เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1595 วิญญาณข้อความวารี

บทที่ 1595 วิญญาณข้อความวารี

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1595 วิญญาณข้อความวารี

ดวงจันทร์เรืองรองอยู่นอกหน้าต่างขณะที่แสงเทียนบางๆส่องสว่างอยู่ภายในห้อง

วุหยงเดินไปรอบๆห้องของเขา

เขาทั้งกังวลหงุดหงิด และไม่สามารถปล่อยมันไป

รูหยงเป็นผู้อมตะระดับแปด เขามีอํานาจสูงสุดในตระกูลู เขาใช้บ้านไม้ไผ่สายลมนําตระกูลผ่านช่วงเวลาที่ยากลําบาก เขานําวิญญาณอมตะของภาคใต้กลับคืนจากวังสวรรค์ ชื่อเสียงของเขาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในช่วงเวลานี้ กล่าวได้ว่าตระกูลรูกําลังไปได้ดี แต่เหตุใดเขาถึงรู้สึกกังวล?

มันเป็นเพราะฟางหยวน!

ฟางหยวนปลอมตัวเป็นรูไห่ เขาหลอกวูหยงและฉกชิงทรัพยากรของตระกูลรูไปมากมายรวมถึงวิญญาณอมตะ เขาไม่เพียงล้อเล่นกับตระกูลวูแต่การไล่ล่าของวูหยงยังล้มเหลว

ฟางหยวนเหมือนหนามที่ทิ่มแทงหัวใจของวูหยง เมื่อใดก็ตามที่วหยงคิดถึงเรื่องนี้ เขาจะรู้สึกปวดใจ โกรธ และเกลียดชัง

ครั้งนี้ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นที่ภาคใต้อีกครั้ง เขาทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะที่รอยแยกปล้นเงาและฉกชิงอาณาจักรแห่งความฝัน แม้วหยงจะไม่เคลื่อนไหวแต่หัวใจของเขาราวกับถูกหนามแหลมที่มแทง

วิธีการของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงสามารถต่อต้านวิญญาณทองแดนอมตะของฟางหยวน แต่

วูหยงขมวดคิ้วขณะเดินไปรอบๆและสายศีรษะ

เขารู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือวิธีนี้สามารถสังหารฟางหยวนได้จริงหรือ?

เมื่อคิดถึงวิธีที่เขาล้มเหลวในการไล่ล่าฟางหยวนหรือกระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถสังหารปีศาจตนนี้ แล้วฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะประสบความสําเร็จนั้นหรือ?

หยงส่ายศีรษะ

เขายอมรับกับตนเองว่าตอนนี้เขาค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับฟางหยวน ความแข็งแกร่งของปีศาจตนนี้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อใดก็ตามที่เขาปรากฏตัวขึ้น พลังการต่อสู้ของเขาจะไม่สามารถประเมินได้ด้วยตรรกะทั่วไป

นอกจากนี้วหยงก็ไม่มั่นใจฝ่ายธรรมะของภาคใต้

ตระกูลวูเป็นผู้นําฝ่ายธรรมะของภาคใต้ วูหยงเติบโตขึ้นภายใต้ปีกของวตู้ซิ่ว แล้วเขาจะไม่เห็นจุดอ่อนของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ได้อย่างไร

ทุกกองกําลังล้วนมีเป้าหมายของตนเอง มันเต็มไปด้วยความขัดแย้งและไม่พอใจ ไม่มีผู้ใดสามารถหลอมรวมพวกเขาให้เป็นหนึ่งเดียว

กระทั่งวซิวจะยังมีชีวิตอยู่และทํางานร่วมกับวุหยง พวกเขาก็ยังไม่สามารถเป็นผู้นําที่แท้จริง

วูหยงสามารถจินตนาการได้ว่าในวันที่พวกเขาลงมือ ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะระแวงกันเองพวกเขาจะหาข้ออ้างและปฏิเสธที่จะเป็นคนแรกที่ดําเนินการ พวกเขาจะต่อสู้เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น แล้วกองกําลังเช่นนี้จะสามารถจัดการคนเจ้าเล่ห์เช่นฟางหยวนได้อย่างไร?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่มีเพียงตระกูลจื่อเท่านั้นที่ถูกฟางหยวนปล้นสะดม แหล่งทรัพยากรของตระกูลอื่นไม่ถูกแตะต้อง ด้วยความปั่นปวนของเส้นโลหิตปฐพี พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อแย่ง ชิงแหล่งทรัพยากรที่เกิดใหม่ แล้วตระกูลเหล่านี้จะทุ่มเทความพยายามกับการจัดการฟางหยวนงั้นหรือ?

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าฟางหยวนจะสังเกตเห็นสิ่งนี้ ดังนั้นเขาจึงปล้นทรัพยากรของตระกูลจื่อเท่านั้น!

หัวใจของวูหยงจมดิ่งลง

ในแง่นี้ วูหยงต้องการให้ฟางหยวนทุ่มสุดตัวและทําให้ทุกตระกูลตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถแต่ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป เขามุ่งเป้าไปที่ตระกูลจือเพียงตระกูลเดียว

หากวูหยงรู้ว่าฟางหยวนไม่เพียงปล้นสะดมทรัพยากรของตระกูลจือแต่ยังทําธุรกรรมกับพวกเขาอย่างลับๆ เขาจะคิดอย่างไร?

หลังจากเดินไปเดินมาสักพัก วุหยงก็ตัดสินใจ “ข้าควรติดต่อวังสวรรค์ ข้าควรใช้พวกเขาจัดการฟางหยวน!”

นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลําบาก

แม้มันจะเป็นทางเลือกที่ฉลาด แต่ในห้าภูมิภาคยกเว้นทะเลตะวันออกมีอคติต่อคนต่างถิ่นภาคใต้ก็เช่นกัน

หากกองกําลังของภาคใต้รู้ว่าวหยงร่วมมือกับกองกําลังของภูมิภาคอื่นและนําคนนอกเข้ามางเกี่ยวกับเรื่องภายในของภาคใต้ เขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม้เขาจะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวและเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

อาจกล่าวได้ว่าวุหยงกําลังเสียง หากเขาถูกเปิดเผย ตําแหน่งที่ได้เปรียบในปัจจุบันของตระกูลวจะถูกทําลาย

“โอ้ วุหยงติดต่อข้างั้นหรือ? มันต้องเป็นเพราะปีศาจฟางหยวน” เทพธิดาอเว่ยที่กําลัง พักผ่อนเผยรอยยิ้มและตอบกลับ

วูหยงมีสถานะพิเศษ เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูล แต่การสร้างความร่วมมือกับวังสวรรค์ก็กลายเป็นจุดอ่อนของเขาไปแล้ว

ทั้งสองพูดคุยกันเกี่ยวกับของฟางหยวน

เทพธิดาอเว่ยคิด “ดังคาด ฟางหยวนมีวิญญาณท่องแดนอมตะขณะที่ข้าเปิดเผยทักษะของเขาในสวรรค์สีเหลือง นั่นทําให้วหยงตื่นตัวมาก เขาต้องการกําจัดฟางหยวนแม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม

วังสวรรค์ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก

ไม่นานมานี้พวกเขาล้มเหลวในการบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา วิญญาณสติปัญญากนําออกไปโดยฟางหยวนที่หลบหนีได้สําเร็จ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้รับการปกป้องโดยถ้ําสวรรค์นิรันดร ขณะที่จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเสียชีวิต เฉินอี้ เทพธิดาจื่อเว่ย และฟงจิวเก้อได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่ง ตอนนี้พวกเขากําลังพักฟื้น

แต่ถึงกระนั้นหลังจากได้ยินคํากล่าวของวุหยงเทพธิดาจื่อเว่ยยังตกลงสร้างความร่วมมือโดยป ราศจากความลังเล

ฟางหยวนต้องตาย!

แม้เขาจะมีวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ด แต่วังสวรรค์มีวิธีจัดการวิญญาณอมตะดวงนี้

กระทั่งพวกเขาจะล้มเหลวในการสังหารฟางหยวน ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถกดดันและไม่ให้เวลาฟางหยวนเติบโตต่อไป นั่นจะเป็นความสําเร็จของวังสวรรค์

การเติบโตของฟางหยวนรวดเร็วเกินไป สิ่งนี้เกิดจากอิทธิพลของเจตจํานงสวรรค์ ในอดีตทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว เขาจะมีพัฒนาการที่น่าตกใจ แม้เราจะล้มเหลวในการฆ่าเขา แต่เราก็ต้องทําให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มีเวลาฝึกฝน หากเขามีวิธีการใหม่ๆ เราต้องเปิดเผยไฟตายทั้งหมดของเขาออกมา!”

เพื่อไล่ล่าฟางหยวน เทพธิดาจอเว่ยทุ่มเทความพยายามเป็นอย่างมาก แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเกือบถูกนางฉกชิงไป

แต่ตัวฟางหยวน?

เขายังท่องเที่ยวอยู่ในโลกอย่างอิสระ

วังสวรรค์มีความได้เปรียบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซ่อมแซมวิญญาณชะ ตากรรมการดูแลเทพอมตะแห่งความฝัน หรือการคุมขังเทพปีศาจจิตวิญญาณ ฟางหยวนไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขา

แต่ในส่วนลึกของหัวใจ เทพธิดาอเว่ยรู้สึกหวาดกลัวและไม่สบายใจ

ถูกต้อง นางกลัวฟางหยวน!

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้กําลังจะจัดการฟางหยวน นี่เป็นโอกาสที่ดี ลืมแผลเก่าไปซะ ข้าต้องทํามสุดตัวเพื่อฆ่าฟางหยวน! ความมุ่งมั่นปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้กําลังวางแผนต่อต้านฟางหยวน แต่ด้วยการเคลื่อนไหวของ หยงเมื่อถึงเวลาสําคัญ วังสวรรค์จะปรากฏตัวขึ้นและโจมตีฟางหยวนด้วยพลังทําลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว!

น่าเสียดายที่ฟางหยวนคาดเดาสิ่งนี้ไว้แล้ว

หลังจากทําธุรกรรมกับจอชิวหยู เขาเริ่มเก็บตัวและสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน

นี่คืออาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

ภายในอาณาจักรแห่งความฝันนี้ ฟางหยวนเป็นชายชรา เขาเป็นตัวละครหลักที่มีการบ่มเพาะ

ระดับสี

ตอนนี้เขาถูกปิดล้อมโดยผู้ใช้วิญญาณห้าหรือหกคนด้วยการแสดงออกที่ไม่เป็นมิตร

“ท่านไปเหลียน นี่คือค่ารักษาล่วงหน้า โปรดตามเรามา” หัวหน้ากลุ่มผู้ใช้วิญญาณที่มีการบ่มเพาะระดับสมองฟางหยวนและข่มขู่

ฟางหยวนตรวจสอบวิญญาณที่อยู่ในทะเลวิญญาณของเขา พวกมันล้วนเป็นวิญญาณสายสนับสนุนที่ไม่สามารถรักษา นั่นทําให้ฟางหยวนต้องเปิดปากถาม “ข้าไม่ใช่หมอ เหตุใดต้องสร้า งปัญหาให้ข้า?”

อีกฝ่ายตอบ “ฮิม! ท่านจะไปหรือไม่? ท่านกล้าท้าทายคําขอของตระกูลเมิ้งปี้งั้นหรือ? เรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับท่าน อย่ากังวล เราขอให้ท่านไปเพราะความสามารถของท่าน เรารู้ว่าท่านสามารถรักษานายท่านเติ้ง” มาเถอะ อย่าให้เราต้องใช้กําลังบังคับ”

“เอาล่ะ โปรดนําทาง” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น

ภายใต้การนําทางของพวกเขา ฟางหยวนมาถึงตระกูลเฉิงและได้พบกับเมิ้งปี้ในที่สุด

เขานอนอยู่บนเตียงด้วยร่างกายซูบผอมขณะที่เขาครวญครางอย่างอ่อนแรง

สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? เขาเป็นโรคใด?” ฟางหยวนสอบถาม

คนรับใช้กล่าวขณะสะอึกสะอื้น “นายท่านของข้าแข็งแรงมาตลอด ผู้ใดจะคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นท่านล้มปวยเพราะพ่อค้าไร้ยางอายผู้นั้น ท่านซื้อวิญญาณข้อความวารีเพราะพ่อค้าบอกว่าวิญญาณดวงนี้จะทําให้ท่านเขียนบทกวีได้ราวกับน้ําไหล นายท่านถูกคนนอกวิจารณ์มาตลอดว่าท่านมีเพียงมัดกล้ามเนื้อแต่ไม่มีไหวพริบทางวรรณกรรม ด้วยเหตุนี้ท่านจึงซื้อวิญญาณข้อความวารีด้วยราคาสูงมาก”

“ปัญหาอยู่ที่วิญญาณข้อความวารีนั้นหรือ?” ฟางหยวนถาม

คนรับใช้พยักหน้า “คืนนั้นนายท่านใช้วิญญาณข้อความวารีอย่างไม่มีปัญหา ท่านเขียนบทกวีอย่างมีความสุข ท่านสามารถเขียนบทกวีได้มากถึงห้าสิบหรือหกสิบบท อย่างไรก็ตามในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร นายท่านเริ่มมีอาการท้องร่วง มันไหลเหมือนสายน้ํา ท่านต้องวิ่งเข้าสุขากว่ายี่สิบครั้ง แม้จะมีร่างกายที่แข็งแรง แต่หลังจากหนึ่งวันท่านก็อยู่ในสภาพนี้”

ฟางหยวนเข้าใจในที่สุด

วิญญาณข้อความวาไม่ใช่ปัญหา แต่การใช้มากเกินไปทําให้เกิดอาการท้องร่วง ไม่มีผู้ใดสามารถจัดการกับผลข้างเคียงนี้

การเร่งรีบมักนําไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย นี่เป็นเรื่องธรรมดา การใช้วิญญาณมีความเสี่ยง เพิ่งนี้ทําร้ายตัวเองอย่างแท้จริง

“ตระกูลเฉิงคิดถูกที่เชิญข้ามา ข้ามีวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มันอาจไม่สามารถรักษาอาการเจ็บปวด แต่ในสถานการณ์นี้พวกมันเหมาะสมที่จะรักษาเมิ้งปี้” ฟางหยวนคิด

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท