เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1483

ตอนที่ 1483

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

ปัญหาของผมที่หกยากกว่าการคาดหมายของฟางหยวน

ท่าไม้ตายอสรพิษแดงของผมที่หก มันไม่เพียงเป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม แต่มันยังเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งกฎ

ผมที่หกสร้างท่าไม้ตายนี้ขึ้นมาโดยอ้างอิงจากวิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ไม่สมบูรณ์จากคลังสมบัติของนิกายหลางหยา

ฟางหยวนอนุมานและตระหนักว่ามันไม่ง่ายที่จะแก้ไข หากประมาทเพียงเล็กน้อย ผมที่หกอาจเสียชีวิตทันที

ดังนั้นฟางหยวนจึงเปลี่ยนกลยุทธ์โดยการชะลอความเร็วลง

‘หากระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของข้าสูงกว่านี้ ข้าจะใช้เวลาน้อยลงอย่างมากในการอนุมาน’

ฟางหยวนไม่หมกมุ่นอยู่กับปัญหานี้

แต่ผมที่หกก็ไม่รีบร้อน

ตราบเท่าที่เขาไม่ใช้ท่าไม้ตายนี้อีก เขาจะไม่เสียชีวิต

ฟางหยวนยังบ่มเพาะจิตวิญญาณของเขาต่อไป

ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพสำหรับการบ่มเพาะจิตวิญญาณอย่างแท้จริง รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของร่างหลักฟางหยวนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ร่างแยกของเขาไม่ได้บ่มเพาะสิ่งนี้

เหตุผลก็คือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ขัดแย้งกัน

หากรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของร่างแยกเพิ่มขึ้น มันอาจขัดขวางการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่ได้มอบอาภรณ์วิญญาณให้กับร่างแยก

สำหรับวิธีการป้องกันเจตจำนงสวรรค์ ฟางหยวนใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แม้ผลลัพธ์ของมันจะด้อยกว่าอาภรณ์วิญญาณ แต่วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเหมาะสมกับร่างแยกของเขามากกว่า มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย

อย่างไรก็ตามแม้ร่างหลักของฟางหยวนจะสามารถบ่มเพาะได้ทุกเส้นทาง แต่ในสถานการณ์พิเศษบางอย่าง เขายังต้องระวังความแตกต่างของท่าไม้ตาย ตัวอย่างเช่น ท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์วิญญาณอ่อนแอลงเนื่องจากท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผี

นอกเหนือจากการอนุมานวิธีแก้ปัญหาของผมที่หกและท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อปกป้องร่างแยกของฟางหยวนจากเจตจำนงสวรรค์ ฟางหยวนยังต้องดัดแปลงท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งโชคของเขาอีกด้วย

เส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งดาบ และเส้นทางแห่งจิตวิญญาณถูกพัฒนาจนถึงขีดจำกัดในปัจจุบันของเขาแล้ว ต่อไปคือเส้นทางแห่งโชค

ฟางหยวนมีมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคที่มีประโยชน์มากมาย ท่ามกลางมรดกเหล่านี้ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือโชคของตนเองและโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของเทพอมตะตะวันเดือด

ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคมากมายเช่นวิญญาณโชคอึสุนัข วิญญาณสัมผัสแห่งโชค วิญญาณเชื่อมโยงโชค และวิญญาณช่วงเวลาแห่งโชค แต่พวกมันล้วนเป็นวิญญาณอมตะระดับหกที่ไม่เหมาะสมกับการบ่มเพาะระดับเจ็ดของฟางหยวนในปัจจุบัน

เขาไม่มีความคิดที่จะยกระดับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคสำหรับตอนนี้ สิ่งที่เขาสนใจมีเพียงการยกระดับวิญญาณกาลเวลา

วิญญาณกาลเวลาใช้ได้กับผู้อมตะระดับหก ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เขาต้องใช้วิญญาณกาลเวลาระดับเจ็ด หรือใช้วิญญาณกาลเวลาเป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด

ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นตอนรวบรวมวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณที่จำเป็น

ฟางหยวนไม่ลืมที่จะฝึกฝนท่าไม้ตายของเขาอย่างสม่ำเสมอ

เขารู้ว่าตนเองต้องทำงานหนักในช่วงเวลาที่สงบสุข เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องต่อสู้ ท่าไม้ตายเหล่านี้จะสามารถใช้งานได้ด้วยสัญชาตญาณของเขา

ท่ามกลางท่าไม้ตายที่เขาฝึกฝน เขาให้ความสำคัญกับท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเผยความลับสวรรค์มากที่สุด

ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณความลับสวรรค์เป็นแกนกลาง มันสามารถอนุมานภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึง แน่นอนว่ามันมีขีดจำกัด ฟางหยวนยังไม่สามารถอนุมานภัยพิบัติใหญ่ได้ทันที เขาต้องรออีกระยะหนึ่ง

นอกจากท่าไม้ตายอมตะเผยความลับสวรรค์ ฟางหยวนยังฝึกท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจำนงสวรรค์เช่นกัน

ท่าไม้ตายนี้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของฟางหยวนในช่วงเวลานี้

การสลายเจตจำนงสวรรค์เป็นมาตรการตอบโต้เจตจำนงสวรรค์โดยตรงแต่ว่ามันจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวและไม่สามารถใช้ระหว่างการต่อสู้ก็ตา

จนถึงตอนนี้ลูกพลัมแดงอมตะของเขาถูกใช้ไปแทบหมดสิ้น

เช่นเดียวกับคลังเก็บหินวิญญาณอมตะของเขาที่แห้งเหือดไปแล้ว

สมาชิกนิกายเงาต่างมีพัฒนาการที่ดี ด้วยการพึ่งพาไท่ชิว พวกเขาสามารถรวบรวมทรัพยากรและเติมเต็มคลังสมบัติของตนเอง

ฟางหยวนต้องการเพียงวิญญาณหรือสัตว์อสูรที่เป็นเป้าหมายในภารกิจเท่านั้น

เขาไม่ได้ฉกชิงผลประโยชน์ของสมาชิกนิกายเงา ด้านหนึ่งเขาไม่สนใจเงินจำนวนเล็กน้อยเหล่านั้น ในทางกลับกันเขาต้องการรักษากฎของนิกายเงา ในสถานการณ์ฉุกเฉินฟางหยวนจะสามารถหยิบยืมทรัพยากรจากพวกเขา

แต่หากเขาลงมืออย่างไร้ยางอายในเวลานี้ เขาจะทำลายสมดุลและการเติบโตของนิกายเงา ผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นเขาจึงไม่เลือกวิธีนี้

นอกเหนือจากการฝึกฝน ฟางหยวนยังเริ่มวางแผน

เขามีความสัมพันธ์บางอย่างกับทั้งห้าภูมิภาคไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แม้เขาจะถูกประกาศจับโดยกองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคเหนือรวมถึงถ้ำสวรรค์นิรันดร แต่เขายังเป็นสมาชิกของพันธมิตรเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์

ปัญหาตอนนี้ของเขาคือเงินทุน

การหลอมรวมวิญญาณ การบ่มเพาะ หรือการฝึกฝนท่าไม้ตายอย่างต่อเนื่อง พวกมันทำให้เงินทุนของเขาหมดลง แม้มิติช่องว่างจักรพรรดิจะผลิตลูกพลัมแดงอมตะออกมามากมาย แต่ความก้าวหน้าของฟางหยวนรวดเร็วเกินไป รายรับของเขาไม่เพียงพอต่อร่ายจ่าย

วิธีแก้ปัญหาของฟางหยวนมีเพียงธุรกิจปลามังกร

แต่ไม่นานมานี้โหยว่ชานเริ่มวางขายปลามังกรทองแดงเช่นกัน นั่นทำให้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามฟางหยวนสามารถยอมรับความจริง

ปลามังกรแตกต่างจากวิญญาณความเด็ดเดี่ยว คู่แข่งสามารถอนุมานและผลิตสินค้าลอกเลียนแบบ

นี่เหมือนวิธีที่ฟางหยวนดัดแปลงราเรืองแสง

เขาสามารถทำได้ แล้วเหตุใดผู้อื่นจะไม่สามารถ

มันไม่เหมือนธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยวที่ไม่มีผู้ใดสามารถผลิตได้ มันเป็นธุรกิจผูกขาดที่ผู้อมตะทุกคนต่างเฝ้าฝันถึงอย่างแท้จริง

หลายวันผ่านไป

ท่าไม้ตายอมตะหนึ่งปีเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งวัน!

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิไหลเร็วขึ้น

ปกติเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิก็ไหลเร็วอยู่แล้ว แต่หลังจากใช้ท่าไม้ตายนี้ มันยิ่งเร็วขึ้นไปอีก

ด้วยวิธีนี้ภัยพิบัติจะมาถึงเร็วขึ้นเช่นกัน

แต่ฟางหยวนไม่กลัว

เขาไม่หวั่นไหวกับภัยพิบัติพิภพหรือภัยพิบัติสวรรค์ สำหรับภัยพิบัติใหญ่ เขามีท่าไม้ตายอมตะเผยความลับสวรรค์ แล้วเขายังต้องกลัวสิ่งใด?

ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนำไปสู่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะปลามังกร

ในทะเลเกล็ดมังกรมีปลามังกรจำนวนมากว่ายน้ำอยู่รอบๆ ส่วนใหญ่เป็นปลามังกรธรรมดาสีแดง อีกสามสิบส่วนเป็นปลามังกรทองแดง และมีอีกส่วนหนึ่งที่เป็นปลามังกรสีดำ

“นี่คือปลามังกรเหล็กไหลของข้า” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

ด้วยค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ เขาไม่จำเป็นต้องทำวิจัยปลามังกรเพิ่มเติม ปลามังกรจะเกิดการกลายพันธุ์ด้วยตัวของมันเอง

“หลังจากข้าวางขายปลามังกรเหล็กไหล ข้าสงสัยว่าโหยว่ชานจะตอบสนองอย่างไร?”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท