เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1654 วิญญาณเปลือกหอยวารี

บทที่ 1654 วิญญาณเปลือกหอยวารี

บทที่ 1654 วิญญาณเปลือกหอยวารี

หลายวันต่อมา

คลื่นน้ําปะทะโขดหินและทําให้เกิดฟองสีขาวสาดกระเซ็นไปทั่ว

เกาะเล็กๆแห่งนี้ไม่มีทรัพยากรใดๆนอกจากน้ํามันดิบที่อยู่ใต้ทะเล

ความโลภของมนุษย์เป็นสิ่งที่ไร้ขอบเขตขณะที่สวรรค์จะสร้างสมดุลเสมอ

เนื่องจากการคงอยู่ของทรัพยากรอมตะน้ํามันดิบ เกาะแห่งนี้จึงไม่มีทรัพยากรอื่น หมู่บ้านชาวประมงเป็นเช่นนี้มาหลายร้อยปีแล้ว พวกเขาแทบไม่มีพัฒนาการ มีผู้ใช้วิญญาณอยู่บนเกาะเพียงไม่กี่คนมันน้อยมากจริงๆ

ตอนนี้ฟางหยวนกําลังต่อสู้กับผู้ใช้วิญญาณระดับสองอยู่กลางหมู่บ้าน

“ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม”

หลังจากต่อสู้มาชั่วครู่ ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนระดับสองก็นอนอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรง

ฟางหยวนในรูปลักษณ์ของซูอิงยืนอยู่ที่นั่นด้วยมือไพล่หลังและเผยรอยยิ้มบาง

ตั้งแต่ต้นจนจบฟางหยวนยืนอยู่ในตําแหน่งเดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน

ผู้ใช้วิญญาณระดับสองยืนขึ้นอย่างยากลําบากและป้องหมัด “ท่านชูมีวิธีการที่น่าทึ่งมาก ขอบคุณสําคัญการชี้แนะ”

เขารู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจ

เมื่อไม่กี่วันก่อนฟางหยนวปลอมตัวเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่เข้ามาในหมู่บ้านอย่างเปิดเผยและเริ่มติดต่อผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้าน

ย้อนกลับไปการปรากฏตัวของเขาทําให้เกิดความโกลาหล ปกติแล้วคนนอกจะไม่มาที่หมู่บ้านแห่งนี้

ตัวตนของฟางหยวนคือผู้ใช้วิญญาณพเนจร เขาปรากฏตัวในหมู่บ้านและทําให้ชีวิตที่สงบสุขของชาวบ้านเปลี่ยนแปลงไป

กระทั่งมนุษย์ธรรมดาก็รู้ว่ามีผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งเข้ามาในหมู่บ้านของพวกเขา

ผู้ใช้วิญญาณพเนจรจะเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก พวกเขาไม่มีบ้านและมักอยู่เพียงลําพังแต่บางคนก็อาจรวบกลุ่มสองหรือสามคน

ผู้ใช้วิญญาณพเนจรมักมีจุดแข็งและจุดอ่อนบางอย่าง

มันเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจตรงกัน

โลกภายนอกไม่ปลอดภัย มีเพียงผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถเดินทาง ไปรอบๆมันไม่ใช่ปัญหาเรื่องความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องดูแลที่พัก อาหารวิธีการเดินทางและการให้อาหารวิญญาณ

หากปราศจากความแข็งแกร่งที่เพียงพอ พวกเขาจะไม่สามารถออกเดินทาง

ดังนั้นเมื่อฟางหยวนปรากฏตัว ผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้านจึงเต็มไปด้วยความกังวล กลิ่นอายของผู้ใช้วิญญาณระดับสี่คุกคามพวกเขาเป็นอย่างมาก

ฟางหยวนอ้างว่าเขาต้องการอาหารสําหรับวิญญาณของเขา เขาขอทรัพยากรจากหัวหน้าหมู่บ้านชราโดยตรง

หัวหน้าหมู่บ้านชราเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามเพียงคนเดียวในหมู่บ้าน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าปฏิเสธคําขอของฟางหยวน

หลังการต่อสู้ ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนระดับสองเข้ามาพบหัวหน้าหมู่บ้าน ทั้งสองเริ่มพูดคุย

ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนระดับสองไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขเพียงเผยใบหน้าขมขืน หัวหน้าหมู่บ้านยิ้ม “ตอนนี้เจ้ารู้แล้วใช่หรือไม่ว่าท่านชูแข็งแกร่งเพียงใด?”

ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนพยักหน้า “ท่านชูแข็งแกร่งจริงๆ แม้พวกเราจะรวมพลังกัน พวกเราก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”

เขามองหัวหน้าหมู่บ้านด้วยท่าทางไม่พอใจ “แต่เหตุใดเราต้องมอบทรัพยากรให้เขา วิญญาณของเขาหิวมาก นั่นเป็นปัญหาของเขา เหตุใดเราต้องแก้ปัญหาให้เขา สิ่งสําคัญที่สุดคือเรามีทรัพยากรในคลังไม่มาก สมบัติที่พวกเราสะสมมาตลอดสองสามชั่วอายุคนถูกใช้จนหมดในวันเดียว!”

หัวหน้าหมู่บ้านเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวบางสิ่ง “ผู้ใช้วิญญาณพเนจรมีกฎบางอย่าง พวกเขามักแลกเปลี่ยนบางสิ่งเมื่อเดินทางไปถึงสถานที่บางแห่ง ผู้ใช้วิญญาณเหล่านี้แข็งแกร่งมากกองกําลังท้องถิ่นส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิเสธพวกเขา ในทางตรงข้ามพวกเขามักสร้างความสัมพันธ์ที่ดีนี่อาจเป็นการเผชิญหน้าโดยบังเอิญของพวกเรา”

ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนขมวดคิ้วและรู้สึกโกรธมากขึ้น “ท่านผู้นํา ท่านกล่าวว่ามันควรเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ท่านชูผู้นี้กลับนําทรัพยากรไปโดยตรง เขาไม่ได้แลกเปลี่ยนสิ่งใดกับพวกเรา!”

“แล้วเจ้าคิดว่าพวกเราสามารถทําสิ่งใด?” หัวหน้าหมู่บ้านชรามองผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคน

ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนเงียบ หลังจากสูดหายใจลึกสองสามครั้ง เขาสามารถสงบจิตใจลงเขาก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกขมขื่น เจ็บปวด และไร้อํานาจ

“มันเป็นเพียงเรื่องของเวลา” อีกด้านหนึ่งฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

การสนทนาระหว่างผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนและหัวหน้าหมู่บ้านชราอยู่ภายใต้การรับรู้ของฟางหยวนแท้จริงแล้วเขารู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้

ไม่กี่วันก่อนเขาลงไปใต้ทะเลเพื่อรวบรวมน้ํามันดิบ แต่หลังจากนั้นเขาเกิดแรงบันดาลใจบางอย่างและเปลี่ยนความคิด

ฟางหยวนตระหนักว่าการเก็บน้ํามันดิบไม่ใช่ประเด็นสําคัญ สิ่งสําคัญคือมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาควรทดสอบสถานการณ์

ดังนั้นฟางหยวนจึงปลอมตัวเป็นผู้ใช้วิญญาณพเนจรเข้ามาในหมู่บ้าน

วันถัดมาฟางหยวนไปพบหัวหน้าหมู่บ้านอีกครั้ง ชายชรากล่าว “ท่านชู ท่านต้องการทรัพยากรเพิ่มเติมเช่นนั้นหรือ?”

ฟางหยวนยิ้ม “ท่านผู้เฒ่า ขอบคุณสําหรับการต้อนรับ ข้าจะออกเดินทางแล้ว”

หัวหน้าหมู่บ้านชรามันงงแต่เขายังแสดงออกด้วยความตกใจและโศกเศร้า “ท่านชู ท่านกําลังจะจากไป เหตุใดท่านไม่อยู่ต่ออีกสองสามวัน เราต้องการดูแลท่านให้มากกว่านี้”

ฟางหยวนส่ายศีรษะ “ท่านผู้เฒ่า ข้ารบกวนท่านมาสองสามวันแล้ว หากข้ายังอยู่ต่อ พวกเขาอาจไม่ทะเลาะกับข้าอีกต่อไปแต่จะเสี่ยงชีวิตต่อสู้กับข้า”

หัวหน้าหมู่บ้านตกใจและเผยรอยยิ้มขมขึ้น “ท่านรู้เรื่องนี้

ฟางหยวนกล่าวอย่างใจเย็น “ข้าเดินทางมาหลายปีแล้ว ข้าจะไม่เข้าใจความคิดของพวกท่านได้อย่างไร? ข้าไม่ชอบรังแกคนอ่อนแอ ดังนั้นก่อนที่ข้าจะจากไป ข้าจะมอบบางสิ่งให้กับท่าน”

หัวหน้าหมู่บ้านมีความสุขมากแต่ยังสงสัย เขาโบกมือ “ท่านชู นั่นไม่จําเป็น

“เรียกผู้ใช้วิญญาณทั้งหมดมาที่นี่” ฟางหยวนยิ้มและกล่าวอย่างชัดเจน

ครูต่อมาผู้ใช้วิญญาณทั้งหมดของหมู่บ้านก็มารวมตัวกันที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านชรายกเว้นผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนระดับสองคนเมื่อวาน

“น่าเสียดายที่เขาออกไปเก็บน้ํามันดิบใต้ทะเล” หัวหน้าหมู่บ้านชราอธิบาย

ฟางหยวนมองชายชราอย่างลึกซึ้งและเผยรอยยิ้ม “ท่านผู้เฒ่า ท่านกังวล มากเกินไป ทุกคนดูวิญญาณดวงนี้”

ฟางหยวนนําวิญญาณระดับสองออกมา

มันเป็นวิญญาณสีฟ้าขาว

ฟางหยวนกล่าวต่อ “นี่คือวิญญาณเปลือกหอยวารี มันสามารถสร้างชั้นน้ําปกคลุมร่างกายราวกับเปลือกหอย มันสามารถต่อต้านแรงดันน้ําใต้ทะเลลึก หากใช้วิญญาณดวงนี้ พวกเจ้าจะสามารถดําลงไปใต้น้ําได้ลึกหก”

ความโกลาหลปะทุขึ้นทันที

“วิญญาณระดับสองที่ทําให้ดําน้ําได้ถึงหกลี้?”

“วิญญาณเปลือกหอยวารีเหตุใดข้าไม่เคยได้ยินชื่อของมันมาก่อน”

ฟางหยวนยิ้ม “ลองดู”

หลังจากทดลองใช้งาน ผู้ใช้วิญาณทั้งหมดรู้สึกมีความสุขมาก พวกเขาพบว่าวิญญาณดวงนี้ใช้พลังวิญญาณน้อยมาก

“นี่เป็นวิญญาณระดับสองที่หายากและล้ําค่าจริงๆ!” บางคนกล่าวเสียงสั่น

น่าเสียดายที่มีเพียงดวงเดียว

หัวหน้าหมู่บ้านส่งสายตาตําหนิคนผู้นี้ทันที

ฟางหยวนหัวเราะ “อย่ากังวล ทุกคนจะได้รับมัน”

หลังกล่าวจบคํา ฟางหยวนนําวิญญาณเปลือกหอยวารีออกมาให้กับทุกคน

วิญญาณเปลือกหอยวารีเกือบสิบดวงถูกส่งมอบ เหลือหนึ่งดวงอยู่ในมือของฟางหยวนเขาส่งมันให้หัวหน้าหมู่บ้าน “มอบสิ่งนี้ให้เขา”

หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกสะเทือนใจมาก เขาขอโทษอย่างสุดซึ้ง “ข้าผิดไปแล้ว ท่านชูเป็นคนใจกว้างจริงๆ”

ฟางหยวนรวบรวมผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านชราเกรงว่าฟางหยวนจะพยายามกําจัดพวกเขา หากเป็นเช่นนั้น พวกเขาจะทําอย่างไร?

นั่นไม่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

จิตใจคนยากที่จะเข้าใจ โดยเฉพาะคนแปลกหน้า

ดังนั้นหัวหน้าหมู่บ้านชราจึงเก็บผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนเอาไว้ในสถานที่ลับเพราะเกรงว่าฟางหยวนจะโจมตี

แต่การกระทําของฟางหยวนกลับทําให้หัวหน้าหมู่บ้านชรารู้สึกละอายใจ

อย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น

“นี่คือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณเปลือกหอยวารี ข้าจะมอบให้พวกเจ้า” ฟาง หยวนมอบเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณให้กับผู้ใช้วิญญาณทั้งหมด

ทุกคนตกตะลึง

การให้วิญญาณกับเคล็ดลับการหลอมรวมเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ท่านชู เราจะรับมันไว้ได้อย่างไร?” หัวหน้าหมู่บ้านชรารับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณเปลือกหอยวารีด้วยมือสั่นเทา

“อย่าคิดมาก ลองดูเนื้อหากันเถอะ” ฟางหยวนโบกมือ

ทุกคนตรวจสอบเนื้อหาก่อนที่บางคนจะอุทานออกมา “โอ้ สวรรค์ วัสดุหลักใน การหลอมรวมวิญญาณเปลือกหอยวารีคือเปลือกหอยเกลียวคลื่นที่อยู่บนเกาะของเรางั้นหรือ?”

“เราสามารถหาวัสดุในการหลอมรวมทั้งหมดจากบนเกาะของเรา!” บางคนตะโกน

ฟางหยวนพยักหน้า “ข้ามีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอยู่บ้าง หลายวันมานี้ข้าได้เรียนรู้การใช้ชีวิตและวิธีการฝึกฝนของพวกเจ้าขณะเดียวกันข้าก็ตรวจสอบเกาะแห่งนี้ ข้าพยายามมองหาสิ่งที่มีประโยชน์ที่อยู่บนเกาะและสร้างเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณนี้ขึ้นมาสําหรับพวกเจ้าโดยเฉพาะ ดังนั้นพวกเจ้าควรรับมันไว้”

หัวหน้าหมู่บ้านคุกเข่าลงทันที

หัวหน้าหมู่บ้านชราส่ายศีรษะกล่าว “ข้าตาบอดและมองไม่เห็นภูเขาใหญ่ ข้าไม่รู้ว่าท่า นชูเป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ข้ารู้สึกละอายใจนัก แท้จริงแล้วข้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับความเมตตาของท่านชูข้า…”

ก่อนที่หัวหน้าหมู่บ้านชราจะกล่าวจบ ฟางหยวนก็ช่วยประคองเขาให้ยืนขึ้นและเผย

รอยยิ้ม บาง “ท่านผู้เฒ่า อย่ากล่าวเช่นนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ข้าจะตอบแทนความเมตตาของท่าน ข้าได้รับทรัพยากรมากมายจากท่าน การพบกันของเราคือโชคลาภ เราควรรักษามันไว้”

“แต่ข้าพึ่งสร้างวิญญาณเปลือกหอยวารีขึ้นมา ข้ายังไม่แน่ใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของมันเหตุใดท่านไม่เลือกผู้ใช้วิญญาณสองสามคนเพื่อลงไปใต้น้ําพร้อมกันกับข้า เราจะไปเก็บรวบรวมน้ํามันดิบและทดสอบผลกระทบที่แท้จริงของวิญญาณดวงนี้”

“พวกเราจะทําตามคํากล่าวของท่าน!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท