เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1478

ตอนที่ 1478

หลังจากปลามังกรทองแดงถูกนำออกมาวางขาย

สวรรค์สีเหลืองเกิดความโกลาหลขึ้น

“ปลามังกรเหล่านี้คือสิ่งใด?”

“ปลามังกรทองแดง? สายพันธุ์ใหม่งั้นหรือ?”

“คนขายบอกว่าปลามังกรทองแดงเหนือกว่าปลามังกรทั่วไป”

“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เป็นการตอบโต้ที่ดี”

“แท้จริงแล้วข้าคิดว่าผู้ขายรายนี้คงพ่ายแพ้ให้กับโหยว่ชาน แต่ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะโต้กลับได้รุนแรงถึงเพียงนี้!”

“พวกเราจะได้รับประโยชน์จากปลามังกรทองแดงสายพันธุ์ใหม่นี้ ข้าสามารถบอกได้ว่าผู้ขายรายนี้มีมรดกบนเส้นทางอาหาร!”

การให้อาหารวิญญาณอมตะเป็นปัญหาของผู้อมตะทุกคน

มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางอาหารเป็นสิ่งที่ผู้อมตะส่วนใหญ่ต้องการแต่มันยากที่จะได้รับ

สวรรค์สีเหลืองเป็นสถานที่ปลอดภัย ดังนั้นผู้อมตะเหล่านี้จึงเริ่มเข้าหาฟางหยวน

พวกเขาแสดงความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะซื้อมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางอาหารจากฟางหยวน

แต่ฟางหยวนไม่สนใจ

เขามีมรดกมากมายอยู่ในมือ หากเขานำพวกมันออกมา มันจะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ เขาจะได้รับกำไรมหาศาล

แต่นั่นจะเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้กับศัตรูของเขา

ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง สงครามห้าภูมิภาคกำลังจะเริ่มขึ้น ทุกคนสามารถกลายเป็นศัตรูของฟางหยวนทั้งสิ้น

“ตามหาเขา ค้นหาตัวตนของคนผู้นี้” หลังจากถูกฟางหยวนปฏิเสธ บางคนไม่ยอมแพ้

ผู้อมตะระดับแปดบางคนตัดสินใจรวบรวมข้อมูลของฟางหยวนและขอความช่วยเหลือจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่ออนุมานตัวตนของเขา

ผู้อมตะที่มีปัญหาเกี่ยวกับการให้อาหารวิญญาณอมตะคือผู้อมตะที่มีวิญญาณอมตะอยู่ในการครอบครอง

โดยธรรมชาติแล้วตัวตนเช่นนี้มักแข็งแกร่งเสมอ

ด้วยการปรากฏตัวของปลามังกรทองแดง ผู้อมตะสามารถมองเห็นศักยภาพของมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางอาหารของฟางหยวน

อย่างไรก็ตามทุกคนพบกับความล้มเหลว

วิธีป้องกันการอนุมานของฟางหยวนทำให้หนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทะเลตะวันออกพบกับความล้มเหลวในการอนุมาน กระทั่งวังสวรรค์หรือเจตจำนงสวรรค์ก็ยังไม่สามารถจัดการเขา แล้วคนอื่นจะทำได้อย่างไร

ในอดีตฟางหยวนต้องซ่อนตัวอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อหลีกเลี่ยงการอนุมานของผู้คน แต่ตอนนี้เขาไม่มีปัญหานี้อีกต่อไป

ปลามังกรทองแดงกำลังดิ้นรนอยู่ในมือของโหยว่ชาน

มือของนางสั่นเล็กน้อยขณะที่ใบหน้าของนางดูไม่น่ามอง

ปลามังกรทองแดงตัวนี้เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงของโหยว่ชาน สิ่งนี้น่ากลัวกว่าการลดราคาสินค้าเป็นอย่างมาก

“ผู้ใดจะคิดว่าศัตรูจะตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นนี้ น่าประทับใจ น่าประทับใจจริงๆ ความกังวลของข้าเกิดขึ้นแล้ว”

หลังจากไม่นาน โหยว่ชานก็สงบจิตใจลงและถอนหายใจซ้ำๆ

การปรากฏตัวของปลามังกรทองแดงเป็นอันตรายต่อธุรกิจของนาง

โหยว่ชานตระหนักว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ร้ายแรง

ในความเป็นจริงไม่ใช่ธุรกิจปลามังกรของนางเท่านั้นแต่ธุรกิจปลามังกรทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้

“ข้าตรวจสอบมาหลายครั้งแล้ว ปลามังกรทองแดงเหนือกว่าปลามังกรทั่วไปจริงๆ เหตุผลก็คือร่างกายของมันมีสัดส่วนของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางอาหารสูงกว่า ข้าควรทำอย่างไร?”

โหยว่ชานกัดริมฝีปากของนางและแสดงออกอย่างเคร่งขรึม

หลังจากยอมรับข้อเท็จจริง นางรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ในหัวใจ

“ข้าบ่มเพาะอย่างยากลำบากมานานหลายปี แล้วข้าจะยอมแพ้ง่ายๆได้อย่างไร?”

“ธุรกิจปลามังกรเป็นแหล่งรายได้หลักของข้า หากมันพังทลายลง การบ่มเพาะของข้าจะหยุดลง”

“ข้าจะแพ้ไม่ได้!”

“ถูกต้อง ข้า โหยว่ชาน ไม่ใช่หญิงอ่อนแอ ข้าจะยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆได้อย่างไร?”

“ปลามังกรทองแดง เมื่อเขาสามารถเพาะเลี้ยงมัน เหตุใดข้าจะไม่สามารถ!?”

โหยว่ชานกำหมัดแน่น ดวงตาของนางส่องประกายขึ้นด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

นางต้องการแข่งขัน นางต้องเพาะเลี้ยงปลามังกรทองแดงของนางเอง!

นั่นเป็นวิธีเดียวที่นางจะสามารถต่อสู้กับศัตรู มิฉะนั้นนางจะไม่สามารถอยู่ในธุรกิจนี้ได้อีกต่อไป

โหยว่ชานมั่นใจในความสามารถบนเส้นทางอาหารของตัวนางเอง

นางเคยได้รับมรดกบนเส้นทางอาหารมาก่อน แม้มันจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางอาหารของฟางหยวน

กล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นเหตุผลที่โหยว่ชานเลือกธุรกิจปลามังกรเป็นแหล่งรายได้หลักของนางก็เพราะนางครอบครองมรดกบนเส้นทางอาหารอยู่นั่นเอง

ในความเป็นจริงนางพยาายามพัฒนปลามังกรมาตลอด แต่นางยังไม่ประสบความสำเร็จ

“แต่ตอนนี้ปลามังกรดัดแปลงอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว”

“ก่อนหน้านี้ข้าไม่มีความคืบหน้าเพราะความสำเร็จบนเส้นทางอาหารของข้าต่ำเกินไป ตอนนี้ข้ามีปลามังกรทองแดงเป็นข้อมูลอ้างอิง หากข้ายังทำไม่ได้ ข้าก็สมควรตายไปซะ!”

“ฮ่าฮ่า เจ้าอาจไม่รู้ แต่ปลามังกรทองแดงของเจ้าจะกลายเป็นโชคลาภของข้า!”

โหยว่ชานเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น นางรีบทำวิจัยปลามังกรทองแดงอย่างละเอียด

อีกด้านหนึ่งฟางหยวนกำลังทำงานหนัก เขายังอนุมานหาวิธีแก้ปัญาเกี่ยวกับวิญญาณกาลเวลา

ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความยากลำบาก มันเหมือนคนพึ่งหายป่วยพยายามปีนขึ้นภูเขาสูงด้วยร่างกายที่อ่อนแอ

แต่ไม่ว่ามันจะยากลำบากเพียงใด มันก็ไม่สามารถดับความทะเยอทะยานของฟางหยวน

เขาค่อยๆก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆแต่มั่นคง เขาสะสมกำไรไปทีละเล็กละน้อยแต่สิ่งเหล่านี้กลับสร้างประโยชน์ให้เขามากขึ้นเรื่อยๆ

ระหว่างกระบวนการนี้มันทำให้ฟางหยวนตระหนักถึงพลังอำนาจของแสงแห่งปัญญามาขึ้น

ยิ่งเขาใช้มันมากเท่าใด เขาก็ยิ่งได้รับแรงบันดาลใจมากเท่านั้น

ฟางหยวนเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและมันก็นำเขาไปสู่คำตอบที่ถูกต้อง

โดยเฉพาะความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาระดับปรมาจารย์ที่เป็นตัวขับเคลื่อนชั้นยอด

เวลาครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในวันนี้ฟางหยวนยืดแขนขาและเปิดปากหาวเสียงดัง

เขาประสบความสำเร็จ!

ในที่สุดเขาก็พบวิธีแก้ปัญหาวิญญาณกาลเวลา

แทบจะในเวลาเดียวกัน

ในทะเลตะวันออก บริเวณทะเลปลามังกรที่ปราศจากคลื่นลม

ใต้ทะเลลึก โหยว่ชายโบกมือไปมาอย่างมีความสุข นางรู้สึกตื่นเต้นและยินดีมาก

“ข้าทำสำเร็จ!”

“ในที่สุดข้าก็สามารถสร้างปลามังกรทองแดงสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาได้ด้วยตัวข้าเอง!”

“แม้ข้าจะต้องใช้ปลามังกรทองแดงของเขาเพื่อผสมพันธุ์ แต่มันก็ทำให้ข้าได้รับปลามังกรทองแดงหลายตัว หลังจากนี้ข้าจะสามารถขยายพันธุ์พวกมันต่อไปได้เรื่อยๆ”

“ข้าจะไม่ยอมแพ้ในธุรกิจปลามังกร!”

“เจ้ายังมีวิธีการใดอีก ใช้ออกมาให้หมด!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท