เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1549 ระเบิดวิญญาณ

บทที่ 1549 ระเบิดวิญญาณ

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1549 ระเบิดวิญญาณ

แปลโดย iPAT

ภาคกลาง วังสวรรค์

บนท้องฟ้าสีเงิน ท่ามกลางวิหารจำนวนนับไม่ถ้วน

แสงสีเขียวหยกส่องประกายขณะที่ฟงจิวเก้อปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย

“คาวระท่านหญิงจื่อเว่ย” ฟงจิวเก้อรีบป้องหมัดขึ้น

เทพธิดาจื่อเว่ยนั่งอยู่บนเก้าอี้เมฆาขณะที่นางค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมองฟงจิวเก้อ

ทันใดนั้นแสงดาวก็พุ่งออกจากดวงตาของนางและทำให้ห้องโถงส่องประกายระยิบระยับ

ฟงจิวเก้อไม่ได้กล่าวสิ่งใดแต่ส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ออกไปเพื่อให้เทพธิดาจื่อเว่ยทำความเข้าใจสถานการณ์

“ฟงจิวเก้อ เจ้าเป็นผู้พิทักษ์เต๋าที่ยิ่งใหญ่ เจ้าทำได้ดีจริงๆ” เทพธิดาจื่อเว่ยยกย่อง

ฟงจิวเก้อยิ้ม “นี่คือฟางเจิ้ง”

หลังกล่าวจบคำเขาก็นำเชลยออกมา

ฟางเจิ้งอยู่ในสภาพหลับลึก สำหรับเจตจำนงของฟางหยวนที่อยู่ในตัวเขา มันถูกฟงจิวเก้อกำจัดออกไปแล้ว

ฟงจิวเก้อวางฟางเจิ้งลงบนพื้นและถอนหายใจ “ข้าค้นวิญญาณฟางเจิ้งแล้ว ฟางหยวนเป็นปีศาจที่แท้จริง เขาไร้หัวใจและโหดร้ายมาก เขาต้องการปรับแต่งน้องชายของเขาให้เป็นเทพโลหิต แต่ข้าไม่เข้าใจ เขาเป็นเพียงมนุษย์ แม้เขาจะมีสายสัมพันธ์กับฟางหยวน แต่เหตุใดท่านถึงให้ความสำคัญกับฟางเจิ้งมากนัก?”

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างช้าๆ “วิถีแห่งสวรรค์จะสร้างสมดุลเสมอ หยินและหยางหมุนวนรอบกัน ฟางเจิ้งเกิดมาพร้อมกับฟางหยวน เขาเป็นอุปสรรคที่สวรรค์กำหนดไว้สำหรับฟางหยวน หากเขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เขาจะมีประโยชน์ในการจัดการกับฟางหยวนในอนาคต”

“เข้าใจแล้ว” ฟงจิวเก้อพยักหน้า

“น่าเสียดาย” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวหลังจากค้นวิญญาณฟางเจิ้ง “ฟางหยวนไม่ได้ปรับแต่งเทพโลหิตและบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดของเขาต่อไป มิฉะนั้นข้าจะสามารถใช้หอพิพากษาปีศาจเพื่อค้นหาตำแหน่งของเขา ในความคิดเห็นของข้า ฟางหยวนไม่สังเกตเห็นว่าการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดในชีวิตก่อนหน้าของเขาเป็นกับดักของเจตจำนงสวรรค์ ตอนนี้เขาไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดอีกต่อไป นี่อาจเป็นเพราะโชคของเขา”

“วิญญาณชะตากรรมยังไม่ได้รับการซ่อมแซม โชคมีอิทธิพลมาก เรื่องนี้เห็นได้ชัดเจน เจ้าประสบความสำเร็จและสามารถกลับมาในครั้งนี้เพราะสถานะผู้พิทักษ์เต๋าทำให้เจ้ามีโชคที่แข็งแกร่งและไม่ถูกสะกดข่มโดยฟางหยวน”

ฟงจิวเก้อพยักหน้า “เราจะจัดการภูเขาตงฮันอย่างไร? แล้ววิญญาณสติปัญญาที่อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา?”

“นำมันมา” เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม

ฟงจิวเก้อมึนงงก่อนที่เขาจะนำภูเขาตงฮันออกมาจากมิติช่องว่างของเขา

ภูเขาคริสตัลสีชมพูมีขนาดใหญ่โตมากแต่หลังจากมันเข้ามาในวังของเทพธิดาจื่อเว่ย มันก็ถูกบีบอัดจนมีขนาดเท่าฝ่ามือมนุษย์

วังสวรรค์เป็นผู้นำของฝ่ายธรรมะ พวกเขามีรากฐานที่ลึกล้ำ แม้ยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณจะจบลงแล้ว แต่เส้นทางแห่งจิตวิญญาณยังไม่สูญสิ้น ในความเป็นจริงวังสวรรค์ยังมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณอยู่มากมาย

ภูเขาตงฮันเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เมื่อเทพธิดาจื่อเว่ยสามารถมอบวิธีฉกชิงภูเขาตงฮันให้ฟงจิวเก้อ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะมีวิธีการย่อส่วนมัน

เทพธิดาจื่อเว่ยยื่นแขนออกไปขณะที่ภูเขาตงฮันลอยเข้ามาอยู่บนฝ่ามือของนางอย่างแผ่วเบา

“อัศจรรย์นัก” เทพธิดาจื่อเว่ยมองมันด้วยความประหลาดใจ นางพยักหน้าอย่างมีความสุข “ด้วยภูเขาลูกนี้ เราจะมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฮวงเอ๋อจะได้รับประโยชน์จากมัน การสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของนางจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น”

ฟงจิวเก้อยิ้ม เขามีความสุขที่เขาสามารถช่วยบุตรสาวของเขา

“สำหรับวิญญาณสติปัญญา…” เทพธิดาจื่อเว่ยคิดเกี่ยวกับมันก่อนกล่าว “ข้าต้องได้รับวิญญาณดวงนี้ ฟงจิวเก้อ เจ้าไปพักผ่อนได้”

ในการโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาครั้งต่อไป อีกฝ่ายต้องระวังตัวมากขึ้น พวกเขาจะเตรียมพร้อมรับมือ ฟางหยวนอาจกลับมาแล้ว ดังนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยจึงต้องวางแผนอย่างรอบคอบ

“ทราบแล้ว” ฟงจิวเก้อกล่าวลาและกลับไปยังนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

เทพธิดาจื่อเว่ยออกจากวังจื่อเว่ย นางนำภูเขาตงฮันไปยังวิหารสีดำ

วิหารปราบวิญญาณ!

มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่กักขังเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้

เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้มและนำภูเขาตงฮันเดินเข้าไปหาเทพปีศาจจิตวิญญาณ

“โอ้ เทพปีศาจจิตวิญญาณ ดูว่านี่คือสิ่งใด?” เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มบาง

เทพปีศาจจิตวิญญาณเงียบ

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า “ช่างดื้อรั้นนัก! อย่างไรก็ตาม…ข้าไม่ได้นำภูเขาลูกนี้มาที่นี่เพื่อปลุกเร้าความมุ่งมั่นของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าเคยใช้ภูเขาลูกนี้มาก่อน ข้ามีวิธีควบคุมความคิดของเจ้า ตราบเท่าที่ข้ามีบางสิ่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้า ข้าจะสามารถดึงความทรงจำทั้งหมดของเจ้าออกมา”

เทพปีศาจจิตวิญญาณยังเงียบ

รอยยิ้มของเทพธิดาจื่อเว่ยจางหายไปขณะที่ดวงตาของนางกลายเป็นคมกริบ

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานางมีปัญหากับความดื้อรั้นของเทพปีศาจจิตวิญญาณมาตลอด นางต้องการขุดค้นความทรงจำอันล้ำค่าของเขาออกมา แต่นางกลับมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย

ตอนนี้ภูเขาตงฮันอยู่ในมือของนาง นางพบโอกาสที่ดี นางต้องการใช้มันกับเทพปีศาจจิตวิญญาณทันที

วินาทีถัดมาท่าไม้ตายอมตะก็ถูกกระตุ้นใช้งาน วิหารปราบวิญญาณส่งเสียงและปลดปล่อยแสงสว่างออกมา

แสงสะท้อนภูเขาตงฮันและพุ่งไปยังเทพปีศาจจิตวิญญาณ

เทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามต่อต้านแต่ท่าไม้ตายนี้ทรงพลังมาก ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับภูเขาตงฮันค่อยๆถูกดึงออกมาแสดงต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย

เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณในวัยเยาว์พบภูเขาตงฮันโดยบังเอิญ เขาตกใจและมีความสุขมาก…

หลังจากผ่านอุปสรรคมากมาย ในที่สุดเขาก็ได้รับภูเขาตงฮัน เขาเริ่มใช้งานมันอย่างลับๆ…

เทพปีศาจจิตวิญญาณคิดอย่างหนักและพบวิธีเคลื่อนย้ายภูเขาตงฮันในที่สุด…

เทพปีศาจจิตวิญญาณสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและค่อยๆพบว่าภูเขาตงฮันมีประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ได้ใช้สร้างวิญญาณความเด็ดเดี่ยวเพียงอย่างเดียว แต่เขายังสามารถใช้ภูเขาตงฮันสนับสนุนค่ายกลวิญญาณอมตะอีกมากมาย

‘โอ้ มีค่ายกลวิญญาณตงฮันอยู่ด้วยงั้นหรือ? เหตุใดฟางหยวนไม่สร้างมันขึ้นมา? เขาคิดว่ามันจะปลอดภัยภายในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหรือค่ายกลนี้มีความต้องการสูงเกินไป?’ เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกสงสัย

แต่ในไม่ช้าความสงสัยของนางก็ได้รับคำตอบ ปรากฏว่าหลังจากใช้ภูเขาตงฮันเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลวิญญาณ มันจะไม่สามารถสร้างวิญญาณความเด็ดเดี่ยว

เทพธิดาจื่อเว่ยยังดูต่อไป

มีฉากเกี่ยวกับภูเขาตงฮันปรากฏขึ้นเรื่อยๆ แม้ส่วนใหญ่จะไร้ประโยชน์ แต่บางส่วนยังมีข้อมูลการบ่มเพาะที่สำคัญ กระทั่งวังสวรรค์ยังได้รับประโยชน์บางอย่าง

ในยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาวางภูเขาตงฮันไว้ในเมืองจิ๋วและใช้ท่าไม้ตายอมตะเพื่อปรับเปลี่ยนมัน

ความทรงจำนี้ทำให้หัวใจของเทพธิดาจื่อเว่ยสั่นไหว

“ท่าไม้ตายนี้ช่างน่าทึ่งมาก! เมืองจิ๋วเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพบนเส้นทางแห่งกฎ แต่ด้วยการใช้ท่าไม้ตายนี้ เขาสามารถขจัดความขัดแย้งระหว่างพลังงานแห่งเต๋า นี่อาจจะเป็นต้นกำเนิดของวิญญาณทารกอมตะ”

เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถอนุมานบางสิ่งเกี่ยวกับวิญญาณทารกอมตะเนื่องจากวังสวรรค์ได้ต่อสู้กับฟางหยวนมาหลายครั้งและได้รับเบาะแสที่ล้ำค่าบางอย่าง

นางคิดไม่ผิด!

เหตุผลที่ร่างทารกอมตะไม่มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งของพลังงานแห่งเต๋ามีต้นกำเนิดมาจากเมืองจิ๋วและท่าไม้ตายของเทพปีศาจจิตวิญญาณในเวลานั้น

เทพปีศาจจิตวิญญาณจ่ายราคามหาศาลเพื่อดัดแปลงภูเขาตงฮันแต่มันก็คุ้มค่า หลังจากนั้นเขาจึงสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อฟื้นฟูภูเขาตงฮันได้อย่างง่ายดาย

‘วิธีการเหล่านี้ช่างน่าทึ่งนัก ตัวตนที่กลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าล้วนมีพรสวรรค์ที่สามารถสั่นคลอนสวรรค์พิภพได้อย่างแท้จริง!’ ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายด้วยความยกย่อง

ท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้เป็นข้อมูลการบ่มเพาะที่ล้ำค่าสำหรับวังสวรรค์

โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามีภูเขาตงฮัน ท่าไม้ตายเหล่านี้จะสามารถใช้งานได้ทั้งหมด

ท่ามกลางพวกมัน มีท่าไม้ตายหนึ่งที่เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกสนใจมาก

“ท่าไม้ตายนี้สามารถจุดระเบิดภูเขาตงฮัน มันเรียกว่าระเบิดวิญญาณ การระเบิดตัวเองของอสูรวิญญาณมีพลังที่น่าเหลือเชื่อ แต่การระเบิดภูเขาตงฮันกระทั่งยอดเยี่ยมกว่า ใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของภูเขาลูกนี้เพื่อจุดระเบิด นี่เป็นความคิดที่ชาญฉลาดนัก หือ เดี๋ยว…”

รูม่านตาของเทพธิดาจื่อเว่ยหดเล็กลงเมื่อนางสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ!

“บึม!!”

ในเวลาต่อมา การระเบิดที่น่าตกใจก็ปะทุขึ้น ภูเขาตงฮันถูกทำลายและกลายเป็นฝุ่นผง

ไม่ว่าจะเป็นเทพธิดาจื่อเว่ยหรือเทพปีศาจจิตวิญญาณ ทั้งคู่ต่างติดอยู่ในรัศมีของการระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวนี้!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท