เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1662 การแข่งขันของเทพธิดา

บทที่ 1662 การแข่งขันของเทพธิดา

บทที่ 1662 การแข่งขันของเทพธิดา

มากกว่ายี่สิบวันผ่านไป

ฟางหยวนมองอันดับของเขาบนหอคอยเกียรติยศ ตอนนี้อันดับของเขาตกลงมาอยู่ที่ห้า

หลังจากรับภารกิจ กลุ่มผู้อมตะเริ่มได้รับแต้มบุญ แต้มบุญเหล่านี้สามารถใช้แลกเปลี่ยนกับทรัพยากรอมตะ วิญญาณอมตะ เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ ท่าไม้ตายอมตะ หรือกระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

ด้วยแต้มบุญของเมี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆในเวลานี้ พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนกับสมบัติระดับล่างเท่านั้น แต่มันก็เป็นแรงจูงใจให้พวกเขาพยายามมากขึ้น

การแข่งขันเริ่มเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ฟางหยวนไม่สนใจ เป้าหมายเดียวของเขาคือวิญญาณความเสียใจ

วิญญาณความเสียใจมีความสําคัญมากสําหรับฟางหยวน แม้สมบัติอื่นๆจะมีล้ําค่าแต่พวกมันเป็นเพียงน้ําตาลบนหน้าเค้ก วิญญาณความเสียใจจะทําให้ฟางหยวนได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ

อย่างไรก็ตามท่ามกลางรางวัลเหล่านี้ ไม่มีวิญญาณความเสียใจ

วิญญาณความเสียใจไม่ได้อยู่ในรายการของรางวัลแต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่ได้อยู่ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้

หลังจากอนุมาน ฟางหยวนเลือกภารกิจที่จะนําเขาไปสู่ทะเลปีศาจร่ําไร้เท่านั้น

มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับทะเลดังกล่าว

จากการอนุมานของฟางหยวน มีความเป็นไปได้สูงที่วิญญาณความเสียใจจะอยู่ที่ทะเลปีศาจร่ําไห้

ภารกิจลงโทษพ่อค้าไร้ยางอายเป็นภารกิจที่ทําให้ฟางหยวนเข้าใกล้ทะเลปีศาจได้มากที่สุด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถเดินทางไปที่นั่น

“ข้าจะเข้าไปในทะเลปีศาจร่ําไว้ได้อย่างไร?”

ปัญหานี้ทําให้ฟางหยวนรู้สึกปวดหัว

การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพทรงพลังเกินไป ฟางหยวนไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งห้วงมิติของเขาไม่น่าประทับใจ เขาเคยพยายามใช้วิญญาณท่องแดนอมตะมาก่อน แต่มันล้มเหลว กระทั่งท่าไม้ตายอมตะที่ฟางหยวนคิดค้นขึ้นก็ยังไม่สามารถใช้งาน นี่หมายความว่าเมื่อฟางหยวนออกจากถ้ําสวรรค์แห่งนี้ เขาจะไม่สามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อกลับเข้ามา

สําหรับคนเหล่านี้

ฟางหยวนมองรายชื่อที่อยู่บนหอคอยเกียรติยศ

การฆ่าผู้อมตะเหล่านี้ที่นี่มีความเสี่ยง

ในทางกลับกันผู้อมตะเหล่านี้จะได้รับรางวัลจากการทําภารกิจ พวกเขาเหมือนปศุสัตว์ที่ฟางหยวนสามารถฆ่าและใช้ประโยชน์หลังจากออกไป

ด้วยเหตุนี้ไม่เพียงฟางหยวนจะไม่ทําร้ายพวกเขาแต่เขายังจะช่วยสนับสนุนทุกคน

เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะเมื่อรางวัลมีอยู่อย่างจํากัด หากบางคนแลกเปลี่ยนบางสิ่ง คนอื่นจะไม่ได้รับมัน

ดังนั้นแม้พวกเขาจะไม่พยายามฆ่ากันเอง แต่พวกเขาก็วางแผนต่อต้านและตั้งใจให้ข้อมูลเท็จกับคนอื่นๆ

ในสถานการณ์นี้ ชูอิงที่จริงใจและซื่อสัตย์เหมือนคนนอกคอก เขากลายเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด กระทั่งเมี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆจะไม่กล่าวสิ่งใดออกมา แต่พวกเขาก็เป็นมิตรกับฟางหยวนมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นในสามวันต่อมา

ภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นบนหอคอยเกียรติยศ มันคือการมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงเงือก เข้าร่วมพิธีบูชาเทพสมุทร และปกป้องเมืองจากการโจมตีของสัตว์อสูร

เมื่อภารกิจนี้ปรากฏขึ้น ฟางหยวนเลือกมันทันที

“ในที่สุดโอกาสที่ข้ารอคอยก็มาถึงแล้ว” ฟางหยวนตื่นเต้นมาก

พิธีบูชาเทพสมุทรเป็นประเพณีของเผ่ามนุษย์เงือก ในพิธีนี้มนุษย์เงือกชายหญิงจะแต่งงานและสร้างครอบครัวใหม่ นอกจากนั้นมันยังเป็นช่วงเวลาที่จะคัดเลือกเทพธิดา เงือกคนใหม่ของเผ่ามนุษย์เงือก

เทพธิดาเงือกมีสถานะสูงมากในสังคมมนุษย์เงือก

ฟางหยวนได้รับข้อมูลสําคัญมาแล้ว ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้เทพธิดาเงือกคนใหม่ต้องไปที่ทะเลปีศาจร่ําไห้และร้องเพลงเพื่อชําระล้างกลิ่นอายปีศาจ

ภารกิจนี้มีขึ้นเพื่อประโยชน์ของมนุษย์และมนุษย์เงือก มันจะนําความสุขมาสู่ผู้คนและกําจัดสิ่งชั่วร้าย หลังจากเทพธิดาเงือกได้รับการคัดเลือก นางต้องเข้าสู่ทะเลปีศาจร่ําไห้ เมื่อเวลานั้นมา ถึงภารกิจที่เกี่ยวข้องจะปรากฏขึ้น ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องรับภารกิจนี้และไปพบเทพธิดาเงือกเป็นอันดับแรก

“พิธีบูชาเทพสมุทรมาถึงอีกครั้ง!” เซี่ยหลินเปิดหน้าต่างในห้องพักของโรงเตี้ยมพักแรมและได้ยินผู้คนพูดคุย

ห้องพักของนางอยู่ชั้นสอง เซี่ยหลินมองลงไปและเห็นผู้คนเดินอยู่บนท้องถนน มีร้านแผงลอย ขายวิญญาณ ขนม และกระทั่งบ่อนการพนันขนาดย่อม

เซี่ยหลินค่อนข้างมีความสุขกับบรรยากาศที่คึกคัก

“ติ้ง!”

เป็นเพียงเวลานี้ที่ไข่มุกตกลงมาที่ขอบหน้าต่างของนาง

เซี่ยหลินมีนงงก่อนที่ใบหน้าของนางจะกลายเป็นสีแดงระเรื่อ

ไข่มุกมีความสําคัญในพิธีบูชาเทพสมุทร มันหมายถึงข้อเสนอ หากชายใดโยนไข่มุกให้หญิงสาว นั่นหมายความว่าเขาชอบนางและต้องการแต่งงานกับนาง

“ผู้ใด?” เซี่ยหลินไม่กล้าหยิบไข่มุกขึ้นมาเพราะการกระทํานั้นมีความหมายลึกซึ้งอยู่เบื้องหลัง นางมองลงไปและเห็นชายหลายสิบคนกําลังมองมาที่นาง จากนั้นพวกเขาก็โยนไข่มุกขึ้นมา

“ซูอี้!”

“ซูอี้ ข้ารักเจ้า!”

“โปรดรับความรักจากข้า ซูอี้” “โอ้ แม่นางผู้นั้น!” บางคนเรียกเซี่ยหลิน เซี่ยหลินหันหน้าไปที่ชายผู้นั้น เขาเป็นเงือกหนุ่มที่สวมชุดผ้าขี้ริ้ว เห็นได้ชัดว่าเขายากจน

เงือกหนุ่มกล่าว “แม่นาง ข้าโยนไข่มุกให้คุณหนูซูอี้แต่ข้าออกแรงน้อยเกินไป ข้าไม่สามารถโยนมันได้สูงพอ แม่นางช่วยโยนมันกลับมาให้ข้าได้หรือไม่?”

เซี่ยหลินเข้าใจทันที เงือกหนุ่มผู้นี้ต้องการโยนไข่มุกของเขาให้ซูอี้แต่เขาออก แรงน้อยเกินไป ดังนั้นไข่มุกของเขาจึงมาจบลงที่เซี่ยหลิน

“ท่านหญิงซูอี้เป็นหญิงงามที่มีชื่อเสียง ชายทุกคนล้วนหลงรักนาง” เซี่ยหลินถอนหายใจก่อนจะโยนไข่มุกกลับไปให้เงือกหนุ่ม

“ขอบคุณ” เงือกหนุ่มดีใจมาก เขาโยนไข่มุกออกไปอีกครั้ง

ไข่มุกลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ มันไปถูกทางแล้ว แต่ซูอี้กลับขมวดคิ้วและปิดหน้าต่าง

ไข่มุกจํานวนมากประสบชะตากรรมเดียวกัน พวกมันตกลงไปด้านล่างทั้งหมด

บนถนนกลุ่มชายหนุ่มยังไม่แยกย้ายกันไป ในความเป็นจริงมีชายหนุ่มมารวมตัวกันมากขึ้น ทุกคนต่างต้องการเห็นใบหน้าที่งดงามของซูอี้

“พวกสามัญชนไม่มีสิ่งใดที่ดีกว่านี้ทํางั้นหรือ?” ซูอี้ขมวดคิ้ว

นางเป็นเงือกที่สง่างาม เกล็ดของนางเป็นสีขาวนวล

เกล็ดของมนุษย์เงือกมีสีที่แตกต่างกัน เกล็ดสีขาวหายากมาก มันเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ เงือกเกล็ดขาวถือเป็นตัวตนชั้นสูงของเผ่ามนุษย์เงือก

สาวใช้เงือกสองคนของซูอี้พึมพํา

“คนเหล่านี้ควรมองตัวเองในกระจก พวกเขาต้องการแต่งงานกับท่านหญิงซูอี้งั้นหรือ? น่าหัวเราะ!”

“ท่านหญิงซูอี้ของเราเป็นผู้ท้าชิงตําแหน่งเทพธิดาเงือก นางจะไม่รับไข่มุกจากชายใด”

หากนางได้รับตําแหน่งเทพธิดาเงือก นางจะไม่สามารถแต่งงานตลอดชีวิต นางต้องรักษาพรหมจรรย์ของนางและเป็นเทพธิดาเงือกที่บริสุทธิ์ไร้ที่ติ

เซี่ยหลินเดินออกจากห้องของนางและพบกับซูอี้ “พี่ซูอี้”

“น้องเซี่ยหลิน” ซูอี้เผยรอยยิ้มบางและซ่อนความเย่อหยิ่งเอาไว้ “เป็นอย่างไรบ้าง ที่นี่สะดวกสบายหรือไม่?”

“ขอบคุณสําหรับการต้อนรับ ตอนนี้โรงเตี้ยมพักแรมเต็มหมดแล้ว หากไม่มีท่าน ข้าคงไม่มีที่พัก” เซี่ยหลินกล่าวขอบคุณ

สาวใช้ของซูอี้ยิ้ม “มันเป็นโชคของเจ้าที่ได้พบกับท่านหญิงของเรา ในทะเลอันกว้างใหญ่นี้ การพบกับท่านหญิงถือเป็นวาสนา ปกติแล้วมนุษย์เงือกทุกคนยอมตายเพื่อให้ได้รู้จักกับท่านหญิงของเรา”

ซูอี้ไม่ได้เป็นเพียงนางเงือกเกล็ดขาว แต่นางยังเป็นบุตรสาวของผู้นําเผ่า

“หรงหรง เจ้ากล่าวเช่นนั้น ข้ากับเซี่ยหลินเป็นสหายที่ดีต่อกัน อย่ากังวล หากเจ้ามีธุระ เจ้าสามารถจากไป แต่หากเจ้าต้องการติดตามข้าเข้าร่วมพิธีบูชาเทพสมุทร นั่นจะดีมาก” ซูอี้เดินเข้าไปจับมือเซี่ยหลินและกล่าวอย่างจริงใจ

เซี่ยหลินรู้สึกประทับใจมาก “พี่ซูอี้ ท่านช่วยข้ามากเกินไปแล้ว เมื่อท่านต้องการเป็นเทพธิดาเงือก ข้าก็จะสนับสนุนท่าน แต่ข้าเกรงว่าข้าจะอ่อนแอเกินไป หลังจากทั้งหมดผู้เข้าแข่งขันสามารถนําผู้ติดตามเข้าไปเพียงสี่คน”

ดวงตาของซูอี้ส่องประกายขึ้น นางกล่าวด้วยความตื่นเต้น “น้องเซี่ยหลิน ขอบคุณมาก ด้วยความช่วยเหลือของเจ้า ข้าก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับตําแหน่ง

เซี่ยหลินเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณะระสองแต่นางมีวิญญาณระดับห้า

นั่นคือวิญญาณรวบรวมน้ํามัน

วิญญาณดวงนี้ไม่มีพลังโจมตีแต่ซูอี้รู้หัวข้อของการแข่งขัน วิญญาณรวบรวมน้ํามันมีประโยชน์กับนางมากในการแข่งขันรอบแรก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท