เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1659 การเดิมพันของเซี่ยหลิน

บทที่ 1659 การเดิมพันของเซี่ยหลิน

บทที่ 1659 การเดิมพันของเซี่ยหลิน

กลับมาจากความทรงจําของฟางหยวน

เขาเดินเข้าไปในเรือนหยกทอง

บ่อนการพนันแห่งนี้ค่อนข้างมีระดับ มีผลึกหินขนาดใหญ่หลายสิบก้อนวางอยู่ในห้องโถงใหญ่ด้านหลังยังมีห้องเล็กๆอีกหลายห้องที่เต็มไปด้วยผลึกหินโชคลา?

ไม่ว่าผลึกหินเหล่านี้จะมีวิญญาณอยู่ภายในหรือไม่ ฟางหยวนสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย

เขาเป็นผู้อมตะ วิธีตรวจสอบของเขาสามารถค้นหาวิญญาณระดับมนุษย์ได้อย่างไม่มีปัญหาในทํานองเดียวกันแม้วิญญาณที่อยู่ในผลึกหินจะอ่อนแอมากแต่เขายังสามารถรักษาพวกมัน

ผลึกหินโชคลาภบางก้อนอาจมีวิญญาณอมตะหรือทรัพยากรอมตะซ่อนอยู่ในกรณีนี้วิ ธีตรวจสอบส่วนใหญ่จะไม่มีประสิทธิภาพ

ฟางหยวนกําลังจะสั่งสอนพ่อค้าไร้ยางอายในเรือนหยกทองแต่เขากลับได้ยินเสียงแห่งความ โกลาหลดังขึ้นจากห้องโถงด้านหลัง

“เจ้าไม่ซื่อสัตย์!” นางเงือกเซี่ยหลินตะโกนด้วยความโกรธ

“ข้าไม่ซื่อสัตย์งั้นหรือ? ฮ่าฮ่า สิ่งนี้ถูกบันทึกไว้ในวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลอย่า งชัดเจนแม้เจ้าจะคืนเงินบางส่วน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการชําระคืน” มนุษย์เงือกร่างใหญ่ที่มีรอยแผลอยู่บนใบหน้ากล่าว

“เจ้า…เจ้า” เชี่ยหลินชี้นิ้วไปที่มนุษย์เงือกผู้นั้น “ช่างไร้ยางอายนักเจ้าเปลี่ยนรายละ เอียดของสัญญาเดิมที่สัญญาของเรามีดอกเบี้ยสิบส่วน แต่เจ้าเพิ่มเป็นหกสิบส่วน!”

มนุษย์เงือกที่มีรอยแผลเป็นอยู่บนใบหน้ามองเซี่ยหลินด้วยสายตาชั่วร้าย“สาวน้อย เจ้าไม่ ควรเผยแพร่ข่าวปลอมเช่นนั้น!เจ้ากําลังทําลายชื่อเสียงของเราหากลูกค้าไม่มาที่นี่อีก เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร?”

“ไร้สาระ! ต่อให้ตาย ข้าก็จะเปิดเผยความชั่วของที่นี่!”

มนุษย์เงือกรอยแผลเป็นเปลี่ยนน้ําเสียงเป็นน่ากลัว “ตายงั้นหรือ? ไร้เดียงสา บางครั้งการมีชีวิตอยู่ก็น่ากลัวยิ่งกว่าความตาย”

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขานึกถึงนางเงือกที่เขาพบเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

เหตุใดนางถึงมาอยู่ที่นี่?

น้ําตาของเซี่ยหลินไหลออกมาจากดวงตา

หลายเดือนก่อนปูของนางที่เป็นสมาชิกในครอบครัวเพียงคนเดียวของนางเสียชีวิต

งานศพของมนุษย์เงือกมีค่าใช้จ่ายสูงมาก นางต้องกู้เงินมาฝังศพปูของนาง เพื่อชําระหนี้นางต้องเสี่ยงออกไปรวบรวมน้ํามันดิบและเกือบเสียชีวิต โชคดีที่นางพบฟางหยวนและได้รับการช่วยเหลือราวปาฏิหาริย์

เซี่ยหลินได้รับวิญญาณรวบรวมน้ํามันจากฟางหยวน นั่นทําให้นางสามารถขายน้ํามันดิบและได้รับหินวิญญาณจํานวนมาก

นางนําหินวิญญาณเหล่านั้นมาที่เรือนหยกทองเพื่อชําระหนี้ แต่เจ้าหนี้ของนางไร้ยาง อายเกินไปพวกเขาเปลี่ยนข้อตกลงในสัญญาของนาง

เซี่ยหลินรู้สึกอยากตาย

ครอบครัวของนางจากไปแล้ว ตอนนี้นางอยู่เพียงลําพังบนโลกใบนี้ นางถูกชนเผ่าขับไล่ออกมาตั้งแต่อายุยังน้อย เหตุการณ์ทั้งหมดทําให้นางรู้สึกหมดหนทาง โลกกลายเป็นสีเทา นางไม่สามารถแสวงหาความสุขในชีวิต

“ข้าควรตายและจบเรื่องนี้

เซี่ยหลินคิดและเริ่มเคลื่อนไหว

“บึม!”

มนุษย์เงือกรอยแผลเป็นไม่เคยคาดหวังว่าผู้ใช้วิญญาณระดับสองจะกล้าโจมตีเขาที่เป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามในเรือนหยกทอง

นั่นทําให้มนุษย์เงือกรอยแผลเป็นพุ่งเข้าปะทะกําแพงอย่างรุนแรง

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทําให้ผู้ใช้วิญญาณเริ่มเข้ามามุงดูเหตุการณ์

ดวงตาจํานวนมากมองไปที่เซี่ยหลินและมนุษย์เงือกรอยแผลเป็น

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“ฮ่าฮ่า มันจะเป็นสิ่งใดได้ เรือนหยกทองคงหลอกผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง”

“อย่าพูดเสียงดัง เจ้าของเรือนหยกทองเป็นผู้มีอิทธิพลของที่นี่”

“ข้าได้ยินมาว่าเรือนหยกทองมักเอาเปรียบผู้ใช้วิญญาณระดับต่ําเสมอ”

“อย่ายุ่งกับพวกเขา พวกเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”

เป็นเพียงเวลานี้ที่มนุษย์เงือกรอยแผลเป็นลุกขึ้นจากพื้น “เจ้ากล้าโจมตีข้า ข้าจะทําให้เจ้าตายทั้งเป็น!”

เขาเดินเข้าไปหาเซี่ยหลินที่กําลังตกใจ นางกัดฟันแน่นและพยายามที่จะไม่ล่าถอย

ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองสั้นลงเรื่อยๆ เมื่อมนุษย์เงือกรอยแผลเป็นกําลังจะโจมตี เสียงสายหนึ่งกลับดังขึ้น “เดี๋ยว!”

มนุษย์เงือกรอยแผลเป็นหยุดเคลื่อนไหวและก้มศีรษะไปทางเจ้าของเสียงทันที “นายท่านสิ่งใดที่ทําให้ท่านมาที่นี่?”

คนผู้นี้คือเจ้าของเรือนหยกทอง เขาเป็นมนุษย์เงือกเกล็ดเหลือง

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองขมวดคิ้วและตะโกนไปที่มนุษย์เงือกรอยแผลเป็น “เจ้ากําลังทําสิ่งใด? เจ้าพยายามทําลายร้านของข้างั้นหรือ?”

“นายท่าน นาง…”

เขาถูกขัดจังหวะก่อนที่เขาจะกล่าวจบ

“ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าเราต้องสุภาพ ความสันติจะนําโชคลาภมาให้ เข้าใจหรือไม่?”

“ผู้น้อยเข้าใจแล้ว” มนุษย์เงือกรอยแผลเป็นพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

หัวใจของเซี่ยหลินกลายเป็นเย็นเยียบ

นางผ่านความยากลําบากมามากมาย นางมีประสบการณ์ทั้งด้านสว่างและด้านมืด

“บุคคลที่สามารถทําให้มนุษย์เงือกผู้นี้แสดงความเคารพย่อมไม่ใช่คนธรรมดา” เซี่ยหลินเข้าใจเรื่องนี้และระวังตัวมากขึ้น

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองมองเซี่ยหลินอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าว “สาวน้อย อย่า กังวลเมื่อข้าอยู่ที่นี่ เจ้าจะไม่ถูกทําร้าย แต่ข้าต้องการให้เจ้าใช้เหตุผลเช่นกัน เจ้าติดหนี้พวกเราแต่เจ้ากําลังจะปฏิเสธงั้นหรือ?”

หลินเซี่ยรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อได้ยินเช่นนี้ “พวกเจ้าไร้ยางอายเกินไป พวกเจ้าเปลี่ยนข้อตกลงกันเองเดิมที่ดอกเบี้ยของการกู้ยืมคือสิบส่วน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นหกสิบส่วน ข้าชําระหนี้ของข้าไปหมดแล้ว!”

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองเผยรอยยิ้ม “สาวน้อย ทักษะการแสดงของเจ้ายอดเยี่ยมนัก แต่มันไร้ประโยชน์! แม้จะดูน่าเชื่อถือเพียงใด หากไม่มีหลักฐาน เจ้าก็ไม่สามารถพิสูจน์สิ่งใด เรามีข้อตกลงอยู่ที่นี่ มันระบุเงื่อนไขเอาไว้อย่างชัดเจน”

“เจ้าเจ้า” เซี่ยหลินโกรธมากแต่นางไม่สามารถกล่าวสิ่งใด

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองหัวเราะและโบกมือ “เจ้าเป็นเด็กน้อย ข้าจะไม่รังแกเจ้า มี ฉะนั้นคนอื่นๆอาจกล่าวว่าเรือนหยกทองของข้ารังแกลูกค้าหากเจ้าชําระหนี้ครึ่งหนึ่ง ข้าจะปล่อยเจ้าไป”

“นี่คือการแสดงความจริงใจของข้า หากเจ้าชําระหนี้ตอนนี้ ข้าจะลดดอกเบี้ยเป็นสาม สิบส่วนนี่คือราคากลาง เจ้าบอกว่าเรามีข้อตกลงดอกเบี้ยสิบส่วน ผู้ใดจะเชื่อเจ้า ลองตรวจสอบดูว่ามีร้านใดที่ปล่อยเงินกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยเพียงสิบส่วน”

ดวงตาของเซี่ยหลินกลายเป็นแดง

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในท้องตลาดคือสามสิบส่วนจริงๆ นั่นก็เป็นเหตุผลที่เซี่ยหลินมากู้เงินจากเรือนหยกทอง แต่ผู้ใดจะคิดว่านี้เป็นกับดัก นางถูกหลอก

เมื่อเห็นเชี่ยหลินเงียบ มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองก็นําวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกมา “นี่คือข้อตกลงการกู้เงินของเรา หากเจ้าชําระหนี้ให้ข้า ข้าจะคืนวิญญาณดวงนี้ให้เจ้า”

เซี่ยหลินตกตะลึง “ข้ามีหินวิญญาณไม่พอ”

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองหัวเราะ “อย่ากังวล เจ้าสามารถจ่ายด้วยวิญญาณ ข้ารู้ว่าเจ้ามีวิญญาณรวบรวมน้ํามัน เจ้าสามารถใช้มันเพื่อชําระหนี้”

เซี่ยหลินเข้าใจทันที “นั่นคือเป้าหมายที่แท้จริงของเจ้า เจ้าต้องการวิญญาณ รวบรวมน้ํามันของข้ายืมนี่คือวิญญาณระดับห้าแม้ข้าจะตายเจ้าก็จะไม่ได้รับวิญญาณดวงนี้”

ความโกลาหลปะทุขึ้นทันที

“วิญญาณรวบรวมน้ํามัน? ข้าได้ยินสิ่งใดผิดไปหรือไม่?”

“ข่าวลือเกี่ยวกับวิญญาณระดับห้าดวงนี้เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ข้าได้ยินว่ามันมีความสามารถในการรวบรวมน้ํามันดิบที่น่าอัศจรรย์มาก!”

“นอกจากนั้นแม้มันจะเป็นวิญญาณระดับห้าแต่มันไม่พึ่งพาพลังวิญญาณ มันต้องการเพียงไขกระดูกของผู้ใช้วิญญาณ กระทั่งผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งก็สามารถใช้งานมัน”

“ข้าได้ยินมาว่าหากใช้วิญญาณรวบรวมน้ํามันบ่อยเกินไป มันจะกลายเป็นการฆ่าตัวตาย”

“เห้อ….คนพวกนั้นไม่เข้าใจ หากเราใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งกระดูกกับ มัน การเก็บรวบรวมน้ํามันดิบจะปลอดภัยมาก”

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองปรบมือ “สาวน้อย เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าแน่ใจว่าเจ้าเข้าใจตรรกะที่ว่าโชคลาภดึงดูดฝูงหมาป่า ผู้ใช้วิญญาณระดับสองเช่นเจ้าจะเป็นเจ้าของวิญญาณระดับห้าได้อย่างไร? น้ํามันมาให้ข้า แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป มอบมันให้ข้าและทําให้ชีวิตของเจ้ามั่งคง นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีกว่างั้นหรือ?”

“สารเลว! แม้ตายข้าก็ไม่มอบมันให้สวะเช่นเจ้า!” เซี่ยหลินต่อต้านด้วยทัศนคติที่มุ่งมั่น

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองรู้สึกปวดหัว

เป็นเรื่องยากที่จะฉกชิงวิญญาณของผู้อื่น นางสามารถทําลายวิญญาณได้ด้วยหนึ่งความคิดหากเป็นเช่นนั้นแผนการของมนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองจะพังทลายลง

สถานการณ์ที่ดีที่สุดคือเซียหลินมอบมันให้เขา

มิฉะนั้นเขาต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมเท่านั้น

แต่ผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมไม่มีอยู่ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้

กระทั่งผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมจะอยู่ที่นี่ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะขโมยวิญญาณระดับห้า

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองโกรธมาก เขาวางแผนมานานแต่เขาไม่สามารถบังคับให้เซี่ยหลินส่งมอบวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงต้องถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“เช่นนี้เป็นอย่างไร ข้าจะให้โอกาสเจ้า เราสามารถเดินพัน”

“เดิมพัน?”

“เราจะเปิดผลึกหินโชภลาภ วิธีตัดสินคือชัยชนะสองในสามครั้ง”

เซี่ยหลินเผยรอยยิ้มเย็นชา “ข้าจะเชื่อคนไร้ยางอายที่กลับกลอกเช่นเจ้าได้อย่างไร?”

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองคิดก่อนจะสบัดมือส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลบินไปหาเซี่ยหลิน

เซี่ยหลินรับมันไว้ด้วยความตกใจ

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองกล่าวเสริม “ข้าสาบานต่อเทพสมุทร!”

มนุษย์เงือกต่างจากมนุษย์ พวกเขามีความเชื่อเกี่ยวกับเทพสมุทร ด้วยการสาบานต่อเทพสมุทร มันสามารถพิสูจน์ความจริงใจของพวกเขา

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองกล่าวต่อ “เหตุใดยังลังเลอยู่อีก? ผลึกหินโชคลาภขึ้นอยู่กับทักษะและโชคของเจ้า ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว อย่าทิ้งมัน แท้จริงแล้วนี่เป็นทางออกเดียวของเจ้าในวันนี้เจ้าควรคว้าโอกาสนี้ไว้”

มนุษย์เงือกเกล็ดเหลืองใช้ทั้งไม้และแครอท เชี่ยหลินรู้สึกหงุดหงิดมาก

นางลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เสียงสายหนึ่งจะดังขึ้นในใจของนาง “อย่ากลัว เดิมพันกับเขา ข้าอยู่ที่นี่!”

“ท่านชู!”เซี่ยหลินกรีดร้องด้วยความยินดีอยู่ในใจ

ฟางหยวนกล่าวต่อ “แต่เจ้าต้องเปลี่ยนเงื่อนไขการเดิมพันเพราะมันอ่อนเกินไป เชื่อข้านี่จะเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่”

“ข้าเชื่อใจท่าน” เซียหลินตอบโดยไม่ลังเล

ฟางหยวนช่วยชีวิตนาง หากเขาต้องการทําร้ายนาง เขาไม่จําเป็นต้องช่วยนางก่อนหน้านี้

“ท่านชูช่วยชีวิตข้า แม้เขาจะต้องการทําร้ายข้า ข้าก็จะมอบชีวิตนี้คืนให้กับเขา!”

เมื่อคิดได้เช่นนี้เชี่ยกลินก็ตอบกลับฟางหยวน “ท่านชู โปรดชี้แนะ ข้าจะทําตามคําแนะนําของท่าน”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท