน

ในชีวิตแรกของฟางหยวน ตระกูลถังก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการใช้ประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝัน ในสงครามห้าภูมิภาค พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของทะเลทรายตะวันตกอย่างก้าวกระโดด

ดังนั้นฟางหยวนจึงตัดสินใจติดต่อตระกูลถังและใช้งานวิจัยเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันของนิกายเงาเพื่อแลกเปลี่ยนกับการใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในการครอบครองของพวกเขา นอกจากนี้ฟางหยวนยังยินดีร่วมมือกับตระกูลถังเพื่อทำวิจัยเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันในอนาคตรวมถึงความร่วมมืออื่นๆ

ผลประโยชน์มหาศาลทำให้ตระกูลถังถูกล่อลวง

ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันของฟางหยวน หรือท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันของอิงอู๋เซี่ย พวกมันต่างดึงดูดความสนใจของผู้อมตะตระกูลถัง

แน่นอนว่าท่าไม้ตายอมตะทั้งสองไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตระกูลถังจะได้รับ

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท