เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1462

ตอนที่ 1462

บนภูเขาตงฮันมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยวอยู่ทุกหนทุกแห่ง

ฟางหยวนหยิบหินบางก้อนขึ้นมาและใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวที่อยู่ภายในเสริมสร้างจิตวิญญาณของตนเอง

หลังจากไม่นานจิตวิญญาณของฟางหยวนก็พุ่งขึ้นสู่ระดับห้าล้านคน

ฟางหยวนรู้สึกราวกับมันกำลังจะระเบิด

เขารู้ว่านี่คือขีดจำกัด

ด้วยการใช้หุบเขาเหล่าโปขัดเกลา รากฐานจิตวิญญาณของเขาก็ลดลงมาอยู่ที่ระดับหนึ่งล้านห้าแสนคน

‘หลังจากเสริมสร้างและขัดเกลา จากจิตวิญญาณหนึ่งล้านลดลงมาเหลือห้าแสน’

‘รวมเวลาการผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยว เวลาฝึกฝนและพักผ่อน ข้าต้องใช้เวลาครึ่งปีเพื่อเข้าถึงระดับสิบล้านคน’

ฟางหยวนประเมินและขมวดคิ้ว

มันช้าเกินไปสำหรับเขา

สิบปี หลังจากสิบปีวังสวรรค์จะสามารถกู้คืนวิญญาณชะตากรรม เมื่อเวลานั้นมาถึง ฟางหวนและนิกายเงาจะหมดสิ้นความหวัง

เขาต้องใช้เวลาครึ่งปีจากเวลาสิบปีเพื่อบรรลุถึงระดับสิบล้านคน นอกจากนี้ยังมีระดับร้อยล้านคนและสูงขึ้นไป

ฟางหยวนไม่พอใจกับความเร็วนี้

‘หากข้าสามารถเพิ่มผลผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ความเร็วในการบ่มเพาะของข้าจะเพิ่มขึ้น’

ผลผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวจำกัดการเติบโตของเขา

ภูเขาตงฮันเป็นต้นเงินต้นทองของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันต้องการดวงวิญญาณที่มีคุณภาพเพื่อสร้างวิญญาณความเด็ดเดี่ยวอย่างไม่รู้สิ้นสุด

ตามข้อตกลงก่อนหน้า วิญญาณความเด็ดเดี่ยวส่วนหนึ่งเป็นของนิกายหลางหยา พวกเขาต้องขายมันเพื่อทำกำไร รายได้ส่วนหนึ่งจะถูกมอบให้ฟางหยวน

แต่ตอนนี้ฟางหยวนต้องใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวส่วนหนึ่งเพื่อบ่มเพาะจิตวิญญาณ นี่ทำให้รายรับของเขาลดลง

โชคดีที่ธุรกิจปีทำเงินให้เขามากมาย

จากการประเมินของฟางหยวน มันไม่ฉลาดที่จะเจรจากับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อขอส่วนแบ่งเพิ่มเพราะนิกายหลางหยาก็ต้องใช้มันพัฒนานิกายหรือหลอมรวมวิญญาณเช่นหัน

พวกเขายังใช้มันในการหลอมรวมวิญญาณให้ฟางหยวน ตอนนี้พวกเขากำลังหลอมรวมวิญญาณหนอนไหมบัวขาวและวิญญาณอมตะอีกสองดวง หนึ่งในนั้นคือวิญญาณอมตะความลับสวรรค์ มันมาจากมรดกของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อของนิกายเงาเคยใช้มันเพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะเผยความลับสวรรค์

ท่าไม้ตายนี้สามารถทำนายภัยพิบัติหรือเรื่องลี้ลับต่างๆ

หากนิกายหลางหยาประสบความสำเร็จในการหลอมรวม ฟางหยวนจะสามารถใช้มันเพื่อเปิดเผยความลับสวรรค์ มันจะช่วยให้เขาสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติ

‘อย่างไรก็ตามการมอบภารกิจหลอมรวมวิญญาณอมตะให้นิกายหลางหยาทำให้แต้มผลงานของข้าหมดลง ข้าต้องตรวจสอบสิ่งนี้!’

ดังนั้นหลังจากบ่มเพาะจิตวิญญาณ ฟางหยวนเริ่มตรวจสอบภารกิจของนิกายหลางหยา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนปัจจุบันเหมาะสมกับการดูแลนิกายหลางหยามากกว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้า

ตอนนี้นิกายหลางหยามีภารกิจมากมาย ส่วนใหญ่เป็นภารกิจหลอมรวมวิญญาณที่ฟางหยวนมอบให้ ถัดมาก็เป็นการสำรวจไท่ชิว

ตั้งแต่นิกายหลางหยาสามารถจัดตั้งค่ายกลวิญญาณขนส่ง พวกเขาสามารถขุดค้นทรัพยากรออกมาจากไท่ชิว

นี่คือเส้นทางหลักในการพัฒนานิกายหลางหยา

แต่ไท่ชิวเป็นสถานที่อันตราย ผู้อมตะทั่วไปไม่ต้องการเข้าไปแม้จะมีทรัพยากรมากมาย สิ่งสำคัญก็คือผู้อมตะของนิกายหลางหยาชำนาญในการหลอมรวมวิญญาณแต่อ่อนแอด้านการต่อสู้

แม้พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นแต่ยังมีไม่กี่คนที่สามารถต่อสู้

ดังนั้นเมื่อพวกเขาพบสัตว์อสูรหรือพืชอสูรที่แข็งแกร่ง ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจะไม่สามารถทำสิ่งใด

เมื่อเห็นภารกิจเหล่านี้ ฟางหยวนตัดสินใจเลือกภารกิจมากกว่าสิบภารกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง” ฟางหยวนติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผ่านวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบกลับด้วยความยินดีหลังจากตระหนักถึงความต้องการของฟางหยวน “ฟางหยวน ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า ภารกิจเหล่านี้เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!”

แต่ฟางหยวนกลับส่ายศีรษะ “นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการพูดคุยกับท่าน ข้าต้องการส่งลูกน้องไปจัดการภารกิจเหล่านี้ให้ข้า เรื่องนี้ไม่ขัดต่อกฎของนิกายหลางหยาใช่หรือไม่?”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามึนงงเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เมื่อเขาสร้างกฎของนิกาย

กล่าวถึงเรื่องนี้ มันไม่ใช่ช่องโหว่ แต่ผู้อมตะที่รับภารกิจไม่มีสิทธิขอความช่วยเหลือจากบางคนเช่นนั้นหรือ?

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบกลับ “เช่นนั้นเจ้าต้องแน่ใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านี้จะไม่ทำร้ายนิกายหลางหยา!”

ฟางหยวนยิ้ม “แน่นอน”

หลังจากพูดคุยกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ฟางหยวนก็นำสมาชิกนิกายเงาออกมา

ไห่ลั่วหลัน อิงอู๋เซี่ย เทพธิดาเมี่ยวหยิน และเทพธิดากระต่ายขาว

ฟางหยวนสามารถใช้งานคนทั้งสี่ได้อย่างเต็มที่

สุดท้ายไป่หนิงปิงก็เข้าร่วมด้วย

จากมุมมองของนาง นางเป็นพันธมิตรของฟางหยวนเพื่อกู้คืนร่างบุรุษโดยการหลอมรวมวิญญาณอมตะกงล้อหยินหยาง

เมื่อนางตระหนักว่าฟางหยวนพึ่งพานิกายหลางหยาเพื่อหลอมรวมวิญญาณ นางเริ่มสนใจนิกายหลางหยาเช่นกัน

น่าเสียดายที่นิกายหลางหยาไม่ไว้ใจคนนอกเช่นไป่หนิงปิง นอกจากนั้นฟางหยวนยังลอบขัดขวางและบังคับให้ไป่หนิงปิงต้องพึ่งพาเขา

นางเป็นพันธมิตร ฟางหยวนไม่สามารถสั่งนาง แต่ฟางหยวนจะละทิ้งพลังการต่อสู้ของนางได้อย่างไร?

ภายใต้การเจรจา ไป่หนิงปิงเชื่อว่าตราบเท่าที่นางสังหารสัตว์อสูรและพืชอสูรมากขึ้น นางจะได้รับแต้มผลงานของนิกายหลางหยาผ่านฟางหยวน เขาจะใช้พวกมันเพื่อช่วยนางหลอมรวมวิญญาณอมตะกงล้อหยินหยาง

หลายวันต่อมา

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคเหนือน้อย

เกล็ดหิมะขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

มันมีขนาดเท่ากับฝ่ามือของผู้ใหญ่และเป็นทรัพยากรอมตะระดับหกที่เรียกว่าหิมะเริงระบำ มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและจะไม่ละลายตราบเท่าที่อุณหภูมิยังเย็นในระดับหนึ่ง มันจะลอยอยู่กลางอากาศตลอดเวลา แม้มันจะตกลงบนพื้น มันก็จะลอยขึ้นมาอีกครั้ง

ฟางหยวนตรวจสอบและไม่พบปัญหา ‘ตอนนี้ข้าจัดการของขวัญจากเผ่ามนุษย์หิมะเรียบร้อยแล้ว’

เผ่ามนุษย์หิมะต้องการสร้างสายสัมพันธ์กับฟางหยวนผ่านการแต่งงาน แน่นอนว่าเซี่ยเอ๋อย่อมไม่มามือเปล่า

นางนำของขวัญมามอบให้ฟางหยวน

ส่วนใหญ่คือแก่นแท้บัวหิมะ นี่เป็นทรัพยากรอมตะที่หายากแม้แต่ในสวรรค์สีเหลือง ฟางหยวนเก็บมันไว้ในภาคเหนือน้อย

ต่อมาคือหิมะเริงระบำ มันเป็นเรื่องบังเอิญที่สิ่งนี้เป็นอาหารของวิญญาณอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน มันสามารถเป็นอาหารให้กับวิญญาณอมตะถึงห้าครั้ง

ความยากในการให้อาหารวิญญาณอมตะระดับหกแตกต่างจากวิญญาณอมตะระดับแปด

ฟางหยวนไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆแต่กลับได้รับหิมะเริงระบำมาอย่างง่ายดาย

นอกจากนั้นยังมีทรัพยากรอีกหลายอย่างที่ไม่มีประโยชน์สำหรับฟางหยวน บางส่วนถูกขายออกไปขณะที่บางส่วนถูกเก็บเอาไว้

‘มันยังน้อยเกินไป หากข้าสามารถหาทรัพยากรได้มากขึ้น มิติช่องว่างของข้าจะพัฒนาได้เร็วขึ้น’

‘เมื่อเผ่ามนุษย์หิมะต้องการแต่งงานกับข้า ของขวัญเท่านี้ยังไม่เพียงพอ’

ฟางหยวนเย้ยหยัน

เขายอมรับของขวัญทั้งหมดแต่ยังไม่ให้คำตอบใดๆแก่เผ่ามนุษย์หิมะ

หลังจากจัดการมิติช่องว่าง ฟางหยวนกลับไปบ่มเพาะจิตวิญญาณของเขาอีกครั้ง

เขาหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝน รากฐานของเขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการบ่มเพาะจิตวิญญาณ เขายังใช้แสงแห่งปัญญาเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายต่างๆ

เขามีท่าไม้ตายมากมาย พวกมันเกี่ยวข้องกับทุกเส้นทาง เขาต้องดัดแปลงท่าไม้ตายที่มีประโยชน์เพื่อยกระดับพลังการต่อสู้ของเขา

ขณะที่ฟางหยวนกำลังบ่มเพาะ สมาชิกนิกายเงากำลังสำรวจไท่ชิวและต่อสู้ ผมที่หกและจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากำลังหลอมรวมวิญญาณอมตะให้ฟางหยวน กล่าวได้ว่าเกือบทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับเป้าหมายของพวกเขา เซี่ยเอ๋อกลายเป็นคนที่กังวลมากที่สุด

หญิงงามเผ่ามนุษย์หิมะผู้นี้ได้รับภารกิจจากเผ่าของนาง แต่ฟางหยวนรับของขวัญเอาไว้โดยไม่แม้แต่จะให้นางเข้าพบ นางรู้สึกพูดไม่ออกและไม่สามารถทำสิ่งใด

เซี่ยเอ๋อขอพบฟางหยวนหลายครั้ง แต่นางเป็นเพียงผู้อมตะระดับหกขณะที่ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด ความแข็งแกร่งของทั้งสองแตกต่างกันมากเกินไป นอกจากนั้นฟางหยวนยังอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและปฏิเสธการขอเข้าพบทุกครั้งของนาง

ด้วยเหตุนี้เซี่ยเอ๋อจึงไม่สามารถเข้าพบเขา นางรู้สึกท้อแท้มาก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวลและความโกรธ

เป็นเพียงเวลานี้ที่เผ่ามนุษย์หิมะส่งจดหมายมาเร่งเร้านางอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เซี่ยเอ๋อรู้สึกมีความหวังมากขึ้น

เนื่องจากเผ่ามนุษย์หิมะเห็นว่าเซี่ยเอ๋อไม่มีความคืบหน้า พวกเขาจึงต้องหารือและสรุปว่าเมื่อฟางหยวนยอมรับของขวัญ นั่นหมายความว่าเขาไม่ปฏิเสธการแต่งงาน แต่เหตุผลที่เขาไม่ให้เซี่ยเอ๋อเข้าพบเป็นเพราะของขวัญยังไม่เพียงพอต่อสถานะอันสูงส่งของเขา

ดังนั้นเผ่ามนุษย์หิมะจึงรวบรวมของขวัญเพิ่มเติมและส่งให้เซี่ยเอ๋อ

“เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้?”

“ข้าคือความภาคภูมิใจของเผ่ามนุษย์หิมะ ความงามของข้าได้รับการยอมรับจากสาธารณชน ครั้งนี้ข้าเป็นฝ่ายขอแต่งงานและนำของขวัญมามอบให้เขาแต่มันยังไม่พอให้ข้าได้พบเขาแม้แต่ครั้งเดียว!”

ด้วยอารมณ์อันหนักหน่วงง เซี่ยเอ๋อขอเข้าพบฟางหยวนอีกครั้ง

ในที่สุดฟางหยวนก็ให้นางเข้าพบ

แต่สิ่งที่เขากล่าวกลับเป็นสิ่งที่นางไม่คาดหวัง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท