เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1593 ธุรกรรม

บทที่ 1593 ธุรกรรม

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1593 ธุรกรรม

“เจ้าต้องการพบข้างั้นหรือ? ดูเหมือนเจ้าต้องการตายจริงๆ” จื่อชิวหยูหัวเราะ

“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งมาแล้ว ข้ารอดแล้ว!” ผู้อมตะตระกูลจื่อที่ปกป้องภูเขาวายุเพลิงรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่อเห็นจื่อชิวหยู

“ข้ารอท่านอยู่ ท่านสนใจงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันที่ข้ามีหรือไม่?” ฟางหยวนกล่าวเรื่องที่ไม่คาดคิดออกมาอย่างกะทันหัน

จื่อชิวหยูรู้สึกมึนงงเล็กน้อย

หลังจากนั้นฟางหยวนก็ชี้นิ้วออกไปและสร้างเขตแดนอมตะราชันภูตกักขังจื่อชิวหยูไว้ภายใน

จื่อชิวหยูตกใจเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็สงบลง เขากวาดตามองไปรอบๆอย่างสงบนิ่ง “นี่คือ เขตแดนอมตะที่กักขังฟงจิวเก้องั้นหรือ?”

ฟางหยวนหัวเราะเสียงดัง “ผู้อาวุโสจื่อต้องการกล่าวว่านี่คือเขตแดนอมตะที่เทพธิดาจื่อเว่ยทําลายใช่หรือไม่?”

วังสวรรค์ไม่เพียงเปิดเผยมือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนในสวรรค์สีเหลืองแต่พวกเขายังปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับสนามรบราชันภูตและกระทั่งวิธีทําลายมันอีกด้วย

นี้ทําให้จื่อชิวหยูปราศจกาความกังวลอย่างสิ้นเชิง ในฐานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาสามารถป้องกันตัวเองในสนามรบราชันภูต ขณะเดียวกันฟางหยวนก็มีเวลาจํากัด หากผู้อมตะฝ่ายธรรมะมาถึงและปิดล้อมเขา เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก

ไม่มีวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด มีเพียงผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด

มีหลายวิธีที่สามารถตอบโต้วิญญาณท่องแดนอมตะ

ในความเป็นจริงสิ่งที่จื่อชิวหยูกังวลมากกว่าก็คือหากฟางหยวนออกไป เขาจะทําลายแหล่งทรัพยากรของตระกูลจือมากขึ้น

“โปรดดู ผู้อาวุโสจื่อ” ฟางหยวนโยนวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ออกไป

จื่อชิวหยูตรวจสอบมันก่อนที่ดวงตาของเขาจะส่องประกายขึ้น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ดวงนี้บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณอมตะของตระกูลซื้อที่จัดตั้งขึ้นบนภูเขาวายุเพลิง ในฐานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลและความช่วยเหลือจากแสงแห่งปัญญา มันไม่ใช่เรื่องยากที่ฟางหยวนจะสามารถถอดรหัสสิ่งนี้

จื่อชิวหยูเข้าใจเจตนาของฟางหยวนทันที

ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ดวงนี้มีความนัยซ่อนอยู่ มันหมายความว่าฟางหยวนสามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนภูเขาวายุเพลิงทั้งหมดแต่เขาเลือกที่จะรอให้จื่อชิวหยูมาถึง

จื่อชิวหยูพยักหน้า “เจ้าเป็นอัจฉริยะจริงๆ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเจ้า สูงมาก ไม่แปลกใจเลยที่จื่อซานยอมรับเจ้า”

จื่อซานเป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งค่ายกลของตระกูลจื่อ เขาได้รับการยอมรับจากจื่อชิวหยู ก่อนหน้านี้เมื่อฟางหยวนปลอมตัวเป็นวูอี้ไห่ เขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจื่อซาน แต่เมื่อตัวตนของฟางหยวนถูกเปิดเผย จื่อซานประกาศต่อสาธารณชนว่าเขาเป็นศัตรูกับฟางหยวน เพื่อระบุสถานะที่ชัดเจนระหว่างพวกเขา

ฟางหยวนหัวเราะเสียงดังก่อนกล่าว “หากข้าบอกผู้อาวุโสว่าความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของข้าได้มาจากอาณาจักรแห่งความฝัน ท่านจะคิดอย่างไร?”

“โอ้ จริงหรือ?” จื่อชิวหยูถูกล่อลวงทันที

เขาประเมินฟางหยวนอีกครั้งก่อนตั้งคําถาม “เจ้าต้องการทําธุรกรรมกับข้าจริงๆงั้นหรือ?”

ฟางหยวนตอบ “เหตุใดจะไม่? ข้าต้องการอาณาจักรแห่งความฝันแต่อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้มีค่ายกลวิญญาณของตระกูลจื่อปกป้องอยู่ ข้าต้องการใช้งานวิจัยเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝันแลกเปลี่ยนกับความร่วมมือจากตระกูลจื่อ เพื่อแสดงความจริงใจข้าจะให้ท่านดูสิ่งนี้”

ฟางหยวนโยนวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์อีกดวงออกไป

จื่อชิวหยูมองมันด้วยสายตาที่สั่นไหว

เขาจับวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์เอาไว้ในมืออย่างแน่นหนาราวกับกลัวมันจะบินหนีไป

ท้ายที่สุดข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝันก็เย้ายวนใจเกินไป

หลังจากตรวจสอบข้อมูล เขาเงยหน้าขึ้นและมองฟางหยวนด้วยสายตาที่แตกต่างออกไปจากก่อนหน้า

สมกับเป็นผู้ที่ใช้วิญญาณกาลเวลาย้อนกลับมาเกิดใหม่และได้รับมรดกที่แท้จริงของนิกายเงา ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝันที่เขาเปิดเผยเหนือกว่างานวิจัยของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไปไกลมาก!”

“นอกจากนี้นี่ยังเป็นเพียงส่วนเล็กๆ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ขาดหายไป มันมีกระทั่งเนื้อหาที่คลุมเครือซึ่งไม่ได้อธิบายไว้อย่างละเอียด”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจื่อชิวหยูถูกล่อลวงอย่างสมบูรณ์

เหยื่อของฟางหยวนดึงดูดใจเขามากเกินไป

ผู้อมตะทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าเส้นทางแห่งความฝันเป็นเส้นทางที่จะเจริญรุ่งเรืองในอนาคต นอกจากนั้นมันยังสามารถให้กําเนิดเทพอมตะแห่งความฝัน ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นกองกําลังใหญ่หรือผู้อมตะระดับแปดคนใด พวกเขาต่างต้องให้ความสําคัญกับเส้นทางแห่งความฝัน พวกเขาต้องการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันและเป็นผู้นําบนเส้นทางสายนี้

ผู้ใดที่ยอมแพ้ต่อเส้นทางแห่งความฝันจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังในยุคที่ยิ่งใหญ่ที่กําลังจะมาถึง

มันเหมือนกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์ที่สร้างเส้นทางแห่งการโจรกรรม เทพปีศาจคลั่งสร้างเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เทพอมตะแรกกําเนิดสร้างเส้นทางแห่งพลังปราณ ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษยชาติ ประเด็นนี้ถูกพิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตามก้าวแรกเป็นก้าวที่ยากลําบากที่สุดเสมอ ในปัจจุบันเส้นทางแห่งความฝันเป็นเพียงแนวคิด ไม่ว่าผู้ใดที่สํารวจมัน พวกเขาจะต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลแต่กลับได้กําไรเพียงเล็กน้อย

จื่อชิวหยูเข้าใจจุดนี้ เขาจึงตระหนักได้ถึงความสําคัญของวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ดวงนี้ หากมันถูกเปิดเผยสู่โลกภายนอก กองกําลังทั้งหมดจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงมัน แม้พวกเขาต้องต่อสู้จนกว่าเลือดจะไหลราวกับสายน้ำ พวกเขาก็จะทําโดยไม่ลังเล

จื่อชิวหยูลูบไล้วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ที่อยู่ในมืออย่างทะนุถนอมขณะ มองฟางหยวนด้วยสายตาแหลมคม “ข้าเห็นความจริงใจของเจ้าแล้ว แต่มีกองกําลังฝ่ายธรรมะมากมายในภาคใต้ เหตุใดเจ้าถึงเลือกข้า?”

ฟางหยวนหัวเราะ “ข้าคุ้นเคยกับจื่อซาน ข้ายังมีข้อมูลของนิกายเงาและตระกูลวู ข้ารู้ข้อมูลเกี่ยวกับจื่อพ่างบุตรชายของท่าน เขาขาดความสามารถในการเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง นั่นเป็นเหตุผลที่ท่านต้องการให้จื่อซานเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลเพื่อช่วยเขา ผู้อาวุโสจื่อ ท่านมีอายุขัยที่จํากัด เมื่อท่านเสียชีวิต มันจะเกิดความโกลาหล บุตรชายของท่านจะปกป้องตระกูลจื่อได้หรือไม่?

“เจ้า!” การแสดงออกของจื่อชิวหยูกลายเป็นมืดครึม เจตนาสังหารรั่วไหลออกมาจากสายตาของเขาแต่ฟางหยวนเพิกเฉยต่อมันอย่างสิ้นเชิง

จื่อชิวหยูไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับว่าฟางหยวนพูดถูก

เส้นโลหิตปฐพีของทั้งห้าภูมิภาคกําลังเกิดการเปลี่ยนแปลง ตัวตนระดับสูงเช่นจื่อชิวหยูตระหนักถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

จื่อชิวหยูใช้วิธียืดอายุขัยมาหลายวิธีแล้ว วิญญาณอายุยืนไม่มีประโยชน์กับเขาอีกต่อไป เขาวางแผนมานานแล้วเกี่ยวกับการสืบทอดตําแหน่งของบุตรชาย

จื่อฟางขาดพรสวรรค์ ในฐานะบิดา เขาย่อมมีด้านที่เห็นแก่ตัว แต่เขาไม่สามารถเห็นแก่ตัวมากเกินไป หากตระกูลจื่อถูกทําลายในมือของจื่อพ่าง แม้จื่อชิวหยูจะเสียชีวิต เขาก็จะไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบสุข นอกจากนั้นหากตระกูลจือถูกทําลาย จื่อฟางจะปลอดภัยได้อย่างไร?

ด้วยเหตุนี้ตระกูลจื่อจึงต้องพึ่งพาอาณาจักรแห่งความฝัน ด้วยข้อมูลที่ได้รับจากฟางหวน ตระกูลจื่อจะสามารถปกป้องตนเองในอนาคต พวกเขาจะสามารถขี่อยู่บนคลื่นแห่งยุคสมัยและแข็งแกร่งขึ้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า” จื่อชิวหยูหัวเราะเสียงดังราวกับเจตนาสังหารก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอยู่จริง เขามองฟางหยวนและสายศีรษะ “ฟางหยวน เจ้าคือปีศาจอันดับหนึ่งในห้าภูมิภาคอย่างแท้จริง ในที่สุดวันนี้ข้าก็ได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของเจ้า ไม่แปลกใจเลยที่วังสวรรค์และตระกูลวไม่สามารถทําสิ่งใดกับเจ้า เอาล่ะ ข้าจะยอมรับการทําธุรกรรมนี้!”

ฟางหยวนพยักหน้า คําตอบของจื่อชิวหยูอยู่ในความคาดหวังของเขา ไม่มีสิ่งใดให้แปลกใจ

จื่อชิวหยูเป็นผู้นํากองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะ ขณะที่ฟางหยวนเป็นปีศาจที่ทุกคนต้องการตัว แล้วพวกเขาจะทําข้อตกลงกันได้อย่างไร? นี่ดูเหมือนเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

อย่างไรก็ตามแท้จริงแล้วทุกคนต่างเข้าใจคําว่าฝ่ายธรรมะและฝ่ายปีศาจเป็นอย่างดี สิ่งสําคัญที่สุดมีเพียงผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายปีศาจก็ไม่มีสิ่งใดแตกต่างกัน

ตัวอย่างเช่นตระกูลจื่อ พวกเขามีทรัพยากรมากมายแต่พวกเขายังต้องการพลังอํานาจที่มากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถแสดงความชั่วร้ายออกมาได้อย่างชัดเจน พวกเขาต้องเอ่ยอ้างความชอบธรรมและแสดงตัวว่าพวกเขามีศีลธรรมอันสูงสุดไม่ว่าพวกเขาจะทําเรื่องใดก็ตาม

สําหรับฝ่ายปีศาจ พวกเขามีชีวิตที่ยากลําบาก พวกเขาต้องการทรัพยากรและความ แข็งแกร่ง แต่พวกเขาจะทําอย่างไรเพื่อให้ได้รับมันมา? วิธีเดียวที่พวกเขาทําได้คือปล้นฆ่า

ทุกอย่างล้วนเพื่อผลประโยชน์ทั้งสิ้น

แล้วจื่อชิวหยูจะไม่ยินดีทําธุรกรรมกับฟางหยวนได้อย่างไร?

หลังจากเสร็จสิ้นการเจรจา ฟางหยวนก็ยกเลิกเขตแดนอมตะราชันภูตและทําตัวราวกับถูกบังคับให้ล่าถอยด้วยความตื่นตระหนก

จื่อชิวหยูชนะขณะที่ฟางหยวนพยายามหลบหนีด้วยการแสดงออกที่ค่อนข้างน่าเกลียด

เจ็ดวันต่อมาฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่รอยแยกปล้นเงา เขาทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะและประสบความสําเร็จในการฉกชิงอาณาจักรแห่งความฝัน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท