เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1585 ระดับความสําเร็จของฟางหยวน

บทที่ 1585 ระดับความสําเร็จของฟางหยวน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1585 ระดับความสําเร็จของฟางหยวน

มันเป็นอาณาจักรแห่งความฝันที่ไม่ใหญ่มาก

เหตุผลที่ฟางหยวนสามารถค้นพบมั่นเพราะนี่คืออาณาจักรแห่งความฝันที่เขาเคยโยนทิ้งไปก่อนหน้านี้

ย้อนกลับไปเขาปลอมตัวเป็นวไห่และลอบเข้าไปในอาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้เพื่อยกระดับความสําเร็จ เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น วังสวรรค์เข้าแทรกแซงขณะที่ราชันภูเขาม่วงเสียชีวิต ฟางหยวนกลายเป็นผู้นํานิกายเงาและนํากายาแห่งความฝันหลบหนี

ระหว่างทางเขาใช้กายาแห่งความฝันเพื่อต่อต้านศัตรูและสามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัย

แต่เขาใช้กายาแห่งความฝันทั้งหมดไปในกระบวนการนี้

สถานที่แห่งนี้คือสนามรบที่ฟางหยวนเคยต่อสู้กับผู้อมตะตระกูลอี้ เขาจุดระเบิดกายาแห่งความฝันสองร่างและบังคับให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลอี้ล่าถอย

แน่นอนว่าเมื่อกายาแห่งความฝันกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน ผู้อมตะภาคใต้ย่อมไม่ปล่อยมันไป หลังจากแข่งขัน สองเผ่าชนะและสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะเอาไว้เพื่อปกป้องอาณาจักรแห่งความฝันนี้

ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะมาที่นี่และส่งผู้อมตะที่คุ้มกันมันออกไปก่อนที่จะทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ

แม้มือปีศาจปล้นวิญญาณจะสามารถขโมยวิญญาณอมตะ แต่มันไม่สามารถกําหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ด้วยวิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากที่อยู่ที่นี่ มีโอกาสสูงที่มือปีศาจปล้นวิญญาณจะขโมยวิญญาณระดับมนุษย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง

เพื่อป้องกันไม่ให้ค่ายกลวิญญาณอมตะส่งกําลังเสริมหรือระเบิดตัวเอง ฟางหยวนตัดสินใจโจมตีก่อนและทําลายมัน

แม้วิญญาณอมตะแต่ละดวงจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่ตอนนี้ฟางหยวนไม่สนใจพวกมัน

เขามีวิญญาณอมตะจํานวนมากอยู่แล้ว หลังจากสังหารผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะ เขายังได้รับวิญญาณอมตะระดับหกและระดับเจ็ดเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

สิ่งที่ฟางหยวนขาดคือวิญญาณอมตะที่เหมาะสมกับเขา อันดับแรกพวกมันต้องเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด วิญญาณอมตะระดับหกไม่เหมาะสมกับเขาอีกต่อไป นอกจากนั้นพวกมันยังต้องเป็นหนึ่งในเส้นทางที่เขาเชี่ยวชาญอีกด้วย

ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด ฟางหยวนสามารถเปลี่ยนทุกเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะให้เป็นท่าไม้ตายอมตะ หากเขาต้องการท่าไม้ตายอมตะที่เฉพาะเจาะจง เขาสามารถใช้วิญญาณอมตะบางดวงเพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะที่เขาต้องการ โดยใช้เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะเป็นข้อมูลอ้างอิง

“หือ อาณาจักรแห่งความฝันหดตัวลงเล็กน้อย” ฟางหยวนสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง

อาณาจักรแห่งความฝันนี้ถูกสร้างขึ้นจากกายาแห่งความฝันสองร่าง แต่ตอนนี้ปริมาณของมันลงน้อยลง

“บางคนคลี่คลายมันงั้นหรือ?”

ผู้อมตะคนอื่นๆไม่มีวิธีคลี่คลายความฝันที่มีประสิทธิภาพเหมือนฟางหยวน แต่พวกเขาสามารถสํารวจมันเพื่อเก็บเกี่ยวทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝัน ในความเป็นจริงทรัพยากรเหล่านี้สามารถเก็บเกี่ยวได้ในอาณาจักรแห่งความฝันของตนเอง คุณค่าที่แท้จริงของอาณาจักรแห่งความฝันคือความหมายที่แท้จริงที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

ผู้อมตะภาคใต้ขุดค้นได้เพียงเศษเหล็กแต่มันก็ทําให้พวกเขามีความสุขมากแล้ว

“หากข้าจําไม่ผิด อาณาจักรแห่งความฝันทั้งสองนี้เป็นอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งน้ําแข็งและเส้นทางแห่งห้วงมิติ

อาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้มีต้นกําเนิดมาจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาเป็นปรมาจารย์เอกในทุกเส้นทาง อาณาจักรแห่งความฝันของเขาครอบครองทุกเส้นทางที่ทุกคนรู้จักในปัจจุบัน

ฟางหยวนเลือกกายาแห่งความฝันเหล่านี้มาเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากเขาต้องหลบหนี เขาจึงต้องยอมแพ้และละทิ้งผลประโยชน์เหล่านี้

แต่นั่นคือก่อนหน้า ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว

ฟางหยวนต้องการระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งหัวงมิติเพราะมันจะทําให้เขาสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะที่ใช้กับวิญญาณท่องแดนอมตะ

ฟางหยวนต้องการระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งน้ําแข็งและหิมะมากขึ้นเพราะเขาเพิ่งสังหารผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์จํานวนมาก มิติช่องว่างที่ถูกทิ้งไว้ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางแห่งน้ําแข็งและหิมะ ดังนั้นเขาจึงต้องการความสําเร็จบนเส้นทางสายนี้เพื่อกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น

“ตอนนี้ท่ามกลางเส้นทางต่างๆ ข้ามีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมสูงที่สุด มันอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด

“ ตามมาด้วยเส้นทางแห่งการโจรกรรมที่อยู่ระดับปรมาจารย์เอก”

อันดับสามคือเส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งดวงดาว เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เส้นทางแห่งเลือด เส้นทางแห่งความมืด เส้นทางแห่งค่ายกล และเส้นทางแห่งวารี พวกมันอยู่ในระดับปรมาจารย์

“อันดับสี่คือเส้นทางแห่งโชค เส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เส้นทางแห่งทาส และเส้นทางแห่งปฐพี พวกมันอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญ

“ถัดลงมาอีกคือเส้นทางแห่งดาบ เส้นทางแห่งห้วงมิติ เส้นทางแห่งกาลเวลา เส้นทางแห่ง ความฝัน เส้นทางแห่งพิษ เส้นทางแห่งไฟ เส้นทางแห่งโลหะ และเส้นทางสายอื่นๆ พวกมันอยู่ใน ระดับสามัญ

สุดท้าย เส้นทางแห่งข้อมูล เส้นทางแห่งน้ําแข็งและหิมะ เส้นทางแห่งพลังปราณ เส้นทางแห่ งแสง เส้นทางแห่งเสียง เส้นทางแห่งภูตผี เส้นทางแห่งกฏ และอีกหลายเส้นทาง ข้าไม่มีความเข้า ใจเกี่ยวกับพวกมันเลย”

ท่ามกลางเส้นทางทั้งหมดของฟางหยวน เขาต้องการยกระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่ งกาลเวลามากที่สุด

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขาอยู่ในระดับสามัญ ฟางหยวนต้องการยกระดับความสําเร็จบนเส้นทางสายนี้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ต้องการเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งกาลเวลา

“วังสวรรค์แข็งแกร่งเกินไป พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญจําศีลอยู่นับไม่ถ้วน ครั้งนี้เทพธิดาจื่อเว่ยผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญานํากลุ่มของเฉินอี้ออกมาและสามารถบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา โดยที่ราชันมังกรไม่จําเป็นต้องปรากฏตัว

“หากไม่ใช่เพราะข้อตกลงระหว่างบรรพชนผมยาวกับเทพอมตะตะวันเดือด แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาคงพังทลายไปแล้ว

ฟางหยวนไม่ใช่คนที่ไม่รู้ขีดจํากัดของตนเอง เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าแม้เขาจะมีเกราะหวนคืนและราชนภูตหรือกระทั่งเขาจะสามารถคิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปได้สําเร็จ เขาก็ยังถูกนับเป็นผู้อมตะระดับแปดผู้หนึ่งเท่านั้น เปรียบเทียบกับวังสวรรค์ ความแข็งแกร่งของเขาในฐานะคนผู้หนึ่งถือว่าไร้ประโยชน์

ในชีวิตก่อนหน้า เทพปีศาจจิตวิญญาณประสบความสําเร็จในการท้าทายสวรรค์ แต่เขายังต้องแทรกซึมเข้าสู่วังสวรรค์และปกปิดตัวตนเพื่อสร้างหายนะให้กับภูมิภาคทั้งห้า เขาลอบสนับสนุนหม่าหงหยุนและตระกูลถังของทะเลทรายตะวันตก กระทั่งทําให้ฟงจิวเก้อตกตายอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟงจินฮวงถูกฆ่าโดยฟางหยวนทั้งหมดล้วนมีนิกายเงาอยู่เบื้องหลังทั้ง

แต่หลังจากเจตจํานงสวรรค์ใช้ฟางหยวนเป็นตัวหมากเบี้ยเพื่อเปลี่ยนอดีต นิกายเงาพ่ายแพ้ขณะที่วังสวรรค์ได้เปรียบ

ฟางหยวนใช้มรดกที่แท้จริงของนิกายเงาเพื่อรักษาเสถียรภาพของตนเอง แต่มันยังยากเกินไปที่จะจัดการวงสวรรค์ การสูญเสียแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด

“ความหวังเดียวของข้าในการเอาชนะวังสวรรค์คือมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ด้วยการพึ่งพามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ข้าจะสามารถต่อต้านวังสวรรค์และทําลายวิญญาณชะตากรรม!

“แต่เพื่อรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ข้าต้องเข้าไปในสายธารแห่งกาลเวลา ขณะที่วังสวรรค์เตรียมกองกําลังรอข้าอยู่ที่นั้นแล้ว!”

แม้เทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆจะติดอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและกําลังต่อสู้กับผู้อมตะจากถ้ําสวรรค์นิรันดร แต่ฟางหยวนก็ไม่คิดที่จะเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาในเวลานี้

เทพธิดาจื่อเว่ยจะทิ้งช่องโหว่ขนาดใหญ่เช่นนี้ไว้ได้อย่างไร?

สายธารแห่งกาลเวลามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนนับไม่ถ้วน แม้ร่างทารกอมตะจะไม่ถูกกดดันจากมัน แต่เมื่อฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางสายอื่น มันจะอ่อนแอลงอย่างมาก พลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะระดับหกจะตกลงสู่ระดับมนุษย์

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนสามารถเข้าไปในสายธารแห่งกาลเวลาเพราะเขามีอสูรปีวอกแร กกําเนิดรวมถึงความช่วยเหลือจากเกาะบัวหินที่ถูกยึดครองโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ ในครั้งนั้น เขาไม่ได้ต่อสู้ด้วยตนเอง

ตอนนี้หากฟางหยวนต้องการรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงที่เหลือ เขาต้องหาเกาะบัวหินเกาะใหม่ อสูรปีวอกแรกกําเนิดตายไปแล้วในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ขณะที่เกราะหวนคืน ราชันภูต และท่าไม้ตายอื่นๆของเขาจะอ่อนแอลงที่นั่น

ในสายธารแห่งกาลเวลา วิธีที่เหมาะสมที่สุดคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

“แม้ข้าจะมีมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานและมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่มีข้อมูล เกี่ยวกับเส้นทางแห่งกาลเวลามากมาย แต่ข้าขาดท่าไม้ตายอมตะสายโจมตีระดับแปด แม้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ําจะเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด แต่พลังอํานาจของมันคือการสร้างวิญญาณปีและใช้สร้างท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน สําหรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ แม้มันจะกล่าวถึงท่าไม้ตายอมตะสายโจมตีมากมายรวมถึงท่าไม้ตายอมตะระดับแปด แต่ข้ายังขาดวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่จําเป็น

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องการเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งกาลเวลา ด้วยระดับความสําเร็จและแสงแห่งปัญญา เขาจะสามารถอนุมานท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของตนเอง สิ่งนี้จะทําให้เขาสามารถต่อต้านวังสวรรค์ในสายธารแห่งกาลเวลา

ท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจํานงสวรรค์!

ขณะที่เขากําลังคิดเรื่องเหล่านี้ เขาก็ปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะออกมาพร้อมกัน

แสงสีเทาขาวปรากฏขึ้นบนร่างของเขาก่อนจะแผ่พุ่งเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

เพียงไม่นานอาณาจักรแห่งความฝันก็ถูกปกคลุมด้วยแสงสีเทาขาว

ดวงตาหลากหลายสีสันปรากฏขึ้น พวกมันจะเปลี่ยนสีทุกครั้งที่กะพริบตา

จํานวนดวงตาหลากสีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่กี่ลมหายใจดวงตาหลากสีก็มีนับหมื่นดวงแล้ว

ดวงตาหลากสีกะพริบอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มันกะพริบตา มันจะโจมตีเจตจํานงสวรรค์

ในที่สุดดวงตาหลากสีก็ลดจํานวนลงและหายไปในที่สุด

ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝัน!

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายที่สองเพื่อเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันให้เป็นกายาแห่งความฝันสองร่าง ร่างหนึ่งไม่บุบสลายขณะที่อีกร่างพิการ

ฟางหยวนเปิดทางเข้ามิติช่องว่างจักรพรรดิและส่งพวกมันเข้าไป

ด้วยการใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ เขาหายตัวไปจากจุดนั้นและทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท