เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1581 ความตายของจักรพรรดินี

บทที่ 1581 ความตายของจักรพรรดินี

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1581 ความตายของจักรพรรดินี

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกปวดใจ

เมื่อเขามองระดับน้ําทะเลที่ลดลง คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นและรู้สึกถึงความสูญเสียครั้งใหญ่

น้ําทะเลอาจดูธรรมดาแต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ บรรพชนผมยาวทุ่มเทความพยายามอย่างมาก เพื่อสร้างมันขึ้นมาในช่วงหลายปีสุดท้ายของชีวิตหากปริมาณน้ําทะเลมีมากพอ เขาจะสามารถใช้วิธีพิเศษเพื่อเปลี่ยนมันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ!

เพื่อเป้าหมายนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจึงถูกวางไว้ที่ทะเลสาบจันทร์เสี้ยวมาอย่างยาวนานโดยพึ่งพาสภาพแวดล้อมและท่าไม้ตายเปลี่ยนภัยพิบัติให้เป็นภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งวารีเพื่อเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีให้กับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

แต่ตอนนี้เพื่อต่อต้านศัตรูที่แข็งแกร่ง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องใช้การสะสมทั้งหมดของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหลังการต่อสู้ครั้งนี้มันจะหมดลงอย่างแน่นอน

“อ๊าก!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคํารามและใช้ยักษ์สวรรค์โจมตีผู้อมตะวังสวรรค์ด้วยท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลัง

การโจมตีครั้งนี้รุนแรงมาก กระทั่งผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ก็ยังไม่สามารถตอบโต้ เกราะของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าถูกทําลายเกือบทั้งหมด ขณะที่เฉินอี้กับเทพธิดาอเว่ยกระอักเลือดคําโตออกมา สําหรับฟงจิวเก้อ สถานการณ์ของเขายิ่งเลวร้ายกว่า ใบหน้าของเขาซีตราวกับกระดาษขณะที่เขากัดฟันรับมือด้วยเกราะโชคชะตา

หลอมรวมสี่มหาสมุทรเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาที่บรรพชนผมยาวสะสมมาตลอดชีวิต

เมื่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาใช้ท่าไม้ตายนี้ในการโจมตี มันจะมีพลังทําลายล้างระดับแปด

สําหรับยักษ์สวรรค์ มันสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเนื่องจากมันเป็นค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณ ตอนนี้เมื่อมันถูกใช้งานโดยผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน ยักษ์สวรรค์จึงถือเป็นการคงอยู่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมและไม่ได้รับผลกระทบจากท่าไม้ตายดังกล่าว

นี่เป็นสาเหตุที่ฟางหยวนและผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์อีกสามเผ่าพันธุ์ไม่สามารถเข้าร่วม

หากพวกเขาเคลื่อนไหว พวกเขาจะถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะหลอมรวมสี่มหาสมุทรเช่นกัน

“ฆ่าพวกมันให้หมด!”

“รากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาลึกเกินหยั่งถึงจริงๆ”

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสามเผ่าพันธุ์อ้าปากค้าง แต่ฟางหยวนกลับขมวดคิ้วลึก เขากล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง แม้การโจมตีนี้จะทรงพลัง มันก็ยังไม่สามารถตัดสินชัยชนะ เรามีเวลาจํากัด หากท่าไมใช้วิธีที่เหลืออยู่”

“ข้ารู้แล้ว หุบปาก!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคําราม

ดวงตาของเขากลายเป็นแดงก่ํา เขากัดฟันแน่นและแสดงออกด้วยความดุร้าย หัวใจของเขา เต็มไปด้วยควมกังวลบนพื้นผิว พวกเขาอาจมีข้อได้เปรียบ แต่สี่ผู้อมตะวังสวรรค์จะไม่ตายเพราะ สิ่งนี้พวกเขาเหมือนก้อนหินที่อยู่ริมทะเล ไม่ว่าคลื่นจะซัดสาดเข้าหาพวกมันรุนแรงเพียงใด พวกมันก็ยังนิ่งเฉย

หลังจากผ่านไปหลายสิบลมหายใจแม้ยักษ์สวรรค์จะระเบิดพลังอันยิ่งใหญ่ออกมา แต่สี่ผู้อม ตะวังสวรรค์ก็ยังมีชีวิตอยู่ในทางตรงข้ามน้ําทะเลในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยากลับแห้งเหือดไปแล้วมันไม่เหลือน้ําแม้แต่หยดเดียว!

“ถึงเวลาโต้กลับแล้ว!” จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าสูดหายใจลึก การแสดงออกของนางกลายเป็นน่ากลัว

“สมกับเป็นมรดกของบรรพชนผมยาว” เฉินอี้ถอนหายใจขณะรักษาอาการบาดเจ็บของตนอย่างรวดเร็ว

ผู้อมตะของวังสวรรค์ต่างมีรากฐานที่แข็งแกร่ง แม้จะถูกโจมตีอย่างหนัก แต่พวกเขากลับได้รับความเสียหายไม่มาก

“พวกเจ้าบังคับข้า!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากรีดร้อง “เข้ามาหากพวกเจ้าต้องการตาย!”

ท่าไม้ตายอมตะหลอมรวมสี่มหาสมุทรไม่สามารถเอาชนะศัตรู แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังมีไพ่ตายใบอื่น

“เปรี้ยง!”

เสียงสายฟ้าดังขึ้นพร้อมกับสายฟ้าสีแดงที่แลบลั่นขึ้นทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

“นี่คือ!?” การแสดงออกของสี่ผู้อมตะวังสวรรค์เปลี่ยนไปทันที ไม่ว่าจะเป็นเทพธิดาอเว่ยจอมวางแผน จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าที่ทรงพลัง เฉินอี้ผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์ หรือฟงจิวเก้อที่มีพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ ทั้งสี่ต่างสูญเสียความสงบไปในเวลานี้

ฟางหยวนมึนงง ความทรงจําบางอย่างพุ่งเข้าสู่สมองของเขาอย่างรวดเร็ยว “ขโมยชีวิต?”

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาไม่รู้จักไพ่ใบนี้

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองฟางหยวนด้วยความประหลาดใจ “ถูกต้อง นี่คือวิญญาณอมตะขโมยชีวิตระดับแปดของเทพปีศาจปล้นสวรรค์! เจ้ารู้จักมั่นงั้นหรือ?”

ฟางหยวนตกตะลึง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีวิญญาณอมตะขโมยชีวิตระดับแปดอยู่ในมือ

ฟางหยวนรู้เรื่องวิญญาณอมตะขโมยชีวิตมาจากอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ แต่ผู้ใดจะคิดว่าเทพปีศาจปล้นสวรรค์จะทิ้งวิญญาณอมตะดวงนี้ไว้กับบรรพชนผมยาว

ป้องกัน!

สี่ผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์พยามยามป้องกันตัวเอง

ตอนนี้พวกเขารู้สึกประหม่ามาก

เพราะพวกเขาสามารถบอกได้เช่นกันว่านี่คือพลังอํานาจของวิญญาณอมตะขโมยชีวิต

ทันใดนั้นแสงสีแดงก็ควบแน่นและกลายเป็นลูกศรแสงจํานวนนับไม่ถ้วนยิงออกไปทุกหนทุกแห่งก่อนที่มันจะย้อนกลับไปราวกับเวลาเดินถเอยหลัง

แสงสีแดงขโมยอายุขัยของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

ฟงจิวเก้อเปลี่ยนจากหนุ่มรูปงามกลายเป็นชายชราที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นทันที

เทพธิดาอเว่ยฟนเลือดคําโตออกมาจากปากและปรากฏรอยเหี่ยวย่นขึ้นบนใบหน้าของนางเช่นกัน

แต่เฉินอี้น่าสงสารกว่า เส้นผมทั้งหมดของเขาปลิวไปตามสายลม

จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าที่เคยอยู่ในรูปลักษณ์ของเด็กสาวกลายเป็นหญิงชราไปอย่างสมบูรณ์ ผมของนางเปลี่ยนเป็นสีขาว ดวงตาพร่ามัว นางอ้าปากค้างด้วยความอ่อนแรงและแทบไม่เหลือฟันอยู่ในปากของนาง ขณะเดียวกันนางก็พยายามหายใจอย่างอยากลําบาก

“ดี!” เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฟางหยวนจึงสามารถเผยรอยยิ้ม

ผู้อมตะของวังสวรรค์ทรงพลังมาก แต่ส่วนใหญ่พวกเขาจะจําศีลอยู่ในสุสานอมตะ เว้นเพียงพวกเขาจะไม่มีทางเลือก พวกเขาจึงจะตื่นขึ้น เนื่องจากอายุขัยที่มีอยู่อย่างจํากัดพวกเขาจึงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานนัก

และตอนนี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังใช้วิญญาณอมตะขโมยชีวิตที่เป็นการโจมตีจุดอ่อนของพวกเขาโดยตรง ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาใช้เพียงวิญญาณอมตะขโมยชีวิตเท่านั้น มันไม่ใช่ท่าไม้ตายอมตะและไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ผู้อมตะวังสวรรค์จะใช้วิธีการลับของพวกเขาอย่างเร่งด่วน

“การโจมตีของวิญญาณอมตะขโมยชีวิตไม่แยกแยะมิตรหรือศัตรู แม้ยักษ์สวรรค์จะไม่เป็นไร แต่ผู้อมตะของเราก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน” ฟางหยวนมองดูเส้นผมสีขาวและรอยเหี่ยวย่นบนร่างกายของตนเอง

แต่นั่นไม่ใช่ปัญญา เขามีวิญญาณอายุยืนสี่พันปี เขาสามารถใช้วิญญาณอายุยืนไม่กี่ร้อยปีเพื่อกลับสู่วัยหนุ่มอีกครั้ง

สําหรับผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เดิมที่พวกเขาก็มีอายุขัยยืนยาวกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่แล้วแม้จะไม่ใช้วิญญาณอายุยืน พวกเขาก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

นี่เป็นเหตุผลที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเก็บวิญญาณอมตะขโมยชีวิตมาจนถึงตอนนี้

“แม้ผู้อมตะวังสวรรค์จะแข็งแกร่ง แล้วอย่างไร? เราสามารถแข่งขันกับพวกเขาด้านอายุขัย! ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งโปรดใช้วิญญาณอมตะขโมยชีวิตอีกครั้ง!” ดวงตาของฟางหยวนกลายเป็นโหดเหี้ยมขณะกระตุ้นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเผยรอยยิ้มขมขึ้น “ในอดีตเทพปีศาจปล้นสวรรค์เกรงว่า วิญญาณอมตะขโมยชีวิตจะสร้างความโกลาหลให้กับโลกนี้ แม้เขาจะมอบมันให้กับร่างหลักของข้าแต่เขายังตั้งค่าให้มันสามารถใช้งานได้เพียงสามครั้งเท่านั้นก่อนที่มันจะระเบิดตัวเอง”

“กระไรนะ!? เทพปีศาจปล้นสวรรค์เป็นคนดีงั้นหรือ?” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ต่างรู้สึกประหลาดใจ

สําหรับฟางหยวน เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เขาก็เข้าใจเหตุผลทั้งหมด

“ผู้ใดจะสนว่ามันใช้ได้กี่ครั้ง แต่เราควรใช้เมื่อต้องใช้มัน!” ฟางหยวนกระตุ้นอีกครั้ง

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยักหน้าและใช้วิญญาณอมตะขโมยชีวิตอีกครั้ง

ศรแสงสีแดงพุ่งออกมาก่อนจะย้อนกลับไปอีกหน

“อา…” จักรพรรรดินีอสูรสายฟ้าถอนหายใจและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่อ่อนแรง “ผู้ใดจะคิดว่าข้าจึงหลาน…จะตายอยู่ที่นี่…”

นางพยายามลืมตาแต่นางอ่อนแอเกินไปและต้องปิดเปลือกตาลงในที่สุด

จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจิ้งหลานเสียชีวิตด้วยความชรา

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท