เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1598 ลืม
อาณาจักรแห่งความฝันมาถึงฉากที่สี่
“ข้าฆ่าหลี่ซิ่นแล้ว” ฟางหยวนกล่าว
ชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้าฟางหยวนพยักหน้า “ดูเหมือนเจ้าจะเชี่ยวชาญท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาแล้ว แต่เจ้าได้เรียนรู้ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับหกเท่านั้น ต่อไปข้าจะสอนท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับเจ็ดให้เจ้า ฟังให้ดี”
ฟางหยวนตั้งใจฟังและจดจํามันเอาไว้
ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับเจ็ดซับซ้อนกว่าระดับหกหลายเท่า
ฟางหยวนรู้สึกปวดหัวเพียงเมื่อได้ฟังขั้นตอนของมัน นี่เป็นท่าไม้ตายที่ซับซ้อนที่สุดที่เขาเคยได้ยิน
ชายชรากล่าวอีกครั้งก่อนจะจากไป “หลังจากประสบความสําเร็จในการเรียนรู้ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับเจ็ดเรียบร้อยแล้ว จงมาหาข้า”
ฟางหยวนถูกทิ้งไว้เพียงลําพังในอาณาจักรแห่งความฝัน
“ดูเหมือนข้ายังต้องฝึกฝนขั้นตอนที่สี่ของท่าไม้ตายนี้”
หลังจากทําความเข้าใจ ฟางหยวนก็เริ่มฝึกฝนอย่างหนักอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน
แม้ท่าไม้ตายนี้จะซับซ้อนมากและควบคุมได้ยากแต่ฟางหยวนไม่ขาดความอดทน
บุคลิกของเขาถูกหลอมจนกลายเป็นเหล็กสีดําตั้งแต่ชีวิตแรกและด้วยการกลั่นแกล้งของโชคชะตา เขาจึงกลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยมุ่งมั่นและแน่วแน่มาก
ความพ่ายแพ้เล็กๆน้อยๆไม่ทําให้เขารู้สึกท้อแท้หรือต้องการยอมแพ้
ขณะที่ฟางหยวนสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน ในมิติช่องว่างจักรพรรดิร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขากําลังนั่งอนุมานอยู่ด้านหน้าวิญญาณสติปัญญา
เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาเปิดเปลือกตาขึ้นและพึมพํา “การอนุมานค่ายกลวิญญาณอมตะเรียบร้อยแล้ว ต่อไปข้าจะอนุมานท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา”
แท้จริงแล้วมันค่อนข้างแปลก
ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาทรงพลังมากแต่เหตุใดมันไม่ถูกบันทึกไว้ในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ?
หลังจากทั้งหมดอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งกาลเวลานี้มาจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ โดยทั่วไปมันควรจะถูกบันทึกไว้ในมรดกที่แท้จริงของเขา อย่างไรก็ตามมันกลับไม่มีเนื้อหาดังกล่าว
“เรายังไม่สามารถอนุมานตําแหน่งของฟางหยวนอีกงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ยกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ที่อยู่ตรงหน้านางเงียบและแสดงออกด้วยใบหน้าที่น่าเกลียด
เนื่องจากฟางหยวนทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของรอยแยกปล้นเงาและนําอาณาจักรแห่งความฝันไปก่อนหน้านี้ ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงรวมตัวกันและจัดตั้งกลุ่มไล่ล่าฟางหยวน
ผู้นําของกลุ่มนี้คือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ย เซี่ยชา
เซี่ยชาเป็นหญิงชราผมขาวที่มีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า อย่างไรก็ตามแม้นางจะแก่แล้วแต่นางยังเจ้าอารมณ์ สายตาของนางกวาดไปทั่วและปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมากดดันผู้คนทั้งหมด
กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ก้มหน้าลง
ผู้ใดจะไม่ต้องการค้นหาฟางหยวน? แต่เขามีเกราะราชันภูตปกป้องอยู่ กระทั่งผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์เทพธิดาจื่อเว่ยยังไม่สามารถทําสิ่งใดโดยไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะภาคใต้ที่รวมตัวกันอย่างเร่งรีบกลุ่มนี้
แน่นอนว่าฝ่ายธรรมะของภาคใต้มีรากฐานที่ไม่ธรรมดาและไม่ควรมองข้าม แต่คนเหล่านี้ต้องการเบาะแสเพิ่มเติมเพื่ออนุมานตําแหน่งของฟางหยวน
ด้วยเบาะแสที่เพียงพอ พวกเขาจะสามารถใช้วิธีการต่างๆและรวมมือกันทําลาย การป้องกันของเกราะราชันภูต
แม้เกราะราชันภูตจะแข็งแกร่งแต่เมื่อมันถูกโจมตีด้วยการอนุมานอย่างต่อเนื่อง มันจะถูกทําลายในที่สุด
เซี่ยชาเข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน “สารเลวฟางหยวน หลังจากรอยแยกปล้นเงา เขาก็หายตัวไปในอากาศ!”
แรงกดดัน
ตราบเท่าที่ฟางหยวนยังมีชีวิต ในฐานะผู้นํากลุ่มไล่ล่า ชื่อเสียงของนางจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตระกูลของนางจะพบกับช่วงเวลาที่ยากลําบากไปพร้อมกัน
“ปีศาจฟางหยวนเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆ เขาต้องสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันและรับผลประ โยชน์จากมัน! เราต้องกําจัดเขาอย่างรวดเร็วที่สุด มิฉะนั้นเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง!” เซี่ยชากล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว “ทุกคน หากมีไพ่ตายใด จงใช้มันออกมา ข้าสาบานด้วยชื่อของข้าว่าข้าจะชดเชยให้พวกเจ้าอย่างยุติธรรม”
ผู้อมตะภาคใต้มองหน้ากันแต่ไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว
เซี่ยชารู้สึกผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ นางกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะหยุดอยู่ที่คนผู้หนึ่ง “หลิวห่าว ข้าสงสัยว่าเจ้ามีวิธีการที่ยอดเยี่ยมใดหรือไม่?”
หลิวห่าวตะลึง
เขาเป็นชายร่างสูงในชุดคลุมสีเขียวและมีเคราแพะ ใบหน้าของเขาเป็นสีเหลือง เขาเป็นตัวแทนของตระกูลวู
เนื่องจากความวุ่นวายก่อนหน้านี้ มันทําให้ผู้อมตะจํานวนมากของตระกูลรูเสียชีวิต ดัง นั้นพวกเขาจึงต้องรับผู้อมตะภายนอกเข้าสู่ตระกูลในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดนอก หลิวห่าวเป็นหนึ่งในนั้น
แต่ความจริงก็คือเขาเป็นสายลับของภาคกลางที่ถูกส่งมาโดยเทพธิดาจื่อเว่ยภายใต้การจัดการของวูหยง
เชี่ยชาคุ้นเคยกับผู้อมตะคนอื่นๆยกเว้นหลิวห่าว ฉากหน้าเขาแสดงเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและไม่มีชื่อเสียงมากนัก
หลิวห่าวตอบสนองด้วยการเผยรอยยิ้มขมขื่น “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้าไม่สามารถทําสิ่งใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้อมูลของเรามีน้อยเกินไป ในความคิดเห็นของข้า เราไม่ได้อ่อนแอ ปัญหาคือเราไม่มีเบาะแสที่สําคัญ”
“ถูกต้อง!”
“หลิวห่าวกล่าวได้ถูกต้อง!”
คํากล่าวของหลิวห่าวสะท้อนความคิดของทุกคนที่อยู่ที่นี่
เซี่ยชารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่นางไม่มีข้อสงสัยเพราะตระกูลวและฟางหยวนมีความขัดแย้งกันอย่างลึกซึ้ง
“ตอนนี้เราควรทําอย่างไร? เราจะรอต่อไปหรือไม่? หากฟางหยวนไม่ปรากฏตัว พวกเราก็ไม่สามารถทําสิ่งใดและต้องรอให้เขาออกมางั้นหรือ?”
เซี่ยชาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และรู้สึกปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ในจังหวะนี้เสียงลึกลับสายหนึ่งกลับดังขึ้น “ข้าสามารถช่วยเรื่องนี้”
“ผู้ใด?” กลุ่มผู้อมตะตกใจ กระทั่งเซี่ยชายังยืนขึ้น
ผู้อมตะลึกลับที่สวมหมวกทรงกรวยปรากกฏตัวขึ้น หากเขาไม่เปิดปากกล่าวจะไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเขา
“เจ้าคือผู้ใด?” กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เตรียมพร้อมต่อสู้ บรรยากาศกลายเป็นยิ่งตึงเครียด
“เดี๋ยว! เจ้าคือ…” การแสดงออกของผู้อมตะตระกูลไท่เปลี่ยนไปขณะที่เขาหยุดกลุ่มผู้อมตะ
“ถูกต้อง ข้าคือลั่วเว่ยหยิน” ผู้อมตะลึกลับตอบอย่างตรงไปตรงมาด้วยรอยยิ้ม
อาณาจักรแห่งความฝัน
ชายชราพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับเจ็ด เจ้าเชี่ยวชาญมันแล้วจริงๆ!”
ฟางหยวนป้องหมัดขึ้น “ข้าจะไม่ทําให้ท่านผิดหวัง”
ชายชราพยักหน้า “ดูเหมือนเจ้าจะมีความสามารถในด้านนี้ ดีมาก การแก้แค้นของตระกูลมีความหวังในที่สุด แต่ข้ามีเรื่องที่ต้องบอก”
“โปรดชี้แนะ”
“ประการแรก…” ชายชราชนิ้วชี้ข้างขวาขึ้น “ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับหกสามารถสังหารผู้อมตะระดับเจ็ดแต่ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับเจ็ดไม่สามารถสังหารผู้อมตะระดับแปด ระดับเจ็ดกับระดับแปดแตกต่างกันเกินไป แม้เจ้าจะเชี่ยวชาญท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับเจ็ดแล้ว เจ้าก็อย่าคิดที่จะออกไปแก้แค้นศัตรูในเวลานี้ เจ้าเป็นผู้อมตะระดับหก มันเพียงการรนหาที่ตายเท่านั้น”
“ประการที่สอง…” ชายชราชูนิ้วกลางข้างขวาขึ้น “เจ้าเป็นผู้อมตะระดับหก การใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดเป็นเรื่องยาก เจ้าต้องยกระดับการบ่มเพาะของเจ้าให้ถึงระดับเจ็ดหรือระดับแปด! เมื่อการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้น เจ้าจะสามารถเรียนรู้ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับแปด ด้วยท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาระดับแปด เจ้าจะสามารถแก้แค้น แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าต้องอดทน!”
“ประการที่สาม…” ชายชราชูนิ้วนางข้างขวาขึ้น “ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาเป็นท่าไม้ตายที่ทรงพลังมาก แต่มันก็มีข้อเสียที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งระดับสูงขึ้น ข้อเสียของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เจ้าควรตระหนักถึงมันแล้วถูกต้องหรือไม่? ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาจะลบความทรงจําที่เกี่ยวกับมันของ เจ้ายิ่งเจ้าใช้มันมากเท่าใด เจ้าก็จะลืมมันมากเท่านั้น วันหนึ่งเจ้าจะลืมข้าลืมศัตรู และลืมกระทั่งท่าไม้ตายนี้ ดังนั้นก่อนที่เจ้าจะลืมทุกสิ่ง เจ้าต้องควบคุมตนเองและไม่ใช้มันมากเกินไป”