เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1658 บ่อนการพนัน

บทที่ 1658 บ่อนการพนัน

บทที่ 1658 บ่อนการพนัน

ฟางหยวนทิ้งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ไว้หน้าหอคอยเกียรติยศ

วิญญาณดวงนี้บันทึกประสบการณ์ในการรวบรวมน้ํามันดิบอย่างตรงไปตรงมารวมถึง การทดสอบหอคอยเกียรติยศของฟางหยวนหากผู้อมตะคนอื่นๆมาที่นี่ พกวเขาจะได้รับข้อมูลนี้

ไม่จําเป็นต้องปิดบัง

ประการแรก พวกเขาคาดเดาไว้แล้ว ประการที่สอง มันง่ายต่อการตรวจสอบ

ฟางหยวนเปิดเผยเรื่องนี้ก่อนที่คนอื่นๆจะทําการทดลองเท่านั้น

“เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับ เทพอมตะสวรรค์พิภพสร้งมรดกที่แท้จริงนี้ขึ้นเพราะต้องการให้ผู้คนแสดงความเมตตา

นี่คือวิธีการของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

เมื่อถึงจุดนี้ฟางหยวนก็มั่นใจอย่างเต็มที่แล้วว่านี่คือมรดกของเทพอมตะสวรรค์พิภพจริงๆ

มรดกทุกชิ้นที่ผู้ใช้วิญญาณหรือผู้อมตะทิ้งเบื้องหลังมีเป้าหมายของตนเอง

ตัวอย่างเช่นเป้าหมายของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้คือการแก้แค้นตระกูลแสงจันทร์ ดังนั้นเขาจึงทิ้งภาพเหตุการณ์ในอดีตเอาไว้เบื้องหลังและล่อลวงให้ฟางหยวนทําลายน้ําพุจิตวิญญาณธรรมชาติของตระกูล

สําหรับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดที่ทิ้งไว้ในวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงเป้าหมายของมันคือช่วยสนับสนุนการบ่มเพาะของทายาทตระกูลฮวงจินและทําให้พวกเขาสามารถปกครองภาคเหนือต่อไป

ด้านไห่ฟาน เดิมที่เขาต้องการส่งต่อมรดกที่แท้จริงให้กับบุตรหลาน แต่ด้วยโชคชะตา ที่พลิกผันความปรารถนาของเขาจึงไม่ประสบความสําเร็จ

มรดกที่แท้จริงของนิกายเงาถูกส่งต่อมายังฟางหยวนเนื่องจากความล้มเหลวของเทพ ปีศาจจิตวิญญาณ

มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพต่างจากมรดกอื่นๆ มันเต็มไปด้วยความสงบ ความเมตตาความอบอุ่น และความสว่างไสว

“หากวันหนึ่งข้าล้มเหลว ข้าจะทิ้งมรดกไว้เบื้องหลังเช่นกัน” ฟางหยวนคิด แม้เขาจะเป็นปีศาจต่างโลกแต่เขาก็มีชีวิต ดิ้นรน และต่อสู้อยู่ในโลกใบนี้มาเป็นเวลานาน เขาหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมันแล้ว

หากฟางหยวนสร้างมรดกที่แท้จริงของตน เขาจะสนับสนุนให้ผู้สืบทอดไล่ล่าชีวิตนิรันดร์

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจ็ดสิบถึงแปดสิบวันผ่านไปแล้ว

ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนทําภารกิจมากมาย ชื่อของเขาไต่อันดับขึ้นไปเรื่อยๆ

“ครีนครืน…”

ลมทะเลพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของฟางหยวน ตอนนี้เขาอยู่ที่ตลาดน้ําแห่งหนึ่ง

เขารับภารกิจลงโทษพ่อค้าไร้ยางอายที่อยู่ในตลาดแห่งนี้

ตลาดน้ําได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทะเลตะวันออก มันมีทั้งตลาดขนาดเล็ก ข นาดกลางขนาดใหญ่ และขนาดยักษ์ หากแบ่งตามเวลา มันแบ่งออกเป็นตลาดน้ําชั่วค ราวและตลาดน้ําถาวร

ที่นี่คือตลาดน้ําถาวร แม้มันจะไม่ได้เปิดทุกวัน แต่มันก็เปิดเกือบทั้งปี

ตลาดน้ําจะปิดเมื่อเกาะจมลงสู่ใต้น้ํา เมื่อเกาะโผล่ขึ้นมา ตลาดจะเปิดอีกครั้ง

นอกเกาะมีคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์หลายหลังที่มีรูปร่างเหมือนเรือจอดอยู่ ชั้นดาดฟ้าเรือเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างเป็นตลาดรอบเกาะ

ฟางหยวนยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนบนดาดฟ้าเรือลําหนึ่ง

ที่นี่มีทั้งผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์และเผ่ามนุษย์เงือก

ท่ามกลางพวกเขามีมนุษย์เงือกอยู่ครึ่งหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากในห้าภูมิภาค เนื่องจากเผ่ามนุษย์กดขี่เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์มาตลอด มนุษย์กลายพันธุ์ต้องเร้นกายและไม่สามารถเผยตัวออกมา

“เข้ามาดู ที่นี่มีผลึกหินปะการังที่ยอดเยี่ยม”

“คฤหาสน์วิญญาณเรือล่องสมุทรเหลืออยู่สามลํา รีบซื้อก่อนของจะหมด!”

“ข้าต้องการดินใหญ่ ข้าจะซื้อเท่าที่เจ้าสามารถขาย…”

เสียงพูดคุยดังเข้าหูของฟางหยวน ผู้ใช้วิญญาณจํานวนมากเปิดแผงลอยขายสินค้าอยู่บนดาดฟ้าเรือ

ฟางหยวนเดินทางไปยังตลาดที่อยู่บนเกาะ

เขาตรวจสอบมาแล้ว ภารกิจลงโทษพ่อค้าไร้ยางอายอยู่บนเกาะ

ภารกิจนี้เป็นเพียงเป้าหมายรองเท่านั้น เป้าหมายที่แท้จริงของฟางหยวนคือการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร

ตลาดน้ําแห่งนี้อยู่ใกล้กับทะเลปีศาจร่ําไห้มากที่สุด นอกจากนั้นที่นี่ยังเต็มไปด้วยผู้คนมีโอกาสสูงที่เขาจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิญญาณความเสียใจ

แม้ฟางหยวนจะมาที่นี่นานแล้ว แต่เขายังไม่สามารถเข้าสู่ทะเลปีศาจร่ําไห้

ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้ผู้อมตะไม่ได้รับอนุญาตให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

เช่นเดียวกับภารกิจแรก เขาทําได้เพียงเคลื่อนที่ไปรอบๆเกาะเท่านั้น ทุกภารกิจมีข้ดจํากัดเดียวกัน

เพื่อกลับไปที่หอคอยเกียรติยศ ผู้อมตะต้องท่องคําว่า กลับไป สามครั้งในใจ

จากสิ่งนี้ฟางหยวนสามารถสัมผัสถึงพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของเทพอมตะสวรรค์พิภพ แม้ฟางหยวนจะเป็นผู้อมตะระดับแปดแต่เขาก็ไม่สามารถคลี่คลายการจัดเตรียมเหล่านี้

นอกจากนั้นผู้อมตะยังถูกจํากัดการสื่อสาร ประการแรก พวกเขาไม่สามารถเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลืองหรือโลกภายนอก ประการที่สอง พวกเขาไม่สามารถติดต่อกันและกันดังนั้นพวกเขาจึงต้องทิ้งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้ด้านหน้าหอคอยเกียรติยศ

“มันควรเป็นที่นี่” ฟางหยวนหยุดเท้าลง

เขามาถึงบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง บนประตูเขียนไว้ว่า เรือนหยกทอง

เรือนหยกทองตั้งอยู่กลางเกาะ มันเป็นสถานที่ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในตลาดน้ําแห่งนี้ผู้ใช้วิญญาณธรรมดาไม่สามารถเข้าไป มันมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก

แต่วิธีการระดับมนุษย์จะหยุดฟางหยวนได้อย่างไร?

“ข้าควรทดลองเปิดผนึกหินโชคลาภ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มให้กับตนเอง

ฟางหยวนเคยเป็นพ่อค้ามาก่อน เขาเคยดูแลบ่อนการพนันของตนเอง เขารู้วิธีที่จะทําให้เจ้าของบ่อนการพนันพบกับความทุกข์ทรมาน

เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็เดินเข้าไป

ความทรงจําปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง

“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้ใดจะพนันกับข้า? กระทั่งเทพธิดาเมื่อกยังหวาดกลัว พวกเจ้ากล้าหรือไม่?” มนุษย์เงือกกล้ามโตผู้หนึ่งตะโกนด้วยความเย่อหยิ่ง

รอบตัวเขามีผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์เงือกและมนุษย์เงือกธรรมดามากมาย ม นุษย์เงือกส่วนใหญ่มองเขาด้วยความโกรธ

“ถั่วต้าผู้นี้ช่างน่ารังเกียจนัก เขากล้ายั่วยุท่านหญิงในตลาดอย่างเปิดเผย!”

“เขาได้รับการสนับสนุนจากผู้นําเผ่าคลื่นน้ําแข็ง”

“เราจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ มันจะทําลายชื่อเสียงของท่านหญิง แต่เราควรทําอย่างไร?”

องค์รักษ์เกล็ดฟ้าและเกล็ดแดงมองหน้ากับด้วยความกังวล

เซี่ยฮันโม่ยิ้ม “ปล่อยเขาไป เขาไม่สามารถสั่นคลอนรากฐานของข้า เมื่อเขายั่วยุข้า นั่นหมายความว่าพวกเขากําลังตื่นตระหนก เราไม่จําเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้ เราจะชนะหากเราดําเนินการตามแผนต่อไป”

เมื่อได้ยินถ้อยคําเหล่านี้ องค์รักษ์เกล็ดฟ้าและเกล็ดแดงก็ผ่อนคลายลง

“ท่านหญิงกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ถั่วต้าผู้นี้เป็นเพียงตัวตลก”

“ข้ารู้สึกเสียใจนักที่ไม่สามารถทําสิ่งใดและทําให้ท่านหญิงต้องอดทนต่อความอัปยศเช่นนี้ น่าโมโหที่ไม่มีมนุษย์เงือกคนใดก้าวออกไปเผชิญหน้ากับถั่วต้าผู้นี้”

เซี่ยฮันโม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถั่วต้าเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ เขามีชื่อเสียงมานานกว่าท ศวรรษข้าเข้าใจว่าเหตุใดถึงไม่มีมนุษย์เงือกคนใดก้าวออกไปเพื่อพวกเรา เราต้องเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขา”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงสายหนึ่งดังขึ้น “ข้าจะเดิมพันกับเจ้า!”

เขาคือผู้ใด?

ผู้ใดกล้าท้าทายอํานาจของถั่วต้า?

ทุกคนหันหน้าไปทางต้นเสียงเพื่อพบกับผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ผู้หนึ่งที่เดินออกมาจากฝูงชน

เซี่ยฮันโม่ตะลึง “เขาคือผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ที่เราช่วยชีวิต!”

ถั่วต้าประหลาดใจมาก เขาขมวดคิ้วขณะมองฟางหยวนและกล่าวเสียงเข้ม “ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์นี่เป็นเรื่องของมนุษย์เงือก เจ้าต้องการสอดมือเข้ามางั้นหรือ?”

“เทพธิดาเงือกช่วยชีวิตข้าก่อนหน้านี้ ข้าต้องตอบแทนความเมตตาของนาง” ฟางหยนกล่าวกับถั่วต้าอย่างไม่เกรงกลัว

“เด็กคนนี้”

“ไม่เสียแรงที่พวกเราช่วยเขา”

สององค์รักษ์พยักหน้า

เซี่ยฮันโม่ถอนหายใจ “ออกไปกันเถอะ เขาเป็นคนนอก เราไม่สามารถปล่อยให้เขาเสียสละตนเองเพื่อพวกเรา”

สององค์รักษ์ประหลาดใจ พวกเขาพยายามหยุดนาง “ท่านหญิง ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่ท่านพึ่งวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่าพวกเราไม่ควรปรากฏตัวเช่นนั้นหรือ? หากเราทําเช่นนั้น เราจะตกลงสู่หลุมพรางของพวกเขา”

ลั่วต้าหัวเราะด้วยความโกรธ “ดี มนุษย์ เมื่อเจ้าต้องการตายก็อย่าโทษว่าข้าใจร้าย ข้าอธิบายกฎของการพนันไปแล้ว ข้าจะให้เจ้าเลือกก่อน แล้วมาดูกันว่าผู้ใดจะได้วิญญาณที่ดีกว่า!”

“เลือกก่อนก็ดี” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

รอบแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนชนะ

รอบที่สองใช้เวลานานกว่า แต่ฟางหยวนยังชนะ

“มนุษย์ ข้าประเมินเจ้าต่ําเกินไป บอกชื่อของเจ้ามา เจ้ามีคุณสมบัติที่จะใช้พื้นที่ในความทรงจําของข้า”ลั่วต้ามองฟางหยวนในมุมมองใหม่

“ชื่อของข้าคือฟางหยวน จําไว้ ข้าเป็นเจ้าของบ่อนการพนันในอดีต” ฟางหยวนกล่าว “มาเริ่มรอบสุดท้ายกันเถอะ”

ถั่วต้าเลือกผลึกหินอย่างเงียบๆ จากนั้นเขาก็ทุบผลึกหินทั้งหมดจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“เจ้ากําลังแหกกฎ!” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไป

ถั่วต้าหัวเราะ “กฏ? ข้าบอกว่าทั้งสองฝ่ายไม่สามารถโจมตีกัน แต่นั่นไม่ได้รวมถึงผลึกหินเหล่นี้ข้ามีผลึกหินอยู่ในมือขณะที่เจ้าไม่มี ไม่ว่าข้าจะได้รับวิญญาณชนิดใด เจ้าก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เด็กน้อย เจ้ากล้าสอดมือเข้าด้วยการบ่มเพาะระดับสาม โดยเฉพาะเมื่อตลาดน้ําแห่งนี้เป็นอาณาเขตของข้ามานับสิบปีแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ฆ่าตัวตายซะ อย่าให้ถึงมือข้า!”

ฟางหยวนยกกําปั้นขึ้นและพร้อมสู้ตาย

“เดี๋ยว!” ทุกคนเปิดเส้นทางขณะที่เซี่ยฮันโม่เดินออกไปด้วยการแสดงออกที่เย็นชา

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท