เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1468

ตอนที่ 1468

ภาคใต้

สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างเงียบๆท่ามกลางลมหนาวในยามพลบค่ำ

บนภูเขานิรนาม ต้นสนขนาดใหญ่จำนวนมากเติบโตขึ้นในพื้นที่เป็นเวลาหกปีแล้ว

‘อีกหนึ่งชั่วโมงข้าจะสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะเข็มสนระดับเจ็ด หกปีแห่งการทำงานหนัก…’ ผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดเจิ้งชิงคิด

เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้ เขากำลังหลอมรวมวิญญาณ

แม้จะใช้เวลานาน แต่เขาใช้วิธีการของเทพอมตะบัวสวรรค์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก

เดิมทีเจิ้งชิงเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ แต่เขาตกลงจากหน้าผาและร่วงหล่นลงบนดอกบัวขนาดใหญ่ นั่นทำให้เขาได้รับมรดกบนเส้นทางแห่งไม้ของเทพอมตะบัวสวรรค์โดยบังเอิญ

หลังจากทำงานอย่างหนัก เขากลายเป็นผู้อมตะ เขาบ่มเพาะไปทีละขั้นตอน ผ่านไปหลายร้อยปี เขากลายเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

เขาเป็นคนสันโดษ มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์เหมาะสมกับเขามาก เขาปลูกต้นสนและรออยู่ที่นี่เป็นเวลาหกปีเพื่อหลอมรวมวิญญาณโดยไม่สนใจโลกภายนอก

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงกรีดร้องของสัตว์นับไม่ถ้วนดังขึ้น

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เจิ้งชิงได้ยินเสียงและเริ่มระวังตัว

“วิธีการหลอมรวมวิญญาณของเทพอมตะบัวสวรรค์ลึกลับและเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีทางที่ข้าจะถูกเปิดเผย นี่ไม่ใช่กรณีการมาฉกชิงของศัตรู เดี๋ยว!”

เจิ้งชิงสงสัยก่อนที่หัวใจของเขาจะเต้นเร็วขึ้น

เขาคิดถึงบางสิ่ง

หลายเดือนก่อนเขาเคยพบสถานการณ์นี้มาแล้ว

เวลานั้นมันเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์นั้นยังทำให้เจิ้งชิงตกใจมาก

หลังจากเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลือง เขาได้เรียนรู้ว่าเกิดแผ่นดินไหวทั่วทั้งภาคใต้

“มันเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่?”

การคาดเดาของเจิ้งชิงได้รับการยืนยันในไม่ช้า

ดังคาด เกิดแผ่นดินไหวเช่นเดียวกับครั้งก่อนหน้า แต่ความรุนแรงของมันไปไกลเกินกว่าจินตนาการของเขา

“ครืน…”

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ราวกับวันสิ้นสุดโลก แผ่นดินแยกออกและทอดตัวยาวไปนับล้านลี้

เจิ้งชิงโชคไม่ดีที่ภูเขาลูกนี้อยู่ในบริเวณนั้นและกำลังถูกกลืนกิน

แม้จะมีสภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยม แต่เขายังอาเจียรออกมาเป็นเลือด การทำงานหนักตลอดหกปีของเขากลายเป็นความว่างเปล่า

“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร? เหตุใดข้าถึงโชคร้ายนัก! เห้อ…”

ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น

เขาเห็นผลึกหินสีส้มจำนวนมากถูกดันขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน

เจิ้งชิงสูดหายใจลึก เขามีมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์ เขารู้ว่าสิ่งนี้คือสิ่งใด

“นี่คือผลึกแก่นแท้ปฐพี มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด…อา…เดี๋ยว!” เจิ้งชิงใช้ท่าไม้ตายสายตรวจสอบและมองไปในระยะไกล

ดวงตาของเขาแทบหลุดออกมาจากเบ้า เขาตะโกน “ข้าเห็นสิ่งใดผิดไปหรือไม่? ไม่เพียงผลึกแก่นแท้ปฐพี แต่ยังมี ผลึกเกล็ดมังกรหยก เพลิงท่องปฐพี ผลึกหยาดน้ำค้าง…”

ทรัพยากรอมตะล้ำค่าและยังมีจำนวนมหาศาล

เจิ้งชิงลืมความรู้สึกของความล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณอมตะไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เขายุ่งอยู่กับการรวบรวมทรัพยากรอันล้ำค่าเหล่านี้

…..

ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

ฟางหยวนกำลังฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบ

คลื่นดาบสามชั้น!

คลื่นแสงสีเงินสามชั้นพุ่งออกไปข้างหน้า

ดาบบินไร้ลักษณ์!

วิญญาณอมตะดาบบินพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงและไม่สามารถมองเห็น

ฟางหยวนสามารถสัมผัสถึงตำแหน่งของวิญญาณอมตะดาบบินแต่ผู้อื่นไม่สามารถ นี่เป็นหนึ่งในท่าไม้ตายเฉพาะตัวของโป้ชิง

หมอกดาบบิน!

กลุ่มเมฆหมอกปรากฏขึ้นพร้อมกับปราณดาบอันไร้รูปลักษณ์จำนวนมหาศาลทำลายทุกสิ่งที่อยู่ในพื้นที่

ดาบบินหมื่นลี้!

แสงดาบพุ่งออกไปราวกับสายรุ้งและข้ามผ่านระยะทางหลายพันลี้ไปในพริบตา

ดาบห้าดัชนี!

ฟางหยวนประกบฝ่ามือไว้บนหน้าอกก่อนจะยกฝ่ามือข้างขวาขึ้นเหนือศีรษะ

อันดับแรก เขาชี้นิ้วหัวแม่มือข้างขวาออกไปข้างหน้า แสงดาบพุ่งออกมาและเจาะทะลุพื้นเมฆ

ต่อมา เขาใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางสะบัดออกไป แสงดาบที่น่าสะพรึงกลับถูกยิงออกมา

แต่ฟางหยวนยังไม่สามารถส่งแสงดาบออกจากสองนิ้วสุดท้าย เขาต้องหยุดพัก

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฝน ฟางหยวนยังยืนอยู่ที่เดิมและรวบรวมประสบการณ์ของเขา

‘ไม่กี่วันที่ผ่านมาข้าดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบได้ทั้งหมดห้ากระบวนท่า นอกจากคลื่นดาบสามชั้นของนิกายหลางหยา อีกสี่กระบวนท่ามาจากโป้ชิง’

‘เส้นทางแห่งดาบของข้ายังด้อยกว่าเส้นทางแห่งปัญญา ข้ามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา นอกจากนั้นระดับความสำเร็จของข้าก็ค่อนข้างต่ำ การดัดแปลงของข้าถูกจำกัด พลังอำนาจของท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งดาบของโป้ชิงใกล้เคียงกับฉบับดั้งเดิมโดยเฉพาะท่าสุดท้าย ดาบห้าดัชนี แต่ข้าสามารถใช้มันได้เพียงสามนิ้ว นั่นคือขีดจำกัดของข้า ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดเท่านั้น’

‘หากข้าสามารถใช้วิญาณอมตะดาบแห่งปัญญาระดับแปด มันจะกลายเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด’

น่าเสียดายที่วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาต้องการพลังงานอมตะระดับแปด

ฟางหยวนไม่ใช่ผู้อมตะระดับแปด เขาไม่สามารถผลิตพลังงานอมตะระดับแปด

ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะระดับแปดจำนวนสามดวง วิญญาณทัศนคติ วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ และวิญญาณดาบแห่งปัญญา ท่ามกลางพวกมัน วิญญาณทัศนคติมีความต้องการน้อยที่สุด วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายปีมีความต้องการมากกว่าเล็กน้อย สำหรับวิญญาณดาบแห่งปัญญา มันใช้งานยากที่สุดเพราะมันต้องพึ่งพาพลังงานอมตะระดับแปดในการกระตุ้นใช้งานเท่านั้น

ดังนั้นตอนนี้ฟางหยวนจึงถึงขีดจำกัดในการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบแล้ว

หลังจากฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนกลับไปที่เมืองเมฆาและเริ่มจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ภาคเหนือน้อย

หิมะกำลังตก อากาศหนาวเย็น บรรยากาศแตกต่างไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง

เสียงกรีดร้องของอสูรหิมะดังขึ้นเป็นครั้งคราว

และทางเหนือสุดมีผลึกหินคล้ายกับภูเขา

มันเป็นผลึกหินสีฟ้าที่โปร่งแสง มีไอเย็นลอยออกมาตลอดเวลา พวกมันเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมไปเป็นอย่างมาก

ผลึกแก่นแท้น้ำแข็ง!

มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดที่หายาก

ฟางหยวนถอนหายใจ “ผู้ใดจะคิดว่าเผ่ามนุษย์หิมะจะนำสมบัติล้ำค่าชนิดนี้ออกมาจากคลังสมบัติของพวกเขา”

แต่ฟางหยวนเข้าใจเหตุผล

แม้ตอนนี้พวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ความจริงก็คือหลังจากสะสมทรัพยากรและความแข็งแกร่งมาหลายชั่วอายุคน เผ่ามนุษย์หิมะจึงไม่ใช่ตัวละครที่สามารถดูแคลน

อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็มีความรุ่งโรจน์ในอดีต

ผลึกแก่นแท้น้ำแข็งเป็นหนึ่งในของขวัญชุดที่สามจากเผ่ามนุษย์หิมะ

เหตุใดพวกเขาจึงนำสิ่งนี้ออกมาเพื่อแสดงความจริงใจ? ฟางหยวนรู้ว่ามันเป็นเพราะเขาสามารถเอาชนะสัตว์อสูรแรกกำเนิดมังกรหมื่นเศียร ฉากนี้ถูกบันทึกไว้โดยเซี่ยเอ๋อและถูกส่งกลับไปยังเผ่าของนาง

แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ฟางหยวนตั้งใจให้นางเห็น

“ด้วยผลึกแก่นแท้น้ำแข็ง ข้าสามารถสร้างอสูรหิมะได้อย่างต่อเนื่อง มันจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของข้า”

ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดถึงอนาคต ผมที่หกส่งข้อความมาหาเขา “ท่านผู้นำ การหลอมรวมวิญญาณอมตะความลับสวรรค์มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โปรดมาหลอมรวมมันด้วยตัวท่านเอง”

หากเขาสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะความลับสวรรค์ เขาจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติล่วงหน้า

ผู้อมตะทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท