บทที่ 1648 เมี่ยวหมิงเฉินและเหรินซิ่วผิง
ทะเลตะวันออก
“ครืน..ครืน..”
คลื่นทะเลปะทะโขดหินบนเกาะและระเบิดฟองสีขาวออกไปรอบๆ
สายลมกรรโชกแรง ท้องฟ้ามืดครื้ม
เกาะแห่งนี้ดูธรรมดาและไม่สะดุดตาแต่มีผู้อมตะสี่คนซ่อนตัวอยู่
“เหรินซิ่วผิง เจ้ามากเกินไปแล้ว!” เมี่ยวหมิงเฉินตะโกนด้วยดวงตาแดงก่ำ เขาได้รับบาดเจ็บและรู้สึกโกรธมาก
เมี่ยวหมิงเฉินเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เขามีวิธีขยายพื้นที่ในมิติช่องว่าง เขาช่วยผู้อมตะของทะเลตะวันออกจํานวนมากในเรื่องนี้
เมี่ยวหมิงเฉินไม่สูงไม่เตี้ย ไม่อ้วนไม่ผอม เขาดูธรรมดา มีเพียงจมูกที่แบนและกว้างเท่านั้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา
ในแง่ของรูปลักษณ์ เขาค่อยข้างธรรมดา แต่เขาเป็นคนทะเยอทะยาน เขามีเครือข่ายที่กว้างขวางและมีความสามารถทางสังคมที่โดดเด่น
เขาเป็นผู้นํากลุ่มสี่คนซึ่งประกอบด้วยผู้อมตะหญิงฮวาตี้ เฟิงเจียง และกุ้ยฉีเย่
แต่ตอนนี้ร่างกายของกุ้ยฉีเยเปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากพิษบางอย่าง เขาตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
เฟิงเจียงและฮวาตี้ที่ยืนอยู่ด้านข้างเมี่ยวหมิงเฉินไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่รุนแรง
“ท่านเมี่ยวหมิงเฉิน เราควรทําอย่างไร? กุ้ยฉีเยถูกปลาดาวพิษน้ำแข็งโจมตี เราไม่มีวิธีรักษาเขา” ฮวาตี้กล่าวด้วยความกังวล
ไม่นานมานี้คนทั้งสี่ตกลงสู่หลุมพรางของเหรินซิ่วผิง
เหรินซิ่วผิงเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งทาส เขาต้องการลอบสังหารเมี่ยวหมิงเฉินโดยใช้ปลาดาวพิษน้ำแข็ง แต่ในช่วงเวลาสําคัญกู้ยฉีเย่กลับก้าวออกมารับการโจมตีนี้แทนเขา
เมี่ยวหมิงเฉินตอบสนองด้วยการรีบนํากุ้ยฉีเยู่ที่หมดสติรวมถึงเฟิงเจียงและฮวาซื้ออกมากจากกับดัก
เฟิงเจียงกล่าว “ปลาดาวพิษน้ำแข็งอาจมีพิษร้ายแรง แต่ข้าได้ยินมาว่าซูเฉินและเทพธิดาจิ่วอวี๋สามารถรักษามัน”
ซูเฉินเป็นสมาชิกกองกําลังตระกูลซู เขาเชี่ยวชาญด้านการรักษาและมีชื่อเสียงในทะเลตะวันออก เขาค่อนข้างใจดี
เทพธิดาจิ่วอวี๋เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ นางเย็นชาและไม่แยแส คนผู้หนึ่งต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลหากต้องการความช่วยเหลือจากนาง
เมี่ยวหมิงเฉินสายศีรษะ “ข้าจะไม่ไปหาคนทั้งสอง ซูเฉินมาจากตระกูลซูขณะที่เทพธิดาจิ่วอวี๋มีความสัมพันธ์กับเหรินซิ่วผิง คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ข้าแน่ใจเรื่องนี้ ข้าคิดว่าเทพธิดาจิ่วอวี๋อาจเป็นกับดักที่เหรินซิ่วผิงวางไว้”
“อา…เป็นเช่นนั้น” ฮวาที่ไม่รู้ว่าควรกล่าวสิ่งใด
เมี่ยวหมิงเฉินยิ้ม “พวกเจ้าลืมไปแล้วงั้นหรือว่าพิษของปลาดาวพิษน้ำแข็งสามารถลบล้างได้ด้วยน้ำเหลืองใต้พิภพ”
ดวงตาของเฟิงเจียงเบิกกว้างขึ้น “น้ำเหลืองใต้พิภพเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด กระทั่งในทะเลตะวันออกก็หาได้ยาก นายท่าน ท่านมีมันงั้นหรือ?”
เมี่ยวหมิงเฉินสายศีรษะ “ไม่อย่างแน่นอน ข้าจะใช้เข็มเวลาสุดขั้วแลกเปลี่ยนกับมัน”
เฟิงเจียงและฮวาตี้เข้าใจทันที
เข็มเวลาสุดขั้วเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เมี่ยวหมิงเฉินได้รับมานานแล้วแต่เขาไม่สามารถตัดใจขายมันออกไป เฟิงเจียงและฮวาที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
การแสดงออกของฮวาตี้เปลี่ยนไป นางกล่าว “เข็มเวลาสุดขั้วเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่หายาก เหตุใดเราไม่ใช้ทรัพยากรอมตะระดับแปดชนิดอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนกับน้ำเหลืองใต้พิภพ”
เมี่ยวหมิงเฉินส่ายศีรษะ “ทรัพยากรอมตะระดับแปดสามารถแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรอมตะระดับแปดที่เท่าเทียมกันเท่านั้น หากข้าใช้ทรัพยากรชนิดอื่น พวกเขาจะไม่แลกเปลี่ยนกับข้า”
“ตอนนี้วังสวรรค์และภาคใต้พยายามปราบปรามฟางหยวน พวกเขากําลังรวบรวมทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทั้งหมด วังสวรรค์มีรากฐานที่ไม่อาจหยั่งถึง พวกเขาต้องมีน้ำเหลืองใต้พิภพอยู่อย่างแน่นอน ข้าจะใช้เข็มเวลาสุดขั้วแลกเปลี่ยนกับมัน”
“นายท่าน…” เฟิงเจียงลังเล เขาจําได้ว่าเมี่ยวหมิงเฉินเกือบตายเพื่อให้ได้รับเข็มเวลาสุดขั้ว มันถือเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลอย่างแท้จริง
เมี่ยวหมิงเฉินหัวเราะเสียงดังและตบไหล่เฟิงเจียง “ข้าจะปล่อยให้เขาตายต่อหน้าข้าได้อย่างไร? แม้ข้าจะสูญเสียเข็มเวลาสุดขั้วแล้วอย่างไร?”
เฟิงเจียงและฮวาตี้ตื่นเต้นมาก พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้ติดตามเจ้านายผิดคน
ดังคาด สถานการณ์เป็นไปตามความคาดหมายของเมี่ยวหมิงเฉิน เขาสา มารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรอมตะกับวังสวรรค์และได้รับน้ำเหลืองใต้พิภพจํานวนมาก
เขาใช้น้ำเหลืองใต้พิภพล้างพิษให้กับกุ้ยฉีเย่ ไม่นานหลังจากนั้นกุ้ยฉีเย่ก็ตื่นขึ้น
เมื่อรู้ว่าเมี่ยวหมิงเฉินจ่ายราคามหาศาลเพื่อช่วยเขา เขารู้สึกประทับใจมาก
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แสดงออกมากนักแต่เก็บความกตัญญไว้ในใจ เขากล่าว “นายท่าน เหรินซิ่วผิงโจมตีพวกเราอย่างกะทันหัน ข้าคิดว่าเขากําลังตามหาวาฬมังกรฟ้า”
เมี่ยวหมิงเฉินถอนหายใจ “ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน เดิมที่เหรินซิ่วผิงต้องการร่วมมือกับข้าเพื่อค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ แต่เขาไม่มีความจริงใจ คราวนี้เขาโจมตีพวกเรา เจ้าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้”
กุ้ยฉีเย่พยักหน้า “นายท่าน ท่านรู้ตําแหน่งของวาฬมังกรฟ้า ความลับถูกเปิดเผยแล้ว มันยากเกินไปที่จะรักษาความลับนี้ต่อไป เราควรเชิญผู้คนมาสํารวจวาฬมังกรฟ้าพร้อมกับพวกเรา เมื่อเราได้รับมรดกและแข็งแกร่งขึ้น เราจะสามารถจัดการเหรินซิ่วผิง มิฉะนั้นด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราในปัจจุบัน พวกเราไม่สามารถเอาชนะชายผู้นี้ นอกจากนั้นเขายังมีผู้ช่วยมากมาย เมื่อเขาตระหนักถึงสิ่งผิดปกติ เขาอาจกระจายข่าวและดึงดูดศัตรูให้เข้ามาหาพวกเรามากขึ้น”
เมี่ยวหมิงเฉินตอบ “ตอนนี้เราควรหากําลังเสริม มันเป็นทางเลือกเดียวของเรา น่าเสียดาย หากข้าเป็นผู้อมตะระดับแปด เราสามารถสํารวจมันได้ด้วยกลุ่มของเราเอง”
กุ้ยฉีเย่กล่าวเสริม “นายท่าน เราต้องเลือกกําลังเสริมอย่างระมัดระวัง”
เมี่ยวหมิงเฉินพยักหน้า เขามองผู้อมตะทั้งสามและเปิดปากถาม “แน่นอน ข้ารู้ พวกเจ้าสามารถแนะนําผู้ใดหรือไม่?”
ผู้อมตะทั้งสามกล่าวแนะนํา
เมี่ยวหมิงเฉินพยักหน้าเป็นบางครั้งและส่ายศีรษะเป็นครั้งคราว เขาเลือกคนที่เหมาะสมและกําจัดบางคนออกไปเพื่อความปลอดภัย
สิ่งสําคัญที่สุดคือความน่าเชื่อถือ
ด้วยวิธีนี้ตัวเลือกของพวกเขาจึงเหลือไม่กี่คน แม้พวกเขาจะทํางานร่วมกัน แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถทําลายอุปสรรคแรกและไม่สามารถสํารวจวาฬมังกรฟ้า
เป็นเพียงเวลานี้ที่ฮวาตี้เปิดปากกล่าว “ข้าขอเสนอคนผู้หนึ่ง นายท่านจําคนที่ชื่อชูอิงได้หรือไม่?”
“ชูอิง?” ดวงตาของเมี่ยวหมิงเฉินส่องประกายขึ้น “ยอดเยี่ยม คนผู้นี้เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เขามีความขุ่นเคืองกับเหรินซิ่วผิงเช่นกัน แต่เขามีความลับมากเกินไป ข้าไม่สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขา…”
กล่าวถึงชูอิง เขาแสดงออกด้วยความลังเล