เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1530 วางแผนต่อต้านชิงโจว

บทที่ 1530 วางแผนต่อต้านชิงโจว

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1530 วางแผนต่อต้านชิงโจว

แปลโดย iPAT

‘เป็นเช่นนั้น’ ฟางหยวนติดต่อผู้อมตะตระกูลฟางและตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

การต่อสู้เพื่อแย่งชิงวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์จบลงแล้ว ตระกูลฟางได้รับมัน!

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์เฉินอี้กล่าวบางคำก่อนจากไป เขาต้องการให้ตระกูลฟางดูแลวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดีขณะที่เขาจะกลับมารับคืนในครั้งต่อไป

สำหรับชิงโจว มันยังสามารถหลบหนี มันมีรากฐานที่ลึกซึ้งและมีวิญญาณอมตะระดับแปดดวงอื่นนอกจากวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ

แม้ตระกูลฟางจะได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์แต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังของพวกเขาก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งฟางกงได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายไปเกือบครึ่ง

อย่างไรก็ตามหลังจากฟางหยวนติดต่อพวกเขา ตระกูลฟางก็สัญญาว่าจะตอบแทนฟางหยวนตามความเหมาะสม แต่ตระกูลฟางต้องการให้ฟางหยวนรอไปก่อนเพราะความโกลาหลที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินไป ข่าวที่ว่าตระกูลฟางได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์จะถูกเผยแพร่ออกไปในไม่ช้า เมื่อเวลานั้นมาถึง ทะเลทรายตะวันตกจะเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ หลังจากทั้งหมดกองกำลังใหญ่ของทะเลทรายตะวันตกไม่ต้องการเห็นตระกูลฟางได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของทะเลทรายตะวันตก

เมื่อถึงเวลานั้นตระกูลฟางจะเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากทุกทิศทาง พวกเขาจำเป็นต้องรักษาความแข็งแกร่งโดยเฉพาะการซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เป็นเรื่องเร่งด่วน

ดังนั้นตระกูลฟางจึงต้องการเวลา

ฟางหยวนคิดและตกลงรับข้อเสนอ

ประการแรก ข้อตกลงพันธมิตรไม่ได้เข้มงวดในเรื่องของเวลาในการตอบแทน ประการที่สอง ฟางหยวนต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาเอาไว้

สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป

ตระกูลฟางยั่วยุนิกายบัวสวรรค์ของภาคกลาง มันเหมือนกับการยั่วยุวังสวรรค์ ฟงหยวนในฐานะซวนปู้จินเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ จากมุมมองของตระกูลฟาง ซวนปู้จินถือเป็นพันธมิตรโดยธรรมชาติของพวกเขา

พวกเขาต้องการพลังการต่อสู้ของฟางหยวน ในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่มีวิธีกดขี่กองทัพอสูรวิญญาณและยังแสดงความสามารถในการขโมยวิญญาณอมตะระดับแปดจากชิงโจว นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจเกินไป

ดังนั้นตระกูลฟางจึงไม่ต้องการยั่วยุซวนปู้จินโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับอันตราย พวกเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับฟางหยวนแต่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา

ฟางหยวนเข้าใจความตั้งใจของตระกูลฟางอย่างชัดเจน

‘อันดับแรกตระกูลถังและตอนนี้ตระกูลฟางก็กลายเป็นตัวหมากที่ดีในการต่อต้านวังสวรรค์’ ฟางหยวนต้องมองไปถึงอนาคต

‘ทะเลทรายตะวันตกจะต้องเกิดความโกลาหลขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือพลังการต่อสู้ของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะปลดปล่อยมันออกมาได้มากน้อยเพียงใด?’

หากตระกูลฟางสามารถอดทนต่อแรงกดดันทั้งหมด ฟางหยวนจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาเอาไว้ หากตระกูลฟางไม่สามารถปกป้องตนเอง ฟางหยวนก็จะไม่ช่วยพวกเขา ในความเป็นจริงเขากระทั่งจะวางแผนฉกชิงวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของตนเองอีกด้วย

หลังเหตุการณ์ครั้งนี้เขาได้รับผลประโยชน์มากมาย ประการแรก เขาได้รับวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ระดับเจ็ดและสามารถใช้งานผนึกภูตผี มันเป็นความก้าวหน้าเชิงคุณภาพ ประการที่สอง เขาได้รับวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปด ประการที่สาม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลฟางดีขึ้นอย่างมาก พวกเขายังมีหนี้ที่ต้องชำระอีกมากมาย

กล่าวไปแล้วหากฟางหยวนได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เขาต้องลงทุนซ่อมแซมมันและยังต้องแบกรับภาระเรื่องอาหารของวิญญาณ

ผลลัพธ์นี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฟางหยวน

‘แต่ตอนนี้มีผู้อมตะจำนวนมากอยู่ในทะเลทรายผีเขียว ข้าไม่สามารถเริ่มแผนการของข้าได้’

เดิมทีฟางหยวนต้องการให้อิงอู๋เซี่ยอยู่ที่นี่เพื่อสะสมแก่นแท้อสูรวิญญาณ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้

ตอนนี้มีผู้คนอยู่มากเกินไปและเขาไม่สามารถทำสิ่งใด

นอกจากนั้นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือชิงโจวที่หลบหนีไป

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดในตำนานตัวนี้มีพลังการต่อสู้ระดับแปด แม้ฟางหยวนจะไม่ได้ต่อสู้กับมันด้วยตนเองแต่เขายังตระหนักถึงความแข็งแกร่งของมัน แม้จะมีเกราะหวนคืน แต่เขาก็ต่อสู้ได้อย่างเท่าเทียมเท่านั้น

ตอนนี้ชิงโจวหายตัวไป มันอาจซ่อนตัวอยู่ในทะเลทรายผีเขียว ด้วยวิธีนี้ไม่ว่าฟางหยวนจะส่งอิงอู๋เซี่ยออกไปล่าแก่นแท้อสูรวิญญาณหรืออยู่ที่นี่ด้วยตนเอง มันก็ยังอันตราย หากพวกเขาต้องต่อสู้กัน เพียงแค่ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย มันก็สามารถทำลายแผนการมากมายของเขาแล้ว

‘ข้าควรจากไป’ ฟางหยวนตัดสินใจอย่างชาญฉลาด เขาต้องออกจากทะเลทรายผีเขียวหรือกระทั่งออกจากทะเลทรายตะวันตก

“สหาย?” ผู้อมตะหญิงเหอกู่เห็นฟางหยวนเงียบ ดังนั้นนางจึงถามเขาอีกครั้ง

ฟางหยวนหัวเราะ หญิงผู้นี้ค่อนข้างฉลาด นางสามารถอนุมานหลายสิ่งจากการเคลื่อนไหวของเขา

ฟางหยวนกล่าว “ข้ามีข้อมูลล้ำค่าบางอย่าง หากเจ้าต้องการซื้อ เจ้าต้องสามารถจ่าย”

เหอกู่ยิ้ม “อย่ากังวล แม้ข้าจะเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่ข้าก็มีทรัพย์สินอยู่บ้าง ตราบเท่าที่ข้อมูลของเจ้าถูกต้อง ข้ายินดีจ่ายตามความเหมาะสม”

ฟางหยวนสร้างข้อตกลงง่ายๆกับเหอกู่ก่อนจะเล่าบางเรื่องเกี่ยวกับชิงโจวให้นางรับรู้ แน่นอนว่าพวกมันล้วนเป็นเรื่องจริง

ดวงตาของเหอกู่ส่องประกายขึ้น “โอ้ อสูรวิญญาณแรกกำเนิดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชิง? มรดกของตระกูลชิงดูเหมือนจะอยู่กับมันงั้นหรือ?”

“ข้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง” ฟางหยวนส่ายศีรษะและไม่กล่าวต่อ

เหอกู่พอใจกับข้อมูลดังกล่าว นางตอบแทนด้วยทรัพยากรอมตะของทะเลทรายตะวันตก

ฟางหยวนค่อนข้างประหลาดใจ หนึ่งทรัพยากรอมตะเหล่านั้นคือไม้ศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับหกแต่มันหายากกระทั่งในสวรรค์สีเหลือง มันถูกขายในราคาเทียบเท่ากับทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด

นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจเล็กน้อย ฟางหยวนได้รับกำไรบางส่วนจากการเปิดเผยข้อมูลของชิงโจว

ด้านหนึ่งเขากำลังช่วยตระกูลฟางเบี่ยงเบนความสนใจของผู้อมตะทะเลทรายตะวันตกไปยังชิงโจว อีกด้านหนึ่งตราบเท่าที่ชิงโจวยังมีชีวิตและซ่อนตัวอยู่ แผนการของฟางหยวนในทะเลทรายผีเขียวก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เขาต้องการใช้ประโยชน์จากผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกเพื่อค้นหาที่อยู่ของชิงโจว หากพวกเขาพบอสูรวิญญาณแรกกำเนิดในตำนานตัวนี้จริง ฟางหยวนก็ขออวยพรให้พวกเขาโชคดี

‘ข้อมูลของข้าเป็นเรื่องจริง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามารถอนุมานเพื่อพิสูจน์ความน่าเชื่อถือ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับมรดกของตระกูลชิง กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็อาจถูกล่อลวง เรื่องนี้จะสร้างปัญหาให้กับชิงโจว’

ในฐานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา ฟางหยวนใช้โอกาสนี้วางแผนต่อต้านชิงโจว

แต่เหอกู่ยังไม่พอใจ นางจึงขอไปสำรวจทะเลทรายผีเขียวพร้อมกับฟางหยวน

ผู้บ่มเพาะสันโดษมักทำงานร่วมกัน นี่เป็นเรื่องปกติ

แน่นอนว่าฟางหยวนปฏิเสธนาง

ฟางหยวนกล่าวลาเหอกู่และจากไป

เหอกู่ต้องการติดตามเขาแต่ฟางหยวนกลับใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยปลอมตัวเป็นคนอื่นเพื่อสลัดหญิงผู้นี้ทิ้งไป

ฟางหยวนไม่ได้เข้าไปในทะเลทรายผีเขียว ตรงข้าม เขาออกจากที่นั่น

เขาบินไปเป็นเวลาหลายวันก่อนจะถึงกำแพงภูมิภาคและข้ามไปยังภาคใต้

ทะเลทรายตะวันตกแห้งแล้งแต่ภาคใต้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ภูเขาและพืชพรรณสร้างเป็นฉากที่อุดมสมบูรณ์

‘ภาคใต้…’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายสดใส ท่ามกลางภูมิภาคทั้งห้า เขามีความประทับใจต่อภาคใต้มากที่สุด

ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชค!

เขาใช้ท่าไม้ตายสายตรวจสอบทันที

ก่อนหน้านี้เขาเชื่อมโยงโชคกับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดไว้แล้ว ตอนนี้เขาสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคเพื่อค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของมัน

เป้าหมายหลักในการเดินทางมายังภาคใต้ของฟางหยวนในครั้งนี้ก็คือการนำอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลับคืน

สัตว์อสูรแรกกำเนิดตัวนี้มีประโยชน์มากสำหรับเขา ด้วยสิ่งนี้ฟางหยวนจะสามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในเมืองจิ๋วทั้งหมด รากฐานของเขาจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วรวมถึงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

‘ทิศตะวันออกเฉียงใต้…’ ฟางหยวนหยุดใช้ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคและบินไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็ว

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท