เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1627 ความหวาดกลัวของจื่อเว่ย

บทที่ 1627 ความหวาดกลัวของจื่อเว่ย

บทที่ 1627 ความหวาดกลัวของจื่อเว่ย

“เป็นไปได้อย่างไร? นี่เป็นไปได้อย่างไร…” เมื่อเทพธิดาจื่อเว่ยได้ยินข่าว นางกลายเป็นมึนงง

ฟางหยวนไม่เพียงสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติและกลายเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่เขากระทั่งวางกับดักในเทือกเขาห้าภูมิภาคและจับกุมผู้อมตะของวังสวรรค์จวินเฉินกวง

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้ว่าผู้อมตะของภาคใต้ถูกฟางหยวนจับตัวไปก่อนหน้านี้แต่นางไม่เคยคิดว่าชะตากรรมเดียวกันจะเกิดขึ้นกับวังสวรรค์ของนางอย่างรวดเร็วเช่นนี้

ผู้อมตะของวังสวรรค์ถูกจับทั้งเป็น!

สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ทันทีที่เทพธิดาจื่อเว่ยได้ยินเรื่องนี้ มันทําให้นางคิดไปถึงความสําเร็จอันน่าประทับใจของเทพปีศาจหลายคนโดยไม่รู้ตัว

คิ้วของนางขมวดแน่นด้วยความกังวล

แม้นางจะประเมินฟางหยวนเอาไว้ค่อนข้างสูงแต่การเติบโตของเขายังเหนือกว่าความคาดหมายของนางไปไกลมาก

“ตั้งแต่ฟางหยวนมีเกราะหวนคืน เขาก็สร้างปัญหาไปทั่ว ตอนนี้เขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปดและได้รับท่าไม้ตายอมตะของเชียชา โดยไม่คํานึงถึงเทือกเขาห้าภูมิภาคที่ทําให้ศัตรูของเขาอ่อนแอลง แต่เขาก็ยังเป็นภัยคุกคามของผู้อมตะวังสวรรค์!”

เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ

นางอนุมานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ผู้ใดจะคิดว่าความก้าวหน้าของฟางหยวนจะรวดเร็วเช่นนี้

“ความก้าวหน้าของฟางหยวนรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ มันกําลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ แต่เหตุใดเขาถึงกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดได้โดยไม่เกิดความโกลาหล?”

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่เข้าใจ

นางคิดมาเสมอว่าความก้าวหน้าที่รวดเร็วของฟางหยวนมาจากวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ช่วยเพิ่มความเร็วในมิติช่องว่างของเขา

“แท้จริงแล้วมันคือสิ่งใด?”

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่คาดเดาอีกต่อไปแต่เร่งไปหาเทพปีศาจจิตวิญญาณ

ค่ายกลวิญญาณอมตะทํางานอย่างหนักหน่วงก่อนที่เทพธิดาจื่อเว่ยจะกลับวิหารของนางด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน

“วิญญาณทารกอมตะ! มิติช่องว่างจักรพรรรดิ มันเป็นเช่นนี้!” เทพธิดาอเว่ยพึมพํากับตนเองด้วยความมึนงง

ความทะเยอทะยานของเทพปีศาจจิตวิญญาณทําให้นางตกใจ

สิ่งที่ทําให้นางหวาดกลัวมากขึ้นคือวิญญาณทารกอมตะอยู่ในมือของฟางหยวน!

ความขมขื่นที่รุนแรงเกาะกุมหัวใจของนางในเวลานี้

เทพปีศาจจิตวิญญาณซ่อนมันไว้ลึกเกินไป!

หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนเปิดเผยเบาะแสในครั้งนี้และทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกสงสัย นางจะยังถูกขังอยู่ในความมืด “ไม่แปลกใจเลยที่ฟางหยวนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว! ครั้งนี้เขาต้องกลืนกินมิติช่องว่างของผู้อมตะภาคใต้เพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติและกลายเป็นผู้อมตะระดับแปด”

“เขาสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะของเซี่ยชาและเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆ นั่นหมายความว่าเขากลืนกินมิติช่องว่างของนางไปแล้ว นี้ยังเป็นเหตุผลที่เขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากพอที่จะขยายพลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเหล่านั้น”

“มิติช่องว่างที่ใหญ่กว่าสามารถกลืนกินมิติของว่างที่เล็กกว่า นี่เป็นเรื่องปกติ แต่มิติของว่างจักรพรรดิพิเศษมาก มันสามารถกลืนกินกระทั่งถ้ำสวรรค์ของผู้อมตะระดับแปดเซี่ยชาที่เป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ ฟางหยวนทําได้อย่างไร?”

“เดี๋ยว!”

ใบหน้าของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นน่าเกลียด เบาะแสมากมายปรากฏขึ้นในใจของนางและปัดเป่าความสับสนก่อนหน้าออกไปทั้งหมด

“ฟางหยวนมีวิธีบนเส้นทางแห่งความฝันและสามารถยกระดับความสําเร็จผ่านอาณาจักรแห่งความฝัน!”

“ไม่แปลกใจเลยที่เขาปล้นอาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขาต้องมาจากอาณาจักรแห่งความฝันอย่างแน่นอน!”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กระทั่งเทพธิดาจื่อเว่ยที่มีสถานะสูงส่งและมีประสบการณ์มากมายยังต้องอ้าปางค้าง

ฟางหยวนมีมิติช่องว่างที่สามารถกลืนกินมิติช่องว่างอื่นเพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติ

อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการกลืนกินมิติช่องว่างของผู้อื่นคือระดับความสําเร็จ

เป็นเรื่องยากที่คนผู้หนึ่งจะยกระดับความสําเร็จ โดยทั่วไปพวกเขาต้องใช้เวลาหลายร้อยปีหรือหลายพันปี แต่ฟางหยวนสามารถยกระดับความสําเร็จด้วยการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน

ด้วยวิธีนี้ การบ่มเพาะของเขาจะพุ่งสูงขึ้นด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว เรื่องเช่นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของมวลมนุษยชาติ!

“ไม่ หากกล่าวให้ถูกต้อง คนที่น่ากลัวที่สุดคือเทพปีศาจจิตวิญญาณ ฟางหยวนเป็นเพียงตัวหมากของเจตจํานงสวรรค์ที่ทําลายแผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันเป็นเพียงเพราะเขาสามารถหลบหนีจากการควบคุมของเจตจํานงสวรรค์ในตอนท้ายเท่านั้น”

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกหนาวเย็นไปถึงแกนกระดูก

วังสวรรค์สามารถจับกุมเทพปีศาจจิตวิญญาณขณะที่เทพธิดาจื่อเว่ยมักทรมานและค้นวิญญาณเพื่อดึงข้อมูลสําคัญออกมาจากเขาเสมอ

แต่ถึงกระนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ

หากเทพปีศาจิตวิญญาณประสบความสําเร็จ เขาจะสามารถกลืนกินมิติของว่างของนิกายเงาและกองกําลังพันธมิตรผีดิบและกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดทันที

เทพปีศาจจิตวิญญาณจะมีพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว

เมื่อสงครามห้าภูมิภาคเริ่มขึ้น อาณาจักรแห่งความฝันจะปรากฏขึ้นทุกหนทุกแห่ง เทพปีศาจจิตวิญญาณจะก้าวต่อไปข้างหน้า ความทะเยอทะยานของเขาสามารถสัมผัสได้จากท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝัน เขาเตรียมการเอาไว้มากมาย กระทั่งเมล็ดพันธุ์เทพอมตะเช่นฟงจินฮวงก็อาจไม่มีโอกาสเติบโต

“โชคดีที่เขาไม่สามารถฝ่าฟันช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไปได้ ปัจจุบันฟางหยวนกําลังเข้าแทนที่เขา อาจกล่าวได้ว่าเขาไม่ประสบความสําเร็จแต่ก็ไม่ล้มเหลวอย่างสมบูรณ์”

เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้วลึกเมื่อคิดถึงฟางหยวน

“ฟางหยวนไม่สนใจผู้อมตะภาคใต้แต่ให้ความสําคัญกับการจับกุมจวินเฉินกวง การกระทําของเขาคล้ายกับข้าที่พยายามค้นวิญญาณเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาต้องการค้นหาที่ตั้งของวังสวรรค์จากจวินเฉินกวงงั้นหรือ?”

“โอ้ ไม่ สายธารแห่งกาลเวา!” เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพธิดาจื่อเว่ยตระหนักถึงบางสิ่ง

สายธารแห่งกาลเวลา

จากภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ฟางหยวนมองสายธารแห่งกาลเวลาอยู่อย่างเงียบๆ

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะที่มีวิญญาณท่องแดนอมตะเป็นแกนกลางเพื่อหลบหนีออกจากสนามรบ

จากนั้นเขาก็เข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลา

ตอนนี้จวินเฉินกวงกําลังถูกค้นวิญญาณอยู่ในมิติช่องว่างของเขา

รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้

ฟางหยวนต้องการข้อมูลการจัดเตรียมของวังสวรรค์ในสายธารแห่งกาลเวลา

“ข้าซุ่มโจมตีที่เทือกเขาห้าภูมิภาคและต่อสู้ในศึกใหญ่ แม้ข้าจะสามารถจับจวินเฉินกวง แต่ข้าก็เปิดเผยข้อมูลมากเกินไป

ฟางหยวนไม่ต้องการให้วังสวรรค์มีเวลาตอบโต้ ดังนั้นเขาจึงเดินทางมายังสายธารแห่งกาลเวลาอย่างรวดเร็ว

ลั่วเว่ยหยินผู้นี้ไม่ธรรมดา เขาเคลื่อนไหวในเวลาที่เหมาะสม เขาปรากฏตัวในจังหวะสําคัญและสามารถช่วยผู้อมตะระดับเจ็ดได้ทันเวลา เขาต้องซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆมาตลอด”

“เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นคนมีเมตตา เขากู้คืนความสงบสุขให้กับโลกที่วุ่นวายจากยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากโดยเฉพาะภาคใต้เขาเป็นผู้อมตะระดับเก้าที่ได้รับการเคารพบูชามากที่สุด

“ในฐานะผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ลั่วเว่ยหยินรับสืบทอดชื่อเสียงของเขามาเช่นกัน คนผู้นี้กําลังต่อต้านข้า แต่เป้าหมายที่แท้จริงของเขาไม่ได้เรียบง่ายและยังซ่อนอยู่ในชั้นเมฆหมอก”

“น่าเสียดายที่ไม่มีบุคคลดังกล่าวอยู่ในความทรงจําของข้า”

ยิ่งคิดมากเท่าใด ฟางหยวนก็ยิ่งรู้สึกว่าความทรงจําของเขาไม่น่าเชื่อถือมากเท่านั้น

ฟางหยวนสายศีรษะและลืมลั่วเว่ยหยินไปชั่วคราว ตอนนี้เขานึกถึงมรดกของเต๋าจู

เขารู้สึกเสียดายมาก

มรดกที่แท้จริงของเต๋าจูต้องเกี่ยวข้องกับกําแพงภูมิภาคอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อกําแพงภูมิภาคหายไป งานวิจัยของเต๋าจูจะกลายเป็นเรื่องตลก

แต่หากคิดให้รอบคอบ เทือกเขาห้าภูมิภาคที่สามารถเลียนแบบพลังอํานาจของกําแพงภูมิภาคจะไม่สามารถใช้ป้องกันตัวได้งั้นหรือ?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับฟางหยวน กําแพงภูมิภาคถือเป็นอาณาเขตที่เขาได้เปรียบเป็นอย่างมาก

“น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ สถานการณ์ไม่อนุญาตให้ข้ารับมรดกนี้ ข้าพลาดมรดกที่แท้จริงของเต๋าจูไปอย่างน่าเสียดาย

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนไม่ต่ำต้อย เขามีลางสังหรณ์ว่าการพลาดโอกาสที่จะได้รับมรดกที่แท้จริงของเต๋าจูในครั้งนี้เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของเขา

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท