ซื่อจงหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนี้เป็นเวลานาน เขาสามารถบอกได้ว่าอาการของเขาดีขึ้นจากการสังเกตก้อนเลือดเหล่านั้น
“แม้ข้าจะมีความก้าวหน้า แต่มันยังห่างไกลจากความสำเร็จ ขั้นตอนยังขาดไปสองสามขั้น ข้าต้องทำงานให้หนักขึ้น!” ซื่อจงมีประสบการณ์ในเรื่องนี้
เขาคำนวณและตระหนักว่าถึงเวลาให้อาหารวิญญาณของเขาอีกครั้ง
ซื่อจงรับสืบทอดมรดกมาจากครอบครัวของตนเอง เขามีวิญญาณอมตะหลายดวง นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้อมตะคนอื่นๆของตระกูลซื่อรู้สึกอิจฉา น่าเสียดายที่การรับสืบทอดมรดกจากครอบครัวเป็นกฎที่ไม่สามารถทำลายได้
ซื่อจงครอบครองวิญญาณอมตะจำนวนมาก นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายและถูกกีดกันโดยผู้อมตะคนอื่นๆของตระกูลซื่อ
เขาตรวจสอบคลังสมบัติของตนและรู้สึกปวดหัวมาก
“มันค่อนข้างลำบาก ข้าขาดอาหาร ข้าลืมไปว่าการหลอมรวมวิญญาณความมั่งคั่งทำให้ข้าขาดแคลนทรัพยากร ข้าขายอาหารบางส่วนออกไปก่อนหน้านี้”
“ตอนนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะรวบรวมอาหารเพิ่ม ข้าควรซื้อปลามังกรมาเป็นอาหารให้กับวิญญาณอมตะของข้าเป็นการชั่วคราว”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ซื่อจงก็ไม่ลังเลที่จะส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในสวรรค์สีเหลือง
‘ปลามังกร…’ เขามีเป้าหมายที่ชัดเจน เขาพบว่ามีผู้ขายหลายรายกำลังขายปลามังกรอยู่ในขณะนี้
ในฐานะผู้ซื้อ เขาต้องเปรียบเทียบสินค้าของผู้ขายเหล่านั้น
ธุรกิจปลามังกรไม่เหมือนธุรกิจวิญญาณปี มันขายได้ตลอดเวลาเนื่องจากปลามังกรสามารถผสมพันธุ์ได้ทุกฤดูกาล นี่ทำให้ตลาดปลามังกรคึกคักเสมอ
ซื่อจงไปที่ร้านของโหยว่ชานเป็นอันดับแรก
ทุกคนรู้ว่าโหยว่ชานเป็นผู้ขายปลามังกรอันดับหนึ่งของสวรรค์สีเหลือง
แต่นางยังมีสินค้าชนิดอื่นด้วย
ในอดีตหากซื่อจงต้องการซื้อปลามังกร เขาจะซื้อจากโหยว่ชานเพราะชื่อเสียงของนาง
หากทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย ครั้งนี้เขาก็จะซื้อปลามังกรจากนางเช่นกัน
อย่างไรก็ตามหลังจากเห็นปลามังกรของโหยว่ชาน ซื่อจงยังไม่ได้ซื้อทันทีแต่มองไปรอบๆ
ในไม่ช้าเขาก็เห็นร้านของฟางหยวน
“หือ? มีคนขายปลามังกรอยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรือ? เขามีสินค้าค่อนข้างมาก” ซื่อจงรู้สึกประหลาดใจ
เขาตรวจสอบและพบว่าปลามังกรของฟางหยวนมีคุณภาพสูงเทียบเท่ากับปลามังกรของโหยว่ชาน
“ร้านนี้ดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากกว่า” ซื่อจงเห็นเจตจำนงและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้อมตะจำนวนมากอยู่ที่ร้านของฟางหยวน
“ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากปิดประตูบ่มเพาะมานาน ธุรกิจปลามังกรในสวรรค์สีเหลืองจะมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งรายใหม่เกิดขึ้น” ผู้อมตะบางคนกล่าว
“สหาย ท่านมาที่นี่เพื่อซื้อปลามังกรงั้นหรือ? เหตุใดเราไม่ซื้อด้วยกัน? มันจะถูกกว่า” ผู้อมตะคนเดิมแนะนำ
“โอ้ เกิดสิ่งใดขึ้น?” ซื่อจงถาม
ผู้อมตะผู้นั้นอธิบาย “ท่านไม่รู้งั้นหรือ? คนขายปลามังกรร้านนี้มีกฎเกณฑ์ที่แตกต่าง ตราบเท่าที่เราซื้อในปริมาณที่กำหนด ราคาจะลดลง มีหลายระดับราคา แต่ประเด็นคือยิ่งซื้อมากก็ยิ่งถูก”
ซื่อจงได้ยินเรื่องนี้และลอบยกย่องอยู่ในใจ ‘เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยม!’
ต่อมา เขานึกถึงตัวเอง ‘บางทีข้าอาจใช้วิธีนี้ในการทำธุรกิจในอนาคต’
ซื่อจงพิจารณาและรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ฉลาด
แม้ราคาจะลดลงแต่ด้วยปริมาณที่มากขึ้น กำไรจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน หากเปรียบเทียบกับสงครามราคาของธุรกิจวิญญาณปี นี่เป็นวิธีที่ฉลาดและลึกซึ้งมากกว่า
‘วิธีนี้ไม่เพียงทำให้ยอดขายปลามังกรเพิ่มขึ้น แต่มันยังสามารถเพิ่มชื่อเสียง หากบางคนต้องการซื้อปลามังกรจำนวนมากเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง พวกเขาจะชวนสหายหรือกระทั่งคนแปลกหน้ามาซื้อพร้อมกัน มันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการเผยแพร่ข่าวสารสำหรับผู้ขาย’
ซื่อจงคิดเกี่ยวกับมันและรู้สึกว่าคนขายปลามังกรมีความคิดที่น่าทึ่งมาก
‘ไม่แปลกใจเลยที่ร้านของเขามีลูกค้ามากมายเมื่อเปรียบเทียบกับร้ายของผู้ขายอันดับหนึ่ง’
‘ฮ่าฮ่า ผู้ขายอาจปลอมตัวมาที่นี่เพื่อสร้างสถานการณ์นี้ด้วยตัวเขาเอง’
ซื่อจงรู้สึกสนใจผู้ขายรายนี้ทันที
‘ลืมมันไปซะ ข้าจะซื้อสินค้าของที่นี่ หลังจากทั้งหมดราคาของมันถูกกว่า’ เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซื่อจงก็ตัดสินใจร่วมงานกับผู้อมตะที่ไม่รู้จักทันที
ทั้งสองมีความสุขมาก หลังจากเจรจา พวกเขาก็ซื้อปลามังกรรวมกันถึงแสนตัว
หลังจากซื้อสินค้า พวกเขาก็แบ่งสินค้ากันในสวรรค์สีเหลือง
ซื่อจงต้องการให้อาหารวิญญาณอมตะ ขณะที่ผู้อมตะอีกคนออกจากสวรรค์สีเหลืองทันที
ความจริงก็คือซื่อจงเดาถูก ผู้อมตะที่ซื้อสินค้าร่วมกับเขาคือตัวแทนของฟางหยวน เขาไม่ใช่ฟางหยวนแต่เป็นหนึ่งในสมาชิกนิกายเงา
แม้ผู้คนจะสามารถคาดเดา แต่พวกเขาจะพิสูจน์อย่างไร?
ไม่มีทางเป็นไปได้
ในความเป็นจริงนี่ไม่ใช่วิธีที่ฟางหยวนคิดค้นขึ้นด้วยตนเอง
ซื่อจงหมกมุ่นอยู่กับการหลอมรวมวิญญาณและไม่ได้สนใจสวรรค์สีเหลืองมากนัก วิธีการนี้ถูกใช้มานานแล้ว
ความแปลกใหม่ของแนวคิดไม่ใช่สิ่งสำคัญ มีเพียงผลลัพธ์เท่านั้นที่สำคัญ
ฟางหยวนประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำเช่นนี้
หลายวันที่ผ่านมาเขาเพิ่มปริมาณสินค้าที่วางขายในสวรรค์สีเหลือง ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจมันมากขึ้น
ปริมาณสินค้าแสดงถึงความสามารถของเขา ผู้ซื้อจะซื้อสินค้าจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ
ในทางกลับกันฟางหยวนใช้วิธีการที่เหมาะสมในการขาย ด้วยวิธีนี้ชื่อเสียงของเขาจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แรกเริ่มมีไม่กี่คนที่ซื้อสินค้าของเขา แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็มีลูกค้ามากขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในฐานะที่เป็นผู้ขายอันดับหนึ่งในธุรกิจปลามังกร โหยว่ชานแห่งทะเลตะวันออกยังขายปลามังกรของนางอย่างสงบโดยไม่สร้างความโกลาหลใดๆ
‘การนิ่งเฉยเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ในระยะสั้นวิธีการของข้ายังไม่สามารถคุกคามนาง หากนางพยายามต่อสู้ กำไรของนางจะลดลง’ ฟางหยวนคิด
โหยว่ชานสงบนิ่งในสถานการณ์นี้
‘แต่อีกไม่นานนางจะเริ่มกังวล ฮ่าฮ่า’ ฟางหยวนมั่นใจมาก
หลังจากดึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมา ฟางหยวนไปที่ห้องหลอมรวมวิญญาณเพื่อพบผมที่หก
ใบหน้าของผมที่หกซีดขาวขณะหลอมรวมวิญญาณให้ฟางหยวน
ตอนนี้เขามาถึงขั้นตอนสุดท้ายในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความลับสวรรค์อีกครั้ง
มันเป็นเวลาที่ฟางหยวนต้องลงมือทำด้วยตนเอง
แสงสีขาวส่องประกายขึ้นรอบตัวฟางหยวน
“เราจะเริ่มต้นเดี๋ยวนี้” ฟางหยวนสงบจิตใจและกล่าวกับผมที่หก
หลังจากนับถอยหลัง ผมที่หกก็หยุดการทำงานของค่ายกลวิญญาณ
ฟางหยวนเข้าแทนที่ทันที
ความคิดจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในใจของเขา เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาก่อนจะควบแน่นแสงสีขาวให้กลายเป็นวงแหวนขนาดใหญ่
ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม วงแหวนแสงสวรรค์
การหมุนครั้งแรก
ฟางหยวนเริ่มหมุนวงแหวนแสงสีทองอย่างช้าๆ
การหมุนครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
ในการหมุนครั้งที่สอง ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นและมองไปที่วงแหวนแสง มันหมุนเร็วกว่ารอบแรก
หลังจากหลายนาที การหมุนครั้งที่สองก็สำเร็จ
ในการหมุนครั้งที่สาม ฟางหยวนใช้ลมหายใจขยับวงแหวนแสง หลังจากชั่วครู่เขาก็ทำสำเร็จ
การหมุนครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า และครั้งที่หกประสบความสำเร็จเช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไปมันก็ถึงการหมุนครั้งที่เจ็ด
‘ดูเหมือนท่านผู้นำจะพยายามอย่างมากหลังจากการล้มเหลวครั้งนั้น’ ผมที่หกมองจากด้านข้างด้วยความกังวล
การหมุนครั้งที่เจ็ด
ฟางหยวนกัดฟันแน่นและพยายามหมุนวงแหวนแสงสีทองอย่างดีที่สุด
ตอนนี้วงแหวนแสงหดตัวลงมามีขนาดเท่าอ่างน้ำลอยอยู่เหนือศีรษะของเขาแล้ว
“บึม!”
ด้วยเสียงอันแผ่วเบา วงแหวนแสงหดตัวลงเป็นจุดเล็กๆ
วิญญาณความลับสวรรค์ระดับเจ็ด!
“ข้าทำสำเร็จจริงๆ!” กระทั่งฟางหยวนยังแปลกใจ
เขาล้มเหลวในการหลอมรวมครั้งแรก แต่เขากลับประสบความสำเร็จในการทดลองครั้งที่สอง
หลังจากประหลาดใจ ฟางหยวนรู้สึกมีความสุขมาก
“อาจเป็นเพราะวิธีการแห่งโชคทำให้ข้าโชคดีมาก”
ฟางหยวนหยิบวิญญาณอมตะความลับสวรรค์มาดู
มันดูเหมือนกิ่งไม้ที่มีความยาวเท่ากับครึ่งหนึ่งของต้นแขนมนุษย์และมีปีกเหมือนแมลงปอ
ฟางหยวนสังเกตมันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ “ในที่สุดข้าก็ได้รับวิญญาณอมตะความลับสวรรค์”