ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงของฟางหยวน โหยว่ชานรู้สึกเหนื่อยล้า นางไม่สามารถต่อต้านได้อีก
‘เห้อ…’ ฉินไป่อี้ลอบถอนหายใจ
ฟางหยวนไม่ได้โกหก วิธีการสื่อสารของฉินไป่อี้ไร้ประโยชน์ นางเริ่มเข้าสู่การต่อสู้ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
นางเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไม้ นางใช้ท่าไม้ตายและส่งกลีบดอกไม้ออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ชุดยาวของฉินไป่อี้ลอยขึ้นสู่อากาศพร้อมเส้นผมสีดำของนาง นางดูราวกับกำลังเต้นรำอยู่ในสนามรบ
อีกด้านหนึ่ง โหยว่ชานตะโกนและต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ
หญิงทั้งสองเป็นเทพธิดาที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก พวกนางทั้งสง่างามและทรงเสน่ห์ หากผู้อมตะทั่วไปพบเห็นพวกนาง พวกเขาอาจถูกรูปโฉมของพวกนางล่อลวงได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกล่าวถึงการสร้างปัญหาหรือสังหาร
น่าเสียดายที่พวกนางพบกับฟางหยวน
ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาล
ท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน
“โฮก…”
มังกรดาบบรรพกาลคำรามและพุ่งเข้าโจมตีหญิงทั้งสอง
“โอ้ ไม่!” โหยว่ชานอุทาน
หัวใจของฉินไป่อี้แทบกระโดดออกมาจากหน้าอก นางกัดฟันแน่น “มารร้าย รับสิ่งนี้!”
หลังกล่าวจบคำ กลีบดอกไม้ก็รวมตัวกันและสร้างเป็นพายุหมุนกลีบดอกไม้ขนาดใหญ่พุ่งไปทางมังกรดาบบรรพกาล
โหยว่ชาตตะโกน “ให้ข้าช่วย!”
นางใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งวารียิงกระสุนน้ำออกไป
กระสุนน้ำหลอมรวมกับพายุหมุนกลีบดอกไม้และทำให้มันทรงพลังขึ้นอีกหลายเท่า
“เป็นการผสานงานระหว่างไม้กับวารีที่ยอดเยี่ยม!” ฉินไป่อี้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
พายุหมุนกลีบดอกไม้พุ่งชนมังกรดาบบรรพกาลอย่างเกรี้ยวกราดและกลืนกินฝ่ายหลังเข้าไป
แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้ทำให้เทพธิดาทั้งสองมีความสุข ตรงข้ามพวกนางตกใจมาก
‘โอ้ ไม่ มังกรดาบบรรพกาลตัวนี้เป็นของปลอม!’ ฉินไป่อี้คิดเรื่องนี้ขณะที่มังกรสีเงินปรากฏขึ้นด้านหลังนางอย่างเงียบๆ
เวลาราวกับหยุดนิ่ง
ฉินไป่อี้พยายามหันหลังกลับด้วยความยากลำบาก ด้วยหางตา นางสามารถมองเห็นมังกรดาบบรรพกาลอ้าปากของมันและกัดร่างเล็กๆของนางด้วยฟันอันแหลมคม
“ฟางหยวน เจ้าเป็นคนมีชื่อเสียงและมีความแข็งแกร่งระดับแปด แต่เจ้ากลับใช้วิธีลอบโจมตีงั้นหรือ!?” โหยว่ชานกรีดร้องด้วยความโกรธ
ฟางหยวนมีความได้เปรียบแต่เขายังลอบโจมตี เขาช่างไร้ยางอายเกินไปจริงๆ
เมื่อเห็นฉินไป่อี้กำลังจะจบลงในปากของฟางหยวน โหยว่ชานโจมตีด้วยพลังทั้งหมด
สายฝนพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนราวกับลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วน
ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็น เขากัดฟันอย่างรุนแรงโดยปราศจากความกังวล
“ปัง!”
ด้วยการใช้พละกำลังมากเกินไป ฟันที่ปะทะกันจึงส่งเสียงดังออกมา
“ไม่!” โหยว่ชานกรีดร้องด้วยความตกใจ
แทบจะในเวลาเดียวกันที่การโจมตีของนางถูกสะท้อนกลับเพราะเกราะหวนคืน
โหยว่ชานปกป้องตนเองด้วยความตื่นตระหนก ในเวลานี้นางรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอมาก
‘ข้าจะเอาชนะเขาได้อย่างไร?’
‘เกราะหวนคืนสะท้อนการโจมตีทั้งหมดของข้ากลับมา เขาช่างไร้ยางอายนัก!’
โหยว่ชานรู้สึกราวกับอยู่ในหุบเหวอันหนาวเย็น
อย่างไรก็ตามเมื่อฟางหยวนอ้าปาก มันกลับไม่มีเศษเนื้อหรือกระดูกติดอยู่ระหว่างฟันของเขา มีเพียงกลีบดอกไม้เหลืออยู่เท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง กลีบดอกไม้รวมตัวกันและกลายเป็นร่างมนุษย์
มันคือฉินไป่อี้ในร่างเปลือยเปล่า
นางใช้ท่าไม้ตายอมตะช่วยชีวิตของตนเองเอาไว้จากการโจมตีของฟางหยวน
“ไป่อี้!” โหยว่ชานตะโกนอย่างมีความสุข
ใบหน้าของฉินไป่อี้กลายเป็นซีดขาว ริมฝีปากของนางสั่นเทา นางรอดพ้นจากความตายมาอย่างฉิวเฉียด สถานการณ์ก่อนหน้านี้อันตรายมาก นางอยู่ห่างจากความตายเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
กลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่รอบๆลอยเข้ามารวมตัวกันและกลายเป็นชุดที่งดงามอยู่บนร่างกายของนาง
โหยว่ชานรีบบินเข้าไปรวมกลุ่มกับนาง
หญิงทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันก่อนจะมองไปที่ฟางหยวนด้วยความหวาดกลัวและตกใจ
การโจมตีของมังกรดาบบรรพกาลล้มเหลวแต่มันไม่ได้โจมตีอีก
“ข้าเข้าใจแล้ว เป็นเช่นนี้” ปากของมังกรดาบบรรพกาลเปิดออกและกล่าวออกมาด้วยภาษามนุษย์
เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงดาวสีม่วงพุ่งเข้าทำลายกลีบดอกไม้ทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบ
ร่างของฉินไป่อี้สั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง
การกระทำของฟางหยวนทำให้ฉินไป่อี้ไม่สามารถใช้วิธีการเดิมของนางได้อีก
มังกรดาบบรรพกาลคำรามและพุ่งเข้าโจมตีศัตรูของมันอีกครั้ง
เทพธิดาทั้งสองกัดริมฝีปากและต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตรอด
นี่คือการต่อสู้แห่งชีวิตและความตายอย่างแท้จริง
พวกนางไม่กล้าผ่อนคลายและต้องใช้ไพ่ตายทุกใบที่มีออกมาทั้งหมด
“บึม บึม บึม”
การโจมตีที่รุนแรงสร้างแสงสว่างปะทุขึ้นราวกับดอกไม้ไฟ
มังกรดาบบรรพกาลไม่สนใจการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามเพราะเกราะหวนคืนสามารถสะท้อนการโจมตีเหล่านั้นกลับไปทั้งหมด
หญิงทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังไม่สามารถสังหารพวกนางได้
เทพธิดาทั้งสองต่างเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกนางมีวิธีการมากมาย การเป็นผู้มีชื่อเสียงก็ทำให้รากฐานของพวกนางแข็งแกร่ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสังหารพวกนางได้ในทันที
“ฟางหยวน อย่าโจมตี พวกเรายอมแพ้แล้ว!”
“เราตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว ข้าสาบานว่าข้าจะออกจากธุรกิจปลามังกร โปรดปล่อยพวกเราไปด้วย!”
หลังจากไม่นาน หญิงทั้งสองก็เริ่มร้องขอความเมตตา
ไม่มีความหวังที่จะได้รับชัยชนะอยู่แม้แต่น้อย
ตั้งแต่ต้นจนจบ ฟางหยวนเป็นฝ่ายได้เปรียบ หญิงทั้งสองตกอยู่ในความสิ้นหวังและไม่สามารถต่อต้านได้อีกต่อไป
“เราจะจ่ายค่าชดเชยจำนวนมากให้เจ้าตราบเท่าที่เจ้าปล่อยพวกเราไป”
“ถูกต้อง หากเราต่อสู้จนตาย เราจะระเบิดวิญญาณอมตะของเรา เจ้าจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย”
“เราไม่ควรเป็นศัตรูกัน ปลามังกรเหล่านี้จะเป็นของเจ้าทั้งหมด เราได้รับบทเรียนแล้ว หากเราพบกันอีกครั้ง เราจะใช้ทางอ้อม”
“เราสาบานว่าหลังจากนี้เราจะไม่เป็นศัตรูกับเจ้าหรือริเริ่มการแก้แค้นใดๆ”
หญิงทั้งสองเร่งกล่าว
“ฉลาดและเข้าใจสถานการณ์ดีจริงๆ” มังกรดาบบรรพกาลหยุดโจมตีและลอยอยู่กลางอากาศ
ดวงตาที่เย็นชามองไปที่หญิงทั้งสอง “เช่นนั้นมอบวิญญาณอมตะให้ข้าคนละดวงเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ”
หัวใจของหญิงทั้งสองบีบรัดตัวแน่น พวกนางมองหน้ากันและรู้สึกว่าฟางหยวนเป็นคนที่รับมือได้ยากนัก
หากพวกนางสูญเสียวิญญาณอมตะ พลังการต่อสู้ของพวกนางจะลดลงทันที
แต่หากพวกนางไม่ส่งมอบวิญญาณอมตะ พวกนางจะตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต
หลังจากลังเลเล็กน้อย โหยว่ชานเริ่มกล่าว “เราตกลงตามเงื่อนไขนี้ แต่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุใดๆ เราควรทำข้อตกลงว่าจะไม่ทำร้ายกันด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล”
“ได้” ฟางหยวนพยักหน้า
อย่างไรก็ตามระหว่างการเจรจากลับมีอุปสรรค
ฉินไป่อี้และโหยว่ชานย้ำว่าหากฟางหยวนละเมิดข้อตกลง เขาต้องเผชิญหน้ากับความตาย แล้วเขาจะยอมรับสิ่งนี้ได้อย่างไร
ฟางหยวนมีแผนการของตนเอง เขามีค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเอง เขาวางแผนที่จะใช้ค่ายกลนี้เพื่อกำจัดข้อตกลงที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง
แต่วิธีนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร
หากเป็นกฎตายทันที ค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองจะไม่สามารถช่วยเขา
ฟางหยวนไม่ต้องการปล่อยผู้อมตะสองคนนี้ไป
หากเขาทำได้ เขาจะจับพวกนางทั้งเป็น
นอกจากนี้วังสวรรค์ยังสามารถกำจัดข้อตกลงของพวกนางและนั่นจะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย ขณะที่ธุรกิจปลามังกรของฟางหยวนจะมีคู่แข่งที่แข็งแกร่ง
ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลง เทพธิดาทั้งสองเข้าใจเจตนาของฟางหยวนอย่างสมบูรณ์
“ฟางหยวน ดูเหมือนเจ้าต้องการให้พวกเราตายจริงๆ”
“ต่อให้ตาย ข้าก็ไม่ยอมให้เจ้าได้รับสิ่งใด!”
ด้วยความโกรธ หญิงทั้งสองเลือกที่จะต่อสู้จนตัวตาย
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา เจตนาสังหารของเขาพุ่งสูงขึ้น หลังการชั่วครู่ ครึ่งร่างของฉินไป่อี้ก็ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
อวัยวะภายในและกระดูกของนางโผล่ออกมาภายนอก
“ไป่อี้ ให้ข้าช่วยเจ้า!” โหยว่ชานเป็นห่วงมาก นางเข้าไปช่วยแต่นางไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของฟางหยวนคือนาง
โหยว่ชานถูกมังกรดาบบรรพกาลกัดโดยไม่รู้ตัว
“พรวด!”
เลือดไหลทะลักออกมจากช่องว่างระหว่างฟันที่แหลมคมของมังกรดาบบรรพกาล
มังกรดาบบรรพกาลเคี้ยวและกลืนร่างของนางเข้าไป
โหยว่ชานเสียชีวิต!
“เสี่ยวชาน!” ฉินไป่อี้เห็นคนที่นางรักถูกฆ่าตายต่อหน้า นางกรีดร้องด้วยความโศกเศร้าขณะที่ดวงตาสีแดงของนางหลั่งน้ำตาออกมา
“ฟางหยวน เจ้าฆาตกร ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป!” ฉินไป่อี้พุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน
ฟางหยวนเย้ยหยัน เขาใช้แสงดาวสีม่วงทำลายการป้องกันของฉินไป่อี้
ต่อมาเขาก็เปิดปากและส่งลมหายใจมังกรดาบออกไป
หลังจากลมหายใจมังกรดาบสงบลง ร่างกายของฉินไป่อี้ก็ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ มีเพียงศีรษะของนางเท่านั้นที่เหลืออยู่ ใบหน้าที่งดงามของนางยังไม่บุบสลายแต่มันบิดเบี้ยวและเต็มไปด้วยเลือด
ฟางหยวนบินเข้าไปอย่างช้าๆและฟาดกรงเล็บมังกรออกไป
“ผั๊ว!”
ราวกับผลแตงโมที่ถูกทุบแตก กรงเล็บมังกรฉีกศีรษะของฉินไป่อี้ออกเป็นชิ้นๆขณะที่สมองและเลือดสาดกระเซ็นลงบนพื้น