เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1523 กรรโชกทรัพย์

บทที่ 1523 กรรโชกทรัพย์

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1523 กรรโชกทรัพย์

แปลโดย iPAT

ผู้อมตะตระกูลฟางยังโจมตีกองทัพอสูรวิญญาณอย่างต่อเนื่องและสร้างเป็นฉากที่เหมือนทุ่งดอกไม้ไฟหลากหลายสีสัน

ใบหน้าของผู้อมตะตระกูลฟางสะท้อนแสงแต่การแสดงออกของพวกเขากลับค่อนข้างน่าเกลียด

“แม้จะมีอสูรวิญญาณบางตัวถูกสังหาร แต่มันกลับมีผลเพียงเล็ก เกราะสีเขียวของพวกมันเชื่อมต่อและแบ่งปันความเสียหายให้พวกมันเท่าๆกัน ช่างน่าอัศจรรย์นัก!”

ผู้อมตะระดับหกของตระกูลฟางไม่พอใจกับผลลัพธ์ดังกล่าว

ในจังหวะนี้ผู้อมตะหญิงชุดสีม่วงของตระกูลฟางก็บินออกมาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะกรงสัตว์อสูร

“ให้ข้าลองดู” นางตะโกนและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่เตรียมเอาไว้

ทันใดนั้นควันพิษก็ปรากฏขึ้นและเคลื่อนเข้าปกคลุมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์รวมถึงกองทัพอสูรวิญญาณทั้งหมด

ท่ามกลางควันพิษ นกกระจอกจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกไปราวกับลูกศร สิ่งนี้เกิดจากท่าไม้ตายอมตะ

นกกระจอกหลายสิบล้านตัวบินเข้าโจมตีกองทัพอสูรวิญญาณและสร้างเป็นฉากที่วุ่นวาย

แต่ในไม่ช้าผู้อมตะตระกูลฟางก็แสดงออกด้วยใบหน้ามืดครึ้ม

ท่าไม้ตายอมตะนี้ดูยิ่งใหญ่แต่ผลลัพธ์ของมันกลับตรงกันข้าม

“กระทั่งท่าไม้ตายอมตะนกกระจอกลูกศรเมฆาบนเส้นทางแห่งพิษของฟางจื่อก็ยังไร้ประโยชน์ ดูเหมือนเกราะสวนผักจะไม่มีจุดอ่อน” ฟางตี้เฉิงขมวดคิ้วลึก

เขาหันหน้าไปทางฟางหยวน “ข้าสงสัยว่าสหายซวนปู้จินคิดเห็นอย่างไร?”

ฟางหยวนส่ายศีรษะ “ข้าไม่พบจุดอ่อนใดๆเช่นกัน แต่ในความคิดเห็นอันต่ำต้อยของข้า วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะแตกต่างจากก่อนหน้า ตอนนี้มันเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น เกราะสวนผักเป็นเพียงแง่มุมหนึ่ง สิ่งสำคัญคืออสูรวิญญาณเหล่านั้นสามารถประสานงานและสร้างความร่วมมืด พวกมันปกป้องวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันแตกต่างจากก่อนหน้านี้มากเกินไป”

ฟางตี้เฉิงพยักหน้า

เขารู้ว่าฟางเล้งกับฟางหยุนเคยต่อสู้กับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์มาก่อน มันสามารถพุ่งชนได้เท่านั้นและไม่เคยปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะใดๆออกมา

อย่างไรก็ตามตอนนี้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์กลับไม่เคลื่อนไหว มันเหมือนป้อมปราการที่ทำให้ตระกูลฟางไม่สามารถทำสิ่งใด

ความแตกต่างระหว่างการต่อสู้ทั้งสองครั้งทำให้ฟางตี้เฉิงรู้สึกกังวล

‘ข้าใช้ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อแต่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์กลับไม่ตอบโต้ มันเพียงป้องกันตัวและไม่เคลื่อนไหว เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันกำลังถ่วงเวลา?’

ฟางตี้เฉิงคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ทั้งหมดก่อนจะตัดสินใจ

เขาออกคำสั่งผู้อมตะตระกูลฟางที่กำลังต่อสู้อยู่ในสนามรบ “กลับมา เราจะใช้เขาวงกตดอกท้อโจมตี!”

เขาวงกตดอกท้อเป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ มันสามารถดักจับผู้อมตะระดับแปด มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถรับมือได้โดยง่าย

ผู้อมตะของตระกูลฟางบินกลับเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขาก่อนที่เขาวงกตดอกท้อจะเริ่มทำงาน

คลื่นแสงสีเขียวจากเขาวงกตดอกท้อพุ่งเข้าไปหาวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ กองทัพอสูรวิญญาณถูกบังคับให้ล่าถอย พวกมันถูกส่งลอยกลับหลังและไม่สามารถต่อต้าน

อสูรวิญญาณคำรามแต่พวกมันก็ไม่สามารถทำสิ่งใด

เฉินอี้ขมวดคิ้วอยู่ในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ “เขาวงกตดอกท้อไม่ธรรมดาจริงๆ”

เขายังอยู่ระหว่างการปราบปรามชิงโจว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถควบคุมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างอิสระ

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ปลดปล่อยแสงสว่างออกมาอีกครั้งและช่วยปกป้องอสูรวิญญาณทั้งหมด

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสามตัวราวกับได้รับการสนับสนุนครั้งใหญ่ ร่างกายของพวกมันขยายขึ้นและกลายเป็นสัตว์ประหลาดขนาดมหึมา

สัตว์ประหลาดร่างยักษ์ทั้งสามราวกับภูเขาที่ปิดกั้นคลื่นแสงสีเขียวเอาไว้ทั้งหมด

ในจังหวะนี้เขาวงกตดอกท้อพลันเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

คลื่นแสงสีเขียวจางหายไปก่อนที่รัศมีแสงสีแดงจะปรากฏขึ้นราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าในยามราตรี

พวกมันกลายเป็นดอกไม้ที่สดใสเบ่งบานอยู่ในสวน กลีบดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่กลางอากาศ

กลีบดอกไม้ค่อยๆควบรวมและกลายเป็นร่างมนุษย์พฤกษาจำนวนมากลอยอยู่บนท้องฟ้า

“นี่คือท่าไม้ตายอมตะที่เรียกว่านักรบบุปผาวายุ สหาย ข้าขอรบกวนให้เจ้าช่วยควบคุมส่วนหนึ่งของพวกมันด้วย” ฟางตี้เฉิงกล่าวกับฟางหยวน

ฟางหยวนพยักหน้า หลังจากได้รับอนุญาต เขาก็สามารถควบคุมนักรบบุปผาวายุร่างมนุษย์

ในความพยายามครั้งแรก ฟางหยวนสามารถควบคุมนักรบบุปผาวายุได้สิบสองตน

“หือ?” ดวงตาของฟางหยวนเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ “นักรบบุปผาวายุสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะของผู้ควบคุมด้วยการระเบิดตัวเองไปพร้อมกัน”

“เจ้าช่างฉลาดนัก นี่คือวิธีใช้นักรบบุปผาวายุ” ฟางตี้เฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฟางหยวนทดลองใช้ท่าไม้ตายอมตะความคิดอุกกาบาตเพลิง

ทันใดนั้นนักรบบุปผาวายุที่เขาควบคุมก็บินไปที่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และระเบิดตัวมันเอง

หลังจากจุดชนวน ความคิดอุกกาบาตเพลิงก็พุ่งลงสู่พื้น

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ไม่เคลื่อนไหวแต่อสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสามถูกความคิดอุกกาบาตเพลิงโจมตีและทำให้ร่างกายของพวกมันสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขายกย่องด้วยความประหลาดใจ “ท่าไม้ตายถูกปลดปล่อยออกมาด้วยความเร็วเกือบเท่ากับร่างต้นใช้ด้วยตัวเอง ไม่เพียงมันจะสามารถแก้ไขจุดอ่อนของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ แต่มันยังช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากจำนวนโดยไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย”

ขณะที่เขากล่าวถ้อยคำเหล่านี้ เขาก็บังคับนักรบบุปผาวายุตรงไปยังอสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสาม

ท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อย!

หลังจากถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายนี้ ร่างของอสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสามก็หยุดนิ่ง พวกมันถูกโจมตีด้วยพลังงานที่ไร้รูปแบบ

ในเวลาเดียวกันนักรบบุปผาวายุอีกสามตนก็ระเบิดตัวเองและปลดปล่อยท่าไม้ตายอีกสามท่าออกมา

แต่ในเวลาต่อมาวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก็ปลดปล่อยแสงสีเขียวออกมารักษาอาการบาดเจ็บของพวกมันอย่างรวดเร็ว

การต่อสู้ที่ดุเดือด!

แม้ท่าไม้ตายอมตะนักรบบุปผาวายุจะยอดเยี่ยม แต่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก็แข็งแกร่งเช่นกัน นอกจากนั้นอสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสามก็เหมือนป้อมปราการที่ไม่สั่นคลอน

ฟางหยวนมีวิธีการมากมายที่ยังไม่ได้ใช้ เขาไม่ได้ใช้ไพ่ตายที่แท้จริงออกมา แต่ผู้อมตะของตระกูลฟางก็เช่นกัน ดังนั้นสถานการณ์จึงกลายเป็นชะงักงัน

ฟางตี้เฉิงขมวดคิ้ว เขาวงกตดอกท้อมีวิธีการโจมตีเพียงสามรูปแบบ ตอนนี้พวกเขาใช้ไปแล้วสองแต่สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง

การป้องกันของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังเกินไป

เมื่อฟางตี้เฉิงกำลังจะใช้วิธีที่สาม ฟางหยวนกลับเคลื่อนไหว

ทาสแปดสิบต่อร้อย!

ทาสแปดสิบต่อร้อย!

ทาสแปดสิบต่อร้อย!

นักรบบุปผาวายุสามตนระเบิดตัวเองและปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อยออกมาพร้อมกัน

ท่าไม้ตายทั้งสามพุ่งเป้าไปที่อสูรวิญญาณแรกกำเนิดอสรพิษมีปีกและทำให้ร่างของมันแข็งค้างราวกับรูปปั้น หลังจากไม่นานมันก็ตกเป็นทาสของฟางหยวน

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดตัวที่สอง!

ไม่ว่าจะเป็นเฉินอี้หรือฟางตี้เฉิง ทั้งสองต่างตกใจ

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์สนับสนุนอสูรวิญญาณแรกกำเนิดเหล่านี้ด้วยชุดเกราะสวนผัก พวกมันมีการป้องกันที่แข็งแกร่งและสามารถรักษาตัวเองได้ทันที มันยากที่จะถูกทำลาย

แต่ฟางหยวนกลับเพิกเฉิยต่อสิ่งเหล่านี้และควบคุมอสูรวิญญาณแรกกำเนิดโดยตรง

“สหาย เจ้ามีวิธีการที่น่าทึ่ง ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งทาสคือจุดอ่อนของเกราะสวนผัก ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถใช้มันต่อไป” ฟางตี้เฉิงหยุดก่อนกล่าวต่อ “เราจะตอบแทนเจ้าอย่างเต็มที่!”

เฉินอี้ก่นเสียงเย็น “เขาใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนี้จริงๆ น่าเสียดายที่พวกมันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ พวกเราสามารถใช้เพียงกองทัพอสูรวิญญาณเท่านั้น หากข้าใช้ทหารของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะกำหราบมันได้อย่างไร?”

ภายในอู่เรือพิพากษา ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น “ข้าเพียงโชคดีเท่านั้น ก่อนหน้านี้ข้าใช้มันกำหราบอสูรวิญญาณแรกกำเนิดตัวหนึ่งไปแล้ว นี่คือตัวที่สอง มันเป็นขีดจำกัดของข้า หากต้องใช้มันอีกครั้ง ข้าต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล! ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองมีความคิดเห็นอย่างไร?”

ได้ยินสิ่งนี้ ฟางตี้เฉิงรู้สึกโกรธมาก เขาคิด ‘ซวนปู้จินผู้นี้รีดไถข้าทันทีที่มีโอกาส! ราคามหาศาลงั้นหรือ? เขาหมายความว่าเขาสามารถใช้งานมันได้อีกครั้งแต่นั่นจะขึ้นอยู่กับค่าตอบแทนที่เราจะมอบให้เขา เรามีข้อตกลงพันธมิตร เขาไม่สามารถโกหกเรื่องนี้ แต่ผู้ใดจะคิดว่าเราจะถูกกรรโชกทรัพย์โดยคนนอกเพียงเพราะตระกูลฟางของเราขาดผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งทาสที่แข็งแกร่ง!’

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท