เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1630 กับดักเกาะบัวหิน

บทที่ 1630 กับดักเกาะบัวหิน

บทที่ 1630 กับดักเกาะบัวหิน

“แค่ก แค่ก” จางซุนจือนอนอยู่บนดาดฟ้าของนาวานิรันดร์ด้วยร่างที่เปียกโชก

ข้างเขา เซี่ยซุนจือหมดสติไปแล้ว อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมากสถานการณ์ของเขาค่อนข้างเลวร้าย

ผู้อมตะระดับแปดชิงเย่เดินออกมาและกล่าวกับจางซุนจือ “อีกสองคนถูกสายธารแห่งกาลเวลาพัดพาไป เราไม่พบพวกเขา”

จางซุนจือหอบหายใจสักพักก่อนจะบังคับตนเองให้ยืนขึ้น เขาชําเลืองมองเชียจุนซื้อก่อนกล่าวด้วยใบหน้าซีดขาว “พวกเขาตายแล้ว ปีศาจฟางหยวนแข็งแกร่งเกินไป การกอบกู้วิหารอดีตปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง?”

สี่ซุนจือเป็นพี่น้องฝาแฝดที่มีความสัมพันธ์ทางเลือดใกล้ชิด แต่ตอนนี้จางซุนจือกลับกังวลเกี่ยวกับวิหารอดีตปัจจุบันมากกว่าความตายของพี่น้อง! เขาไม่แม้แต่จะแสดงความโกรธหรือโศกเศร้าใดๆออกมา

ชิงเย่ยิ้ม “วิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางไม่ถูกทําลาย เรากู้คืนพวกมันเรียบร้อยแล้ว”

“ดี!” จางซุนจือสูดหายใจลึกขณะที่การแสดงออกของเขาผ่อนคลายลง

ชิงเย่พยักหน้า “ข้าเตรียมห้องให้เจ้าแล้ว”

จางซุนจือกล่าว “ขอบคุณมาก ข้าจะไปชุบชีวิตพี่น้องของข้าเดี๋ยวนี้!”

ปรากฏว่าสี่พี่น้องฝาแฝดมีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถชุบชีวิตอีกสามคน ตราบเท่าที่หนึ่งในสี่รอดชีวิต อีกสามคนจะถูกชุบชีวิต

นั่นเป็นเหตุผลที่จางซุนจือไม่รู้สึกโศกเศร้า

ครูต่อมาสี่ซุนจือก็กลับมายืนบนชั้นดาดฟ้าของนาวานิรันดร์โดยไม่มีอาการบาดเจ็บและกระทั่งพร้อมรบอีกครั้ง

กองทัพอสูรมีของฟางหยวนปิดล้อมนาวานิรันดร์และโจมตีมันจากทุกทิศทาง

สําหรับฟางหยวน เขากลับสู่ร่างเดิมและเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์เพื่อพักผ่อน

ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์หลังนี้ มันเป็นรากฐานที่มีประโยชน์มากสําหรับเขา

‘นาวานิรันดร์ไม่ได้ไล่ล่าพวกเรา…’ หลังจากออกจากสนามรบได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ฟางหยวน รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ความเร็วของคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ของฟางหยวนไม่สามารถเปรียบเทียบกับนาวานิรันดร์

เผชิญหน้ากับวิหารอดีตปัจจุบัน คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ไม่สามารถปก ปิดตัวตน แต่นาวานิรันดร์ไม่สามารถตรวจจับคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ มิฉะนั้นเหตุใดพวกเขาถึงไม่ไล่ล่าฟางหยวนด้วยข้อได้เปรียบด้านความเร็ว

“เราปลอดภัยชั่วคราว” อิงอู๋เชี่ยสูดหายใจลึกด้วยความรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้ มันค่อนข้างอันตราย”

“หากท่านผู้นําไม่ทําลายวิหารอดีตปัจจุบัน เราอาจติดอยู่ในการต่อสู้ที่ยากลําบากและไม่สามารถหลบหนี” เทพธิดาเมี่ยวหยินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ไป่หนิงปิงเงียบ

ไห่ลั่วหลันมองออกไปข้างนอก

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนขมวดคิ้ว เขาพยายามค้นหาเกาะบัวหินโดยใช้วิญญาณกาลเวลา แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง

ตามการอนุมานของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ยิ่งระดับของวิญญาณกาลเวลาสูงเท่าใด ระยะการตรวจจับของมันก็ยิ่งกว้างเท่านั้น

วิญญาณกาลเวลาของฟางหยวนเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก แม้เขาจะมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลามากมาย แต่ความพยายามหลายครั้งของเขาจบลงด้วยความล้มเหลว

นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าแต่ฟางหยวนทําเต็มที่แล้ว

สองสามเดือนที่ผ่านมา เขาใช้ความพยายามในการบ่มเพาะจิตวิญญาณ สํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน พัฒนาท่าไม้ตายอมตะ รีดไถฝ่ายธรรมะของภาคใต้ วางแผนสําหรับภาพรวม ป้องกันการอนุมาน กลืนกินมิติช่องว่าง และอื่นๆอีกมากมาย เขาใช้เวลาและพลังงานทั้งหมดแล้ว

มันถือเป็นปาฏิหารย์ที่เขายังมีเวลายกระดับวิญญาณกาลเวลาแม้จะล้มเหลวก็ตาม

‘แม้วิญญาณกาลเวลาจะเป็นวิญญาณอมตะระดับหก แต่ข้าชดเชยข้อบกพร่องด้านอื่นของมันแล้ว’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นด้วยความมั่นใจ

ฟางหยวนวางแผนมาเป็นอย่างดีก่อนจะเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลา เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชคเช่นผลาญวิญญาณระเบิดโชคหลายครั้งจนถึงขีดจํากัด

ในสายธารแห่งกาลเวลาอันกว้างใหญ่ การค้นหาเกาะบัวหินหนึ่งหรือสองเกาะขึ้นอยู่กับโชคเท่านั้น

“โฮก…”

เสียงคํารามของสัตว์ร้ายพลันดังขึ้น

“มีอสูรปีแรกกําเนิดสองตัวต่อสู้กันอยู่ข้างหน้า!” อิงอู๋เซี่ยแจ้งเตือน

หลังจากตรวจสอบอย่างใกล้ชิด พวกเขาตระหนักว่าอสูรปีแรกกําเนิดทั้งสองตัวต่อสู้กันมานานแล้วและอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมาก

ฟางหยวนหัวเราะ นี่อาจเป็นเพราะโชค

เขาบินออกจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์และกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยปลอมตัวเป็นส่วนหนึ่งของสายธารแห่งกาลเวลา

ต่อมาเขากระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะตกอสูรปี

อสูรปีแรกกําเนิดทั้งสองพบสิ่งผิดปกติและแข่งขันกันพุ่งเข้าหาฟางหยวน

พวกมันไม่พบศัตรูแต่พวกมันสัมผัสได้ถึงอาหารที่อยู่ในสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา

ทั้งสองไม่คิดมากและบุกเข้าสู่สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาทันที

แน่นอนว่ามันเชื่อมต่อกับมิติช่องว่างของฟางหยวน

หากเป็นก่อนหน้านี้ ฟางหยวนจะไม่กล้าล่อลวงอสูรปีแรกกําเนิดเข้าสู่มิติช่องว่างจัก รพรรดิ หากพวกมันเข้าไป พวกมันอาจทําลายล้างทรัพยากรที่อยู่ภายใน

แต่ตอนนี้แตกต่างออกไป ฟางหยวนมีสระแก่นแท้ปีถึงสองสระ!

สระแก่นแท้ปีเชื่อมต่อกับสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา มันเหมือนเขื่อนขนาดใหญ่

เมื่ออสูรปีแรกกําเนิดถูกล่อลวงเข้าไป พวกมันจะติดอยู่ในเขื่อนและไม่สามารถหลบหนี

ฟางหยวนหยุดใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะตกอสูรปีและกลับไปยังคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์

อสูรปีวอกแรกกําเนิดสองตัวที่ติดอยู่ในสระแก่นแท้ปีไม่พบอาหารแต่พวกมันก็ไม่สามารถกลับไปยังสายธารแห่งกาลเวลา

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งทาสกําหราบอสูรปีวอกแรกกําเนิดทั้งสองอย่างรวดเร็ว

คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างลับๆเพื่อค้นหาเกาะบัวหิน

ฟางหยวนพบอสูรปีมากมายระหว่างทาง เขารวบรวมพวกมันทั้งหมดโดยการล่อลวงพวกมัน เข้าสู่สระแก่นแท้ปีก่อนจะกําหราบพวกมัน

ในไม่ช้าอสูรปีแรกกําเนิดของฟางหยวนก็เพิ่มขึ้นเป็นหกตัว

อสูรปีเดียวดายและอสูรปบรรพกาลยิ่งมากกว่า

นอกจากอสูรปียังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆเช่นอสูรวัน อสูรเดือน หรือแมงมุมทมิฬ แต่ฟางหยวนไม่สนใจพวกมัน

สระแก่นแท้ปีแสดงคุณค่าของมันออกมาในครั้งนี้

ด้วยการคงอยู่ของสระแก่นแท้ปี มิติช่องว่างจักรพรรดิจะปลอดภัยมาก อสูรปีที่เดินทางเข้าสู่สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาจะถูกขังอยู่ในสระแก่นแท้ปีทั้งหมด

“เดี๋ยว!” เมื่อเวลาผ่านไปร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนก็เปิดเปลือกตาขึ้น

ดูเหมือนเขาจะพบบางสิ่ง

จากนั้นร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาก็ปิดเปลือกตาลงอีกครั้งและพยายามสัมผัสมัน

ต่อมาเขาชี้นิ้วไปยังทิศทางหนึ่ง “ดูเหมือนจะมีบางสิ่งอยู่ที่นั่น วิญญาณกาลเวลาเกิดปฏิกิริยาตอบสนองเล็กน้อย”

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากล่าวด้วยความไม่แน่ใจ

แต่นี่เป็นเบาะแสเดียวที่พวกเขามี ฟางหยวนบังคับคฤหาสน์วิญญาณอมตะเปลี่ยนทิศ

ยิ่งเดินทางไปเท่าใด ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาก็ยิ่งมีความสุขเท่านั้น “ความรู้สึกแข็งแกร่งขึ้น โชคของเราไม่เลว เราพบมันเร็วมาก!”

พวกเขาพบกลุ่มหมอกหนาทึบอยู่ข้างหน้า

คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์หยุดชั่วครู่ก่อนจะบินเข้าไปในกลุ่มหมอกหนาทึบโดยไม่ลังเล

กลุ่มหมอกเหล่านี้ไม่ธรรมดา มันสามารถทําลายการรับรู้ทิศทางและทําให้พวกเขาสับสน แต่ด้วยการชี้นําของวิญญาณกาลเวลา พวกเขาจึงสามารถเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ถูกต้อง

หมอกหนาทึบมากขึ้นเรื่อยๆ สายธารแห่งกาลเวลาเคลื่อนที่ช้าลง มันไม่ปั่นป่วนเหมือนด้านนอก

เงาของเกาะปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของฟางหยวนและคนอื่นๆในที่สุด

“เกาะบัวหิน! มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง!” อิงอู๋เซี่ยจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างและตะโกนเสียงดัง

ไปหนิงปิงและคนอื่นๆเริ่มหายใจอย่างเกรี้ยวกราดด้วยความตื่นเต้น

เมื่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ไปถึงรอบนอกของเกาะบัวหิน ลําแสงสีขาวสายหนึ่งก็พุ่งออกมาโจมตีคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์โดยไม่คาดคิด

“บึม!”

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เทพธิดาเมี่ยวหยินกรีดร้อง

“ไม่! นี่เป็นกับดัก!” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายแหลมคม แต่ตอนนี้มันสายไปแล้วที่จะหลบหนี

คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มันแทบไม่สามารถต่อต้านการโจมตีที่รุนแรงครั้งนี้

“ปีศาจ ข้ารอพวกเจ้าอยู่นานแล้ว!” ผู้อมตะระดับแปดปรากฏขึ้นบนเกาะบัวหิน

ในเวลาต่อมาท่าไม้ตายอมตะที่ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าก็พุ่งเข้าโจมตีคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์อีกครั้ง

“บึม!”

คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท