เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1595 วิญญาณข้อความวารี
ดวงจันทร์เรืองรองอยู่นอกหน้าต่างขณะที่แสงเทียนบางๆส่องสว่างอยู่ภายในห้อง
วุหยงเดินไปรอบๆห้องของเขา
เขาทั้งกังวลหงุดหงิด และไม่สามารถปล่อยมันไป
รูหยงเป็นผู้อมตะระดับแปด เขามีอํานาจสูงสุดในตระกูลู เขาใช้บ้านไม้ไผ่สายลมนําตระกูลผ่านช่วงเวลาที่ยากลําบาก เขานําวิญญาณอมตะของภาคใต้กลับคืนจากวังสวรรค์ ชื่อเสียงของเขาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในช่วงเวลานี้ กล่าวได้ว่าตระกูลรูกําลังไปได้ดี แต่เหตุใดเขาถึงรู้สึกกังวล?
มันเป็นเพราะฟางหยวน!
ฟางหยวนปลอมตัวเป็นรูไห่ เขาหลอกวูหยงและฉกชิงทรัพยากรของตระกูลรูไปมากมายรวมถึงวิญญาณอมตะ เขาไม่เพียงล้อเล่นกับตระกูลวูแต่การไล่ล่าของวูหยงยังล้มเหลว
ฟางหยวนเหมือนหนามที่ทิ่มแทงหัวใจของวูหยง เมื่อใดก็ตามที่วหยงคิดถึงเรื่องนี้ เขาจะรู้สึกปวดใจ โกรธ และเกลียดชัง
ครั้งนี้ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นที่ภาคใต้อีกครั้ง เขาทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะที่รอยแยกปล้นเงาและฉกชิงอาณาจักรแห่งความฝัน แม้วหยงจะไม่เคลื่อนไหวแต่หัวใจของเขาราวกับถูกหนามแหลมที่มแทง
วิธีการของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงสามารถต่อต้านวิญญาณทองแดนอมตะของฟางหยวน แต่
วูหยงขมวดคิ้วขณะเดินไปรอบๆและสายศีรษะ
เขารู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือวิธีนี้สามารถสังหารฟางหยวนได้จริงหรือ?
เมื่อคิดถึงวิธีที่เขาล้มเหลวในการไล่ล่าฟางหยวนหรือกระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถสังหารปีศาจตนนี้ แล้วฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะประสบความสําเร็จนั้นหรือ?
หยงส่ายศีรษะ
เขายอมรับกับตนเองว่าตอนนี้เขาค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับฟางหยวน ความแข็งแกร่งของปีศาจตนนี้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อใดก็ตามที่เขาปรากฏตัวขึ้น พลังการต่อสู้ของเขาจะไม่สามารถประเมินได้ด้วยตรรกะทั่วไป
นอกจากนี้วหยงก็ไม่มั่นใจฝ่ายธรรมะของภาคใต้
ตระกูลวูเป็นผู้นําฝ่ายธรรมะของภาคใต้ วูหยงเติบโตขึ้นภายใต้ปีกของวตู้ซิ่ว แล้วเขาจะไม่เห็นจุดอ่อนของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ได้อย่างไร
ทุกกองกําลังล้วนมีเป้าหมายของตนเอง มันเต็มไปด้วยความขัดแย้งและไม่พอใจ ไม่มีผู้ใดสามารถหลอมรวมพวกเขาให้เป็นหนึ่งเดียว
กระทั่งวซิวจะยังมีชีวิตอยู่และทํางานร่วมกับวุหยง พวกเขาก็ยังไม่สามารถเป็นผู้นําที่แท้จริง
วูหยงสามารถจินตนาการได้ว่าในวันที่พวกเขาลงมือ ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะระแวงกันเองพวกเขาจะหาข้ออ้างและปฏิเสธที่จะเป็นคนแรกที่ดําเนินการ พวกเขาจะต่อสู้เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น แล้วกองกําลังเช่นนี้จะสามารถจัดการคนเจ้าเล่ห์เช่นฟางหยวนได้อย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่มีเพียงตระกูลจื่อเท่านั้นที่ถูกฟางหยวนปล้นสะดม แหล่งทรัพยากรของตระกูลอื่นไม่ถูกแตะต้อง ด้วยความปั่นปวนของเส้นโลหิตปฐพี พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อแย่ง ชิงแหล่งทรัพยากรที่เกิดใหม่ แล้วตระกูลเหล่านี้จะทุ่มเทความพยายามกับการจัดการฟางหยวนงั้นหรือ?
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าฟางหยวนจะสังเกตเห็นสิ่งนี้ ดังนั้นเขาจึงปล้นทรัพยากรของตระกูลจื่อเท่านั้น!
หัวใจของวูหยงจมดิ่งลง
ในแง่นี้ วูหยงต้องการให้ฟางหยวนทุ่มสุดตัวและทําให้ทุกตระกูลตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถแต่ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป เขามุ่งเป้าไปที่ตระกูลจือเพียงตระกูลเดียว
หากวูหยงรู้ว่าฟางหยวนไม่เพียงปล้นสะดมทรัพยากรของตระกูลจือแต่ยังทําธุรกรรมกับพวกเขาอย่างลับๆ เขาจะคิดอย่างไร?
หลังจากเดินไปเดินมาสักพัก วุหยงก็ตัดสินใจ “ข้าควรติดต่อวังสวรรค์ ข้าควรใช้พวกเขาจัดการฟางหยวน!”
นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลําบาก
แม้มันจะเป็นทางเลือกที่ฉลาด แต่ในห้าภูมิภาคยกเว้นทะเลตะวันออกมีอคติต่อคนต่างถิ่นภาคใต้ก็เช่นกัน
หากกองกําลังของภาคใต้รู้ว่าวหยงร่วมมือกับกองกําลังของภูมิภาคอื่นและนําคนนอกเข้ามางเกี่ยวกับเรื่องภายในของภาคใต้ เขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม้เขาจะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวและเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
อาจกล่าวได้ว่าวุหยงกําลังเสียง หากเขาถูกเปิดเผย ตําแหน่งที่ได้เปรียบในปัจจุบันของตระกูลวจะถูกทําลาย
“โอ้ วุหยงติดต่อข้างั้นหรือ? มันต้องเป็นเพราะปีศาจฟางหยวน” เทพธิดาอเว่ยที่กําลัง พักผ่อนเผยรอยยิ้มและตอบกลับ
วูหยงมีสถานะพิเศษ เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูล แต่การสร้างความร่วมมือกับวังสวรรค์ก็กลายเป็นจุดอ่อนของเขาไปแล้ว
ทั้งสองพูดคุยกันเกี่ยวกับของฟางหยวน
เทพธิดาอเว่ยคิด “ดังคาด ฟางหยวนมีวิญญาณท่องแดนอมตะขณะที่ข้าเปิดเผยทักษะของเขาในสวรรค์สีเหลือง นั่นทําให้วหยงตื่นตัวมาก เขาต้องการกําจัดฟางหยวนแม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม
วังสวรรค์ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก
ไม่นานมานี้พวกเขาล้มเหลวในการบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา วิญญาณสติปัญญากนําออกไปโดยฟางหยวนที่หลบหนีได้สําเร็จ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้รับการปกป้องโดยถ้ําสวรรค์นิรันดร ขณะที่จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเสียชีวิต เฉินอี้ เทพธิดาจื่อเว่ย และฟงจิวเก้อได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่ง ตอนนี้พวกเขากําลังพักฟื้น
แต่ถึงกระนั้นหลังจากได้ยินคํากล่าวของวุหยงเทพธิดาจื่อเว่ยยังตกลงสร้างความร่วมมือโดยป ราศจากความลังเล
ฟางหยวนต้องตาย!
แม้เขาจะมีวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ด แต่วังสวรรค์มีวิธีจัดการวิญญาณอมตะดวงนี้
กระทั่งพวกเขาจะล้มเหลวในการสังหารฟางหยวน ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถกดดันและไม่ให้เวลาฟางหยวนเติบโตต่อไป นั่นจะเป็นความสําเร็จของวังสวรรค์
การเติบโตของฟางหยวนรวดเร็วเกินไป สิ่งนี้เกิดจากอิทธิพลของเจตจํานงสวรรค์ ในอดีตทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว เขาจะมีพัฒนาการที่น่าตกใจ แม้เราจะล้มเหลวในการฆ่าเขา แต่เราก็ต้องทําให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มีเวลาฝึกฝน หากเขามีวิธีการใหม่ๆ เราต้องเปิดเผยไฟตายทั้งหมดของเขาออกมา!”
เพื่อไล่ล่าฟางหยวน เทพธิดาจอเว่ยทุ่มเทความพยายามเป็นอย่างมาก แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเกือบถูกนางฉกชิงไป
แต่ตัวฟางหยวน?
เขายังท่องเที่ยวอยู่ในโลกอย่างอิสระ
วังสวรรค์มีความได้เปรียบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซ่อมแซมวิญญาณชะ ตากรรมการดูแลเทพอมตะแห่งความฝัน หรือการคุมขังเทพปีศาจจิตวิญญาณ ฟางหยวนไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขา
แต่ในส่วนลึกของหัวใจ เทพธิดาอเว่ยรู้สึกหวาดกลัวและไม่สบายใจ
ถูกต้อง นางกลัวฟางหยวน!
ฝ่ายธรรมะของภาคใต้กําลังจะจัดการฟางหยวน นี่เป็นโอกาสที่ดี ลืมแผลเก่าไปซะ ข้าต้องทํามสุดตัวเพื่อฆ่าฟางหยวน! ความมุ่งมั่นปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง
ฝ่ายธรรมะของภาคใต้กําลังวางแผนต่อต้านฟางหยวน แต่ด้วยการเคลื่อนไหวของ หยงเมื่อถึงเวลาสําคัญ วังสวรรค์จะปรากฏตัวขึ้นและโจมตีฟางหยวนด้วยพลังทําลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว!
น่าเสียดายที่ฟางหยวนคาดเดาสิ่งนี้ไว้แล้ว
หลังจากทําธุรกรรมกับจอชิวหยู เขาเริ่มเก็บตัวและสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน
นี่คืออาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งกาลเวลา
ภายในอาณาจักรแห่งความฝันนี้ ฟางหยวนเป็นชายชรา เขาเป็นตัวละครหลักที่มีการบ่มเพาะ
ระดับสี
ตอนนี้เขาถูกปิดล้อมโดยผู้ใช้วิญญาณห้าหรือหกคนด้วยการแสดงออกที่ไม่เป็นมิตร
“ท่านไปเหลียน นี่คือค่ารักษาล่วงหน้า โปรดตามเรามา” หัวหน้ากลุ่มผู้ใช้วิญญาณที่มีการบ่มเพาะระดับสมองฟางหยวนและข่มขู่
ฟางหยวนตรวจสอบวิญญาณที่อยู่ในทะเลวิญญาณของเขา พวกมันล้วนเป็นวิญญาณสายสนับสนุนที่ไม่สามารถรักษา นั่นทําให้ฟางหยวนต้องเปิดปากถาม “ข้าไม่ใช่หมอ เหตุใดต้องสร้า งปัญหาให้ข้า?”
อีกฝ่ายตอบ “ฮิม! ท่านจะไปหรือไม่? ท่านกล้าท้าทายคําขอของตระกูลเมิ้งปี้งั้นหรือ? เรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับท่าน อย่ากังวล เราขอให้ท่านไปเพราะความสามารถของท่าน เรารู้ว่าท่านสามารถรักษานายท่านเติ้ง” มาเถอะ อย่าให้เราต้องใช้กําลังบังคับ”
“เอาล่ะ โปรดนําทาง” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น
ภายใต้การนําทางของพวกเขา ฟางหยวนมาถึงตระกูลเฉิงและได้พบกับเมิ้งปี้ในที่สุด
เขานอนอยู่บนเตียงด้วยร่างกายซูบผอมขณะที่เขาครวญครางอย่างอ่อนแรง
สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? เขาเป็นโรคใด?” ฟางหยวนสอบถาม
คนรับใช้กล่าวขณะสะอึกสะอื้น “นายท่านของข้าแข็งแรงมาตลอด ผู้ใดจะคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นท่านล้มปวยเพราะพ่อค้าไร้ยางอายผู้นั้น ท่านซื้อวิญญาณข้อความวารีเพราะพ่อค้าบอกว่าวิญญาณดวงนี้จะทําให้ท่านเขียนบทกวีได้ราวกับน้ําไหล นายท่านถูกคนนอกวิจารณ์มาตลอดว่าท่านมีเพียงมัดกล้ามเนื้อแต่ไม่มีไหวพริบทางวรรณกรรม ด้วยเหตุนี้ท่านจึงซื้อวิญญาณข้อความวารีด้วยราคาสูงมาก”
“ปัญหาอยู่ที่วิญญาณข้อความวารีนั้นหรือ?” ฟางหยวนถาม
คนรับใช้พยักหน้า “คืนนั้นนายท่านใช้วิญญาณข้อความวารีอย่างไม่มีปัญหา ท่านเขียนบทกวีอย่างมีความสุข ท่านสามารถเขียนบทกวีได้มากถึงห้าสิบหรือหกสิบบท อย่างไรก็ตามในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร นายท่านเริ่มมีอาการท้องร่วง มันไหลเหมือนสายน้ํา ท่านต้องวิ่งเข้าสุขากว่ายี่สิบครั้ง แม้จะมีร่างกายที่แข็งแรง แต่หลังจากหนึ่งวันท่านก็อยู่ในสภาพนี้”
ฟางหยวนเข้าใจในที่สุด
วิญญาณข้อความวาไม่ใช่ปัญหา แต่การใช้มากเกินไปทําให้เกิดอาการท้องร่วง ไม่มีผู้ใดสามารถจัดการกับผลข้างเคียงนี้
การเร่งรีบมักนําไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย นี่เป็นเรื่องธรรมดา การใช้วิญญาณมีความเสี่ยง เพิ่งนี้ทําร้ายตัวเองอย่างแท้จริง
“ตระกูลเฉิงคิดถูกที่เชิญข้ามา ข้ามีวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มันอาจไม่สามารถรักษาอาการเจ็บปวด แต่ในสถานการณ์นี้พวกมันเหมาะสมที่จะรักษาเมิ้งปี้” ฟางหยวนคิด