บทที่ 1643 ถ้ำสวรรค์เปลี่ยนเจ้าของ
“ไป่หนิงปิง อย่าให้มันมากนัก!” ฉีฟาตะโกน
ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงเย็นอยู่ในใจ
ไป่หนิงปิงในร่างไปเชียงพุ่งเข้าหาฉีฟาขณะที่ศพของฉีจินถูกแช่แข็งและรักษาใบหน้าที่หวาดกลัวของเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
“บึม บึม บึม…”
ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณระเบิดออกมาอย่างไม่รู้จบสิ้น ไป่หนิงปิงหลบ ได้ส่วนหนึ่งและถูกโจมตีส่วนหนึ่ง ร่างไปเชียงแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนจะกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
ฉากนี้ทําให้ผู้อมตะตระกูลนี้รู้สึกหนาวเย็นไปถึงแกนกระดูก
หลังการต่อสู้ที่ดุเดือด สามในห้าผู้อมตะตระกูลฉีเสียชีวิตลงแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงฉีฟาและฉีไคเท่านั้น
“บัดซบ! ไปเชียงแข็งแกร่งเกินไป เราไม่สามารถจัดการมันในสถานการณ์นี้!” ฉีฟากัดฟันแน่น
“ค่ายกลวิญญาณอมตะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด หากไม่มีมัน เราจะสามารถหลบหนี” ไคมองฉีฟาด้วยดวงตาแดงก่ํา
ฉีฟาเงียบ
นี้ใคกล่าวได้ถูกต้อง แม้ท่าไม้ตายอมตะไปเซียงจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาจะสามารถหลบหนี หากไม่ถูกกักขังอยู่ที่นี่
อย่างไรก็ตามการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะยากเกินไป อย่างน้อยก็สําหรับฉีฟาและฉีไค พวกเขาพยายามทําลายมันมาตั้งแต่แรกแต่ไม่ประสบความสําเร็จ
ฉีฟาถอนหายใจ “เจ้าพูดถูก เราต้องเรียกฉีปิงซู”
ฉีปิงซูเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก เขาถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อปกป้องถ้ําสวรรค์ทะเลปราณของตระกูลฉี แต่ตอนนี้พวกเขาต้องขอให้ฉีปิงซูออกมาช่วย ตราบเท่าที่ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกทําลาย พวกเขาจะมีโอกาสรอดชีวิต
แต่หากพวกเขาทําเช่นนั้น พวกเขาจะตกลงสู่หลุมพรางของฟางหยวน
ฟางหยวนต้องการให้ฉีปิงซูออกจากถ้ําสวรรค์
ฉีฟาตระหนักถึงจุดนี้ ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงไม่ขอความช่วยเหลือจากฉีปิงซู แต่ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง หากพวกเขาไม่ขอกําลังเสริม พวกเขาจะเสียชีวิตอย่างแน่นอน
เมื่อฉีปิงซูได้รับคําสั่ง เขาก็เปิดทางเข้าออกถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ
ไป่หนิงปิงดีใจมาก “ในที่สุดพวกเขาก็ทํามัน!”
หลังจากนั้นนางก็ใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะเคลื่อนย้ายสถานที่และพุ่งเข้าไปในถ้ําสวรรค์ทะเลปราณทันที
“โอ้ ไม่!” เห็นไป่หนิงปิงบุกเข้าไป ฉีปิงซูจึงต้องถอยกลับ
ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณใหญ่โตมาก มันเต็มไปด้วยเมฆสีขาวและมีลมแรง
ไป่หนึ่งปีถูกร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งพลังปราณกดดันอย่างรุนแรง
แต่ไป่หนิงปิงยังเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้กับฉีปิงซู
ฉีปิงซูเป็นผู้อมตะระดับหก เขาไม่สามารถเอาชนะไป่หนิงปิง แต่ด้วยข้อได้เปรียบด้านสถานที่ เขาจึงสามารถหลบหนีและหายตัวไปในกลุ่มเมฆสีขาว
ไป่หนิงปิงขมวดคิ้ว
นี่เป็นปัญหาเล็กน้อย นางจะหาคนผู้นี้ในถ้ําสวรรค์ที่ใหญ่โตเช่นนี้ได้อย่างไร
“หือ?” เป็นเพียงเวลานี้ที่ไป่หนิงปิงเห็นทะเลเมฆก่อตัวขึ้นเหนือศีรษะของนาง
สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในใจของไป่หนิงปิง
อันตรายถึงตาย!” ไป่หนิงปิงตระหนักถึงสถานการณ์ทันที
นางบินลงไปด้านล่างราวกับดาวตก
ไป่หนิงปิงเข้าใกล้พื้นสีเหลืองมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความรู้สึกอันตรายกลับรุนแรงขึ้น
นางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพบว่าทะเลเมฆขยายออกไปจนสุดสายตาโดยมีท่าไม้ตายอมตะบางอย่างอยู่ภายใน
ในเวลาเดียวกันฉีปิงซูที่อยู่ในทะเลเมฆกําลังมองจิตวิญญาณสวรรค์และกล่าวด้วยความสนุกสนาน “จิตวิญญาณสวรรค์ ท่านตื่นแล้ว!”
จิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ําสวรรค์ทะเลปราณเป็นกวางสีขาวที่มีดวงตาสีทองส่องประกายระยิบระยับ
“ข้าตื่นแล้ว”
“ตั้งแต่ข้าได้รับบาดเจ็บคราวก่อน ข้าต้องผนึกตนเองเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ”
“แต่ครั้งนี้ข้าสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายและแข็งแกร่งเข้ามาในถ้ําสวรรค์ ข้าจึงต้องตื่นขึ้น แต่ผู้บุกรุกผู้นี้ไม่ใช่ตัวตนที่ข้ารู้สึกถึง”
ฉีปิงซูตกตะลึง “เขาต้องเป็นฟางหยวน! จิตวิญญาณสวรรค์ ท่านผนึกตนเองมานานหลายปี ท่านไม่รู้ว่าปีศาจอมตะที่แข็งแกร่งถือกําเนิดขึ้นแล้ว ชื่อของเขาคือฟางหยวน กระทั่งวังสวรรค์ของภาคกลางยังไม่สามารถทําสิ่งใดเขา!”
จิตวิญญาณสวรรค์ตกใจ “แม้แต่วังสวรรค์ก็ไม่สามารถทําสิ่งใดงั้นหรือ!?”
ฉีปิงซูชี้นิ้วไปที่ไป่หนิงปิงและกล่าวด้วยความโกรธ “นี่คือลูกน้องของฟางหยวน”
เจตนาสังหารปะทุขึ้นในดวงตาคู่สีทองของจิตวิญญาณสวรรค์ “ตาต่อตา พวกเขาสังหารทายาทตระกูลฉี เราจะจบชีวิตนางที่นี่”
หลังกล่าวจบคํา พลังปราณสีขาวก็พุ่งลงมาจากทะเลเมฆและโจมตีไป่หนิงปิง
ไป่หนิงปิงต้องการหลบแต่พลังงานลึกลับผนึกการเคลื่อนไหวของนางเอาไว้
“ทรงพลังนัก!”
“ข้าไม่สามารถหลบ!”
ไป่หนิงปิงเงยหน้าขึ้นขณะที่พลังปราณสีขาวพุ่งลงมาราวกับภูเขาขนาดใหญ่
นี่เป็นการโจมตีระดับแปด หากไป่หนิงปิงไม่สามารถหลบ นางต้องตายอย่างแน่นอน
แต่ในจังหวะนี้แสงสีเขียวหยกกลับส่องประกายระยิบระยับราวกับหิงห้อยหยกจํานวนนับไม่ถ้วนกําลังเต้นรําอยู่กลางอากาศ
จากภายในแสงสีเขียวหยก ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้น
“มันคือเขา!” จิตวิญญาณสวรรค์กรีดร้องด้วยความตกใจ
“เขาก็คือฟางหยวน” ฉีปิงซูเต็มไปด้วยความกังวล
เผชิญหน้ากับพลังปราณสีขาว การแสดงออกของฟางหยวนยังไม่เปลี่ยน เขาเพียงชี้นิ้วออกไป
“ฉัวะ”
ดาบแสงตัดพลังปราณสีขาวที่พุ่งลงมาออกเป็นสองส่วน
พลังปราณสีขาวกระจายหายไปและทําให้ฉีปิงซูอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“ข้ารอดแล้ว” ไป่หนิงปิงปืนงงไปชั่วครู่ก่อนที่ริมฝีปากของนางจะยกตัวขึ้น นางบินขึ้นไปยืนเคียงข้างฟางหยวน
“ท่าไม้ตายนี้คือสิ่งใด?” ไป่หนิงปิงเงยหน้าขึ้นไปด้านบนก่อนจะกล่าวด้วยความลังเล “อย่าบอกว่า…”
“มันควรจะเป็นท่าไม้ตายอมตะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเซียง ทะเลปราณไร้ขอบเขต มันเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ซับซ้อนและสามารถเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มันสามารถโจมตีและป้องกัน ฉีเชียงมีชื่อเสียงเพราะท่าไม้ตายนี้” ฟางหยวนกล่าวด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
ทะเลปราณไร้ขอบเขตเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด มันใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณจํานวนมากเป็นแกนกลางและวิญญาณระดับมนุษย์อีกนับหมื่นดวงเป็นส่วนสนับสนุน
ท่าไม้ตายนี้ค่อนข้างพิเศษ มันสามารถเติบโตด้วยการหลอมรวมพลังปราณทุกชนิดและเก็บไว้ในมิติช่องว่างของผู้ใช้งานเพื่อเพิ่มพลังอํานาจให้กับท่าไม้ตาย
โชคดีที่ฉีเซียงเสียชีวิตไปนานแล้ว แม้ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตจะถูกทิ้งไว้ในถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ แต่เมื่อเวลาผ่านไปปริมาณพลังปราณที่ถูกเก็บสะสมไว้ก็ค่อยๆหายไป
ในความเป็นจริงจิตวิญญาณสวรรค์แทบไม่สามารถใช้งานท่าไม้ตายนี้
“แม้ท่าไม้ตายนี้จะทรงพลัง แต่ฉีเซียงตายไปนานแล้ว จิตวิญญาณสวรรค์ จะปลดปล่อยพลังอํานาจของมันออกมาได้มากเพียงใด ฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะก่อนจะบินขึ้นไปยังทะเลเมฆ
ไป่หนิงปิงกัดฟัน นางต้องการต่อสู้เคียงข้างฟางหยวน แต่นางต้องหยุดตนเองและแส ดงออกด้วยความเสียใจ
นางอ่อนแอเกินไป นางไม่สามารถเข้าสู่การต่อสู้นี้
“ครืน…”
ก่อนที่ฟางหยวนจะเข้าไปในทะเลเมฆ ความปั่นป่วนครั้งใหญ่กลับปะทุขึ้น
“ปราณแห่งชีวิต ปราณแห่งความตาย ปราณกระบี ปราณดาบ ปราณรัตติกาล ปราณแสง ไป่หนิงปิงตระหนักถึงปราณหลากหลายชนิดที่รวมตัวกันและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน
ฟางหยวนรู้สึกถึงแรงกดดัน เขาแทบไม่สามารถขยับร่างกาย แต่ในไม่ช้าเขาก็สามารถเปิดเผย ความลับบางอย่างของท่าไม้ตายนี้
ภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลานั่งอยู่ด้านหน้าวิญญาณ สติปัญญาและใช้แสงแห่งปัญญาอนุมานเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต
หลังจากชั่วครู่คิ้วของฟางหยวนก็คลายออก เขาหัวเราะและเริ่มตอบโต้
ทุกที่ที่เขาเคลื่อนผ่าน อุปสวรรค์ทั้งหมดจะถูกทําลาย ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขา เขาพุ่งเข้าไป หาจิตวิญญาณสวรรค์โดยตรง
ด้วยข้อมูลที่ได้รับจากการค้นวิญญาณของช่าย ฟางหยวนตระหนักถึงเงื่อนไขในการเป็นเจ้า นายคนใหม่ของจิตวิญญาณสวรรค์ แต่เขาไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขที่เข้มงวดนี้ ในเวลาเดียวกันท่า ไม้ตายอมตะแสงโลหิตก็ไม่สามารถกําหราบจิตวิญญาณสวรรค์ระดับแปด
ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องกําจัดจิตวิญญาณสวรรค์เท่านั้น
หลังจากจิตวิญญาณสวรรค์เสียชีวิต ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตก็หยุดลง
“ข้ายอมแพ้!” ร่างของฉีปิงซูสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
ฟางหยวนกล่าวเสียงเย็น “เจ้าค่อนข้างฉลาด เอาล่ะ หากเจ้าต้องการมีชีวิตอ ยู่ บอกให้ฉีฟาและฉีใคยอมจํานน มิเช่นนั้นพวกเจ้าจะตายพร้อมกัน”
“ทราบแล้ว ทราบแล้ว”
ฉีปิงซูถูกส่งไปรวมกลุ่มกับฉีฟาและฉีไค
เมื่อทั้งสองตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในถ้ําสวรรค์ พวกเขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหยุดต่ อต้านและยอมจํานนด้วยใบหน้าซีดขาว
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า ถ้ําสวรรค์ห้าเชียง หรือถ้ําสวรรค์ทะเลป ราณ ทุกอย่างตกเป็นของฟางหยวนทั้งหมด!