เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1577 ฟางหยวนเผชิญหน้ากับฟงจิวเก้ออีกครั้ง

บทที่ 1577 ฟางหยวนเผชิญหน้ากับฟงจิวเก้ออีกครั้ง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1577 ฟางหยวนเผชิญหน้ากับฟงจิวเก้ออีกครั้ง

“เปรี้ยง!”

ค่ายกลวิญญาณอมตะส่งสายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าโจมตีเทพธิดาอเว่ยและเฉินอี้

ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น ค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ถูกปราบปรามโดยฟงจิวเก้อและเทพธิดาจื่อเว่ยมาตลอด ตอนนี้ฟงจิวเก้อถูกแยกออกไป มันจึงสามารถแสดงพลังอํานาจที่แท้จริงออกมาได้ในที่สุด

เฉินอี้รีบปกป้องตนเองอย่างยากลําบาก

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นโอกาส เขารีบบังคับยักษ์สวรรค์โจมตีมนุษย์พฤกษาและปลดปล่อยตนเองออกจากเรือนจําต้นไม้บรรพกาลทันที

เทพธิดาอเว่ยวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็วและเลือกที่จะโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะ ขณะเดียวกันนางก็อนุมานเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตไปด้วยโดยไม่สนใจสถานการณ์ของเฉินอี้

เทพธิดาจื่อเว่ยเลือกวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

แม้สนามรบราชันภูตจะถูกแยกออกจากโลกภายนอก ฟงจิวเก้อกําลังเผชิญหน้ากับฟางหยวน แต่เทพธิดาจื่อเว่ยจะไม่ช่วยฟงจิวเก้อในเวลานี้ นางจะรอกระทั่งเขาตกอยู่ในสถานการณ์คับขันจริงๆ นางจึงจะเคลื่อนไหว

ฟงจิวเก้อมีความสําคัญสําหรับวังสวรรค์มากกว่าเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเพราะเขาเป็นผู้พิทักษ์เต่าของเทพอมตะแห่งความฝันฟงจินฮวง!

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ต้องการให้มีเหตุร้ายใดๆเกิดขึ้นกับเขา

อย่างไรก็ตามฟางหยวนต้องการสังหารฟงจิวเก้อทันที

ท่าไม้ตายอมตะราชันภูต!

ท่าไม้ตายอมตะบุตรแห่งภูต!

ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!

ฟางหยวนในร่างราชันภูตโจมตีอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับกองทัพบุตรแห่งภูตและระเบิด วิญญาณ สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับฟงจิวเก้อ ในช่วงเวลาสั้นๆ เลือดก็ไหลออกมาจากปากของเขาแล้ว

“ยอดเยี่ยม!” ฟงจิวเก้อรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ท่าไม้ตายเฉพาะตัวที่มีประสิทธิภาพ

ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสง!

ในสถานการณ์คับขันเขาถูกบังคับให้ใช้ท่าไม้ตายทางผ่านแสงเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม แต่ในสนามรบราชันภูต วิธีการของเขาถูกจํากัดมามันแทบไม่มีประโยชน์

ในทางตรงข้าม พลังและความเร็วของบุตรแห่งภูตเพิ่มสูงขึ้นในสนามรบราชันภูตขณะที่พวกมันต่อสู้โดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย

ฟงจิวเก้อพยายามหลบอย่างเต็มที่แต่เขาไม่สามารถหลบหนีจากกองทัพบุตรแห่งภูต

ท่าไม้ตายอมตะนักรบเพลง!

ท่าไม้ตายอมตะเพลงหยกเขียว!

ท่าไม้ตายอมตะเพลงสวรรค์พิภพ!

ท่าไม้ตายอมตะเพลงยอมจํานน!

ท่าไม้ตายอมตะเพลงแยก!

นักรบเพลงสี่ตนปกป้องฟงจิวเก้อขณะที่เขาเคลื่อนที่ไปรอบๆและพยายามโจมตีฟางหยวน

การจับตัวกษัตริย์เป็นสิ่งสําคัญ นี่เป็นกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมาและฉลาดที่สุด

ฟางหยวนในร่างราชันภูตบินไปรอบๆสนามรบราชันภูตอย่างคล่องแคล่วและว่องไว แม้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งทาสของเขาจะไม่สูงมากนัก แต่เขายังสามารถสั่งกองทัพบุตรแห่งภูตโจมตีฟงจิวเก้อได้อย่างเหมาะสม

หลังจากไม่นานการแสดงออกของฟงจิวเก้อก็กลายเป็นมืดครึ้ม

นักรบเพลงหยกเขียวทําให้บุตรแห่งภูตกลายเป็นรูปปั้นหยกเขียวแต่พวกมันไม่เกรงกลัวต่อความตาย นี่ทําให้พวกมันรับมือได้ยากกว่าสัตว์อสูรบรรพกาลทั่วไป

เพลงสวรรค์พิภพมีผลต่อสนามรบราชันภูตเพียงเล็กน้อย

เพลงแยกสามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่วิญญาณอมตะที่สนับสนุนเขตแดนอมตะราชันภูตอยู่ในมิติของว่างของฟางหยวนซึ่งแตกต่างจากค่ายกลวิญญาณอมตะหรือคฤหาสน์ วิญญาณอมตะที่วิญญาณอมตะอยู่ภายนอก เนื่องจากมิติช่องว่างของผู้อมตะตัดขาดกับโลกภาย นอกอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเพลงแยกของฟงจิวเก้อจึงไม่ส่งผลกระทบวิญญาณอมตะที่อยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน นั่นทําให้มันกลายเป็นไร้ประโยชน์

เพลงยอมจํานนที่ฟงจิวเก้อคาดหวังมากที่สุดในการต่อสู้กับท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งทาสและเคยต่อต้านฟางหยวนในอดีตกลับน่าผิดหวัง เมื่ออยู่ต่อหน้าบุตรแห่งภูต พวกมันไม่ได้รับผลกระทบจากการกดขี่ของเพลงนี้แม้แต่น้อย

“บุตรแห่งภูตเกิดจากวิธีดัดแปลงอสูรวิญญาณ เรียกอสูรวิญญาณและอื่นๆจากมรดก ที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ นอกจากนั้นมันยังมีท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีเป็นแกนกลาง แล้วเพลงยอมจํานนของเจ้าจะส่งผลกระทบต่อพวกมันได้อย่างไร?” ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ในใจ

ข้าต้องใช้เพลงลมมรณะหรือไม่?” ฟงจิวเก้อกัดฟันแน่น

พลังการต่อสู้ของฟางหยวนในปัจจุบันน่าตกใจมาก

แม้ฟงจิวเก้อจะเตรียมใจมาแล้ว แต่เมื่อเขาถูกกําหราบโดยฟางหยวนจริงๆ เขายังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

นานเท่าใดแล้วตั้งแต่การต่อสู้ครั้งก่อนหน้า?

ไม่นานมานี้ฟงจิวเก้อยังไล่ล่าฟางหยวนจากภาคใต้ไปยังทะเลทรายตะวันตกและทําให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก

“ความเร็วในการเติบโตของฟางหยวนน่ากลัวเกินไป คราวนี้แม้วังสวรรค์จะไม่ได้รับวิญญาณ สติปัญญา แต่พวกเราก็ต้องฆ่าเขา!” ฟงจิวเก้อลอบถอนหายใจก่อนจะปัดเป่าความคิดที่จะใช้เพลงลมมรณะทิ้งไป

หลังจากทั้งหมดเพลงลมมรณะอันตรายเกินไป

หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด คนแรกที่จะตายก็คือฟงจิวเก้อ

เว้นเพียงฟงจิวเก้อจะไม่มีทางเลือก เขาจึงจะใช้เพลงลมมรณะ แต่ในการต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ มันเสี่ยงเกินไปที่จะใช้ท่าไม้ตายดังกล่าว

“นอกจากนั้นเพลงลมมรณะของข้าก็ถูกเปิดเผยไปแล้ว คนเจ้าเล่ห์เช่นฟางหยวนจะไม่เตรียมวิธีรับมือมันได้อย่างไร?

ฟงจิวเก้อค่อนข้างระวังเกี่ยวกับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน

“เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ได้ติดอยู่ในเขตแดนอมตะ เรายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ

ข้าต้องรอให้นางอนุมานและทําลายเขตแดนอมตะนี้จากภายนอก นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุด

หลังจากทั้งหมดเขตแดนอมตะนี้มีกลิ่นอายของเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและเส้นทางแห่งการโจรกรรมแต่ไม่มีกลิ่นอายของเส้นทางแห่งกาลเวลา มันไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความเร็วของเวลา

ฟงจิวเก้อพยายามหลบเลี้ยงขณะต่อสู้ เขาไม่อนุญาตให้บุตรแห่งภูตล้อมกรอบเขาและตัดสินใจรอกําลังเสริมจากเทพธิดาจื่อเว่ย

ฟางหยวนต้องการยุติการต่อสู้อย่างรวดเร็วที่สุด หากฟงจิวเก้อต่อสู้กับเขาโดยตรง เขาจะมีความสุขมาก

แต่ฟงจิวเก้อจะทําเรื่องโง่เขลาเช่นนั้นได้อย่างไร?

เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจนและสามารถเลือกกลยุทธ์ที่ดีที่สุด นั่นทําให้ฟางหยวนต้องถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

“น่าเสียดายแม้ข้าจะมีวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำระดับแปด แต่ข้ายังไม่สามารถผสานมันเข้ากับท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต”

สนามรบราชันภูตไม่ใช่ท่าไม้ตายที่ใช้ออกมาจากร่างทารกอมตะโดยตรง นั่นทําให้มันมีปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างพลังงานแห่งเต๋า

ฟางหยวนต้องควบคุมความสมดุลระหว่างเส้นทางแห่งการโจรกรรมและเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ หากเพิ่มเส้นทางแห่งกาลเวลาเข้าไป มันจะยากเกินไปสําหรับเขาในปัจจุบัน

ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสามารถกําหนดความเร็วของเวลาในเขตแดน อย่างไรก็ตามสนามรบราชันภูตไม่สามารถทําสิ่งนี้

ในความเป็นจริงกระทั่งฟางหยวนจะพยายามใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหรือเส้นทางสายอื่นที่ไม่ใช่เส้นทางแห่งการโจรกรรมและเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ พวกมันก็จะพบปัญหาความขัดแย้งของพลังงานแห่งเต๋าจากการคงอยู่ของเขตแดนอมตะเช่นกัน

ท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่า!

ฟังจิวเก้อมีท่าไม้ตายมากมาย นั่นทําให้บุตรแห่งภูตไม่สามารถเข้าประชิดตัวเขา เมื่อนักรบเพลงถูกทําลาย เขาจะสร้างนักรบเพลงขึ้นใหม่ทันที

แต่สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสําหรับฟางหยวนคือท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงที่ทําให้ฟงจิวเก้อสามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ได้ในพริบตา แม้ท่าไม้ตายนี้จะถูกจํากัดประสิทธิภาพในสนามรบราชันภูต แต่มือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนก็ยังช้าเกินกว่าที่จะโจมตีฟงจิวเก้อ

แม้เพลงทางผ่านแสงจะมีเวลาจํากัด แต่ฟางหยวนก็ไม่สามารถรอคอย เขาจําเป็นต้องจบเรื่องนี้อย่างรวดเร็วที่สุด เขาต้องฆ่าฟงจิวเก้อโดยเร็วที่สุดเพื่อออกไปช่วยการต่อสู้ด้านนอก

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย!

ฟางหยวนเปลี่ยนร่างจากราชันภูตเป็นบุตรแห่งภูตและแฝงตัวเข้าไปในกองทัพ

หัวใจของฟงจิวเก้อเต้นแรง เขาต้องเคลื่อนย้ายสถานที่บ่อยขึ้น

ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ในเงามืดขณะที่ฟงจิวเก้ออยู่ในที่แจ้ง หลังจากไม่นานฟางหยวนก็พบโอกาส

ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!

มือปีศาจปล้นวิญญาณเคลื่อนที่ผ่านนักรบเพลงและพุ่งเข้าไปหาฟงจิวเก้อโดยตรง

ฟงจิวเก้อยังใช้ท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่าโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามือปีศาจปล้นวิญญาณพุ่ง เข้าไปในมิติช่องว่างของเขาและคว้าวิญญาณอมตะของเขาจากไปแล้ว

“โอ้ไม่ วิญญาณท่องแดนอมตะ!” ดวงตาของฟงจิวเก้อเบิกกว้างด้วยความตกใจกับการจู่โจมที่ไม่คาดคิด

เขารีบหันหลังกลับและระเบิดคลื่นเสียงออกไปเพื่อบังคับให้มือปีศาจปล้นวิญญาณเผยตัวออกมา

ฟงจิวเก้อกําลังจะโจมตีมือปีศาจปล้นวิญญาณ แต่ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี บุตรแห่งภูตจํานวนมากเสียสละตนเองเพื่อปกป้องมือปีศาจปล้นวิญญาณและเปิดทางให้มันบินเข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิ

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท