เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน

บทที่ 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน

บทที่ 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคใต้น้อย

“ครืน ”

พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่รัศมีแสงจากท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปฐพีจะส่องประกายขึ้น

เฉกเช่นดินโคลนที่ถูกบั้นด้วยมือขนาดใหญ่ ภูมิประเทศเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง พื้นที่ตรงกลางจมลงขณะที่แผ่นดินรอบๆยกตัวขึ้น สุดท้ายมันกลายเป็นเป็นหุบเขาทรงกลม

พื้นที่ตรงกลางถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทําให้เกิดสภาพแวดล้อมที่แยกตัวออกจากโลกภายนอก

ไม่มีพืชพรรณเติบโตขึ้นภายในพื้นที่แห่งนี้ กระทั่งดินยังหายากเพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยเหล็กสีขาว

นี่คือหุบเขาแก่นแท้เหล็กขาว

ฟางหยวนได้รับวิธีการผลิตแหล่งทรัพยากรนี้รวมถึงวัสดุในการก่อสร้างมาจากตระกูลเฉิง

หุบเขาแก่นแท้เหล็กขาวเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดกลางที่สามารถผลิตแก่นแท้เหล็กขาวทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด

ด้วยทรัพยากรอมตะชนิดนี้ ฟางหยวนจะสามารถเลี้ยงดูวิญญาณอมตะใบมีดระดับเจ็ด

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่พบทรัพยากรที่เป็นแหล่งอาหารของวิญญาณอมตะใบมีดจากมิติช่องว่างของไท่ชิวจง แต่หลังจากค้นวิญญาณของเขา ฟางหยวนตระหนักว่าเขาตั้งใจสร้างแหล่งทรัพยากรนี้และพึงต่อรองราคากับเฉิงหูจาง

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงรีดไถตระกูลเฉิงโดยตรงและสามารถสร้างหุบเขาแก่นแท้เหล็กขาวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

เมื่อภารกิจนี้เสร็จสิ้น ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนก็เดินทางไปยังภูเขาตงฮัน

ภูเขาคริสตัลสีชมพูที่สูงตระหง่านสร้างเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่

ฟางหยวนโยนแก่นแท้อสูรวิญญาณลงไปที่ภูเขาตงฮันก่อนที่มันจะสร้างผลึกหินตงฮันจํานวนมากขึ้นมา

ภูเขาตงฮันฟื้นตัวขึ้นจนแทบจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แล้ว

มันฟื้นตัวขึ้นเก้าสิบเก้าส่วน แต่นี่เพียงพอแล้ว ฟางหยวนจะไม่ฟื้นฟูมันอย่างสมบูรณ์แบบเนื่องจากวังสวรรค์รู้จักภูมิประเทศเดิมของมัน แม้วิญญาณท่องแดนอมตะจะอยู่ในมือของฟางหยวน แต่ไม่สามารถกล่าวได้ว่าวังสวรรค์จะไม่มีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถเลียนแบบพลังอํานาจของวิญญาณท่องแดนอมตะ

“หลังจากนี้ข้าจะสามารถผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวและเริ่มต้นธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้อีกครั้ง” ฟางหยวนถอนหายใจ

มันไม่ง่ายเลยที่จะก้าวมาถึงจุดนี้ ฟางหยวนต้องใช้พลังงานอมตะจํานวนมหาศาล!

ภูเขาตงฮันเคยถูกทําลายมาก่อน มันถูกทําลายโดยปบึงทําให้มันกลายเป็นบ่อโคลน อย่างไรก็ตามเวลานั้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของภูเขาตงฮันยังอยู่

แต่ครั้งนี้ฟางหยวนมีเพียงชิ้นส่วนเล็กๆของภูเขาตงฮันขณะที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณส่วนใหญ่ถูกทําลายไปพร้อมกับการระเบิดตัวเองของภูเขาตงฮัน

ในกระบวนการฟื้นฟูภูเขาตงฮันครั้งนี้ ฟางหยวนได้สัมผัสถึงพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าที่เทพปีศาจจิตวิญญาณเคยใช้กับมัน

ฟางหยวนจะไม่สามารถฟื้นฟูภูเขาตงฮันหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งนี้

“ด้วยธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว วังสวรรค์ไม่สามารถจํากัดรายได้ของข้าอีกต่อไป”

“แต่ด้วยแหล่งทรัพยากรมากมายที่ได้รับจากผู้อมตะภาคใต้ ข้าสามารถบ่มเพาะได้โดยไม่ต้องฟังธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว”

“ข้าควรใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเหล่านี้ในการบ่มเพาะจิตวิญญาณของตัวข้าเอง”

รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวนลดลงอย่างมากในเวลานี้

การยกระดับรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณอีกครั้งหมายความว่าฟางหยวนจะสามารถสะกดข่มทาสอสูรปีแรกกําเนิดได้มากขึ้น

น่าเสียดายที่แผนพัมนาทะเลทรายผีเขียวไม่ประสบความสําเร็จ ชิงโจวสามารถหลบหนี ตัวตนของซวนปู้จินถูกเปิดเผย ข้าไม่สามารถดําเนินแผนการล่าอสูรวิญญาณป่าได้อีก

“อย่างไรก็ตามข้าอาจขอความช่วยเหลือจากตระกูลฟาง..

ฟางหยวนพิจารณาถึงความเป็นไปได้

เขาต้องการบ่มเพาะจิตวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงต้องการวิญญาณความเด็ดเดี่ยวมากขึ้นและนั่นหมายความว่าเขาต้องใช้ดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตจํานวนมาก ดวงวิญญาณของผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถใช้ในเรื่องนี้ แก่นแท้อสูรวิญญาณยังเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

แต่เขาจะหาแก่นแท้อสูรวิญญาณมาจากที่ใด?

ราคาของแก่นแท้อสูรวิญญาณพุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยไม่ต้องสงสัยมันเป็นฝีมือของวังสวรรค์อย่างแน่นอน

ทะเลทรายตะวันตก ตระกูลฟาง

ห้องประชุม ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่

“ทุกคนดูจดหมายฉบับนี้” ชายชราที่มีผมขาวและเคราขาวเหมือนแผงคอราชสีห์กล่าว

เขาก็คือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง ฟางกง

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลฟาง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ ฟางตี้เฉิง ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สาม ฟางฮัวเฉิง รวมถึงฟางจื่อ ฟางเฉิน ฟางเล้ง และฟางหยุน ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่

พวกเขาอ่านข้อความและมีการแสดงออกที่แตกต่างกัน

ฟางเฉินกัดฟันกล่าว “ข้ารู้ว่าชวนจินไม่ใช่คนดี แต่ไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะเป็นฟางหยวนที่ปลอมตัวมา วังสวรรค์เปิดเผยตัวตนของเขาและตําหนิพวกเราว่าสมคบคิดกับปีศาจฟางหยวน ตระกูลของเราถูกกดดันโดยกองกําลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดเพราะปีศาจฟางหยวน! แต่เขายังต้องการให้เราจัดหาแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขา อืม เขากําลังฝันไป!”

ฟางเฉินแต่งงานเข้าสู่ตระกูลฟาง เขาเคยมีข้อพิพาททางวาจากับฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมมือกับปีศาจฟางหยวน

ผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งพิษฟางจื่อชําเลืองมองฟางเฉินและกล่าวเสียงเย็น “ฟางเฉิน นั่นหมายความว่าเจ้าต้องการปฏิเสธคําขอของฟางหยวนเช่นนั้นหรือ?”

ฟางเฉินตะลึง “ตระกูลฟางของเราต้องกลัวฟางหยวนงั้นหรือ? ตอนนี้กองกําลังฝ่ายธรรมะกําลังกดดันตระกูลฟางของเราโดยอ้างว่าพวกเราสมคบคิดกับสมาชิกฝ่ายปีศาจ หากเราทําข้อตกลงกับฟางหยวน พวกเขาจะมีข้ออ้างที่ยิ่งใหญ่เพื่อจัดการพวกเรา”

ฟางจื่อเงียบ

ในการเดินทางไปยังทะเลทรายผีเขียวคราวก่อน ตระกูลฟางสามารถเอาชนะผู้อมตะจากวังสวรรค์เฉินอี้และประสบความสําเร็จในการยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นพวกเขายังสามารถกําหราบสองผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ มันเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ของพวกเขา

แต่ในขณะที่พวกเขาได้กําไร ตระกูลฟางก็ต้องจ่ายราคามหาศาลเช่นกัน คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังของพวกเขาได้รับความเสียหายร้ายแรง นอกจากนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

ความแข็งแกร่งของตระกูลฟางลดลงอย่างมาก เมื่อวังสวรรค์เปิดเผยเรื่องนี้ ตระกูลฟางจึงพบกับแรงกดดันจากกองกําลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดของทะเลทรายตะวันตก

อย่างไรก็ตามพวกเขาจะปฏิเสธฟางหยวนได้จริงๆงั้นหรือ?

คําถามนี้ติดอยู่ในใจของผู้อมตะตระกูลฟางทั้งหมด

ตระกูลฟางสามารถปฏิเสธฟางหยวนหรือไม่?

พวกเขากําลังมีปัญหารอบด้าน แล้วพวกเขายังสามารถสร้างความขุ่นเคืองให้กับฟางหยวนในช่วงเวลาสําคัญเช่นนี้ได้อีกงั้นหรือ?

ปัจจุบันไม่มีผู้ใดในโลกไม่รู้ว่าฟางหยวนร้ายกาจและเจ้าเล่ห์มากเพียงใด นอกจากนั้นเขายังแข็งแกร่งมาก กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถจัดการเขา

คนผู้นี้ใช้ชีวิตอยู่เพียงลําพังโดยปราศจากโซ่ตรวนของญาติและคนรัก ไม่มีดินแดนหรือองค์กรใดที่เกี่ยวข้อง ตระกูลฟางไม่มีหนทางต่อรองกันเขา

ผู้อมตะตระกูลฟางเริ่มคิดถึงข้อมูลในอดีต ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปรอบๆเพื่อปล้นสะดมแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่อ

หากตระกูลฟางปฏิเสธฟางหยวน แล้วพวกเขาจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเช่นเดียวกับตระกูลจื่องั้นหรือ?

ตระกูลจื่อถูกฟางหยวนโจมตีโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกองกําลังอื่นของภาคใต้ หากเป็นตระกูลฟาง สถานการณ์ของพวกเขาจะยิ่งเลวร้ายมากกว่า

ไม่เพียงตระกูลฟางจะล้มเหลวในการขอกําลังเสริม แต่พวกเขาอาจถูกโจมตีซ้ำโดยกองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตก ตระกูลฟางจะกลายเป็นเผ่าไฟของภาคเหนือ ฐานทัพใหญ่ของพวกเขาจะถูกยึด ตระกูลของพวกเขาจะถูกทําลาย

“ฟางเล้ง ฟางหยุน พวกเจ้าคิดเห็นอย่างไร?” ฟางตี้เฉิงเปิดปากถาม

ฟางหยุนตะลึง พวกเขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก โดยปกติพวกเขาสามารถฟังอยู่ด้านข้างเท่านั้น พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวความคิดเห็นของตนในโอกาสเช่นนี้ “นี่ข้าไม่รู้ว่าควรทําอย่างไร? แต่ฟางหยวนเคยช่วยชีวิตข้า เขาเป็นผู้มีพระคุณของข้า ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่าพวกเราสร้างข้อตกลงกับเขาแล้วงั้นหรือ? มันไม่ควรจะเป็นปัญหาหากเราจะส่งแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขา อา…แน่นอนว่าข้าจะฟังการตัดสินใจของท่านพ่อ”

ใบหน้าของฟางตี้เฉิงมืดครื้มลงเล็กน้อย เขาชําเลืองมองบุตรชายบุญธรรมของตนก่อนจะหันหน้าไปทางฟางเล้ง

เปรียบเทียบกับฟางหยุนที่เจ้าเล่ห์ ฟางเล้งมีบุคลิกที่มั่นคงและได้รับการยอมรับจากผู้อมตะตระกูลฟางว่าเป็นความหวังในอนาคตของตระกูล

ฟางเล้งคิดก่อนกล่าว “ข้าสงสัยว่าทุกคนสังเกตเห็นหรือไม่ว่าฟางหยวนไม่ได้ใช้ชื่อซวนปู้จินในจดหมายฉบับนี้แต่ใช้ชื่อของเขาโดยตรง”

ฟางเฉินตะคอก “เพราะวังสวรรค์เปิดเผยตัวตนของเขาแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่ฟางหยวนจะใช้ตัวตนของซวนปู้จินอีก เขาอาจต้องการข่มขู่ตระกูลของเราโดยใช้ชื่อจริงของเขา เขาพยายามกล่าวว่าข้าคือฟางหยวน หากตระกูลฟางของพวกเจ้าไม่ปฏิบัติตามคําขอของข้า พวกเจ้าต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของข้า!”

ฟางเล้งยิ้ม “มีความหมายนี้อยู่จริงๆ ฟางหยวนมั่นใจว่าเขาสามารถสร้างปัญหาให้กับตระกูลฟางของเรา ข้าเชื่อว่าเขาสามารถทําได้ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเราควรยอมรับคําขอของฟางหยวน”

“อันใด!?” ฟางเฉินอุทานเสียงดัง

แต่ฟางตี้เฉิงโบกมือ “ปล่อยให้เขากล่าวต่อไป”

ฟางเฉินไม่กล้าพูดอีก

ฟางเล้งสูดหายใจลึกก่อนกล่าวต่อ “ทุกท่าน ตระกูลของเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยและได้รับแรงกดดันจากทุกสารทิศ เหตุผลเป็นเพราะพวกเราร่วมมือกับฟางหยวนจริงๆงั้นหรือ?”

“มันไม่ใช่กรณีนั้น! เหตุผลที่แท้จริงคือพวกเราได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเราดูดซับกําไรเรียบร้อยแล้ว ตระกูลฟางจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของทะเลทรายตะวันตก เราจะมีพลังและอํานาจ สิ่งสําคัญคือผลประโยชน์ การพุ่งทะยานขึ้นของตระกูลฟางเป็นการเหยียบย่ำกองกําลังอื่น นี่คือเหตุผลที่กองกําลังอื่นไม่สามารถอดทนและร่วมมือกันกดกันพวกเรา”

“หากตระกูลของเราไม่ตอบสนองคําขอของฟางหยวนและทําลายความสัมพันธ์กับเขา กองกําลังอื่นจะปล่อยเราไปหรือไม่? แน่นอนว่าไม่! ตรงข้าม เราจะกลายเป็นศัตรูของฟางหยวนที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด หากปีศาจตนนี้ต้องการแก้แค้น มันอาจทําให้เราปวดหัวอย่างไม่รู้จบสิ้น

“แต่ด้วยการทําตามคําขอของฟางหยวน ไม่เพียงพวกเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่ทําไว้ก่อนหน้านี้ พวกเรายังสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์และหยิบยืมความแข็งแกร่งของเขาเพื่อจัดการกองกําลังอื่นๆ”

“แน่นอนว่าเราจะส่งแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขาอย่างลับๆหลังจากพูดคุยกับเขาแล้ว เราสามารถทําตัวราวกับเราทําลายความสัมพันธ์กับเขาไปแล้วอย่างสิ้นเชิง จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเราสูญเสียแก่นแท้อสูรวิญญาณระดับหกและระดับเจ็ด? พวกมันเป็นเพียงทรัพยากร ตราบเท่าที่ตระกูลฟางของเราสามารถก้าวข้ามความยากลําบากในครั้งนี้ พวกเราจะไม่ขาดแคลนทรัพยากรในอนาคต”

ห้องประชุมตกลงสู่ความเงียบ

ฟางตี้เฉิงหัวเราะคิกคัก

ฟางกงหัวเราะอย่างเต็มที่ “ดี เราจะทําเช่นนี้ ฟางหยุน เจ้าติดต่อฟางหยวน”

“อา…” ฟางหยุนมีนงง เห็นได้ชัดว่าฟางเล้งเป็นคนวิเคราะห์และเสนอความคิดเห็น แต่เหตุใดเขาถึงเป็นคนดําเนินการ? อย่างไรก็ตามเมื่อมันเป็นคําสั่งของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ฟางหยุนก็ต้องทําตามเท่านั้น

“ฟางเล้งผู้นี้มีวิสัยทัศน์ที่ดี เขาสามารถมองเห็นภาพรวม ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งและสองพยายามเลี้ยงดูเขาให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลฟางในอนาคต คนเช่นนี้จะมีรอยแปดเปื้อนด้วยการสมรู้ร่วมคิดกับปีศาจได้อย่างไร? ดังนั้นฟางหยุนจึงต้องเป็นผู้ทําภารกิจนี้” ฟางเฉินชําเลืองมองฟางหยุนผู้โง่เขลาด้วยความสงสาร

ความสงสารนี้มีความเห็นอกเห็นใจผสมอยู่ด้วย

เหตุใดฟางหยุนถึงได้รับภารกิจนี้?

นั่นเป็นเพราะฟางหยุนเป็นบุตรบุญธรรมของฟางตี้เฉิง

ตระกูลฟางแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งและฝ่ายของผู้อาวุโสสุงสุดลําดับที่สอง

สําหรับฟางเฉิน เขาเข้าใจสถานการณ์นี้อย่างชัดเจน โชคไม่ดีที่เขาเป็นเพียงคนนอกที่แต่งงานเข้าสู่ตระกูลฟาง พรสวรรค์ของเขาไร้ประโยชน์เพราะสถานะของเขา เขาสามารถเป็นได้เพียงหินรองเท้าของฟางเล้งเท่านั้น

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท