เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1587 ตายในมือปีศาจ
“บึม บึม บึม!”
ด้วยการระเบิดเป็นลูกโซ่ แสงหลากสีส่องประกายขึ้นราวกับดอกไม้ไฟ โลหะ ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งไม้ วารี ปฐพี เพลิง ความแข็งแกร่ง จิตวิญญาณ พิษ ดวงดาว และเส้นทางอื่นๆอีกมากมาย
ภายใต้การโจมตีดังกล่าว รูปลักษณ์ที่แท้จริงของค่ายกลวิญญาณอมตะเผยตัวออกมาในที่สุด มันเหมือนปราสาทหินที่แข็งแกร่ง แสงสีขาวปกป้องมั่นจากการโจมตีของฟางหยวน
“ฮ่าฮ่าฮ่า การโจมตีที่เต็มไปด้วยสีสันแต่มีพลังเพียงเล็กน้อย วิธีการของเจ้าฉุดฉาดเกินไปและไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของเรา!” เสียงหัวเราะของผู้อมตะหยางซานมู่แห่งตระกูลหยางดังขึ้น
ปัจจุบันฟางหยวนอยู่ในร่างราชันภูต ผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถระบุตัวตนของเขา
“ไม่ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของคนผู้นี้ไม่ต่ำต้อย เขาใช้ทุกวิธีเพื่อตรวจสอบค่ายกลวิญญาณอมตะของเรา!” ผู้อมตะซื้อชิวกล่าวเสียงต่ำ
นี่เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยตระกูลจือ จ่อชิวได้รับมอบหมายให้ปกป้องสถานที่แห่งนี้ ในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกล คํากล่าวของเขาจึงมีน้ำหนัก
หยางซานมู่ขมวดคิ้วถาม “แล้วเราจะปล่อยให้เขาทดสอบต่อไปงั้นหรือ?”
จื่อชิวส่ายศีรษะ “ค่ายกลของเรามีวิธีการโจมตีเช่นกัน เมื่อวิญญาณถูกทําลายไประดับหนึ่ง มันจะปล่อยการโจมตีออกมา อย่ามองข้า ข้าไม่สามารถควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ พวกเจ้ารู้ว่ามีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ข้าแน่ใจว่าข้าไม่จําเป็นต้องอธิบาย”
กลุ่มผู้อมตะมองหน้ากับอย่างช่วยไม่ได้
สาเหตุหลักคือครั้งหนึ่งฟางหยวนเคยปลอมตัวเป็นวอี้ไห่และแทรกซึมเข้าสู่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ ในช่วงเวลาสําคัญ เขาควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะก่อนจะจากไปพร้อมกับผลประโยชน์มหาศาล นั่นทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้สูญเสียใบหน้าเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นพวกเขาเริ่มวางกลยุทธ์ใหม่ ค่ายกลวิญญาณอมตะของตระกูลจือจะไม่ถูกควบคุมโดยคนนอกอีกต่อไป พวกเขาต้องดําเนินการด้วยตนเองเพื่อป้องกันคนทรยศเช่นฟางหยวน
หยางซานมู่หันหน้าไปทางผู้อมตะเซี่ยฟานจากตระกูลเซี่ย
เซี่ยฟานเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เมื่อเห็นหยางซานฟูหันหน้ามา เขาส่ายศีรษะตอบ “ฝ่ายตรงข้ามมีวิธีป้องกันการอนุมานบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ทรงพลังมาก ข้าไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเลย เว้นเพียงเราจะได้รับข้อมูลสําคัญบางอย่างในภายหลัง”
หยางซานม่รู้สึกผิดหวัง
ต่อมาเขาก็ตะโกนออกไป “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าวายร้าย เหตุใดถึงใช้พลังเพียงน้อยนิด? เจ้ามาที่นี่เพื่อเกาหลังให้ข้างั้นหรือ?”
หยางซาน จอชิว และเซี่ยฟานต่างเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขายังได้รับการปกป้องจากค่ายกลวิญญาณอมตะ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เกรงกลัวผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นฟางหยวน
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย้ยหยันและเพิกเฉยต่อหยางซานมู่อย่างสิ้นเชิง เขายังตรวจสอบค่ายกลวิญญาณอมตะต่อไป
“ค่ายกลนี้ค่อนข้างซับซ้อนและแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคาดไว้
หยางซานมุ่ยังยั่วยุต่อไปแต่ฟางหยวนไม่สนใจเขา
หยางซานมู่ขมวดคิ้ว “เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด ขณะที่พวกเรามีคนมากกว่าและยังมีค่ายกลวิญญาณอมตะ หากเราซ่อนตัวอยู่ที่นี่และปล่อยให้เขาโจมตีได้อย่างอิสระ เราจะไม่ทําให้ฝ่ายธรรมะสูญเสียใบหน้างั้นหรือ? ผู้อมตะคนใดสามารถสังหารวายร้ายผู้นี้ นั่นจะเป็นเรื่องที่ดี!”
เขากล่าวแต่ไม่มีผู้ใดตอบรับ
ผู้อมตะเกือบทั้งหมดไม่ใช่คนใจร้อน มันอาจดูง่ายที่จะจัดการฟางหยวนที่อยู่เพียงลําพัง แต่นั่นคือปัญหา เหตุใดผู้อมตะระดับเจ็ดถึงกล้าบุกโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะที่ทรงพลังนี้เพียงผู้เดียว?
พวกเขาคิดว่าอาจมีการซุ่มโจมตี ดังนั้นพวกเขาจะไม่เสี่ยง
เมื่อไม่มีผู้ใดตอบสนอง มันจึงช่วยไม่ได้ที่ใบหน้าของหยางซานมู่จะกลายเป็นมีดคม
หยางซานมู่เป็นผู้นําชั่วคราวของคนกลุ่มนี้ หากเขาหลีกเลี่ยงการต่อสู้ เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป ผู้คนจะตําหนิเขาและทําให้เขาสูญเสียชื่อเสียง
“ตอนนี้เส้นโลหิตปฐพีของภาคใต้กําลังเคลื่อนไหว ทรัพยากรอมตะและวิญญาณอมตะปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงกระนั้นข้าก็ยังต้องอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องอาณาจักรแห่งความฝัน
ข้าต้องการออกไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์และทิ้งสิ่งนี้ไว้ข้างหลัง หลังจากวางแผนมานานและกําลังจะประสบความสําเร็จ เจ้าวายร้ายผู้นี้กลับปรากฏตัวขึ้น หากข้าหลีกเลี่ยงการต่อสู้ ตระกูลจะมีข้ออ้างและหลักฐานเพื่อหยุดข้า ข้าจะไม่สามารถออกเดินทาง
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยางซานมู่ก็กัดฟันกล่าว “ศัตรูค่อนข้างลึกลับ ในฐานะสมาชิกฝ่ายธรรมะ ข้าจะปล่อยเขาไปไม่ได้ ทุกคน ดูแลค่ายกลวิญญาณ ข้าจะออกไปสู้กับเขา”
ผู้อมตะที่ได้ยินเรื่องนี้มีการแสดงออกที่แตกต่างกัน
บางคนขอให้เขาระวังตัว บางคนปรบมือและยกย่องความกล้าหาญของเขา บางคนยืนยันว่าหยางซานม่ควรจะปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะอยู่ภายในอย่างสงบ
หยางซานมู่ลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน แต่ในฐานะสมาชิกฝ่ายธรรมะ ชื่อเสียงสําคัญที่สุด เขาต้องออกไปต่อสู้กับฟางหยวน
ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นหยางซานมู่ออกมาแต่เขาก็สามารถทําความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
ระเบิดวิญญาณ!
ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาทันที
หยางซานมู่ต่อสู้กับฟางหยวนหลายรอบแต่เขากลับไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากนั้นยังรู้สึกตื่นตระหนก เขาคิด “คนผู้นี้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณงั้นหรือ!? แม้การโจมตีของเขาจะเรียบง่ายแต่มันทรงพลังมาก ขณะเดียวกันวิธีป้องกันของเขาก็ลึกลับมาก ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา และจะแพ้ในไม่ช้า หากข้าถอนตัวในเวลานี้มันยังไม่น่าเกลียด ข้าได้รับข้อมูลบางอย่างของเขาแล้ว ข้าสามารถอธิบายตัวเองในภายหลัง!”
หยางซานม่ต้องการถอย แต่ฟางหยวนคือผู้ใด? เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย หลังจากเห็นหลางซานม่ตั้งใจล่าถอย เขาก็กระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตทันที
วิสัยทัศน์ของหยางซานม่เปลี่ยนไป เขาติดอยู่ในสนารบราชันภูตและไม่สามารถหลบหนี
หยางซานม่ตกใจมาก เขตแดนอมตะ! นี่เป็นไปได้อย่างไร? มีเขตแดนอมตะที่สามารถใช้งานได้รวดเร็วถึงระดับนี้อยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างไร!?”
เขาตื่นตระหนกมากแต่ยังพยายามสงบจิตใจ “อย่าสับสน เขตแดนอมตะนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว มันต้องมีข้อบกพร่อง บางทีมันอาจง่ายที่จะอนุมานและทําลาย ข้ามีผู้อมตะคนอื่นๆ อยู่เคียงข้าง เมื่อพวกเขาเห็นเขตแดนอมตะนี้ปรากฏขึ้น พวกเขาจะช่วยข้าออกไปอย่างแน่นอน!
ฟางหยวนชี้นิ้วออกไปขณะที่บุตรแห่งภูตสามตนพุ่งเข้าโจมตีหยางซานมู่
หัวใจของหยางซานม่กระตุก เขาพยายามถ่วงเวลาด้วยการต่อสู้และล่าถอย
ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ
ทันใดนั้นร่างของหยางซานก็สั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงขณะที่ดวงตาแทบหลุดออกมาจากเบ้า เขาตะโกน “วิญญาณอมตะของข้า!”
ฟางหยวนประสบความสําเร็จในการขโมยวิญญาณอมตะ เขาโยนมันเข้าไปในมิติของว่างจักรพรรดิโดยไม่แม้แต่จะชําเลืองตามอง
หยางซานมู่ฟนเลือดออกมาจากปาก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที
ปรากฏว่าฟางหยวนขโมยวิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะที่เขากําลังใช้งาน การสูญเสียวิญญาณอมตะทําให้ท่าไม้ตายอมตะล้มเหลวขณะที่ผู้ใช้งานจะได้รับผลกระทบ ย้อนกลับ
“ดูเหมือนโชคของข้าจะดีกว่าเจ้ามาก ข้าไม่สามารถขโมยวิญญาณอมตะที่สําคัญของฟงจิวเก้อแต่สามารถขโมยวิญญาณอมตะที่สําคัญของเจ้า” ฟางหยวนหัวเราะเย้ยหยัน
“ฟงจิวเก้อ? เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”
มือปีศาจปล้นวิญญาณ!
ฟางหยวนประสบความสําเร็จอีกครั้ง
“พรวด!”
หยางซานมู่ฟนเลือดคําโตออกมาอีกหน ท่าไม้ตายอมตะของเขาล้มเหลว ด้วยผลกระทบย้อนกลับสองครั้ง มันทําให้เขาเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ
มือปีศาจปล้นวิญญาณฆ่าคนได้จริงๆ!