เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1460

ตอนที่ 1460

วังสวรรค์ วิหารปราบวิญญาณ

เทพธิดาจื่อเว่ยมองเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าและขมวดคิ้ว “ถึงจุดนี้เจ้ายังไม่เห็นความจริงอีกงั้นหรือ?”

เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ตอบ เขายังเงียบราวกับก้อนหิน

เทพธิดาจื่อเว่ยเย้ยหยัน นางกระตุ้นใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด

สายฟ้าสีม่วงแลบลั่นขึ้นบนโซ่ที่รัดพันเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้

ความทรงจำของเขาถูกดึงออกมาและปรากฏขึ้นต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย

มันเป็นฉากในอดีต

เวลานั้นเทพปีศาจจิตวิญญาณยังไม่ได้เป็นเทพปีศาจแต่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

ที่หุบเขาเหล่าโป เทพปีศาจจิตวิญญาณล้มลงบนพื้น

เขากระอักเลือดคำโตออกมาจากปาก

ใบหน้าของเขาซีดขาว สถานการณ์เลวร้ายมาก เขากำลังจะตาย

ร่างหนึ่งบินลงมาจากท้องฟ้า “เจ้าหนีไม่พ้น วันนี้เจ้าต้องตาย!”

คนผู้นี้ปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปดออกมา เขาทั้งเย็นชาและแข็งแกร่ง

เทพปีศาจจิตวิญญาณลุกขึ้นนั่งและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า “ข้าไม่เข้าใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบกัน เราไม่มีความขุ่นเคือง เหตุใดเจ้าถึงยอมจ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อฆ่าข้า?”

คนผู้นั้นตะโกน “เพราะเจ้าสังหารผู้คนและนำหายนะมาสู่โลกใบนี้!”

เทพปีศาจจิตวิญญาณเย้ยหยัน “เจ้าฆ่าคนมามากกว่าข้า มันน่าหัวเราะที่เจ้ากล้ากล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมา”

ผู้อมตะระดับแปดส่ายศีรษะ “มันแตกต่างกัน เนื้อแท้ของเจ้าเลวร้ายกว่าข้า”

เทพปีศาจจิตวิญญาณเงียบก่อนกล่าวต่อ “เพราะข้าต้องการสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณงั้นหรือ?”

ผู้อมตะระดับแปดประหลาดใจแต่เขายังกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ถูกต้อง ไม่ควรสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ตอนนี้วิญญาณชะตากรรมได้รับความเสียหาย หากเส้นทางแห่งจิตวิญญาณถูกสร้างขึ้น โลกจะเปลี่ยนไปอย่างมาก คนตายจะไม่สงบสุข ภูตผีจะเร่ร่อนไปทั่วโลก”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะ “วิเศษมาก ข้าจะสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ในอนาคตผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนจะบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ข้าจะเปลี่ยนโลกทั้งใบ!”

เขาหัวเราะขณะลุกขึ้นยืน

“หากข้ายังอยู่ อย่าหวังว่าจะสมปรารถนา!” ผู้อมตะระดับแปดเย้ยหยันและพุ่งลงไป

เทพปีศาจจิตวิญญาณยกมือขึ้นและกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณดักจับผู้อมตะระดับแปดเอาไว้ภายใน

แต่ศัตรูของเขายังสามารถทำลายมันได้อย่างรวดเร็ว

“เจ้าคิดว่าข้าไม่สังเกตเห็นค่ายกลที่ซ่อนอยู่งั้นหรือ? ข้าตั้งใจคุยกับเจ้าเพราะข้าค้นพบค่ายกลนี้แล้ว!” ผู้อมตะระดับแปดพุ่งเข้าไปหาเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างไม่ลดละ

แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขายืนอยู่ที่เดิมและปล่อยให้ผู้อมตะระดับแปดเข้ามาหา

เขาหัวเราะ “เจ้าสามารถคลี่คลายเพียงผิวเผิน เจ้าไม่คิดว่าหุบเขาแห่งนี้ผิดปกติงั้นหรือ?”

หลังกล่าวจบคำ ผู้อมตะระดับแปดก็ได้รับผลกระทบจากพลังอำนาจลึกลับทันที

“นี่คือ…หุบเขาเหล่าโป!?” ผู้อมตะระดับแปดตกใจมาก

“ถูกต้อง แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ สถานที่ที่ดีที่สุดในการบ่มเพาะจิตวิญญาณ ฮ่าฮ่า มันจะเป็นที่พักแห่งสุดท้ายของเจ้า!” เทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ

“อ๊าก!” ผู้อมตะระดับแปดกรีดร้อง ค่ายกลวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณหยิบยืนพลังอำนาจระดับเก้าของหุบเขาเหล่าโป

ผู้อมตะระดับแปดไม่สามารถรับมือและเสียชีวิตลงในที่สุด

เทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปที่ศพของผู้อมตะระดับแปด แม้เส้นผมของเขาจะยุ่งเหยิง เลือดจะไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด แต่เขายังเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เขาเย้ยหยัน “ฮืม ผู้อมตะของวังสวรรค์ น่าสนใจ ข้าสาบานว่าข้าจะสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณในอนาคต ข้าจะทำให้ผู้คนบ่มเพาะบนเส้นทางสายนี้ แม้ข้าจะล้มเหลวหรือตาย ข้าก็จะทำให้แน่ใจว่าในอนาคตจะมีผู้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

ภาพหยุดลงตรงนี้

การแสดงออกของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นมืดมน

นางมองเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ไม่เคลื่อนไหวก่อนจะเดินจากไป

แม้นางจะสามารถดึงความทรงจำของเทพปีศาจจิตวิญญาณออกมาได้บางส่วน แต่มันไร้ประโยชน์ราวกับเขากำลังตอบคำถามก่อนหน้านี้ของนาง

หากเป็นเช่นนั้นมันก็หมายความว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณยังสามารถต่อต้านวิธีค้นวิญญาณของวังสวรรค์

แม้เขาจะไม่สามารถต่อต้านพลังอำนาจของวิหารปราบวิญญาณแต่เขายังสามารถเลือกที่จะมอบความทรงจำบางอย่างที่เขาต้องการ

‘คงต้องใช้เวลาอีกนานก่อนที่เราจะได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์’ เทพธิดาจื่อเว่ยลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

…..

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา หุบเขาเหล่าโป

ฟางหยวนนั่งอยู่ในส่วนลึกของหุบเขา

เขากระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณกับหุบเขาเหล่าโปอย่างเต็มที่

มันคือค่ายกลวิญญาณเหล่าโป

ค่ายกลวิญญาณนี้มาจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันใช้หนอนไหมบัวขาวเป็นพื้นฐาน สิ่งนี้เป็นอาหารของวิญญาณอมตะล้างใจและถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

หลังจากได้รับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณหนอนไหมบัวขาว เขาขอให้นิกายหลางหยาหลอมรวมมันขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

ตอนนี้เขาต้องเลี้ยงดูวิญญาณอมตะล้างใจอีกครั้ง นอกจากนั้นมันยังใช้เป็นรากฐานของค่ายกลวิญญาณสำหรับการบ่มเพาะจิตวิญญาณ

ค่ายกลวิญญาณนี้ทำให้สายลมและหมอกหนาทึบในหุบเขาเหล่าโปมารวมตัวกัน

จิตวิญญาณของฟางหวนได้รับการขัดเกลาอย่างรวดเร็ว

‘ด้วยค่ายกลวิญญาณนี้ ประสิทธิภาพในการบ่มเพาะจิตวิญญาณของข้าเพิ่มขึ้นสามสิบส่วน’ ฟางหยวนประเมิน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใช้งานค่ายกลวิญญาณดังกล่าว

ค่ายกลวิญญาณเหล่าโปถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการบ่มเพาะจิตวิญญาณ แต่ฟางหยวนสามารถปรับเปลี่ยนวิญญาณบางดวงเพื่อใช้งานมันได้หลากหลายมากขึ้น กล่าวได้ว่ามันมีประโยชน์มาก

ตัวอย่างเช่นฉินไป่เฉิงสามารถใช้ค่ายกลวิญญาณเหล่าโปเพื่อป้องกันการบุกรุกของผู้อมตะภาคกลาง

ตามข้อมูลในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาสามารถใช้ค่ายกลวิญญาณนี้สังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์

ค่ายกลวิญญาณที่ฟางหยวนกำลังใช้งานอยู่ในเวลานี้มุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะจิตวิญญาณ มันใช้วิญญาณอมตะล้างใจและวิญญาณหนอนไหมบัวขาวระดับมนุษย์เป็นแกนกลางรวมถึงวิญญาณระดับมนุษย์อีกมากมายเป็นส่วนสนับสนุน

‘เอาล่ะ หลังจากครั้งนี้ จิตวิญญาณของข้าก็เทียบเท่ากับจิตวิญญาณของมนุษย์หนึ่งล้านคนแล้ว’

มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวว่ารากฐานของจิตวิญญาณแบ่งออกเป็นหลายระดับ

จากต่ำไปสูงเริ่มตั้งแต่ระดับหนึ่งคน ระดับสิบคน ระดับร้อยคน…ระดับล้านคน ระดับสิบล้านคน ระดับร้อยล้านคน…

โดยปกติผู้ใช้วิญญาณทั่วไปที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณต้องใช้เวลายี่สิบปีเพื่อบรรลุระดับพันคนด้วยการทำงานอย่างหนัก แต่วิญญาณความเด็ดเดี่ยวช่วยให้ฟางหยวนเข้าถึงระดับนี้ได้ทันที

ด้วยการใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเสริมสร้างจิตวิญญาณก่อนจะขัดเกลาด้วยหุบเขาเหล่าโปและนอนพักผ่อน สุดท้ายด้วยการทำสามขั้นตอนนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก รากฐานจิตวิญญาณของฟางหยวนจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับจรวด

ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ จิตวิญญาณของเขาก็พัฒนาขึ้นถึงระดับหนึ่งล้านคนแล้ว ตอนนี้ดวงวิญญาณของเขาสามารถจับต้องได้ราวกับร่างกายภาพ ย้อนหลับไปที่ภูเขาอี้เทียน ดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณใหญ่โตและแข็งแกร่งมาก มันทำให้ฟางหยวนถูกล่อลวงและต้องการก้าวไปถึงระดับดังกล่าว

ด้วยรากฐานของจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งขึ้น มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเขาโดยเฉพาะเมื่อเขามีท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์วิญญาณ

ท่าไม้ตายนี้สามารถปกป้องเขาจะการรับรู้ของเจตจำนงสวรรค์และการอนุมานของผู้อมตะคนอื่นๆ ยิ่งรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณสูงเท่าใด มันก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น

ตอนนี้ฟางหยวนรู้สึกอย่างชัดเจนว่าอาภรณ์วิญญาณของเขาหนาแน่นขึ้น เขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

‘เมื่อรากฐานจิตวิญญาณของข้าเติบโตขึ้น ข้าจะสามารถควบคุมอสูรปีแรกกำเนิดได้ดีขึ้น ข้ายังสามารถควบคุมอสูรปีแรกกำเนิดตัวที่สอง!’

‘อย่างไรก็ตามแม้ข้าจะสามารถยกระดับจิตวิญญาณ แต่ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน’

เหตุผลก็คือเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับโดยวังสวรรค์

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะถูกค้นวิญญาณ

นั่นหมายความว่าในอนาคตวังสวรรค์จะได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เมื่อเวลานั้นมาถึง มันจะง่ายสำหรับพวกเขาที่จะอนุมานวิธีตอบโต้ท่าไม้ตายของเขา

ฟางหยวนออกจากหุบเขาเหล่าโป

ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปถูกวางไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เหตุผลก็คือมันสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพก็ต้องการปราณสวรรค์พิภพจำนวนมหาศาล มิติช่องว่างของฟางหยวนมีแม่น้ำหวนคืนอยู่แล้ว เขาไม่ต้องการเพิ่มภาระให้กับตนเอง

หลังจากออกมา ฟางหยวนพบมนุษย์หิมะสาว

“เซี่ยเอ๋อคารวะท่านฟางหยวน”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท