เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1473

ตอนที่ 1473

งานเลี้ยงเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่งานหมั้นครั้งนี้จะส่งผลกระทบทางการเมืองอย่างใหญ่หลวง

ด้วยทักษะการเข้าสังคมของฟางหยวน มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ใกล้ชิดมากขึ้น

สถานะเดิมของฟางหยวนค่อนข้างน่าอึดอัดใจ

เขาเป็นมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางมนุษย์กลายพันธุ์ เป็นธรรมชาติที่มนุษย์กลายพันธุ์จะรู้สึกสงสัยในตัวเขา

แต่เมื่อฟางหยวนหมั้นกับเซี่ยเอ๋อ ความรู้สึกของทุกคนจึงต่างไปจากเดิม

‘แน่นอนว่าเหตุผลที่แท้จริงคือพลังการต่อสู้ระดับแปดของข้า’ ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน

ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งของโลกใบนี้ ตราบเท่าที่มีความแข็งแกร่ง พวกเขาจะสามารถก้าวข้ามอุปสรรค

‘หากโหยว่ชานรู้ว่าข้ามีพลังการต่อสู้ระดับแปด นางจะถอยออกไปหรือไม่?’ ฟางหยวนคิด

ธุรกิจปลามังกรยังอยู่ในความสนใจของฟางหยวน

หากโหยว่ชานถอยออกไป มันจะสมบูรณ์แบบสำหรับเขา แต่น่าเสียดายที่โหยว่ชานไม่ทำเช่นนั้น

ฟางหยวนลอบส่ายศีรษะอย่างลับๆ

โหยว่ชานเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดในธุรกิจปลามังกร มันยากที่นางจะแบ่งปันผลประโยชน์ให้ผู้อื่น ในสวรรค์สีเหลือง กระทั่งผู้อมตะระดับหกยังกล้าที่จะแข่งขันกับผู้อมตะระดับแปดหรือยั่วยุพวกเขาอย่างเปิดเผย

หลังจากทั้งหมดสวรรค์สีเหลืองเป็นสถานที่ที่แม้แต่วังสวรรค์ยังไม่สามารถควบคุม

‘โหยว่ชาน หญิงงามของทะเลตะวันออก กายาหมื่นทองคำ…’ ฟางหยวนสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้คนแต่ในใจกลับลอบคิด

คนอื่นอาจไม่รู้ความลับของโหยว่ชาน แต่หลังจากได้รับมรดกของนิกายเงา ฟางหยวนได้เรียนรู้รายละเอียดสำคัญมากมาย หนึ่งในนั้นกล่าวว่าโหยว่ชานมีหนึ่งในสิบสุดยอดกายา กายาหมื่นทองคำ

นี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ของโหยว่ชาน นางซ่อนมันไว้เป็นอย่างดี แต่นิกายเงามีวิธีเฉพาะในการค้นหาร่างสุดยอดกายา

เพื่อหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ นิกายเงาจำเป็นต้องรวบรวมร่างสิบสุดยอดกายา พวกเขาค้นพบความลับของโหยว่ชานระหว่างกระบวนการนี้

แต่ในเวลานั้นนิกายเงามีสุดยอดกายาหมื่นทองคำอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจโหยว่ชาน

เหตุผลที่โหยว่ชานบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารีเพราะนางได้รับมรดกบนเส้นทางแห่งวารีมาโดยบังเอิญ นางเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ นางไม่มีทางเลือกอื่น หลังจากบ่มเพาะบนเส้นทางสายนี้ มันก็ยากที่จะเปลี่ยนเส้นทางในภายหลัง

ฟางหยวนตระหนักว่าโหยว่ชานพยายามตรวจสอบเขา เขารู้ว่านางเป็นคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในธุรกิจปลามังกร ในทางกลับกัน ฟางหยวนมีอาภรณ์วิญญาณรวมถึงท่าไม้ตายของราชันภูเขาม่วงและมรดกมากมาย

สำหรับสุดยอดกายาหมื่นทองคำ มันถูกกล่าวถึงในตำนานมนุษย์คนแรก

ตำนานกล่าว่ามนุษย์จิ๋วเอาชนะเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยและออกจากเหวธรรมดา

เมื่อมนุษย์คนแรกเห็นมนุษย์จิ๋ว เขาถอนหายใจ หากเขามีวิญญาณความพยายาม เขาจะสามารถเอาชนะแม่น้ำหวนคืนและไม่ต้องพบกับเรื่องที่ยุ่งยากเช่นนี้

มนุษย์คนแรกต้องการช่วยลูกๆของเขา แต่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่เรื่องเดียว

มนุษย์คนแรกเห็นว่ามนุษย์จิ๋วมีวิญญาณความพยายาม เขากล่าวกับมนุษย์จิ๋วด้วยความคาดหวัง “โอ้ มนุษย์จิ๋ว ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”

มนุษย์จิ๋วถาม “มนุษย์ เจ้าต้องการให้ข้าช่วยสิ่งใด?”

มนุษย์คนแรกบอกมนุษย์จิ๋วว่าเขาต้องการยืมและใช้วิญญาณความพยายาม

มนุษย์จิ๋วกล่าว “โอ้ มนุษย์ เหตุผลที่ข้าสามารถออกจากเหวธรรมดาเพราะข้าใช้ต้นไม้ที่เจ้าปลูก ข้าโค่นต้นไม้เหล่านั้นและใช้มันสร้างบันได ข้าติดหนี้บุญคุณเจ้า”

มนุษย์จิ๋วให้มนุษย์คนแรกยืมวิญญาณความพยายาม

แต่หลังจากมนุษย์ได้รับวิญญาณความพยายาม เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถใช้งานมันได้

“นี่คือวิญญาณความพยายามของมนุษย์จิ๋ว มันไม่ใช่ของเจ้า” วิญญาณความเข้าใจปรากฏตัวขึ้นและบอกข้อเท็จจริงนี้แก่มนุษย์คนแรก

มนุษย์คนแรกรู้สึกเจ็บปวดและถอนหายใจ

เขาถามวิญญาณความเข้าใจ “แล้วข้าควรทำอย่างไร? ข้ารู้ว่าวิญญาณความพยายามสามารถช่วยข้า แต่ข้าไม่สามารถใช้งานมัน ข้ารู้ว่ามนุษย์วิหคสามารถช่วยข้า แต่ความรักไม่สามารถควบคุมพวกเขา”

วิญญาณความเข้าใจกล่าว “ไม่มีผู้ใดสามารถบังคับให้ผู้อื่นรักตนเอง แต่เจ้าสามารถสร้างวิญญาณดวงหนึ่งเพื่อล่อลวงให้มนุษย์วิหคช่วยเหลือเจ้า ลองคิดดู มนุษย์จิ๋วได้รับวิญญาณความพยายามมาได้อย่างไร?”

คำกล่าวของวิญญาณความเข้าใจสร้างแรงบันดาลใจให้กับมนุษย์คนแรก

มนุษย์คนแรกดีใจมาก “โอ้ วิญญาณความเข้าใจ ขอบคุณสำหรับความคิดที่ดี ข้ารู้แล้วว่าต้องทำสิ่งใด ข้าต้องสร้างวิญญาณของตนเอง”

วิญญาณความเข้าใจถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เจ้าหมายถึงวิญญาณดวงใด?”

มนุษย์คนแรกส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจ แต่ข้ามีความคิด ข้าต้องการสร้างวิญญาณที่ทุกคนบนโลกใบนี้ต้องการ”

ดังนั้นมนุษย์คนแรกจึงไปยังทะเลสาบสีฟ้า ทะเลสาบแห่งชีวิต

มันคือต้นกำเนิดของทุกชีวิตบนโลกใบนี้

มนุษย์คนแรกตักน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหายแต่มันกลับทำให้เขากระหายน้ำมากขึ้น “ข้าต้องการใช้น้ำจากทะเลสาบแห่งชีวิตเพื่อหลอมรวมวิญญาณ เมื่อข้าประสบความสำเร็จ ทุกคนจะไม่มีวันพอใจและจะต้องการมันมากขึ้นเรื่อยๆ”

ดังนั้นมนุษย์คนแรกจึงนำน้ำจากทะเลสาบแห่งชีวิตออกไปเป็นจำนวนมาก

หลังจากระดับน้ำลดลง มนุษย์คนแรกพบว่ามีวิญญาณที่มีรูปลักษณ์เหมือนหอยเม่นจำนวนมากอยู่ที่นั่น

มันไม่ใช่วิญญาณแห่งชีวิตแต่เป็นวิญญาณความยากลำบาก

ทุกชีวิตต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก

ดวงตาของมนุษย์คนแรกส่องประกายขึ้น “ข้าต้องการหลอมรวมวิญญาณที่ทุกคนต้องการ แต่เพื่อให้ได้รับมัน ข้าต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก”

ดังนั้นเขาจึงเก็บวิญญาณความยากลำบากจำนวนมากเอาไว้

จากนั้นมนุษย์คนแรกก็มุ่งหน้าไปยังประตูแห่งชีวิตและความตาย

เขาไม่ได้เข้าไปในส่วนลึกของประตูแห่งชีวิตและความตาย เขาเดินอยู่รอบๆเพื่อเก็บเกี่ยววิญญาณความกังวล “ข้าต้องการหลอมรวมวิญญาณที่หลังจากได้รับมันแล้วผู้คนจะกังวลว่ามันจะหายไป”

เขากลับออกมาและพบกับวิญญาณความโศกเศร้า

มนุษย์คนแรกหัวเราะอย่างมีความสุข “ยอดเยี่ยม ข้าต้องการหลอมรวมวิญญาณที่เมื่อผู้คนสูญเสียมัน พวกเขาจะโศกเศร้า ด้วยวิธีนี้ผู้คนจะไม่สามารถละทิ้งมันไปโดยง่าย”

หลังจากรวบรวมทุกสิ่ง เขาเริ่มหลอมรวมวิญญาณ

เปลวไฟลุกไหม้ขึ้น ควันสีดำดึงดูดวิญญาณและสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนให้เข้ามา

“โอ้ มนุษย์ เจ้าพยายามหลอมรวมสิ่งใด?” วิญญาณความโง่เขลาที่ถูกล่อลวงเข้ามาถามด้วยความสงสัย

มนุษย์คนแรกยิ้ม “หากเจ้าอยากรู้ เจ้าสามารถเข้าไปในกองไฟเพื่อดูด้วยตาของเจ้าเอง”

วิญญาณความโง่เขลาบินเข้าไปในกองไฟและไม่ออกมาอีกเลย

ไม่นานหลังจากนั้นวิญญาณสติปัญญาก็มาเช่นกัน มันถาม “มนุษย์ เจ้าพยายามหลอมรวมสิ่งใด?”

มนุษย์หัวเราะ “หากเจ้าอยากรู้ เจ้าสามารถเข้าไปในกองไฟเพื่อดูด้วยตาของเจ้าเอง”

วิญญาณสติปัญญาบินเข้าไปเช่นกัน

แต่มันบินเข้าไปในกลุ่มควันสีดำเท่านั้น เมื่อการมองเห็นถูกบดบัง มันก็บินออกมา

“มนุษย์ ข้าเกือบถูกเจ้าหลอก ข้ารู้แล้วว่าเจ้ากำลังหลอมรวมสิ่งใด เอาล่ะ ข้าจะไปแล้ว” หลังกล่าวจบคำ มันก็บินจากไปทันที

มนุษย์คนแรกถอนหายใจด้วยความเสียดาย “ด้วยวิธีนี้ หลังจากวิญญาณของข้าถือกำเนิด มันจะสามารถกดขี่คนโง่และทำให้คนฉลาดตาบอดได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง”

เวลาค่อยๆผ่านไป

เปลวไฟยังลุกไหม้แต่มันยังไม่สำเร็จ

ควันดำไม่ได้จางหายไป มันรวมตัวอยู่บนท้องฟ้าและสร้างเป็นกลุ่มเมฆสีดำขนาดใหญ่

“มนุษย์ ตอนนี้เจ้าอยู่ห่างจากความสำเร็จเพียงก้าวเดียว ขั้นตอนสุดท้ายคือขั้นตอนสำคัญที่สุด” วิญญาณความเข้าใจกล่าว

มนุษย์คนแรกพยักหน้า เขาเดินไปที่กองไฟด้วยความมุ่งมั่น “ดูเหมือนวิญญาณดวงนี้ต้องสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์”

หลังกล่าวจบคำ มนุษย์คนแรกตัดมือทั้งสองข้างของเขาและโยนมันเข้าไปในกองไฟ

“บึม!”

เปลวไฟระเบิดขึ้นและทำให้กลุ่มเมฆสีดำบนท้องฟ้าจางหายไป ภานยใต้แสงแดดสีทองที่สาดส่องลงมา เด็กผู้หญิงตัวเล็กปรากฏขึ้นด้านหน้ามนุษย์คนแรก

“ท่านพ่อ ขอบคุณที่มอบชีวิตให้ข้า ข้าคือหว่านจินเมี่ยวฮวา” เด็กหญิงที่ปลดปล่อยกลิ่นอายที่สว่างไสวและล้ำค่าราวกับทองคำยิ้มให้มนุษย์คนแรก

มนุษย์คนแรกมองนางและหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ามีลูกสาวอีกคนแล้ว แต่เดี๋ยว! การหลอมรวมวิญญาณของข้าประสบความสำเร็จหรือไม่?”

หว่านจินเมี่ยวฮวาเปิดฝ่ามือของนางและส่งวิญญาณให้กับมนุษย์คนแรก “ท่านพ่อดูนี่ มันคือวิญญาณที่เรียกว่าความมั่งคั่ง”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท