เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1669 ปฏิเสธ

บทที่ 1669 ปฏิเสธ

บทที่ 1669 ปฏิเสธ

ถ้ำสวรรค์วาหมังกรฟ้า เมืองทะเลศักดิ์สิทธิ์

บรรยากาศในโรงเตี้ยมค่อนข้างตึงเครียด

“พวกเราจะทําอย่างไร?”

“การแข่งขันรอบต่อไปผู้ติดตามของจ้าวอู่จะเข้าร่วม คนผู้นั้นมีชื่อเสียงมาก เราไม่มีโอกาสชนะ”

สองคนรับใช้กล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

นางเงือกเกล็ดขาวซูอี้นั่งอยู่ตรงกลาง นางมองถ้วยชาในมือด้วยสายตาเหม่อลอย

“คุณหนู ท่านไม่สามารถลังเลอีกต่อไป”

“ถูกต้อง พิธีบูชาเทพสมุทรผ่านมาหลายรอบแล้ว หากเราผ่านรอบนี้ เราจะเข้าสู่รอบสุดท้ายเพื่อชิงตําแหน่งเทพธิดาเงือก”

คนรับใช้ทั้งสองกระตุ้น

ซูอี้ถอนหายใจ “แต่ตอนนี้เราจะทําสิ่งใดได้?”

คนรับใช้รีบเดินเข้ามาด้านข้างนาง

“คุณหนู เผ่าของเราสามารถหาผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมาสู้กับศัตรู”

“ถูกต้อง ตราบเท่าที่เรามีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง แม้เราจะไม่สามารถเอาชนะ อย่างน้อยเราก็จะไม่ถูกคัดออก”

ซูอี้ถอนหายใจอีกครั้ง “ข้าเข้าใจคําแนะนําของพวกเจ้า แต่พวกเจ้าลืมไปแล้วงั้นหรือว่าข้ามีผู้ติดตามได้เพียงสี่คนในการแข่งขันครั้งนี้ ตอนนี้ข้าใช้สิทธิ์ครบแล้ว แม้เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาได้ แต่เราไม่สามารถใช้เขา”

คนรับใช้ทั้งสองมองหน้ากันด้วยดวงตาส่องประกาย

“ไม่ใช่ปัญหา เรามีแผนการอยู่แล้ว”

คนรับใช้กล่าวเสียงเบา “คุณหนู เราเพียงต้องทิ้งผู้ติดตามบางคน”

“ถูกต้อง” คนรับใช้อีกคนกล่าวเสริม “ตามกฏ เราไม่สามารถเปลี่ยนผู้ติดตามโดยไร้เหตุผล แต่หากผู้ติดตามบางคนก่ออาชญากรรมหรือสร้างความเสียหายบางอย่างในพิธีบูชาเทพสมุทร เราสามารถขับไล่พวกเขาด้วยเหตุผลที่ชอบธรรม ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญคนใหม่เข้ามา”

การแสดงออกของซูอี้เปลี่ยนไป นางปฏิเสธ “นี่ไม่เหมาะสม พิธีบูชาเทพสมุทรเป็นงานใหญ่ หากเกิดเรื่องอื้อฉาว ชื่อเสียงของคนผู้นั้นจะมัวหมองไปตลอดชีวิต พวกเขาจะไม่สามารถลบล้างความผิด ผู้ติดตามทุกคนของข้าช่วยเหลือข้าอย่างเต็มที่ในครั้งนี้

“คุณหนู บุคคลที่ยิ่งใหญ่ไม่ควรคิดเล็กคิดน้อย มันไม่ใช่สิ่งใดหากเราต้องเสียสละบางคน”

“ข้าขอแนะนําให้ท่านเสียสละเซี่ยหลิน นางไม่มีภูมิหลังและเป็นนางเงือกที่ไม่มีผู้ใดสนใจ นางเพียงโชคดีที่ได้รับวิญญาณรวบรวมน้ำมัน”

เมื่อเห็นความลังเลของซูอี้ คนรับใช้รีบกล่าวเสริม “แน่นอน เราจะไม่บังคับนาง เราจะทําให้นางเคลื่อนไหวด้วยความคิดของนางเอง คุณหนู ปล่อยเป็นหน้าที่ของข้า ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”

“นางจะไม่เป็นไร เราเพียงต้องจ่ายด้วยราคาเล็กน้อย เปรียบเทียบกับตําแหน่งเทพธิดาเงือก เห็นได้ชัดว่ามันสําคัญกว่า!”

“นี่” ซูอี้ลังเล

คนรับใช้อีกคนเร่งกล่าว “คุณหนู เราไม่ได้บังคับหรือทําร้ายเซี่ยหลิน เราเพียงต้องการความร่วมมือจากนาง หากนางจะสูญเสียชื่อเสียงไปบ้างแล้วอย่างไร? เซี่ยหลินเป็นเด็กยากจน นางต้องการผลประโยชน์ บางทีนางอาจมีความสุขหลังจากได้ยินข้อเสนอของเรา”

“ออกไป ข้าต้องการเวลาคิด…” ซูอี้ขมวดคิ้ว

คนรับใช้ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะจากไป

ไม่กี่วันต่อมาข่าวลือเกี่ยวกับเซี่ยหลินก็แพร่กระจายไปทั้งเมือง

“นั่นคือนาง นางเงือกไร้ยางอายที่ทรยศผู้มีพระคุณ”

“ไม่แปลกใจเลยที่ท่านหญิงซูอี้มักเสียเปรียบเสมอ”

“ข้าไม่ต้องการสิ่งใดมากไปกว่าการกรีดเนื้อเฉือนหนังของนางวายร้ายผู้นี้ออกมา!”

“นางช่างไร้ยางอายนัก ข้าไม่อยากจะเชื่อว่านางยังมาหาท่านหญิงซูอี้ในเวลานี้!

เซี่ยหลินกัดริมฝีปากของนางขณะเดินขึ้นบันไดของโรงเตี้ยมภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์

“หยุดอยู่ตรงนั้น!” คนรับใช้หรงปิดกั้นเส้นทางของเซี่ยหลินด้วยการแสดงออกที่เย็นชา

“ข้าถูกใส่ร้าย ข้าต้องการพบพี่ซูอี้!” เซี่ยหลินมองคนรับใช้หรงด้วยความกังวล

คนรับใช้หรงหัวเราะเสียงเย็น “เซี่ยหลิน เจ้าจะแสดงละครอีกครั้งงั้นหรือ? คุณหนูไม่สบายใจมากหลังจากได้ยินข่าวนี้ แต่เจ้ายังต้องการพบนางในช่วงเวลาสําคัญ เจ้าช่างชั่วร้ายนัก!”

“ไม่ ฟังข้าก่อน…”

“ฟังเจ้างั้นหรือ? เหตุใดข้าต้องฟังขยะไร้ยางอายเช่นเจ้า? เราตาบอดที่รับเจ้า เข้ากลุ่มไปซะ!” คนรับใช้หรงกรีดร้องอย่างหมดความอดทน

“เจ้าไม่เชื่อข้าแต่พี่ซูอี้ต้องเชื่อข้า หากข้าไม่ได้พบนาง ข้าจะไม่จากไป!” ดวงตาของเซี่ยหลินกลายเป็นสีแดง

“เจ้ากําลังบังคับให้ข้าใช้กําลังขับไล่เจ้า” คนรับใช้หรงกล่าวอย่างชั่วร้าย

“หยุด!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ซูอี้ปรากฏขึ้นตัวขึ้น

“พี่ซูอี้!” เซี่ยหลินดีใจมาก นางต้องการก้าวไปข้างหน้าแต่แขนของคนรับใช้หรงขวางทางนางเอาไว้

“เซี่ยหลิน…” ซูอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ซับซ้อน

“พี่ซูอี้ ท่านต้องเชื่อข้า ข้าไม่ได้ทรยศท่าน!” เซี่ยหลินตะโกน

“เราจะตรวจสอบเรื่องนี้!” เสียงสายหนึ่งดังขึ้น

มนุษย์เงือกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาเซี่ยหลินและกล่าว “เจ้าคือเซี่ยหลินใช่หรือไม่? ข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของเมืองทะเลศักดิ์สิทธิ์ มีคนรายงานว่าเจ้าก่อเรื่องทุจริต เจ้าทรยศซูอี้และพยายามทําลายพิธีบูชาเทพสมุทร มากับเราและบอกทุกสิ่งที่เจ้าทํา!”

“ไม่ ข้าบริสุทธิ์!” เซี่ยหลินตกใจมาก

“เราจะตรวจสอบเองว่าเจ้าบริสุทธิ์หรือไม่?” เจ้าหน้าที่กล่าวเสียงเย็น

“ไม่ ข้าไม่ไปกับพวกเจ้า ข้าถูกใส่ร้าย มีคนใส่ร้ายข้า!” เซี่ยหลินส่ายศีรษะด้วยความตื่นตระหนก

“อีม จับนางมา!” เจ้าหน้าที่ออกคําสั่งกลุ่มผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ด้านหลัง “เดี๋ยว!” ซูอี้เปิดปากกล่าว

“พี่ซูอี้!” ดวงตาของเชียหลินส่องประกายขึ้นด้วยความหวัง

แต่ซูอี้กลับส่ายศีรษะ “น้องเซี่ยหลิน ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าทรยศข้า แต่เจ้าหน้าที่อยู่ที่นี่ เราต้องเชื่อในความยุติธรรมของเมืองทะเลศักดิ์สิทธิ์ ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะให้ความยุติธรรมแก่เจ้า ตราบเท่าที่เจ้าบริสุทธิ์ เจ้าจะสามารถพิสูจน์ตนเอง ถูกต้องหรือไม่?”

“พี่ซูอี้” ดวงตาของเซี่ยหลินหม่นหมองลง

“ไปกับพวกเขา”

เซี่ยหลินก้มศีรษะลงและเดินไปกับเจ้าหน้าที่

นางถูกนําตัวไปที่ห้องสอบสวนอย่างรวดเร็ว

“วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเหล่านี้คือหลักฐาน ข้าขอแนะนําเจ้า อย่าคิดว่าเจ้าจะรอดจากเรื่องนี้!” เจ้าหน้าที่เผยรอยยิ้มชั่วร้าย

เซี่ยหลินมองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเหล่านั้น

ในไม่ช้าใบหน้าของนางก็กลายเป็นตื่นตกใจ “ภาพและเสียงเหล่านี้เป็นของปลอม ข้าไม่เคยทําเช่นนั้น!”

“นั่นคือคําอธิบายของเจ้าต่อหลักฐานทั้งหมดนี้นั้นหรือ? ผู้ใดจะเชื่อเจ้า!” เจ้าหน้าที่หัวเราะ

“ข้าไม่เคยพูดเช่นนั้น! ข้า” เซี่ยหลินเต็มไปด้วยความกังวล

เจ้าหน้าที่ยกมือขึ้นห้ามเซี่ยหลิน “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกใส่ร้าย”

เซี่ยหลินตะลึง “อา…เจ้ากําลังกล่าวสิ่งใด?”

“เจ้าถูกใส่ร้าย” เจ้าหน้าที่กล่าว

เซี่ยหลินตะลึง “แล้วเหตุใด…”

“เพราะนี่คือคําขอของท่านหญิงซูอี้” เจ้าหน้าที่หัวเราะอีกครั้ง

“หมายความว่าอย่างไร? อย่าพยายามสร้างความบาดหมางระหว่างพวกเรา!” เซี่ยหลินโกรธมาก

“สาวน้อย เจ้าช่างไร้เดียงสานัก ให้ข้าอธิบาย เจ้ารู้หรือไม่ว่าบิดาของท่านหญิงซูอี้คือผู้ใด เจ้ารู้สถานการณ์ปัจจุบันของพิธีบูชาเทพสมุทรหรือไม่?”

หลังจากได้ยินคํากล่าวของเจ้าหน้าที่ เซี่ยหลินรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “ข้าไม่เชื่อว่านี่เป็นแผนการของพี่ซูอี้! หากนางต้องการให้ข้าออกไป นางเพียงบอกข้าและข้าจะจากไปทันที”

เจ้าหน้าที่เย้ยหยัน “พิธีบูชาเทพสมุทรไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะมาก็มาจะไปก็ไป ผู้เข้าแข่งขันไม่สามารถเปลี่ยนผู้ติดตามระหว่างการแข่งขัน เจ้าไม่รู้งั้นหรือ?”

เซี่ยหลินกลายเป็นมึนงง “นี่”

เจ้าหน้าที่ยิ้ม “เจ้าคงฉลาดขึ้นแล้ว เอาล่ะ เจ้ามีทางเลือกสองทาง ทางเลือกแรกคือปฏิเสธหลักฐานเหล่านี้และต่อสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของเจ้า แต่หลักฐานเหล่านี้ชัดเจนมาก ไม่มีผู้ใดเชื่อคํากล่าวของเจ้า”

“ทางเลือกที่สองคือร่วมมือกับพวกเรา ยอมรับอาชญากรรม แม้เจ้าจะสูญเสียชื่อเสียงไปบ้าง แต่เราจะตอบแทนเจ้าด้วยทรัพยากรมากมาย เลือกมา!”

เซี่ยหลินก้มศีรษะลง

นางมีทางเลือกงั้นหรือ?

อีกฝ่ายหลอกนางเข้ามาในห้องสอบสวน ณ จุดนี้นางไม่สามารถปฏิเสธพวกเขาได้อีก

แม้นางจะพยายามอย่างเต็มที่ นางก็ยังจะถูกตัดสินว่ามีความผิด

นางไม่มีกําลังที่จะต่อต้านพวกเขา นางไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธพวกเขา!

เงียบ…

เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าหน้าที่จึงเปิดปากกล่าวอีกครั้ง “เซี่ยหลิน หากเจ้ายังเงียบต่อไป ข้าจะถือว่าเจ้ายอมรับข้อเสนอของเรา ข้าเชื่อว่าคนฉลาดจะตัดสินใจอย่างชาญฉลาด สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย”

“ข้าขอปฏิเสธ” เซี่ยหลินเงยหน้าขึ้นและกล่าวอย่างหนักแน่น

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท