เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1555

ตอนที่ 1555

‘ความสามารถในการทําลายอาภรณ์ภูตผีของข้าหลังจากที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกบุกโจมตี นี่ต้องเป็นการเคลื่อนไหวของวังสวรรค์อย่างแน่นอน!’

ความคิดนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านจิตใจของฟางหยวน

‘ฟางเจิ้งถูกจับ เขามีสายเลือดที่ใกล้ชิดกับร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของข้า แต่ร่างแยกของข้าอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ พวกเขาไม่น่าจะสามารถใช้เบาะแสนี้’

‘วิญญาณอมตะขีดจํากัดความมืดของข้าอยู่ในมือของวังสวรรค์ นี่เป็นเบาะแสสําคัญ แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะทําลายอาภรณ์ภูตผีของข้า!’

‘แล้ววังสวรรค์ใช้วิธีใด? พวกเขามีเบาะแสใดเกี่ยวกับข้า?’

ฟางหยวนคิดขณะบินไปอย่างรวดเร็ว

ตําแหน่งของเขาถูกเปิดเผย การอยู่ที่เดิมไม่ใช่เรื่องฉลาด สิ่งสําคัญในเวลานี้คือต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องซ่อมแซมอาภรณ์วิญญาณและคิดหาวิธีแก้ปัญหา

“เปรี้ยง!”

หลังจากบินมาหลายชั่วโมง เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นจากท้องฟ้าที่แจ่มใส

สายฟ้าพุ่งเข้ามาหาฟางหยวนโดยตรง

ฟางหยวนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เขาหลบออกไปอย่างรวดเร็ว

สายฟ้าฟาดลงบนพื้นก่อนจะเผยให้เห็นร่างมนุษย์

มันคือจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า เด็กหญิงในชุดเกราะสีดําทมิฬ

ประกายสายฟ้าแลบลั่นอยู่บนชุดเกราะของนาง

การปะทะของนางทิ้งหลุมลึกเอาไว้บนพื้นและมีกลุ่มควันสีขาวลอยขึ้นสู่อากาศ

จิ้งหลานปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา ชัดเจนว่ามันเป็นกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปด!

นางค่อยๆเงยหน้ามองฟางหยวนและกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าคือฟางหยวนงั้นหรือ? เจ้าคิดจะวิ่งไปที่ใด?”

‘ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลาง นอกจากนี้นางน่าจะ

มาจากวังสวรรค์!?’ รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงขณะที่เขาระวังตัวอย่างเต็มที่

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตน!

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นขณะที่เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะกับศัตรูที่ไม่รู้จักทันที

ท้องฟ้าที่แจ่มใสถูกเติมเต็มด้วยภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวน

กองทัพภูตมนุษย์พุ่งเข้าหาจิ้งหลานราวกับคลื่นยักษ์

จิ้งหลานปิดเปลือกตาก่อนจะเปิดขึ้นอีกครั้ง รูม่านตาสีดําของนางเปลี่ยนเป็นสีฟ้าและมีประกายสายฟ้าแลบลั่นอยู่ภายในตลอดเวลา

นางมองไปรอบๆแต่ยังไม่พบร่างจริงของฟางหยวน

“ใบหน้าที่คุ้นเคยยืม!” จิ้งหลานเย้ยหยัน

“อ๊าก…” ทันใดนั้นนางก็กรีดร้องออกมาอย่างกะทันหัน

คลื่นเสียงระเบิดออกไปทุกทิศทาง ไม่ว่ามันจะเคลื่อนที่ไปที่ใด ภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวนก็จะถูกทําลายภายในเวลาไม่นาน

ท้องฟ้ากลับมาแจ่มใสอีกครั้ง ภูตมนุษย์ของฟางหยวนถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์และเหลือเพียงร่างจริงของเขาเท่านั้น

คลื่นเสียงสายฟ้าระดับแปด! เหตุใดข้าจึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณจากนาง?” ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขาไม่ได้ตกใจกับการทําลายกองทัพภูตมนุษย์ ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนเป็นเพียงการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปด ไม่ว่าจะมีภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งมากมายเพียงใด พวกมันก็ยังไร้ประโยชน์

ท่าไม้ตายอมตะความคิดอุกกาบาตเพลิง!

ท่าไม้ตายอมตะความคิดดาราสีม่วง

ฟางหยวนผลักฝ่ามือซ้ายออกไปและส่งอุกกาบาตเพลิงจํานวนมากพุ่งเข้าโจมตีจิ้งหลาน

หลังจากนั้นเขาก็สะบัดมือขวาส่งละอองดาวสีม่วงจํานวนนับไม่ถ้วนออกมา

ดวงตาของจิ้งหลานแสดงให้เห็นถึงความรังเกียจเมื่อเห็นอุกาบาตเพลิง แต่เมื่อนางเห็นละอองดาวสีม่วง รูม่านตาของนางกลับหดลงน้อยเล็กน้อย

“นี่เป็นท่าไม้ตายที่ไม่ธรรมดา ข้าต้องหลบมัน” จิ้งหลานกลายเป็นสายฟ้าและพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน

เร็วมาก!

นางรวดเร็วกระทั่งฟางหยวนยังประหลาดใจ

ยิ่งไปกว่านั้นนางยังสามารถควบคุมสายฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม มันไม่อาละวาดไปรอบๆ นางพุ่งผ่านอุกกาบาตเพลิงและหลบละอองดาวสีม่วงไปได้อย่างง่ายดาย

ฟางหยวนโจมตีอย่างต่อเนื่องแต่จิ้งหลานยังสามารถหลบหลีก หลังจากเปลี่ยนทิศทางหลายครั้ง นางก็บรรลุถึงตําแหน่งของฟางหยวน

“เข้ามา!” ฟางหยวนกัดฟันกล่าวและเปลี่ยนร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาล

เผชิญหน้ากับมังกรดาบบรรพกาล จิ้งหลานดูราวกับมดตัวน้อย

แต่นางดุร้ายมาก นางไม่หลบและใช้เขาบนหมวกเหล็กพุ่งเข้าปะทะกรงเล็บมังกรโดยตรง

“ปัง!”

การปะทะทําให้ทั้งสองถอยหลังกลับไป

กรงเล็บของฟางหยวนกลายเป็นด้านชา

สําหรับจิ้งหลาน เขาบนหมวกเหล็กของนางเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวขณะที่นางรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย

“นี่คือเกราะหวนคืนงั้นหรือ?” จิ้งหลานทราบเรื่องนี้แล้ว ก่อนออกมานางได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับฟางหยวนจากเทพธิดาจื่อเว่ย

ดังนั้นนางจึงไม่แปลกใจกับฉากนี้ ทุกอย่างอยู่ในการคาดเดาของนาง

นางหัวเราะขณะพุ่งออกไปข้างหน้าอีกครั้ง

ฟางหยวนต่อสู้กับนางอย่างไม่เกรงกลัว

ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างต่อเนื่อง

ฟางหยวนอาศัยเกราะหวนคืนเพื่อต่อต้านจิ้งหลานแต่เขายังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

‘คนผู้นี้รู้จักเกราะหวนคืนเป็นอย่างดี นางใช้กําลังเพียงพอที่จะบังคับให้ข้าใช้เกราะหวนคืน แม้มันจะไม่ทรงพลังมากนักแต่นี่คือสิ่งที่ทําให้นางอันตราย!’

ฟางหยวนรู้สึกสังหรณ์ร้าย

แม้จิ้งหลานจะไม่สามารถจัดการฟางหยวนแต่นี่เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น

นางมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังซึ่งเฝ้ามองการต่อสู้อยู่อย่างใกล้ชิดและวิเคราะห์เกราะหวนคืนของฟางหยวนตลอดเวลา

เมื่อเกราะหวนคืนถูกอนุมานอย่างต่อเนื่อง พวกเขาจะสามารถหาวิธีต่อต้านมันได้ในที่สุด

หากมีท่าไม้ตายที่สามารถจัดการเกราะหวนคืน มันจะเป็นจุดจบของฟางหยวน

‘นางเปลี่ยนวิธีการโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบเกราะหวนคืนของข้า ความตั้งใจของนางชัดเจนมาก!’

‘นางบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งสายฟ้าและจิตวิญญาณ การโจมตีด้วยสายฟ้าของนางรวดเร็วและทรงพลังขณะที่วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณถูกหลอมรวมเข้ากับชุดเกราะบนร่างของนางและทําให้การป้องกันรวมถึงการฟื้นตัวของนางรวดเร็วยิ่งขึ้น’

‘ถอย!’

ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรและซ่อนตัวอยู่ในนั้นด้วยท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

มังกรดาบบรรพกาลจํานวนมากไม่ได้โจมตีจิ้งหลานแต่กระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง

“เจ้าจะวิ่งไปที่ใด?” จิ้งหลานตะโกนและส่งสายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วนออกไปทําลายมังกรดาบบรรพกาล

พลังอํานาจของมังกรดาบบรรพกาลสูงกว่าภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับท่าไม้ตายอมตะระดับแปด

ร่างจริงของฟางหยวนถูกค้นพบอีกครั้ง

จิ้งหลานไล่ล่า

ฟางหยวนวิ่งหนีและไม่พยายามโจมตี

“เจ้าทําได้เพียงหดหัวอยู่ในกระดองงั้นหรือ!?” จิ้งหลานเย้ยหยันด้วยความขุ่นเคือง ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ด้วยเกราะหวนคืน มันเหมือนกับเขาหลบอยู่ในเปลือกหนามที่สะท้อนการโจมตีทั้งหมดกลับไป

“ยังไม่เสร็จอีกงั้นหรือ?” จิ้งหลานส่งเสียงกลับไปยังเทพธิดาจื่อเว่ย

เทพธิดาจื่อเว่ยอยู่ที่วังสวรรค์แต่นางเฝ้ามองการต่อสู้อย่างใกล้ชิดและพยายามใช้ทักษะของนางถอดรหัสเกราะหวนคืน

สําหรับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว มันได้รับความเสียหายครั้งใหญ่และไม่มีประโยชน์มากนัก

“มีผลอยู่บ้าง ผู้อาวุโสโปรดฟัง” เทพธิดาจื่อเว่ยสอนท่าไม้ตายให้กับจิ้งหลาน

จิ้งหลานพยายามกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายดังกล่าว หลังจากล้มเหลวหลายครั้ง ในที่สุดนางก็สามารถกระตุ้นใช้งานมัน

แสงสีเทาพุ่งเข้าปะทะเกราะหวนคืนและทําให้เกิดระลอกคลื่นขึ้นบนพื้นผิวของมัน

‘พวกเขาอนุมานวิธีรับมือเกราะหวนคืนได้แล้วหรือ?’ หัวใจของฟางหยวนกลายเป็นตึงเครียดแต่โชคดีที่ท่าไม้ตายนี้เป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับหกและไม่สามารถทําลายเกราะหวนคืน

ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายสว่างไสว นางจดจําผลกระทบนี้เอาไว้ นี่เป็นความสําเร็จเล็กๆในการตรวจสอบเกราะหวนคืน

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฟางหยวน เกราะหวนคืนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่น่าเสียดายที่เจ้าจะตายในวันนี้!” จิ้งหลานหัวเราะเสียงดัง

ความเร็วของนางน่ากลัวมาก นางเร็วกว่าฟางหยวน หากสถานการณ์นี้ยังดําเนินต่อไป เกราะหวนคืนจะถูกโต้ตอบได้ในไม่ช้า

“ไม่ใช่ว่าเจ้ามีค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศงั้นหรือ? เหตุใดไม่ใช้มัน?” จิ้งหลานหัวเราะเย้ยหยัน

ด้วยเสียงที่ดังสนั่น นางส่งสายฟ้าพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้ง

ฟางหยวนไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขาจดจ่ออยู่กับการหลบหนีอย่างเต็มที่เท่านั้น

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท