เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1529 ปรับแต่งวิญญาณอมตะระดับแปด

บทที่ 1529 ปรับแต่งวิญญาณอมตะระดับแปด

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1529 ปรับแต่งวิญญาณอมตะระดับแปด

แปลโดย iPAT

ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

มือปีศาจบินอยู่บนท้องฟ้า

นิ้วทั้งห้าของมันกำแน่น วิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปดที่อยู่ภายในพยายามดิ้นรนหลบหนี

อย่างไรก็ตามกระทั่งมันจะหลุดรอดจากมือปีศาจ แต่ตอนนี้มันอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน ไม่มีสถานที่ให้มันหลบหนี

ฟางหยวนคิด ‘ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณของข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีระดับเก้าและวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่เป็นแกนกลาง แม้วิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณจะเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด มันก็ไม่สามารถหลบหนี อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายนี้อยู่ได้ไม่นาน มันไม่มีคุณสมบัติในการปิดผนึก ข้าต้องรีบปรับแต่งวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ!’

ขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ มือปีศาจก็อ่อนกำลังลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามเป้าหมายของฟางหยวนประสบความสำเร็จแล้ว

ภูเขาผนึกสวรรค์!

เดิมทีภูเขาลูกนี้ถูกใช้ผนึกเจตจำนงสวรรค์ในร่างผีดิบอมตะของเขา

แต่ตอนนี้เจตจำนงสวรรค์ถูกแยกออกจากร่างผีดิบอมตะของเขาแล้ว ดังนั้นภูเขาผนึกสวรรค์จึงกลายเป็นว่างเปล่า

‘ไป!’ ภายใต้การควบคุมของฟางหยวน มือปีศาจบินเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณบนภูเขาผนึกสวรรค์

ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณ วิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณยังดิ้นรนอยู่แต่น้อยกว่าก่อนหน้า

‘ข้าไม่สามารถปล่อยให้มันดำเนินต่อไปเช่นนี้ สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือหาสถานที่ปรับแต่งมัน!’

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนก็บินออกจากเขาวงกตดอกท้อผ่านรูช่องโหว่ทันที

“เขาไปแล้ว!?” การกระทำของฟางหยวนทำให้ผู้อมตะทุกคนรู้สึกประหลาดใจ

เฉินอี้กัดฟันแน่นด้วยความเกลียดชัง เขาไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากเผชิญหน้ากับชิงโจวและฟางกง

‘ช่างรอบคอบนัก’ ฟางตี้เฉิงลอบยกย่องอยู่ในใจขณะเฝ้ามองร่างของฟางหยวนจากไป

ฟางหยวนเผชิญหน้ากับอสูรวิญญาณจำนวนมากแต่เขาไม่ได้ฆ่าพวกมันเพื่อเก็บเกี่ยวแก่นแท้อสูรวิญญาณ

เขาจำเป็นต้องปรับแต่งวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณอย่างเร่งด่วน

สำหรับตัวตนระดับแปดทั้งสาม พวกเขายังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ฟางหยวนเข้าใจความสามารถของตนเองอย่างชัดเจน แม้เขาจะมีเกราะหวนคืน แต่เขาก็สามารถเพียงอดทนต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดเท่านั้น

หากเขาเข้าแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างตัวตนระดับแปดทั้งสามเพื่อให้ได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ มันมีโอกาสสูงที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง

นอกจากนั้นเมื่อเขาใช้เกราะหวนคืน ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผย ตระกูลฟางอาจหันมาโจมตีเขา

มันไม่คุ้มสำหรับฟางหยวนเพราะเขายังต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลฟางและใช้ทะเลทรายผีเขียวเพื่อบ่มเพาะจิตวิญญาณ

ข้อตกลงพันธมิตรเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง มันไม่ง่ายที่จะกำจัดสิ่งนี้ เขาต้องใช้เวลาเตรียมตัว

แม้ฟางหยวนจะนำวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปดออกมา แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของทะเลทรายผีเขียวยังกัดกร่อนเขาวงกตดอกท้อต่อไป นอกจากนั้นยังมีกองทัพอสูรวิญญาณจำนวนมากอยู่ในสนามรบ

แต่ฟางหยวนกลับจากไปอย่างง่ายดาย

เขาบินออกจากทะเลทรายผีเขียวโดยไม่หันหลังกลับ เมื่อยืนยันความปลอดภัย ฟางหยวนก็บินลงบนพื้นทราย

เขาลงไปใต้ดินและสร้างค่ายกลวิญญาณเพื่อลบร่องรอยทั้งหมดของตนเอง

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มปรับแต่งวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปด

วิญญาณอมตะดวงนี้มีเจตจำนงของชิงโจวอยู่ภายใน มันเป็นเรื่องยากที่ฟางหยวนจะเข้าแทนที่

อย่างไรก็ตามฟางหยวนวางแผนมาแล้ว

วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่!

ด้วยการใช้งานวิญญาณอมตะรักตัวเองกับวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ เจตจำนงที่อยู่ภายในจะรักตัวเองและไม่ระเบิดทำลายตัวมันเอง

ถัดมาฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะความใคร่ส่งเจตจำนงเข้าไปในวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ

เจตจำนงทั้งสองต่อสู้กัน

เจตจำนงแห่งความใคร่ถูกทำลายแต่มันไม่ได้หายไปทั้งหมด เศษชิ้นส่วนของมันกระจัดกระจายอยู่ในวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ

นี่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของเจตจำนงแห่งความใคร่

ฟางหยวนยังกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะความใคร่อย่างต่อเนื่องแต่เจตจำนงแห่งความใคร่ก็ถูกเจตจำนงที่ดื้อรั้นของชิงโจวทำลายลงเสมอ

หลังจากผ่านไปหลายนาทีฟางหยวนก็หยุด

มีเศษชิ้นส่วนของเจตจำนงแห่งความใคร่จำนวนมากปะปนอยู่ในวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณและมันมาถึงขีดจำกัดแล้ว

เมื่อมาถึงจุดนี้ฟางหยวนก็ส่งเจตจำนงของตนเองเข้าไปในวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ

เจตจำนงของชิงโจวโกรธจัดและพุ่งเข้าโจมตีเจตจำนงของฟางหยวนอย่างบ้าคลั่ง

แต่ฟางหยวนยังเพิกเฉยต่อสิ่งนี้ เขายังส่งเจตจำนงของตนเองเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

ข้อได้เปรียบของเขาคือเขามีพลังงานอมตะมากพอ เขาสามารถเติมเจตจำนงของตนเองแต่ชิงโจวไม่สามารถเติมเต็มเจตจำนงของมัน

สิบห้านาที สามสิบนาที สี่สิบห้านาที…เมื่อเวลาผ่านไปความได้เปรียบของฟางหยวนก็เพิ่มขึ้น ในที่สุดเขาก็สามารถยึดครองส่วนหนึ่งของวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ

เจตจำนงของชิงโจวรู้ว่ามันไม่สามารถแข่งขันกับเจตจำนงของฟางหยวน มันต้องการระเบิดตัวเอง แต่ในเวลานี้เจตจำนงแห่งความใคร่ที่กระจายอยู่รอบๆก็พุ่งเข้าแทรกแซงการตัดสินใจของชิงโจว

สุดท้ายฟางหยวนก็ส่งกองทัพเจตจำนงของตนเองเข้าไปทำลายเจตจำนงของชิงโจวทั้งหมด

‘ในที่สุดข้าก็ประสบความสำเร็จในการปรับแต่งวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ!’ ฟางหยวนสูดหายใจขณะที่หน้าผากของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่อ

การต่อสู้ครั้งนี้เหมือนการทำสงครามครั้งใหญ่ เขาเหนื่อยมาก

เมื่อพิจารณาถึงเวลา สามวันสามคืนของโลกภายนอกได้ผ่านพ้นไปแล้ว

‘โชคดีที่ข้ามีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาและวิญญาณอมตะที่เข้ากันได้ มิฉะนั้นข้าจะไม่สามารถปรับแต่งวิญญาณดวงนี้’

‘เห้อ…แม้ข้าจะมีมือปีศาจปล้นวิญญาณและผนึกภูตผี ข้าก็ทำได้เพียงเลียนแบบความสามารถของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เท่านั้น ข้าใช้ประโยชน์จากความสำเร็จของเขา ตำนานกล่าวว่าเทพปีศาจปล้นสวรรค์สามารถขโมยเจตจำนงและปรับแต่งวิญญาณอมตะได้ทันที มันช่างน่าอัศจรรย์นัก!’

ฟางหยวนถอนหายใจ เขาเก็บวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณและรีบกลับไปที่ทะเลทรายผีเขียว

‘ข้ามีวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณและท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อย ข้าสามารถกดขี่ชิงโจวให้เป็นทาส!’

‘ด้วยความช่วยเหลือจากชิงโจว มีความเป็นไปได้ที่ข้าจะได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์’

‘แม้ข้าจะเผชิญหน้ากับฟันเฟือนของข้อตกลงพันธมิตร แต่ข้ายังสามารถปกป้องชีวิต หากข้าได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะได้รับกำไรมหาศาล!’

ฟางหยวนวิเคราะห์อยู่ในใจ

หลังจากได้รับวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ เขาก็เริ่มคิดที่จะยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

แต่เมื่อเขาบินไปที่ทะเลทรายผีเขียว เขากลับถูกปิดกั้นโดยผู้อมตะบางคน

“โปรดรอก่อน” ผู้อมตะหญิงระดับเจ็ดผู้หนึ่งเผยรอยยิ้มที่สุภาพให้เขา

ฟางหยวนชะลอความเร็วลง

ผู้อมตะหญิงยิ้ม “ข้า เหอกู่ ข้าเห็นท่านบินมาอย่างรวดเร็ว ท่านต้องมีจุดหมายอยู่ในใจ ด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทะเลทรายผีเขียว ข้าได้ยินว่ามีสมบัติล้ำค่าปรากฏขึ้น ข้าสงสัยว่าท่านมีข้อมูลหรือไม่? ข้ายินดีซื้อมัน”

การแสดงออกของฟางหยวนไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เขารู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ

เดิมทีตระกูลฟางสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่เพื่อยึดครองวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ อสูรวิญญาณทั้งหมดในทะเลทรายผีเขียวปรากฏตัวขึ้น เรื่องนี้ไม่สามารถเก็บซ่อนจากผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตก

ฟางหยวนใช้เวลาสามวันในการปรับแต่งวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญญาณขณะที่ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกมาถึงแล้ว

‘ข้าเกรงว่าการต่อสู้จะจบลงแล้ว!’

‘หากทั้งสามฝ่ายยังต่อสู้กันอยู่ พลังอำนาจระดับแปดย่อมไม่สามารถปกปิด มันจะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ แล้วผู้อมตะเหล่านี้จะไม่รับรู้ได้อย่างไร?’

‘การต่อสู้จบลงอย่างไร? ฝ่ายใดได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์?’

ฟางหยวนเต็มไปด้วยความสงสัย

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท