เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1653 คนรักในชีวิตก่อนหน้า

บทที่ 1653 คนรักในชีวิตก่อนหน้า

บทที่ 1653 คนรักในชีวิตก่อนหน้า

ด้วยวิธีตรวจสอบของฟางหยวน เขามองเห็นทุกสิ่งบนเกาะแห่งนี้

มันเป็นเกาะธรรมดาทั่วไป บนเกาะมีทรัพยากรเพียงเล็กน้อย มีหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆตั้งอยู่

มีน้ําพุจิตวิญญาณธรรมชาติและผู้ใช้วิญญาณอยู่เช่นกัน

ฟางหยวนรับภารกิจรวบรวมน้ํามันดิบใต้ทะเลลึก หลังจากตรวจสอบเขาพบน้ํามัน ดิบในร่องลึกใต้ทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะแห่งนี้

หากเป็นผู้อมตะคนอื่น พวกเขาอาจลงไปในทะเลเพื่อเก็บน้ํามันดิบโดยตรง แต่ฟางหยวนไม่ได้ ทําเช่นนั้น เขาคาดเดาความตั้งใจของเทพอมตะสวรรค์พิภพก่อนจะเริ่มดําเนินการ

เขาปกปิดตัวเองและเข้าไปในหมู่บ้าน มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มาก มีผู้ใช้วิญญาณเพียงห้า หรือหกคนเท่านั้น ผู้ใช้วิญญาณระดับสามคือจุดสูงสุดของที่นี่ กล่าวได้ว่ามันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลบนภูเขาชิงเหมา ย้อนกลับไปตระกูลแสงจันทร์มีหมู่บ้านเล็กๆเช่นนี้อยู่ในการปกครองนับสิบหมู่บ้าน

ฟางหยวนไปพบผู้ใช้วิญญาณระดับสามของหมู่บ้านโดยตรง

เขาเป็นชายชราผมขาวและเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน

เขามีอํานาจสูงสุดและมีประสบการณ์มากที่สุด เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้หลายสิ่งหลายอย่างค้นวิญญาณ!

ฟางหยวนใช้วิธีการของเขาและได้รับข้อมูลทั้งหมดทันที

ดังคาด หมู่บ้านแห่งนี้ธรรมดามาก มีหมู่บ้านลักษณะนี้อีกหลายแห่งอยู่บนเกาะรอบๆ

“หมู่บ้านแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีกับดัก” ฟางหยวนคิดก่อนจะออกจากหมู่บ้านอย่างลับๆ

หัวหน้าหมู่บ้านชรามีนงงอยู่ชั่วครู่แต่เขาไม่ตระหนักถึงการค้นวิญญาณของฟางหยวนและทํางานของเขาต่อไป

วิธีการค้นวิญญาณของฟางหยวนไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์จะสามารถตระหนักถึง

ฟางหยวนบินไปรอบๆและเห็นเกาะเล็กๆอยู่ไกลออกไปในทะเล

อย่างไรก็ตามเขากลับไม่สามารถบินไปยังเกาะเหล่านั้น

“เทพอมตะสวรรค์พิภพบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเสียงในช่วงปีแรกๆของการบ่มเพาะก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเส้นทางแห่งปฐพีในภายหลัง วิธีควบคุมระยะทางเป็นท่าไม้ตายเฉพาะตัวของเขา”

การต่อสู้หลายครั้งของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ศัตรูไม่สามารถโจมตีเขาแม้เขาจะยืนอยู่ในตําแหน่งเดิมก็ตาม

‘นอกจากนั้นวิธีที่เทพอมตะสวรรค์พิภพเชี่ยวชาญก็คือการสร้างมิติสวรรค์พิภพ’

มิติสวรรค์พิภพ

นี่คือเหตุผลที่เขาได้รับฉายาว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร แต่เทพอมตะสวรรค์พิภพทิ้งมิติสวรรค์พิภพจํานวนมากไว้ในห้าภูมิภาคและสองสวรรค์

ลักษณะเด่นของมิติสวรรค์พิภพเหล่านี้คือไม่มีภัยพิบัติ

‘ถ้ําสวรรค์ของวาฬมังกรฟ้าคือมิติสวรรค์พิภพแห่งหนึ่งที่เทพอมตะสวรรค์พิภพสร้างขึ้น’

จากการค้นวิญญาณของหัวหน้าหมู่บ้าน มีข้อมูลมากมายที่ยืนยันเรื่องนี้ หากเกิดภัยพิบัติขึ้น แม้ชายชราจะไม่ตระหนักถึง แต่มันก็ต้องมีข้อมูลบางอย่างบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามมันไม่มีบันทึกดังกล่าว

เนื่องจากฟางหยวนไม่สามารถไปยังเกาะอื่นๆ เขาจึงเปลี่ยนทิศทางและดําลงไปใต้น้ํา

ยิ่งลึกลงไปเท่าใด แรงดันน้ําก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

แรงดันน้ําเป็นปัญหาสําหรับผู้ใช้วิญญาณที่พยายามรวบรวมน้ํามันดิบ แต่สําหรับผู้อมตะระ ดับแปดเช่นฟางหยวน มันไม่ถือเป็นสิ่งใด

ทะเลแห่งนี้อาจลึกมากในความคิดของผู้ใช้วิญญาณ แต่มันตื้นมากสําหรับผู้อมตะ

ในไม่ช้าฟางหยวนก็มองเห็นพื้นที่สีดําขนาดใหญ่

มันคือร่องลึกใต้สมุทรที่เต็มไปด้วยน้ํามันดิบ

น้ํามันดิบเป็นทรัพยากรอมตะบนเส้นทางอาหารที่มีต้นทุนต่ํา มันถือเป็นสินค้าที่สามารถทํากําไรได้ดี

น้ํามันดิบมีประโยชน์อย่างมากต่อผีดิบอมตะ การพรมน้ํามันดิบในมิติช่องว่างที่ตายแล้วจะทําให้ความเร็วในการสลายตัวของมันช้าลง

ย้อนกลับไปน้ํามันดิบเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของกองกําลังพันธมิตรผีดิบ

“มีน้ํามันดิบอยู่ที่นี่ประมาณสามล้านกิโลกรัม ข้าสามารถรวบรวมมันได้ภายในครึ่งวัน แต่ข้าไม่สามารถไปเกาะอื่นๆ แม้น้ํามันดิบจะสามารถเคลื่อนที่ มันก็ต้องใช้เวลานานก่อนที่น้ํามันดิบ จากส่วนอื่นจะไหลมาถึงที่นี่

น้ํามันดิบเป็นทรัพยากรที่รวบรวมได้ง่ายสําหรับผู้อมตะ

แต่มันยากสําหรับผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์

ผู้ใช้วิญญาณต้องมีความเชี่ยวชาญในการสํารวจร่องลึกใต้สมุทรและรวบรวมน้ํามันดิบ คนเหล่านี้ล้วนเป็นมืออาชีพในธุรกิจนี้ พวกเขาต้องมีวิญญาณชุดที่ใช้รวบรวมน้ํามันดิบโดยเฉพาะ

แม้พลังการต่อสู้ของพวกเขาจะไม่สูงนัก แต่พวกเขาจะมีความมั่งคั่งและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ในชีวิตแรกของฟางหยวน เขาเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเก็บรวบรวมน้ํามันดิบของทะเลตะวันออก

เมื่อเห็นน้ํามันดับใต้สมุทรของที่นี่ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะนึกถึงความทรงจําในชีวิตก่อนหน้า

งานรวบรวมน้ํามันดิบเป็นงานอันตราย ปัญหาแรกคืออากาศหายใจ ปัญหาที่สองคือพวกเขาไม่สามารถดําน้ําลึกเกินไป แรงดันน้ําจะฆ่าพวกเขา นอกจากนั้นยังมีสัตว์ร้ายมากมาย ปัญหาสุดท้ายคือพวกเขาต้องมีวิธีการพิเศษในการเก็บรวบรวมน้ํามันดิบ

น้ํามันดิบเป็นทรัพยากรอมตะ หากผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ต้องการเก็บรวบรวมมัน พวกเขาต้องมีวิธีการพิเศษบางอย่าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาไม่มีวิธีป้องกันตัว น้ํามันดิบจะกลืนกินร่างกายของพวกเขา นอกจากนั้นมันยังเป็นพิษและจะกัดกร่อนร่างกายของสิ่งมีชีวิต

ในชีวิตแรกของฟางหยวน ผู้เชี่ยวชาญชราสอนวิธีการพิเศษให้เขาเพราะต้องการบังคับให้เขา แต่งงานกับบุตรสาวของตน

เวลานั้นเขาโกรธมากเพราะรู้สึกราวกับถูกวางแผนร้าย เมื่อคิดถึงเรื่องดังกล่าว ฟางหยวนก็เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา

ผู้เชี่ยวชาญชราไม่มีบุตรชายหรือผู้สืบทอด เขาต้องทํา มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถบอกเคล็ดลับของครองครัวให้กับคนนอก เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องวางแผนจับคู่ นี่เป็น เรื่องปกติ

ในเวลานั้นฟางหยวนไม่มีทางเลือกอื่น โดยปราศจากวิธีการที่เฉพาะเจาะจง เขาจะไม่สามารถกําจัดพิษของน้ํามันดิบ แม้ฟางหยวนจะรู้วิธีการบางอย่าง แต่มันจําเป็นต้องใช้วิญญาณบางดวง ด้วยเหตุผลทั้งหมดเขาจึงต้องยอมจํานน

ปัจจุบันเขาสามารถหลอมรวมวิญญาณที่จําเป็นทั้งหมดได้ทันที แต่เขาไม่ต้องการพวกมันอีกต่อไป

ชีวิตมักเป็นเช่นนี้ เวลาที่บางคนขาดบางสิ่ง พวกเขากลับไม่มี เวลาที่พวกเขามีบางอย่างแต่พวกเขากลับไม่ต้องการมันอีกต่อไป

นั่นเป็นเหตุผลที่การได้รับบางสิ่งในเวลาที่ผู้คนต้องการมันมากที่สุดจึงถูกเรียกว่าการเผชิญหน้าโดยบังเอิญ

‘ย้อนกลับไปข้าเกือบตายเพราะพยายามรวบรวมน้ํามันดิบ’

‘โชคและภัยพิบัติมักมาพร้อมกันจริงๆ แม้ข้าจะเกือบตายแต่มันก็ทําให้ข้าได้พบกับโม่เอ๋อ…จากมุมมองนี้ก็คือว่าผู้เชียวชาญเฒ่าทําสิ่งที่ดี’

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มซับซ้อน

ร่างสีขาวปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง

การปรากฏตัวของนางทั้งคลุมเครือและชัดเจนในเวลาเดียวกัน

ชื่อของนางคือเซี่ยฮันโม่

ฟางหยวนไม่เคยลืมชื่อนี้เพราะนางเป็นหญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิตก่อนหน้า

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท