เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1635 ผนึกห้าเซียง

บทที่ 1635 ผนึกห้าเซียง

บทที่ 1635 ผนึกห้าเซียง

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

ทะเลทรายตะวันตกน้อย

พื้นที่บริเวณนี้ถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวราวหิมะ ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนเดินทางมาที่นี่ก่อนจะหยิบทรายขึ้นมาดู

เม็ดทรายใสสะอาดราวกับคริสตัลหรือเกล็ดน้ําแข็ง

ทะเลทรายตะวันตกน้อยเป็นสถานที่ค่อนข้างอบอุ่น แต่ทะเลทรายแห่งนี้กลับเย็นสบาย

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากินทรายเข้าไปและสัมผัสถึงรสเค็มของมัน

นี่คือทรายเกลือ

ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ทรายเกลือมีเรื่องราวที่ยาวนานมาก

หนึ่งล้านปีก่อน แม้วังสวรรค์จะถูกก่อตั้งขึ้นแล้ว แต่อีกสี่ภูมิภาคยังเต็มไปด้วยกองกําลังของมนุษย์กลายพันธุ์ มนุษย์ถูกกดขี่และตกเป็นทาส

ในทะเลทรายตะวันตก มีเมืองมนุษย์แห่งหนึ่งสามารถปราบปรามมนุษย์กลายพันธุ์

มนุษย์กลายพันธุ์รวมตัวกันปล้นสะดมขบวนสินค้าและพยายามทําลายเมืองมนุษย์ เมื่อเวลาผ่านไปเมืองมนุษย์เริ่มขาดแคลนทรัพยากรที่จําเป็นและไม่สามารถอยู่รอด

เจ้าเมืองกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพลเมือง เขาต้องขอความช่วยเหลือจากมนุษย์กลายพันธุ์และให้บุตรสาวของตนแต่งงานกับมนุษย์กลายพันธุ์เพื่อแลกกับความสงบสุข

บุตรสาวของเจ้าเมืองรู้ว่าสิ่งใดสําคัญ เพื่อผลประโยชน์ของเมืองมนุษย์ นางยินดีเสียสละตนเอง

ขบวนเจ้าสาวเดินทางออกจากเมืองโดยมีเจ้าเมืองเป็นผู้คุ้มกัน

ระหว่างการเดินทางในทะเลทราย พวกเขาพบชายชราผู้หนึ่งหมดสติอยู่เบื้องหน้า

ชายชราได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้ตาย ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยฝีหนองและปลดปล่อยกลิ่นเน่าเหม็นออกมา เจ้าเมืองเห็นว่าชายชราเป็นมนุษย์ผู้หนึ่ง ดังนั้นเขาจึงช่วยชีวิตและมอบน้ําดื่มให้แก่ชายชรา

ชายชราตื่นขึ้นอย่างช้าๆและกล่าวกับเจ้าเมืองว่า “โอ้ ท่านเจ้าเมือง เมื่อท่านช่วยข้า เหตุใดท่านไม่ช่วยข้าอีกครั้ง มอบเสื้อคลุมและม้าแก่ข้า ข้าจะสามารถจากไปด้วยตนเอง”

ลูกน้องของเจ้าเมืองเริ่มหัวเราะ เสื้อผ้าเป็นสิ่งมีค่าสําหรับที่นี่ พวกเขาจะมอบมันให้ขอทานต่ําต้อยเช่นนี้ได้อย่างไร

แต่เจ้าเมืองโบกมือ “ชีวิตของมนุษย์มีค่ามากกว่าเสื้อผ้า ข้ามีเสื้อผ้ามากมาย ข้าจะมอบมันให้เจ้า แต่ม้าของข้าสามารถใช้ได้โดยผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งเท่านั้น หากข้ามอบมันให้เจ้า มันจะกลายเป็นการทําร้ายเจ้า”

หลังกล่าวจบคํา เจ้ามองก็มอบเสื้อคลุมพร้อมทั้งอาหารและน้ําดื่มให้แก่ชายชรา

ต่อมาเจ้าเมืองยังสั่งให้ลูกน้องของเขานําอูฐที่มีอารมณ์อ่อนโยนมามอบให้ชายชรา

ชายชราถอนหายใจ “ท่านเจ้าเมือง ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงที่ดีของท่านมานานแล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องโกหก เมื่อท่านต้องการทําความดี เหตุใดท่านไม่ช่วยข้าอย่างเต็มที่ ข้ามีฝีบนแผ่นหลังมากมาย มันทําให้ข้าทุกข์ทรมานมาหลายปี มีเพียงหญิงพรหมจรรย์ที่เกิดปีหยินเดือนหยิน และวันหยินเท่านั้นที่สามารถรักษาข้าด้วยการใช้ปากของนางระเบิดพวกมัน”

เมื่อได้ยินคํากล่าวของชายชรา ลูกน้องของเจ้าเมืองเริ่มดุด่าด้วยความโกรธและต้องการฆ่าชายชราทันที

เจ้าเมืองโกรธเล็กน้อยเพราะทุกคนรู้ว่าบุตรสาวของเขาเป็นหญิงพรหมจรรย์ที่เกิดปีหยินเดือนหยินและวันหยิน

เจ้าเมืองกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่า หยุดเยาะเย้ยข้าเถอะ แม้ข้าจะเป็นเจ้าเมือง แต่ข้าก็เป็นพ่อที่น่าสงสารเช่นกัน ข้ารักลูกสาวของข้า แต่ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งนางไปเป็นนางบําเรอของมนุษย์วิหคที่ชั่วร้าย”

“ท่านพ่อ หากการเสียสละของข้าสามารถช่วยผู้คนทั้งเมือง ข้าจะยอมรับชะตากรรมนั้น” เป็นเพียงเวลานี้ที่บุตรสาวของเจ้าเมืองมาถึงและทําความเข้าใจสถานการณ์จากคนอื่นๆ

นางเดินเข้าไปหาชายชราและพยักหน้า “ท่านผู้เฒ่า โปรดให้ข้าดูฝีของท่าน”

“เจ้ายินดีรักษาข้างนหรือ?” ชายชายถาม

“ถูกต้อง แม้ข้าจะเป็นบุตรสาวของเจ้าเมืองและผู้คนคิดว่าข้าเป็นคนสูงศักดิ์ แต่ข้าจะเป็นคนสูงศักดิ์ได้อย่างไร?” หญิงสาวเผยรอยยิ้มขมขึ้น “เมืองมนุษย์กําลังมีภัย ข้าต้องไปเป็นนางบําเรอของมนุษย์กลายพันธุ์ แล้วเหตุใดข้าถึงไม่ควรช่วยท่าน? พวกเราต่างเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ การช่วยเหลือคนผู้หนึ่งยังดีกว่าไม่ทําสิ่งใดเลย”

เจ้าเมืองและคนอื่นๆรู้สึกซาบซึ้งและไม่ได้หยุดนาง

ผีบนแผ่นหลังของชายชราน่าขยะแขยงมาก มันเต็มไปด้วหนองและมีกลิ่นเหม็นเน่า ผู้คนจะรู้สึกอยากอาเจียนเพียงได้เห็นพวกมัน

บุตรสาวของเจ้าเมืองมึนงงเล็กน้อยแต่นางยังอดทนใช้ฟันกัดฝีบนแผ่นหลังของชายชรา

เมื่อมันแตกออก ของเหลวสีขาวก็ไหลออกมา

ของเหลวตกลงบนทะเลทรายและส่งกลิ่นหอมที่ทําให้ผู้คนรู้สึกสดชื่น

ร่างของชายชราหายไปอย่างกะทันหัน มีเพียงเสียงของเขาที่ดังขึ้น “เจ้าเมือง เจ้าคู่ควรที่จะได้รับความช่วยเหลือจากข้า เจ้าเป็นความหวังในอนาคตของมนุษย์ ข้าจะมอบทะเลทรายแห่งนี้ให้เจ้า จงใช้มันให้เป็นประโยชน์”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เจ้าเมืองและคนอื่นตระหนักว่าชายชราคือผู้อมตะเผ่ามนุษย์ ดังนั้นพวกเขาจึงคุกเข่าลงบนพื้น

ทะเลทรายแห่งนี้เปลี่ยนเป็นทรายเกลือสีขาว หลังจากได้รับทะเลทรายแห่งนี้ เจ้าเมืองเริ่มขายทรายเกลือซึ่งเป็นเกลือที่กินได้ และสามารถฟื้นฟูเมืองของเขาให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

ปัจจุบันทรายเกลือไม่ใช่สินค้าพิเศษของทะเลทรายตะวันตกอีกต่อไป มันมีจําหน่ายในทั้งห้าภูมิภาค

มิติของว่างของฟางหยวนมีทรายเกลือเช่นกัน เขาได้รับมันมาจากการกลืนกินมิติของว่างของผู้อมตะภาคใต้

หลังจากตรวจสอบ ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนเข้าใจทะเลทรายนี้มากขึ้น เขากลับมาด้วยความพึงพอใจ

“ตอนนี้วังสวรรค์เริ่มขายปลามังกรเงินในสวรรค์สีเหลืองแล้ว พวกเขาต้องได้รับวิธีการผลิตพวกมันมาจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ หลังจากนี้ปลามังกรทองจะปรากฏในตลาดเช่นกัน

ธุรกิจปลามังกรของฟางหยวนได้รับผลกระทบอย่างมาก

แต่ในระยะสั้นปลามังกรของเขายังสามารถทํากําไร แน่นอนว่ามันจะค่อยๆสูญเสีกําไรให้กับวังสวรรค์

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ตอนนี้มิติของว่างจักรพรรดิมีแหล่งทรัพยากรมากมายจากการกลืนกิน ศักดิ์สิทธิ์หรือกระทั่งถ้ําสวรรค์

ลืมทรายเกลือไปได้เลย เขายังมีแหล่งทรัพยากรอมตะอีกอย่างน้อยห้าถึงหกแห่งที่สามารถแข่ ขันกับธุรกิจปลามังกร สระแก่นแท้ปีของเซี่ยชาเป็นหนึ่งในนั้น

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงสามารถทํากําไรได้มากมาย เขาสามารถสะสมหินวิญญาณอมตะได้เร็วกว่าก่อนหน้า

ด้วยการจัดการในอดีต เขาจึงไม่ขาดแคลนอาหารของวิญญาณอมตะ แม้เขาจะได้รับวิญญาณอมตะดวงใหม่ แต่เขาก็ได้รับมิติช่องว่างจากผู้อมตะเหล่านั้นรวมถึงแหล่งอาหารของวิญญาณอมตะของพวกเขา

“การให้อาหารวิญญาณอมตะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา” ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลามองทะเลทรายเกลือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะใช้วิญญาณท่องแดนอมตะจากไป

ต่อมาร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาปรากฏตัวขึ้นที่เมืองจิ๋ว

ในเมืองจิ๋วมีมนุษย์ขนอาศัยอยู่มากมาย

มนุษย์ขนเหล่านี้มาจากมิติช่องว่างของผู้อมตะภาคใต้ ผู้อมตะภาคใต้เกือบทุกคนเลี้ยงมนุษย์ขนไว้ในมิติช่องว่างของพวกเขา

ทาสมนุษย์ขนได้รับความนิยมมากที่สุดในสวรรค์สีเหลือง

ฟางหยวนนํามนุษย์ขนทั้งหมดมาอยู่ที่เมืองจิ๋ว

ปัจจุบันมนุษย์ขนมีประโยชน์มากที่สุดสําหรับฟางหยวน

ฟางหยวนมอบเคล็ดลับการหลอมรวมและวิธีการฝึกฝนให้กับมนุษย์ขนเหล่านี้ งานของพวกเขาคือการเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน และรวบรวมทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝัน เพื่อหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝัน

ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันของฟางหยวนต้องใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันจํานวนมาก

การสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันก่อนหน้านี้ทําให้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันของเขาหมดลง หากไม่ใช่เพราะมนุษย์ขนเหล่านี้ช่วยหลอมรวมและเติมเต็มพวกมัน ฟางหยวนจะไม่สามารถสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมด

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลามาถึงเมืองจิ๋วเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง

หลังจากก้าวเข้าสู่ระดับแปด มิติช่องว่างของฟางหยวนก็เปลี่ยนจากแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นถ้ําสวรรค์ ตอนนี้มันมีการเปลี่ยนแปลงทางดาราศาสตร์ เนื่องจากมิติช่องว่างจักรพรรดิมีทรัพยากรบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอยู่มากมาย ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของมันจึงเกือบเหมือนโลกภายนอก

ขณะที่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากําลังตรวจสอบสถานการณ์ของมนุษย์ขน เขากลับหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันพร้อมกับดวงตาที่ส่องประกายขึ้น ร่างหลักพบตําแหน่งของผนึกห้าเซียงแล้ว!”

การพัฒนามิติของว่างจักรพรรดิดําเนินไปได้ด้วยดี ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างราบรื่น เขาไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นมากนัก ขณะที่พลังงานอมตะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ร่างหลักของฟางหยวนพักผ่อนอยู่ในถ้ําเพลิงภูตผีชั่วครู่ ก่อนจะเดินทางไปยังสวรรค์สีขาว

ตอนนี้เป็นเวลาที่ผนึกห้าเซียงจะเปิดออก การเดิมพันจากอดีตกาลจะดําเนินต่อไปอีกครั้ง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท